09 ธันวาคม 2557 SONY ระบุ กรุงเทพ (โรงแรมสุดหรูย่านราชดำริอย่างโรงแรมเดอะ เซนต์รีจิส ) เป็นเมืองต้นตอกรณีบริษัทโซนี่ พิคเจอร์สถูกแฮกข้อมูลสำคัญครั้งมหึมา
ประเด็นหลัก
กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรตกเป็นข่าวอีกครั้งหลังมีชื่อในฐานะเป็นเมืองต้นตอกรณีบริษัทโซนี่ พิคเจอร์สถูกแฮกข้อมูลสำคัญครั้งมหึมา โดยเป้าพุ่งไปที่โรงแรมสุดหรูย่านราชดำริอย่างโรงแรมเดอะ เซนต์รีจิส
จากการเปิดเผยของบุคคลที่ไม่ประสงค์ออกนามรายหนึ่งซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนครั้งนี้ระบุว่า เวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นเวลา 00.25 น. ของวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ตามเวลาในประเทศไทย หรือประมาณ 09.25 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา (แคลิฟอร์เนีย) โดยเป็นการก่อเหตุผ่านระบบอินเทอร์เน็ตไฮสปีดที่โรงแรมห้าดาวดังกล่าว ส่วนสถานที่ก่อเหตุนั้นไม่สามารถระบุได้ (ว่าเป็นห้องพักแขก หรือมาจากบริเวณล็อบบี้)
______________________________
เผย “กรุงเทพ” ต้นทางการล้วงข้อมูลบริษัทโซนี่
กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรตกเป็นข่าวอีกครั้งหลังมีชื่อในฐานะเป็นเมืองต้นตอกรณีบริษัทโซนี่ พิคเจอร์สถูกแฮกข้อมูลสำคัญครั้งมหึมา โดยเป้าพุ่งไปที่โรงแรมสุดหรูย่านราชดำริอย่างโรงแรมเดอะ เซนต์รีจิส
จากการเปิดเผยของบุคคลที่ไม่ประสงค์ออกนามรายหนึ่งซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนครั้งนี้ระบุว่า เวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นเวลา 00.25 น. ของวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ตามเวลาในประเทศไทย หรือประมาณ 09.25 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา (แคลิฟอร์เนีย) โดยเป็นการก่อเหตุผ่านระบบอินเทอร์เน็ตไฮสปีดที่โรงแรมห้าดาวดังกล่าว ส่วนสถานที่ก่อเหตุนั้นไม่สามารถระบุได้ (ว่าเป็นห้องพักแขก หรือมาจากบริเวณล็อบบี้)
สำหรับข้อมูลที่ถูกขโมยไปนั้นคาดว่ามีขนาดประมาณ 100 เทราไบต์ โดยเป็นข้อมูลภายในองค์กร และข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ เช่น พาสเวิร์ดของลูกค้า ข้อมูลส่วนตัวซึ่งรวมถึงหมายเลข Social Security เงินเดือน ฯลฯ ของพนักงานโซนี่ สัญญาการว่าจ้างบรรดาเซเลบ รวมถึงข้อมูลของภาพยนตร์ใหม่ของบริษัทก็ถูกนำออกเผยแพร่ด้วยเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญบางรายพุ่งเป้าไปที่รัฐบาลเกาหลีเหนือว่าอาจอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุครั้งนี้ โดยมีแรงจูงใจมาจากภาพยนต์เรื่อง The Interview ที่มีเนื้อหาในเชิงลบต่อผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ขณะที่ทางรัฐบาลเกาหลีเหนือก็ได้ออกมาปฏิเสธแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
จากข้อมูลทั้งหมด แน่นอนว่าตอนนี้ทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานโซนี่ทั้ง 47,000 คน รวมถึงอดีตพนักงาน และพนักงานฟรีแลนซ์เช่นเดียวกับกรณีของดาราฮอลลีวูดที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกันยายน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากต่างเห็นพ้องกันว่า นี่คือโฉมหน้าของอันตรายรูปแบบใหม่ในยุคไซเบอร์
อย่างไรก็ดี เป้าหมายของการแฮกข้อมูลบริษัทโซนี่ในครั้งนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะลักษณะการโจมตีมีแนวโน้มให้บริษัทเกิดความอับอายต่อสาธารณะมากกว่าประเด็นอื่น
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ ได้มีกลุ่มแฮกเกอร์ “Guardians of Peace” ออกมาอ้างความรับผิดชอบกรณีดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่าต้องการให้โซนี่หยุดการเผยแพร่ภาพยนตร์ที่อาจเป็นชนวนสงครามเสีย (ทางกลุ่มไม่ระบุชื่อภาพยนตร์ แต่คาดว่าจะเป็นเรื่อง The Interview) พร้อมกันนั้น ทางกลุ่มได้เผยแพร่ข้อมูลใหม่อีก 2.7 กิกะไบต์ ซึ่งมีทั้งอีเมลจากเอมี ปาสคาล (Amy Pascal) ผู้บริหารของโซนี่ พิคเจอร์ส เอนเตอร์เทนเมนท์ และอีเมลของ สตีเฟน มอสโค (Stephen Mosko) ประธานโซนี่ พิคเจอร์ส เทเลวิชันด้วย
