02 มกราคม 2558 (บทความ) อีริคสันชี้ทิศ 'ธุรกิจสมาร์ทโฟน' // Ericsson ระบุ การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G ของไทยถือว่าอยู่อันดับที่ 3 เป็นรองแค่สิงคโปร์ ออสเตรเลีย คาดการณ์ทั้วโลกภายในสิ้นปี 2020 จะมีเลขหมายโทรศัพท์เปิดใช้งานทั้งหมด 9.5 พันล้านเลขหมาย ในจำนวนนี้ 90%
ประเด็นหลัก
แต่ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกคือปริมาณการใช้งานสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายในปีนี้ราว 800 ล้านเครื่อง ซึ่งกว่า 65-70% ถูกจำหน่ายในช่วงไตรมาส 3 ทำให้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 55% ส่งผลให้ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีสัดส่วนราว 37% ของโทรศัพท์มือถือ ทำให้รวมแล้วสิ้นปีนี้จะมีสมาร์ทโฟนในตลาด 2.7 พันล้านเครื่อง ทำให้เห็นว่ายังมีอัตราการเติบโตอีกพอสมควร
'ที่น่าสนใจคือการคาดการณ์ปริมาณสมาร์ทโฟนในปี 2020 ที่จะพุ่งขึ้นไปถึง 6.1 พันล้านเครื่อง แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก จีน และอินเดียรวมกัน จะมีปริมาณเกินครึ่งของเครื่องที่ใช้งานทั้งหมดในโลก'
นอกจากนี้ อีริคสัน ยังได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า ภายในสิ้นปี 2020 จะมีเลขหมายโทรศัพท์เปิดใช้งานทั้งหมด 9.5 พันล้านเลขหมาย ในจำนวนนี้ 90% จะมีการใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และประชากรทั่วโลกที่มีอายุมากกว่า 6 ขวบ 90% จะมีโทรศัพท์มือถือใช้งาน ในขณะที่ตลาดแท็บเล็ตจะเริ่มทรงตัวอยู่ที่ 650 ล้านเครื่อง
ทั้งนี้จากจำนวน 9.5 พันล้านเลขหมายคาดว่า 1 ใน 3 หรือ 3.5 พันล้าน จะเป็นการใช้งานผ่านระบบ 4G LTE อีก 4.4 พันล้านจะใช้งานบนระบบ 3G ส่วนการลดลงของ 2G หรือ GSM/EDGE จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คือบางตลาดอาจมีการยกเลิกการให้บริการไปเลย แต่ก็จะมีบางพื้นที่อย่างในแอฟริกาที่ยังมีการใช้งานอยู่
โดยเฉพาะการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G ของไทยถือว่าอยู่อันดับที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรองแค่สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ซึ่งในอนาคตถ้ามีการนำคลื่นความถี่ที่มีอยู่ออกมาเปิดประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขันในอุตสาหกรรม และเอกชนมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าไทยน่าจะขึ้นเป็นผู้นำในระบบ 4G หรือ 5G ในอนาคตได้ไม่ยาก
_____________________________________________________
อีริคสันชี้ทิศ 'ธุรกิจสมาร์ทโฟน'
บัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ อีริคสัน ประเทศไทย
อีริคสันหนึ่งในผู้ผลิตและให้บริการเครือข่ายระดับโลก ได้มีการเปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์ รวมไปถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า ประชากรที่อายุเกิน 6 ขวบ 90% จะมีโทรศัพท์ใช้งานภายในปี 2020 เช่นเดียวกับอัตราการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง พร้อมไปกับการขยายตัวของ 3G ,4G และ 5G
บัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ อีริคสัน ประเทศไทย ให้ข้อมูลที่น่าสนใจคือ ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมามีโทรศัพท์มือถือใช้งานทั่วโลก 6.9 พันล้านเครื่อง และจะเพิ่มเป็น 7 พันล้านเครื่องในสิ้นปี 2014นี้ โดยในจำนวนนี้ราว 2.5 พันล้านเครื่องทำงานบนเครือข่าย 3G
แต่ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกคือปริมาณการใช้งานสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายในปีนี้ราว 800 ล้านเครื่อง ซึ่งกว่า 65-70% ถูกจำหน่ายในช่วงไตรมาส 3 ทำให้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 55% ส่งผลให้ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีสัดส่วนราว 37% ของโทรศัพท์มือถือ ทำให้รวมแล้วสิ้นปีนี้จะมีสมาร์ทโฟนในตลาด 2.7 พันล้านเครื่อง ทำให้เห็นว่ายังมีอัตราการเติบโตอีกพอสมควร
'ที่น่าสนใจคือการคาดการณ์ปริมาณสมาร์ทโฟนในปี 2020 ที่จะพุ่งขึ้นไปถึง 6.1 พันล้านเครื่อง แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก จีน และอินเดียรวมกัน จะมีปริมาณเกินครึ่งของเครื่องที่ใช้งานทั้งหมดในโลก'
นอกจากนี้ อีริคสัน ยังได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า ภายในสิ้นปี 2020 จะมีเลขหมายโทรศัพท์เปิดใช้งานทั้งหมด 9.5 พันล้านเลขหมาย ในจำนวนนี้ 90% จะมีการใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และประชากรทั่วโลกที่มีอายุมากกว่า 6 ขวบ 90% จะมีโทรศัพท์มือถือใช้งาน ในขณะที่ตลาดแท็บเล็ตจะเริ่มทรงตัวอยู่ที่ 650 ล้านเครื่อง
ทั้งนี้จากจำนวน 9.5 พันล้านเลขหมายคาดว่า 1 ใน 3 หรือ 3.5 พันล้าน จะเป็นการใช้งานผ่านระบบ 4G LTE อีก 4.4 พันล้านจะใช้งานบนระบบ 3G ส่วนการลดลงของ 2G หรือ GSM/EDGE จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คือบางตลาดอาจมีการยกเลิกการให้บริการไปเลย แต่ก็จะมีบางพื้นที่อย่างในแอฟริกาที่ยังมีการใช้งานอยู่
'แนวโน้มของอุตสาหกรรมที่เห็นตอนนี้คือการนำคลื่นความถี่ 2G ที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน มาพัฒนาเป็นคลื่น 3G หรือ 4G และอาจจะได้เห็นการลงทุนเพื่อนำระบบ 5G มาใช้ต่อไปในอนาคต แม้ว่าปัจจุบัน GSM ยังเป็นโครงข่ายหลัก แต่เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาในปัจจุบันไม่สามารถใช้งานกับระบบดังกล่าวได้ จึงจะเห็นบทบาทที่มากขึ้นของ 3G และ 4G'
ในมุมของผู้ให้บริการเครือข่าย มากกว่า 70% ของประชากรจะเข้าถึงเครือข่าย 4G LTE ส่วน 3G จะเข้าถึงประชากร 90% จากปัจจุบันที่ 4G LTE มีให้บริการแล้ว 331 โครงข่าย และมีจำนวนโทรศัพท์มือถือที่รองรับการใช้งาน 4G ทั้งหมด 2,218 รุ่น ส่วนระบบ HD Voice มีให้บริการแล้วใน 116 โอเปอเรเตอร์ จาก 75 ประเทศ
'ปริมาณการใช้งานดาต้าของผู้บริโภคเป็นอีกส่วนที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2020 จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันถึง 8 เท่า จากปัจจุบันที่เฉลี่ยต่อเดือนราว 900 MB กลายเป็น 3.5 GB ต่อเดือน'
โดยสัดส่วนพฤติกรรมการใช้งานในสมาร์ทโฟนปัจจุบันคือ 45% มาจากการรับชมวิดีโอ ถัดมาเป็น โซเชียลเน็ตเวิร์ก 15% เปิดเว็บไซต์ 10% และฟังเพลง 2% ขณะที่ในปี 2020 จะเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นการรับชมวิดีโอสูงถึง 55% ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก 15% ส่วนการท่องเว็บไซต์ลดลงเหลือ 5% และฟังเพลงคงที่อยู่ 2% เท่าเดิม
อีริคสันชี้ทิศ 'ธุรกิจสมาร์ทโฟน'
***โฟกัสภูมิภาคอาเซียนและโอเชียเนีย
เมื่อมองย้อนกลับมาดูพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนีย กลับพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นหลัก โดยจากการสำรวจพบว่ากว่า 23% ของผู้บริโภคใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน
โดยปริมาณโทรศัพท์ มือถือที่อยู่ในภูมิภาคนี้ปัจจุบันอยู่ที่ 995 ล้านเลขหมาย เป็นสมาร์ทโฟนราว 224 ล้านเครื่อง ในขณะที่ปี 2020 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,330 ล้านเลขหมาย และเป็นการใช้งานสมาร์ทโฟน 810 ล้านเครื่อง ซึ่งการแข่งขันส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ในขณะที่ประเทศอย่างสิงคโปร์ และออสเตรเลีย จะเน้นไปที่การเพิ่มปริมาณการใช้งานทราฟิกมากขึ้น
ขณะที่ในมุมของเครือข่ายเชื่อว่าการขยายพื้นที่ให้บริการของ 3G และ 4G จะมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ และเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เกิดพฤติกรรมในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานใน ชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น
***มอง Digital Economy สมบูรณ์ได้ถ้ามี Network Society
สิ่งหนึ่งที่อีริคสัน มีมุมมองต่อแนวทางเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ที่ทางภาครัฐกำลังเร่งดำเนินการอยู่นั้น ต้องมีพื้นฐานของเน็ตเวิร์ก โซไซตี้ (Network Society) กล่าวคือการมีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในส่วนของการใช้งานอินเทอร์เน็ต เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ แล้ว
โดยเฉพาะการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G ของไทยถือว่าอยู่อันดับที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรองแค่สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ซึ่งในอนาคตถ้ามีการนำคลื่นความถี่ที่มีอยู่ออกมาเปิดประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขันในอุตสาหกรรม และเอกชนมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าไทยน่าจะขึ้นเป็นผู้นำในระบบ 4G หรือ 5G ในอนาคตได้ไม่ยาก
*** Connected Lifestyle จุดเปลี่ยนสำคัญในยุค 3G-4G***
เมื่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเริ่มกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ผู้บริโภคทุกคนสามารถเข้าถึงได้ สิ่งหนึ่งที่เกิดตามมาคือการใช้ชีวิตแบบเชื่อมต่อถึงกัน ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในการเชื่อมต่อเข้ากับเพื่อนๆ หรือบุคคลที่รู้จัก แต่จุดสำคัญของ Connected Lifestyle ไม่ได้อยู่ที่การใช้งานโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว
เพราะยังรวมไปถึงการเชื่อมต่อกับบ้าน (Connected Home) อย่างรูปแบบการใช้งานสมาร์ทโฮม หรือบ้านอัจฉริยะ ที่ใช้อุปกรณ์ที่สามารถสั่งงานผ่านระบบเน็ตเวิร์กเข้ามาใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับร่างกาย (Connectd Me) จำพวกอุปกรณ์ที่เป็น Wearable Device ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มในแง่ของสุขภาพ เพื่อนำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ที่จะพัฒนาเพิ่มขึ้นต่อไป
สุดท้ายคือ การเชื่อมต่อกับรถยนต์ หรือพาหนะเดินทาง (Connected Car) เพราะปัจจุบันเริ่มมีอุปกรณ์เสริมที่นำไปติดตั้งกับรถยนต์เพื่อให้กลายเป็น รถยนต์อัจฉริยะ ที่จะมีระบบในการตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในการหาข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น และแจ้งเตือนกับผู้ใช้งาน
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000148279
แต่ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกคือปริมาณการใช้งานสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายในปีนี้ราว 800 ล้านเครื่อง ซึ่งกว่า 65-70% ถูกจำหน่ายในช่วงไตรมาส 3 ทำให้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 55% ส่งผลให้ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีสัดส่วนราว 37% ของโทรศัพท์มือถือ ทำให้รวมแล้วสิ้นปีนี้จะมีสมาร์ทโฟนในตลาด 2.7 พันล้านเครื่อง ทำให้เห็นว่ายังมีอัตราการเติบโตอีกพอสมควร
'ที่น่าสนใจคือการคาดการณ์ปริมาณสมาร์ทโฟนในปี 2020 ที่จะพุ่งขึ้นไปถึง 6.1 พันล้านเครื่อง แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก จีน และอินเดียรวมกัน จะมีปริมาณเกินครึ่งของเครื่องที่ใช้งานทั้งหมดในโลก'
นอกจากนี้ อีริคสัน ยังได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า ภายในสิ้นปี 2020 จะมีเลขหมายโทรศัพท์เปิดใช้งานทั้งหมด 9.5 พันล้านเลขหมาย ในจำนวนนี้ 90% จะมีการใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และประชากรทั่วโลกที่มีอายุมากกว่า 6 ขวบ 90% จะมีโทรศัพท์มือถือใช้งาน ในขณะที่ตลาดแท็บเล็ตจะเริ่มทรงตัวอยู่ที่ 650 ล้านเครื่อง
