Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

20 กันยายน 2557 ช่อง3.ประวิทย์ ระบุ กรณีหากช่อง 3 จอดำ ได้ชี้แจงกับลูกค้าที่ซื้อโฆษณาแล้วว่า จะชดเชยความเสียหายให้ เบื้องต้นน่าจะมีการคืนเงินสูงสุด 70% ตามสัดส่วนผู้ชมผ่านโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวี

ประเด็นหลัก



นายประวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเมินสถานการณ์เลวร้ายที่สุด คือการที่ช่อง 3 ต้องจอดำหรือยุติการออกอากาศบนโครงข่ายทีวีดาวเทียมและดิจิตอล หลัง กสท.มีคำสั่งให้ช่อง 3 อนาล็อกสิ้นสุดการเป็นฟรีทีวี ซึ่งจะทำให้ผู้ชมกว่า 70% ของครัวเรือนทั่วประเทศ ไม่สามารถรับชมช่อง 3 อนาล็อกได้ โดยช่อง 3 ได้เตรียมพร้อมยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอคุ้มครองการออกอากาศต่อไปแน่นอน เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ต้องรอหลังจากวันที่ 28 ก.ย.2557 ซึ่งเป็นกำหนดที่ผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล จะเริ่มทยอยยุติการนำช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศ หลังได้รับคำสั่งจาก กสท. 15 วัน

ส่วนในแง่ของธุรกิจ นายประวิทย์ กล่าวว่า ได้ชี้แจงกับลูกค้าที่ซื้อโฆษณาแล้วว่า จะชดเชยความเสียหายให้ เบื้องต้นน่าจะมีการคืนเงินสูงสุด 70% ตามสัดส่วนผู้ชมผ่านโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวี ที่มีราว 70% ของครัวเรือนทั้งประเทศ แต่ในความเป็นจริง ก็คงต้องมีการเจรจากันในรายละเอียดอีกครั้ง ว่าจะชดเชยเช่นไร

______________________________




ช่อง 3 ขอคำตอบ “สุภิญญา” “ประวิทย์” ถามออกอากาศคู่ขนานได้หรือไม่


“ประวิทย์” เปิดใจธุรกิจได้รับผลกระทบ ขายโฆษณาฝืดหลังเจอปัญหาจอดำ เตรียมฟ้องศาลปกครองขอคุ้มครองออกอากาศ หากคำสั่ง กสท.ให้ช่อง 3 อนาล็อกยุติออกอากาศมีผลบังคับ ส่งคำถามถึง “สุภิญญา” ขอให้ตอบมาว่าช่อง 3 ออกอากาศคู่ขนานได้หรือไม่ หากตอบว่าได้ พร้อม! ถ้าไม่ทำค่อยมาด่า

นายประวิทย์ มาลีนนท์ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เปิดเผยว่า หลังมีโอกาสเข้าหารือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งแรก สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น อย่างไรก็ตามทางช่อง 3 และ กสท.มีสัญญาสุภาพบุรุษร่วมกันว่า จะไม่มีการให้ข่าวในระหว่างการเจรจา แต่จะมีการแถลงข่าวร่วมกันเมื่อมีข้อยุติ ซึ่งความจริงแล้ว การเจรจาไม่ใช่ความลับ เพียงไม่ต้องการให้มีวิวาทะผ่านสื่อ จึงเห็นร่วมกันว่าจะไม่มีการให้ข่าวใดๆ

“การหารือรอบแรก ส่วนใหญ่เป็นการแลก เปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน โดยเริ่มมีการพูดคุยกันว่าจะมีข้อเสนอใดบ้าง น่าเสียดายที่การนัดกันรอบ 2 ในวันที่ 18 ก.ย. 2557 ต้องเลื่อนออกไป เพราะ กสท.ติดภารกิจ แต่ทางเราก็สแตนด์บายเตรียมพร้อมเสมอ เพราะต้องการให้การเจรจามีความคืบหน้า”

นายประวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเมินสถานการณ์เลวร้ายที่สุด คือการที่ช่อง 3 ต้องจอดำหรือยุติการออกอากาศบนโครงข่ายทีวีดาวเทียมและดิจิตอล หลัง กสท.มีคำสั่งให้ช่อง 3 อนาล็อกสิ้นสุดการเป็นฟรีทีวี ซึ่งจะทำให้ผู้ชมกว่า 70% ของครัวเรือนทั่วประเทศ ไม่สามารถรับชมช่อง 3 อนาล็อกได้ โดยช่อง 3 ได้เตรียมพร้อมยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอคุ้มครองการออกอากาศต่อไปแน่นอน เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ต้องรอหลังจากวันที่ 28 ก.ย.2557 ซึ่งเป็นกำหนดที่ผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล จะเริ่มทยอยยุติการนำช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศ หลังได้รับคำสั่งจาก กสท. 15 วัน

ส่วนในแง่ของธุรกิจ นายประวิทย์ กล่าวว่า ได้ชี้แจงกับลูกค้าที่ซื้อโฆษณาแล้วว่า จะชดเชยความเสียหายให้ เบื้องต้นน่าจะมีการคืนเงินสูงสุด 70% ตามสัดส่วนผู้ชมผ่านโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวี ที่มีราว 70% ของครัวเรือนทั้งประเทศ แต่ในความเป็นจริง ก็คงต้องมีการเจรจากันในรายละเอียดอีกครั้ง ว่าจะชดเชยเช่นไร


ประวิทย์ มาลีนนท์
“เดือนนี้ เราเริ่มเห็นผลกระทบทางธุรกิจที่ชัดเจนแล้ว เพราะเป็นเดือนที่เราอาจถูกสั่งให้จอดำ โดยปกติช่อง 3 จะขายโฆษณาล่วงหน้า 1 เดือน แต่เนื่องจากลูกค้าเริ่มไม่แน่ใจและกระแสข่าวก็ออกมาค่อนข้างแรง ทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อโฆษณา หลายรายการที่ปกติโฆษณาเต็มตลอด ก็เริ่มไม่เต็ม อย่างการขายโฆษณาการถ่ายทอดสดเอเชียนเกมส์ ที่กำลังจะเริ่มการแข่งขัน ปกติเราไม่เคยมีปัญหาด้านการขาย ก็ขายลำบาก หรืออย่างรายการเดอะวอยซ์ The Voice รายการถ่ายทอดสดประกวดร้องเพลง ซึ่งปกติรายการสดต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก ก็เข้ามาบ่นว่าขายโฆษณายาก ลูกค้าไม่มั่นใจ ขอรอดูความชัดเจน ขณะเดียวกันในฝั่งของผู้ผลิตรายการ ยิ่งกังวลใจ ไม่อยากผลิตรายการให้เรา เพราะเกรงว่าจะจอดำ ก็ถือว่าได้รับผลกระทบในภาพรวมทั้งหมด”

นายประวิทย์ กล่าวว่า ปัญหาที่ต้องโฟกัสหลักๆ ในขณะนี้มี 2 ประเด็นสำคัญ นั่นคือ ทำไมช่อง 3 ไม่ขอใบอนุญาตเป็นทีวีแบบบอกรับสมาชิก (เพย์ ทีวี) ซึ่งทุกคนบอกว่าจะเป็นการจบปัญหาและทำตามกฎระเบียบ คำตอบก็คือหากช่อง 3 ไปขออนุญาตเป็นเพย์ ทีวี จะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์รายการที่ปัจจุบันออกอากาศอยู่บนช่อง 3 อนาล็อกซึ่งเป็นฟรีทีวี เพราะลิขสิทธิ์รายการทั้งหมด มีการกำหนดว่าออกอากาศบนทีวีประเภทใด หากจะออกเพย์ ทีวี ก็ต้องมีเงื่อนไขด้านลิขสิทธิ์ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือออกอากาศไม่ได้ ตรงนี้เป็นเงื่อนไขด้านกฎหมายซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ นอกเหนือจากการต้องตัดเวลาโฆษณาลงเหลือชั่วโมงละ 6 นาที ซึ่งจะกระทบธุรกิจของช่อง 3 แน่ และช่อง 3 เป็นธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีผู้ถือหุ้นรายย่อย แต่ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องรอง หากเทียบกับปัญหาด้านกฎหมาย

ส่วนประเด็นที่ 2 คือข้อเสนอให้ช่อง 3 อนาล็อกต้องออกอากาศคู่ขนาน (Simulcast) ซึ่งตรงนี้ก็ต้องขอถามกลับว่า กสท.คิดว่าทำได้ไหม เพราะช่อง 3 เข้าประมูลใบอนุญาตในอีกบริษัทหนึ่ง และทำธุรกิจช่อง 3 ในอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์มาตรา 9 ระบุว่า ให้ผู้ที่ได้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประกอบกิจการเอง ในกรณีนี้เป็นคนละนิติบุคคลกัน ถือว่าขัดต่อกฎหมาย

“ผมต้องการคำยืนยันตรงนี้ว่า ผมทำได้ไหม ออกอากาศคู่ขนานได้ไหม ขอให้ตอบมาว่าได้หรือไม่ได้ ตอบมาให้ชัดเจน ผมต้องการคำตอบจากคุณสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท.เป็นสำคัญ เพราะคุณสุภิญญาบอกว่าหากช่อง 3 ออกอากาศคู่ขนาน ทุกอย่างก็จบ จะได้ไม่ถ่วงความเจริญและเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ผมจึงต้องการให้เธอตอบคำถามให้ชัดๆว่าผมทำได้ไหม ถ้าคุณสุภิญญาตอบว่าทำได้ ผมจะทำ ถึงตอนนั้นหากผมไม่ทำ ค่อยมาด่าผม และคุณสุภิญญาคนเดียวเท่านั้นที่ควรตอบผมมา อย่าดึงกรรมการอื่นๆอีก 9 คนมาร่วมรับผิดด้วย”


ฐากร ตัณฑสิทธิ์
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.ได้ส่งหนังสือไปยังผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียมในวันที่ 15 ก.ย.นี้ เพราะฉะนั้นโครงข่ายดาวเทียมจะเกิดปัญหาช่อง 3 อนาล็อกจอดำในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ขณะที่ผู้ให้บริการโครงข่ายเคเบิลจะทยอยจอดำหลังจากวันที่ 30 ก.ย. เป็นต้นไป “ผมเชื่อว่าการเจรจาจะมีทางออกที่ดี ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ชม แต่จะทำอย่างไรนั้น ขอให้รอนิดหนึ่ง เพราะยังเหลือเวลาอยู่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาคาราคาซังระหว่าง กสท. กับช่อง 3 นั้น หากช่อง 3 และ กสท.เจรจาตกลงกันได้ว่าออกอากาศคู่ขนาน ก็ขอให้ทำสัญญาตกลงกันชัดเจน ส่วนประเด็นข้อกฎหมายว่าเป็นคนละนิติบุคลนั้น กสทช.ต้องประชุมด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาให้ออกอากาศคู่ขนานให้ได้ ถ้าหากต้องแก้กฎหมายหรือออกคำสั่ง โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กสทช.ก็พร้อมจะเสนอทางออกให้ แต่ในระหว่างเสนอ ครม.ก็ต้องมีมติให้ขยายระยะเวลาการยุติการออกอากาศช่อง 3 อนาล็อกบนโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลต่อไป จนกว่า ครม. จะมีมติ อย่างไรก็ตาม กสทช.ควรจะนัดประชุมหารือกรณีพิเศษ เพื่อถกปัญหาดังกล่าว และมอบอำนาจการเจรจาให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง เป็นผู้มีอำนาจเจรจากับช่อง 3 เพื่อให้มีข้อสรุปเบ็ดเสร็จก่อนที่จะเกิดปัญหาจอดำในวันที่ 30 ก.ย.นี้.

http://www.thairath.co.th/content/451216

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.