Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

27 ธันวาคม 2557 ช่อง 3 Family จับมือ เทอร์เนอร์ ( ช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ค และช่องบูมเมอแรง ) จะเข้ามาผลิตรายการเด็กทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-18.00 น. และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-09.00 น.

ประเด็นหลัก



       *** ดึง “เทอร์เนอร์” ลงช่อง 3 แฟมิลี่ ***
       ส่วนแผนการดำเนินงานในช่อง 3แฟมิลี่นั้น ล่าสุดได้มีการเจรจากับทาง บริษัท เทอร์เนอร์ บรอดคาส ซิสเต็ม เอเชียแปซิฟิค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับคอนเทนต์การ์ตูนระดับโลก อย่าง ช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ค และช่องบูมเมอแรง รวมถึงรายการสำหรับเด็กและครอบครัวอีกมากมาย โดยทางเทอร์เนอร์จะเข้ามาผลิตรายการเด็กทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-18.00 น. และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-09.00 น. ด้วย
     
       “แผนการดำเนินงานในช่อง 3SD และช่อง 3 แฟมิลี่ จะเป็นการลงทุนจากคอนเทนต์เดิมที่มีอยู่ ไม่รีบที่จะผลิตรายการใหม่ เพราะมองว่าสนามรบยังไม่เต็ม 100% ขณะที่หลายช่องต่างมุ่งสู้กันจนเหนื่อยเพื่อชิงความเป็นผู้นำ จึงไม่รีบร้อนถือเป็นการดูตลาดไปด้วย พร้อมปรับคอนเทนต์ให้เหมาะสม ดังนั้นในแง่รายได้ของทั้ง 2 ช่องจึงหวังไว้เพียงแค่คุ้มทุนกับการลงทุนไปของในแต่ละช่องมากกว่า” นายสุรินทร์กล่าวสรุป
     




_____________________________________________________















ช่อง 3 ปรับกลยุทธ์สู้ศึกดิจิตอล ดึง “เทอร์เนอร์” ร่วมผลิตคอนเทนต์



        ช่อง 3 เดินหน้ารับศึกทีวีดิจิตอลปี 58 วางโพซิชันนิ่งช่อง 3SD เป็นช่องทางเลือก จับคอนเทนต์รีรัน และคอนเทนต์ต่างประเทศสร้างแกร่งช่วงเวลา 17.00-23.00 น. ส่วนช่อง 3 แฟมิลี่ ดึงพันธมิตร “เทอร์เนอร์” ยักษ์ใหญ่คอนเทนต์การ์ตูนเน็ตเวิร์ค ร่วมผลิตรายการ 7 วันรวด หวังแค่มีรายได้คุ้มทุน เมินการแข่งขัน เชื่อตลาดยังไม่พร้อมที่จะลงทุนเต็มตัว แต่พร้อมเจาะลึกช่อง 3HD ประคองคนดูไว้ให้นานที่สุด
     
       นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการ และอดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 และกรรมการบริหาร บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานเกี่ยวกับทีวีดิจิตอลของช่อง 3 ซึ่งมีทั้งหมด 3 ช่อง คือ ช่อง 3HD, ช่อง 3SD และช่อง 3Family รวมถึงช่อง 3 แอนะล็อกที่ออกคู่ขนานนั้น เบื้องต้นจะวางช่อง 3HD และช่อง 3SD เป็นเรือธง โดยช่อง 3HD จะเป็นช่องที่สร้างการเติบโตให้บริษัทเป็นหลัก ส่วนช่อง 3 แฟมิลี่ เป็นความตั้งใจที่ประมูลมาเพื่อต้องการคืนกำไรสู่สังคม การออกอากาศแบบ 24 ชม.เกินความจำเป็น จึงต้องมีรีรัน
     
       “แนวทางเบื้องต้นของการบริหารทั้ง 3 ช่องนั้น ช่อง 3 เดิมไม่ต้องทำอะไร ช่อง 3SD จะสร้างความแข็งแรงเพิ่ม ส่วนช่อง 3 แฟมิลี่เน้นคืนกำไรสู่ผู้ชม ดังนั้นรายการที่ดีกว่าจะยังคงอยู่ที่ช่อง 3HD รายการอื่นๆ รองลงมาจะไปอยู่ที่ช่องอื่น ระยะแรกของการออกอากาศที่ผ่านมาค่อนข้างกะทันหัน รายการใหม่จึงผลิตไม่ทันในทุกช่อง จึงต้องเน้นการรีรันไปก่อน แต่มั่นใจว่าช่อง 3HD จะเป็นช่องที่สร้างรายได้มากสุด แม้ว่าโอกาสเติบโตจะเหลือน้อยลงจากช่องว่างในการลงโฆษณาเต็ม จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทจึงประมูลมาหลายช่อง เพราะต้องมีช่อง 3SD เข้ามาเป็นตัวเพิ่มรายได้”
     
       นายประวิทย์กล่าวต่อว่า ปีหน้าในอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลเชื่อว่ายังเป็นช่วงที่ลำบากสำหรับทุกคน เพราะมีจำนวนช่องที่เยอะ จึงต้องเน้นสร้างความแตกต่างซึ่งเป็นเรื่องยาก ขณะที่รายใหญ่จะมีโอกาสมากกว่าเพราะมีฐานคนดูอยู่แล้ว และมีคอนเทนต์ที่ผู้ชมติดตามอยู่ก่อนหน้า ช่องใหม่จะต้องทำงานหนักมากขึ้น ในส่วนของช่อง 3 มั่นใจว่าคอนเทนต์ที่มีอยู่เพียงพอสำหรับการนำเสนอในแต่ละช่อง เพียงแต่สถานการณ์ของทีวีดิจิตอลยังไม่พร้อมเต็มที่ จึงไม่รีบที่จะลงทุนเพิ่มหรือนำเสนอคอนเทนต์แบบเต็มรูปแบบ
     
       ***ช่อง 3 ยิ้มรายได้ทรงตัว สวนตลาดติดลบ 10%
       ด้านนายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 กล่าวเสริมว่า ปีหน้ายังต้องรอดูสถานการณ์ทีวีดิจิตอลไปอีกสักครึ่งปี เพราะกว่าโครงข่ายจะดี หรือเรตติ้งจะเกิดขึ้นจริงก็น่าจะใช้เวลาอีกราว 6 เดือน และหลังจากเดือน มิ.ย. 58 ไปแล้ว คูปองน่าจะแจกได้ครบ 100% โดยน่าจะเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้ 50% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ เรตติ้งก็น่าจะดีขึ้นตาม
     
       ในส่วนของช่อง 3 ปีหน้าจะมีการปรับและสร้างจุดแข็งในบางช่วงเวลามากขึ้น เช่น 06.00-09.30 น. รวมถึงช่วงบ่ายหลังข่าวเที่ยง จะมีการปรับปรุงรายการเพื่อดึงคนดูไว้ให้นานที่สุด โดยเชื่อมั่นว่าปีหน้าจะยังคงมีรายได้ที่ดีอยู่ จากปีนี้ที่รายได้ทรงตัว หรือน่าจะปิดรายได้เท่าปีก่อน จากปกติต่อปีจะมีการเติบโต 9-10% ถือเป็นตัวเลขที่น่ายินดี ในสถานการณ์ที่สื่อทีวีติดลบ 10% แต่ช่อง 3 มีส่วนแบ่งดีขึ้น
     
       *** วางหมากช่อง 3SD เป็นช่องทางเลือก ***
       นายสุรินทร์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 ทางบริษัทจะให้ความสำคัญต่อช่อง 3SD (ช่อง 28) มากขึ้น ด้วยการจัดทำผังรายการที่ตอบโจทย์คนดู ให้เป็นช่อง 3 แบบในอดีตที่อยากทำ โดยจะยึดผังช่อง 3HD เป็นหลัก ในการสร้างผังลงช่อง 3SD เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งฐานผู้ชมกันเอง
     
       เบื้องต้นจะสร้างไลน์คอนเทนต์ 6 ชม. ให้เป็นช่วงสร้างฐานผู้ชมและสร้างเรตติ้ง คือ ช่วงเวลา 17.00-23.00 น. เริ่มจากการนำละครที่เคยได้รับความนิยมในอดีตมารีรัน ตามด้วยรายการข่าว “ท็อปนิวส์” ซึ่งเป็นคนละทีมที่ออกอากาศในช่อง 3HD ด้วยการผลิตและนำเสนอในลักษณะวาไรตีที่แตกต่าง ไม่เน้นฮาร์ดนิวส์ ตามด้วยข่าวในพระราชสำนัก หลังจากนั้นเป็นการนำคอนเทนต์ฟอร์แมตจากต่างประเทศมานำเสนอ เช่น The VOICE (USA), Britain's Got Talent และรายการข่าว BEC นิวส์ อีก 45 นาที และหลังเวลา 22.00 น. ซึ่งพ้นช่วงไพรม์ไทม์ไปแล้ว จะนำรายการดังในอดีต เช่น ซีรีส์จีน, เกาหลี รวมถึงภาพยนตร์จีนใหม่ๆ มาออกอากาศ ส่วนช่วงเวลาอื่นจะเป็นการรีรัน และเป็นช่วงศึกษา ให้โอกาสบุคลากรมาผลิตรายการบ้าง
     
       “ผังรายการของช่อง 3SD ช่วง 6 ชม.นี้น่าจะแข่งขันกับช่องอื่นๆ ได้ แต่ถ้าเทียบกับช่อง 3HD ถือเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ชมเดิมของช่อง 3 และกลุ่มแมสที่ยังชื่นชอบคอนเทนต์เหล่านี้อยู่ ทั้งนี้ยังจะมีคอนเทนต์ที่ผลิตใหม่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะเน้น 6 ชม.นี้ให้มีเรตติ้งและฐานผู้ชมให้แข็งแรงไปตลอดทั้งปี ขณะที่ในแง่ของเรตโฆษณานั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 20,000 บาทต่อนาที โดยจะวางขายในทุกรูปแบบทั้งรูตสปอร์ต แพกเกจ และเรตการ์ด เป็นต้น แต่จะแยกขายจากช่อง 3HD อย่างชัดเจน เพราะเป็นคนละบริษัทกัน”
     
       *** ดึง “เทอร์เนอร์” ลงช่อง 3 แฟมิลี่ ***
       ส่วนแผนการดำเนินงานในช่อง 3แฟมิลี่นั้น ล่าสุดได้มีการเจรจากับทาง บริษัท เทอร์เนอร์ บรอดคาส ซิสเต็ม เอเชียแปซิฟิค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับคอนเทนต์การ์ตูนระดับโลก อย่าง ช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ค และช่องบูมเมอแรง รวมถึงรายการสำหรับเด็กและครอบครัวอีกมากมาย โดยทางเทอร์เนอร์จะเข้ามาผลิตรายการเด็กทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-18.00 น. และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-09.00 น. ด้วย
     
       “แผนการดำเนินงานในช่อง 3SD และช่อง 3 แฟมิลี่ จะเป็นการลงทุนจากคอนเทนต์เดิมที่มีอยู่ ไม่รีบที่จะผลิตรายการใหม่ เพราะมองว่าสนามรบยังไม่เต็ม 100% ขณะที่หลายช่องต่างมุ่งสู้กันจนเหนื่อยเพื่อชิงความเป็นผู้นำ จึงไม่รีบร้อนถือเป็นการดูตลาดไปด้วย พร้อมปรับคอนเทนต์ให้เหมาะสม ดังนั้นในแง่รายได้ของทั้ง 2 ช่องจึงหวังไว้เพียงแค่คุ้มทุนกับการลงทุนไปของในแต่ละช่องมากกว่า” นายสุรินทร์กล่าวสรุป
     

http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9570000146973

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.