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000141484
กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรตกเป็นข่าวอีกครั้งหลังมีชื่อในฐานะเป็นเมืองต้นตอกรณีบริษัทโซนี่ พิคเจอร์สถูกแฮกข้อมูลสำคัญครั้งมหึมา โดยเป้าพุ่งไปที่โรงแรมสุดหรูย่านราชดำริอย่างโรงแรมเดอะ เซนต์รีจิส
จากการเปิดเผยของบุคคลที่ไม่ประสงค์ออกนามรายหนึ่งซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนครั้งนี้ระบุว่า เวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นเวลา 00.25 น. ของวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ตามเวลาในประเทศไทย หรือประมาณ 09.25 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา (แคลิฟอร์เนีย) โดยเป็นการก่อเหตุผ่านระบบอินเทอร์เน็ตไฮสปีดที่โรงแรมห้าดาวดังกล่าว ส่วนสถานที่ก่อเหตุนั้นไม่สามารถระบุได้ (ว่าเป็นห้องพักแขก หรือมาจากบริเวณล็อบบี้)
______________________________
เผย “กรุงเทพ” ต้นทางการล้วงข้อมูลบริษัทโซนี่
กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรตกเป็นข่าวอีกครั้งหลังมีชื่อในฐานะเป็นเมืองต้นตอกรณีบริษัทโซนี่ พิคเจอร์สถูกแฮกข้อมูลสำคัญครั้งมหึมา โดยเป้าพุ่งไปที่โรงแรมสุดหรูย่านราชดำริอย่างโรงแรมเดอะ เซนต์รีจิส
จากการเปิดเผยของบุคคลที่ไม่ประสงค์ออกนามรายหนึ่งซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนครั้งนี้ระบุว่า เวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นเวลา 00.25 น. ของวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ตามเวลาในประเทศไทย หรือประมาณ 09.25 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา (แคลิฟอร์เนีย) โดยเป็นการก่อเหตุผ่านระบบอินเทอร์เน็ตไฮสปีดที่โรงแรมห้าดาวดังกล่าว ส่วนสถานที่ก่อเหตุนั้นไม่สามารถระบุได้ (ว่าเป็นห้องพักแขก หรือมาจากบริเวณล็อบบี้)
สำหรับข้อมูลที่ถูกขโมยไปนั้นคาดว่ามีขนาดประมาณ 100 เทราไบต์ โดยเป็นข้อมูลภายในองค์กร และข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ เช่น พาสเวิร์ดของลูกค้า ข้อมูลส่วนตัวซึ่งรวมถึงหมายเลข Social Security เงินเดือน ฯลฯ ของพนักงานโซนี่ สัญญาการว่าจ้างบรรดาเซเลบ รวมถึงข้อมูลของภาพยนตร์ใหม่ของบริษัทก็ถูกนำออกเผยแพร่ด้วยเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญบางรายพุ่งเป้าไปที่รัฐบาลเกาหลีเหนือว่าอาจอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุครั้งนี้ โดยมีแรงจูงใจมาจากภาพยนต์เรื่อง The Interview ที่มีเนื้อหาในเชิงลบต่อผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ขณะที่ทางรัฐบาลเกาหลีเหนือก็ได้ออกมาปฏิเสธแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
จากข้อมูลทั้งหมด แน่นอนว่าตอนนี้ทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานโซนี่ทั้ง 47,000 คน รวมถึงอดีตพนักงาน และพนักงานฟรีแลนซ์เช่นเดียวกับกรณีของดาราฮอลลีวูดที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกันยายน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากต่างเห็นพ้องกันว่า นี่คือโฉมหน้าของอันตรายรูปแบบใหม่ในยุคไซเบอร์
อย่างไรก็ดี เป้าหมายของการแฮกข้อมูลบริษัทโซนี่ในครั้งนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะลักษณะการโจมตีมีแนวโน้มให้บริษัทเกิดความอับอายต่อสาธารณะมากกว่าประเด็นอื่น
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ ได้มีกลุ่มแฮกเกอร์ “Guardians of Peace” ออกมาอ้างความรับผิดชอบกรณีดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่าต้องการให้โซนี่หยุดการเผยแพร่ภาพยนตร์ที่อาจเป็นชนวนสงครามเสีย (ทางกลุ่มไม่ระบุชื่อภาพยนตร์ แต่คาดว่าจะเป็นเรื่อง The Interview) พร้อมกันนั้น ทางกลุ่มได้เผยแพร่ข้อมูลใหม่อีก 2.7 กิกะไบต์ ซึ่งมีทั้งอีเมลจากเอมี ปาสคาล (Amy Pascal) ผู้บริหารของโซนี่ พิคเจอร์ส เอนเตอร์เทนเมนท์ และอีเมลของ สตีเฟน มอสโค (Stephen Mosko) ประธานโซนี่ พิคเจอร์ส เทเลวิชันด้วย
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000141484
ไม่มีความคิดเห็น: