16 กันยายน 2557 IDC.จาริศร์ ชี้ iPHONE 6 และ 6 plus ช่วยกระตุ้นตลาดได้ เนื่องจากไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้ามากระตุ้นตลาด อีกทั้งตลาดยังได้รับผลกระทบจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง
ประเด็นหลัก
นายจาริศร์ สิทธุ นักวิเคราะห์ตลาดอุปกรณ์ลูกข่าย (Client Device) บริษัทไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าไอดีซี ประเมินว่าตลาดสมาร์ทโฟนระดับบน หรือไฮเอนด์ ราคาตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไป ในช่วงปลายปีจะกลับมาคึกคักแน่นอน หลังจากครึ่งปีแรกตลาดสมาร์ทโฟนระดับบนมีการชะลอตัวลงไป เนื่องจากไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้ามากระตุ้นตลาด อีกทั้งตลาดยังได้รับผลกระทบจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง
สำหรับตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมปีนี้จะมีตัวเลขการส่งมอบประมาณ 14 ล้านเครื่อง โดยสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ ราคาตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไปมีส่วนแบ่งตลาดราว 14% ของตลาดรวม ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 20% ของตลาดรวม ซึ่งโดยเฉลี่ยทั้งปีคาดว่าสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ จะมีสัดส่วนประมาณ 17% ของตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวม
นายจาริศร์กล่าวต่อไปอีกว่า มุมมองของไอดีซี ค่อนข้างมองเป็นบวกกับการเปิดตัวไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส ของแอปเปิล โดยมองว่าแอปเปิล ทำการบ้านมาดี ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้บรรดาสาวกเกิดอาการ ว้าว (WOW) แต่เป็นเทคโนโลยีที่คนต้องการหรือจำเป็นต้องใช้ และการตอบโจทย์สิ่งที่ไอโฟน 5 หรือ 5 เอส ไม่มี ทั้งหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น โดยมีให้เลือกทั้งขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว, การปรับปรุงกล้องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, การเชื่อมต่อไร้สายผ่านเครือข่าย LTE และไว-ไฟ ที่เร็วขึ้น และแบตเตอรี่ที่อายุการใช้งานยาวนานขึ้น
______________________________
สมาร์ทโฟนไฮเอนด์โตแรงท้ายปี
ไอดีซี ฟันธงตลาดโค้งสุดท้ายเป็นของสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ หลังผู้ผลิตค่ายดังทยอยปล่อยของสู่ตลาดทั้ง ไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส, ซัมซุงกาแลคซี่ โน้ต 4 และโมโตฯ ซี 3 คาดครองส่วนแบ่ง 17% ของตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวม 14 ล้านเครื่อง เชื่อเปิดตัว "ไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส" แม้ไม่มีเทคโนโลยีใหม่ WOW แต่ตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้ไอโฟนรุ่นเก่า
altนายจาริศร์ สิทธุ นักวิเคราะห์ตลาดอุปกรณ์ลูกข่าย (Client Device) บริษัทไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าไอดีซี ประเมินว่าตลาดสมาร์ทโฟนระดับบน หรือไฮเอนด์ ราคาตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไป ในช่วงปลายปีจะกลับมาคึกคักแน่นอน หลังจากครึ่งปีแรกตลาดสมาร์ทโฟนระดับบนมีการชะลอตัวลงไป เนื่องจากไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้ามากระตุ้นตลาด อีกทั้งตลาดยังได้รับผลกระทบจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนไฮเอนด์กลับมาเติบโตขึ้นเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ ทั้งไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส, ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 4 และโมโตโลร่า ซี 3 ที่คาดว่าจะวางตลาดไนไทยราวปลายเดือนกันยายน หรือต้นตุลาคม ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีการเปิดตัว และทำตลาดสมาร์ทโฟน เอชทีซี เอ็ม 8 นอกจากนี้มองว่าการเมืองที่นิ่งขึ้น และการที่ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายในช่วงต้นปี จะเป็นแรงหนุนให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้าในช่วงปลายปี
สำหรับตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมปีนี้จะมีตัวเลขการส่งมอบประมาณ 14 ล้านเครื่อง โดยสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ ราคาตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไปมีส่วนแบ่งตลาดราว 14% ของตลาดรวม ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 20% ของตลาดรวม ซึ่งโดยเฉลี่ยทั้งปีคาดว่าสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ จะมีสัดส่วนประมาณ 17% ของตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวม
นายจาริศร์กล่าวต่อไปอีกว่า มุมมองของไอดีซี ค่อนข้างมองเป็นบวกกับการเปิดตัวไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส ของแอปเปิล โดยมองว่าแอปเปิล ทำการบ้านมาดี ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้บรรดาสาวกเกิดอาการ ว้าว (WOW) แต่เป็นเทคโนโลยีที่คนต้องการหรือจำเป็นต้องใช้ และการตอบโจทย์สิ่งที่ไอโฟน 5 หรือ 5 เอส ไม่มี ทั้งหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น โดยมีให้เลือกทั้งขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว, การปรับปรุงกล้องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, การเชื่อมต่อไร้สายผ่านเครือข่าย LTE และไว-ไฟ ที่เร็วขึ้น และแบตเตอรี่ที่อายุการใช้งานยาวนานขึ้น
รวมถึงมีเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication NFC) เป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะสั้นระหว่างอุปกรณ์ และแอปเปิล เพย์ (Apple Pay) ที่มองว่าเป็นไฮไลต์ที่เข้ามาสร้างให้ e-Wallet เกิดขึ้นจริง ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้คู่แข่งไม่ประสบความสำเร็จในเทคโนโลยีดังกล่าว เช่นเดียวกับนาฬิกาอัจฉริยะ "แอปเปิล วอตช์" (Apple Watch) ที่เปิดตัว และเริ่มทำตลาดต้นปีหน้า ซึ่งในมุมมองของไอดีซี มองว่าการเข้ามาในตลาดอุปกรณ์แบบสวมใส่ (Wearable Device) ของแอปเปิล จะทำให้ตลาดดังกล่าวที่เดิมไม่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคในวงกว้าง เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าได้ประโยชน์อะไรจากการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าว ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากแอปเปิลพยายามชี้ให้ประโยชน์การใช้งานแอพพลิเคชันด้านสุขภาพ
นอกจากนี้การเปิดตัวไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส ทำให้แอปเปิล มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค ตั้งแต่ระดับกลางถึงบน โดยล่าสุดได้ลดราคาไอโฟน 5 ซี ลงไปเหลือเริ่มต้น 14,900 บาท และลดราคาไอโฟน 5 เอส ลงไปเหลือเริ่มต้น 19,900 บาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=246284:2014-09-12-06-59-42&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VBfnm0tAeuw
นายจาริศร์ สิทธุ นักวิเคราะห์ตลาดอุปกรณ์ลูกข่าย (Client Device) บริษัทไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าไอดีซี ประเมินว่าตลาดสมาร์ทโฟนระดับบน หรือไฮเอนด์ ราคาตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไป ในช่วงปลายปีจะกลับมาคึกคักแน่นอน หลังจากครึ่งปีแรกตลาดสมาร์ทโฟนระดับบนมีการชะลอตัวลงไป เนื่องจากไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้ามากระตุ้นตลาด อีกทั้งตลาดยังได้รับผลกระทบจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง
นายจาริศร์กล่าวต่อไปอีกว่า มุมมองของไอดีซี ค่อนข้างมองเป็นบวกกับการเปิดตัวไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส ของแอปเปิล โดยมองว่าแอปเปิล ทำการบ้านมาดี ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้บรรดาสาวกเกิดอาการ ว้าว (WOW) แต่เป็นเทคโนโลยีที่คนต้องการหรือจำเป็นต้องใช้ และการตอบโจทย์สิ่งที่ไอโฟน 5 หรือ 5 เอส ไม่มี ทั้งหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น โดยมีให้เลือกทั้งขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว, การปรับปรุงกล้องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, การเชื่อมต่อไร้สายผ่านเครือข่าย LTE และไว-ไฟ ที่เร็วขึ้น และแบตเตอรี่ที่อายุการใช้งานยาวนานขึ้น
______________________________
สมาร์ทโฟนไฮเอนด์โตแรงท้ายปี
ไอดีซี ฟันธงตลาดโค้งสุดท้ายเป็นของสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ หลังผู้ผลิตค่ายดังทยอยปล่อยของสู่ตลาดทั้ง ไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส, ซัมซุงกาแลคซี่ โน้ต 4 และโมโตฯ ซี 3 คาดครองส่วนแบ่ง 17% ของตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวม 14 ล้านเครื่อง เชื่อเปิดตัว "ไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส" แม้ไม่มีเทคโนโลยีใหม่ WOW แต่ตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้ไอโฟนรุ่นเก่า
altนายจาริศร์ สิทธุ นักวิเคราะห์ตลาดอุปกรณ์ลูกข่าย (Client Device) บริษัทไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าไอดีซี ประเมินว่าตลาดสมาร์ทโฟนระดับบน หรือไฮเอนด์ ราคาตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไป ในช่วงปลายปีจะกลับมาคึกคักแน่นอน หลังจากครึ่งปีแรกตลาดสมาร์ทโฟนระดับบนมีการชะลอตัวลงไป เนื่องจากไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้ามากระตุ้นตลาด อีกทั้งตลาดยังได้รับผลกระทบจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนไฮเอนด์กลับมาเติบโตขึ้นเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ ทั้งไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส, ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 4 และโมโตโลร่า ซี 3 ที่คาดว่าจะวางตลาดไนไทยราวปลายเดือนกันยายน หรือต้นตุลาคม ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีการเปิดตัว และทำตลาดสมาร์ทโฟน เอชทีซี เอ็ม 8 นอกจากนี้มองว่าการเมืองที่นิ่งขึ้น และการที่ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายในช่วงต้นปี จะเป็นแรงหนุนให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้าในช่วงปลายปี
สำหรับตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมปีนี้จะมีตัวเลขการส่งมอบประมาณ 14 ล้านเครื่อง โดยสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ ราคาตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไปมีส่วนแบ่งตลาดราว 14% ของตลาดรวม ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 20% ของตลาดรวม ซึ่งโดยเฉลี่ยทั้งปีคาดว่าสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ จะมีสัดส่วนประมาณ 17% ของตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวม
นายจาริศร์กล่าวต่อไปอีกว่า มุมมองของไอดีซี ค่อนข้างมองเป็นบวกกับการเปิดตัวไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส ของแอปเปิล โดยมองว่าแอปเปิล ทำการบ้านมาดี ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้บรรดาสาวกเกิดอาการ ว้าว (WOW) แต่เป็นเทคโนโลยีที่คนต้องการหรือจำเป็นต้องใช้ และการตอบโจทย์สิ่งที่ไอโฟน 5 หรือ 5 เอส ไม่มี ทั้งหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น โดยมีให้เลือกทั้งขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว, การปรับปรุงกล้องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, การเชื่อมต่อไร้สายผ่านเครือข่าย LTE และไว-ไฟ ที่เร็วขึ้น และแบตเตอรี่ที่อายุการใช้งานยาวนานขึ้น
รวมถึงมีเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication NFC) เป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะสั้นระหว่างอุปกรณ์ และแอปเปิล เพย์ (Apple Pay) ที่มองว่าเป็นไฮไลต์ที่เข้ามาสร้างให้ e-Wallet เกิดขึ้นจริง ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้คู่แข่งไม่ประสบความสำเร็จในเทคโนโลยีดังกล่าว เช่นเดียวกับนาฬิกาอัจฉริยะ "แอปเปิล วอตช์" (Apple Watch) ที่เปิดตัว และเริ่มทำตลาดต้นปีหน้า ซึ่งในมุมมองของไอดีซี มองว่าการเข้ามาในตลาดอุปกรณ์แบบสวมใส่ (Wearable Device) ของแอปเปิล จะทำให้ตลาดดังกล่าวที่เดิมไม่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคในวงกว้าง เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าได้ประโยชน์อะไรจากการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าว ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากแอปเปิลพยายามชี้ให้ประโยชน์การใช้งานแอพพลิเคชันด้านสุขภาพ
นอกจากนี้การเปิดตัวไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส ทำให้แอปเปิล มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค ตั้งแต่ระดับกลางถึงบน โดยล่าสุดได้ลดราคาไอโฟน 5 ซี ลงไปเหลือเริ่มต้น 14,900 บาท และลดราคาไอโฟน 5 เอส ลงไปเหลือเริ่มต้น 19,900 บาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=246284:2014-09-12-06-59-42&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VBfnm0tAeuw
ไม่มีความคิดเห็น: