Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

24 ธันวาคม 2557 ICT.พรชัย ชี้ การแจ้งความคดีหมิ่นประมาทด้วยการส่งข้อความผ่านทางแอปพลิเคชั่น LINE มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่มีกรณีใดที่ต้องประสานขอความร่วมมือไปยังบริษัทไลน์ประเทศญี่ปุ่น

ประเด็นหลัก



รัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีระบุด้วยว่า การแจ้งความคดีหมิ่นประมาทด้วยการส่งข้อความผ่านทางแอปพลิเคชั่น LINE มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  แต่ยังไม่มีกรณีใดที่ต้องประสานขอความร่วมมือไปยังบริษัทไลน์ประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอข้อมูลในระบบของแอปพลิเคชั่นแต่อย่างใด


“ตั้งแต่มีข่าวออกไปได้คุยกับไลน์ ประเทศไทยแล้ว เขาก็เข้าใจว่า กระทรวงไอซีทีไม่ได้มีนโยบายไปกดดันหรือทำอย่างที่เป็นข่าว
ทางนั้นยังมั่นใจด้วยว่า ผมไม่ได้พูดไปแบบนั้น เพราะก็รู้กันอยู่แล้วว่าทำไม่ได้ บริษัทเขาก็มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลในระบบอยู่”

_____________________________________________________


















รัฐมนตรี"ไอซีที"แจงไม่ได้ดักจับข้อมูลการคุยผ่าน"ไลน์"



จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางตลอดวันเกี่ยวกับเรื่องทีว่ากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) ดักจับข้อมูลการสนทนาของประชาชนผ่านแอปพลิเคชั่นแชท"ไลน์"ได้นั้น และในภายหลัง "ไลน์ ประเทศไทย"ได้ออกมายืนยันว่าบริษัทไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้ได้ และถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล โดยในทางสากลมีกฎหมายละเมิดสิทธิของผู้ใช้คุ้มครองอยู่ หากต้องการข้อมูลต้องมีหมายศาลและติดต่อไปที่บริษัทแม่  โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทแม่ด้วยว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ได้หรือไม่

ผู้สื่อข่าว"ประชาชาติธุรกิจ"ได้สอบถามไปยังนายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้คำตอบว่ากรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่ากระทรวงไอซีทีได้ดักจับข้อมูลการสนทนาของประชาชนผ่านแอปพลิเคชั่น"ไลน์"(LINE)เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนโดยนำวิธีการสืบหาพยานหลักฐานจากการกระทำผิดผ่านเว็บไซต์, เฟซบุ๊กมาปนกับกรณีแอปพลิเคชั่นแชท ซึ่งกรณีของเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอย่างเปิดเผยในวงสาธารณะจึงค้นหาต้นตอได้จากหมายเลข IP และฐานข้อมูลในระบบทำให้ตามหาตัวบุคคลได้ง่ายกว่าการตามจับผ่านแอปพลิเคชั่นแชทที่เป็นการสนทนาระหว่างบุคคลต่อบุคคล และถ้าจะเข้าถึงข้อมูลในระบบได้ต้องประสานไปยังบริษัทไลน์ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการจับกุมผู้กระทำผิดที่ผ่านมาสาวถึงต้นตอผู้ส่งได้ ด้วยการไล่ย้อนไปถึงผู้ส่งข้อความในแต่ละช่วง โดยมีข้อความในแชทที่ผู้แจ้งความนำมาให้เป็นหลักฐาน


“ผมพูดว่าให้ระวังอย่าส่งต่อข้อความทางไลน์นะ สามารถตามจับได้เพราะเวลาผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ เขาจะนำข้อความในแชทมาให้ตำรวจทำให้สาวถึงต้นตอได้จากตรงนั้น ไม่ใช่ว่ากระทรวงไอซีทีไปนั่งส่องข้อความที่คนแชทกัน และที่เตือนว่า ให้ระวังอย่าส่งต่อเพราะตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แค่ส่งต่อก็ถือว่าสมรู้ร่วมคิดแล้วจะมาอ้างว่าไม่รู้ ไม่ตั้งใจไม่ได้ ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าที่นายกรัฐมนตรีหงุดหงิดเวลาอ่านข่าว เพราะไปลงไอ้ที่เราไม่ได้พูด เป็นแบบนี้เอง”

รัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีระบุด้วยว่า การแจ้งความคดีหมิ่นประมาทด้วยการส่งข้อความผ่านทางแอปพลิเคชั่น LINE มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  แต่ยังไม่มีกรณีใดที่ต้องประสานขอความร่วมมือไปยังบริษัทไลน์ประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอข้อมูลในระบบของแอปพลิเคชั่นแต่อย่างใด


“ตั้งแต่มีข่าวออกไปได้คุยกับไลน์ ประเทศไทยแล้ว เขาก็เข้าใจว่า กระทรวงไอซีทีไม่ได้มีนโยบายไปกดดันหรือทำอย่างที่เป็นข่าว
ทางนั้นยังมั่นใจด้วยว่า ผมไม่ได้พูดไปแบบนั้น เพราะก็รู้กันอยู่แล้วว่าทำไม่ได้ บริษัทเขาก็มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลในระบบอยู่”


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1419340401

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.