ทั้งนี้จากจำนวน 9.5 พันล้านเลขหมายคาดว่า 1 ใน 3 หรือ 3.5 พันล้าน จะเป็นการใช้งานผ่านระบบ 4G LTE อีก 4.4 พันล้านจะใช้งานบนระบบ 3G ส่วนการลดลงของ 2G หรือ GSM/EDGE จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คือบางตลาดอาจมีการยกเลิกการให้บริการไปเลย แต่ก็จะมีบางพื้นที่อย่างในแอฟริกาที่ยังมีการใช้งานอยู่
โดยเฉพาะการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G ของไทยถือว่าอยู่อันดับที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรองแค่สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ซึ่งในอนาคตถ้ามีการนำคลื่นความถี่ที่มีอยู่ออกมาเปิดประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขันในอุตสาหกรรม และเอกชนมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าไทยน่าจะขึ้นเป็นผู้นำในระบบ 4G หรือ 5G ในอนาคตได้ไม่ยาก
_____________________________________________________
อีริคสันชี้ทิศ 'ธุรกิจสมาร์ทโฟน'
บัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ อีริคสัน ประเทศไทย
อีริคสันหนึ่งในผู้ผลิตและให้บริการเครือข่ายระดับโลก ได้มีการเปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์ รวมไปถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า ประชากรที่อายุเกิน 6 ขวบ 90% จะมีโทรศัพท์ใช้งานภายในปี 2020 เช่นเดียวกับอัตราการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง พร้อมไปกับการขยายตัวของ 3G ,4G และ 5G
บัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ อีริคสัน ประเทศไทย ให้ข้อมูลที่น่าสนใจคือ ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมามีโทรศัพท์มือถือใช้งานทั่วโลก 6.9 พันล้านเครื่อง และจะเพิ่มเป็น 7 พันล้านเครื่องในสิ้นปี 2014นี้ โดยในจำนวนนี้ราว 2.5 พันล้านเครื่องทำงานบนเครือข่าย 3G
แต่ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกคือปริมาณการใช้งานสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายในปีนี้ราว 800 ล้านเครื่อง ซึ่งกว่า 65-70% ถูกจำหน่ายในช่วงไตรมาส 3 ทำให้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 55% ส่งผลให้ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีสัดส่วนราว 37% ของโทรศัพท์มือถือ ทำให้รวมแล้วสิ้นปีนี้จะมีสมาร์ทโฟนในตลาด 2.7 พันล้านเครื่อง ทำให้เห็นว่ายังมีอัตราการเติบโตอีกพอสมควร
'ที่น่าสนใจคือการคาดการณ์ปริมาณสมาร์ทโฟนในปี 2020 ที่จะพุ่งขึ้นไปถึง 6.1 พันล้านเครื่อง แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก จีน และอินเดียรวมกัน จะมีปริมาณเกินครึ่งของเครื่องที่ใช้งานทั้งหมดในโลก'
นอกจากนี้ อีริคสัน ยังได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า ภายในสิ้นปี 2020 จะมีเลขหมายโทรศัพท์เปิดใช้งานทั้งหมด 9.5 พันล้านเลขหมาย ในจำนวนนี้ 90% จะมีการใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และประชากรทั่วโลกที่มีอายุมากกว่า 6 ขวบ 90% จะมีโทรศัพท์มือถือใช้งาน ในขณะที่ตลาดแท็บเล็ตจะเริ่มทรงตัวอยู่ที่ 650 ล้านเครื่อง
ทั้งนี้จากจำนวน 9.5 พันล้านเลขหมายคาดว่า 1 ใน 3 หรือ 3.5 พันล้าน จะเป็นการใช้งานผ่านระบบ 4G LTE อีก 4.4 พันล้านจะใช้งานบนระบบ 3G ส่วนการลดลงของ 2G หรือ GSM/EDGE จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คือบางตลาดอาจมีการยกเลิกการให้บริการไปเลย แต่ก็จะมีบางพื้นที่อย่างในแอฟริกาที่ยังมีการใช้งานอยู่
'แนวโน้มของอุตสาหกรรมที่เห็นตอนนี้คือการนำคลื่นความถี่ 2G ที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน มาพัฒนาเป็นคลื่น 3G หรือ 4G และอาจจะได้เห็นการลงทุนเพื่อนำระบบ 5G มาใช้ต่อไปในอนาคต แม้ว่าปัจจุบัน GSM ยังเป็นโครงข่ายหลัก แต่เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาในปัจจุบันไม่สามารถใช้งานกับระบบดังกล่าวได้ จึงจะเห็นบทบาทที่มากขึ้นของ 3G และ 4G'
ในมุมของผู้ให้บริการเครือข่าย มากกว่า 70% ของประชากรจะเข้าถึงเครือข่าย 4G LTE ส่วน 3G จะเข้าถึงประชากร 90% จากปัจจุบันที่ 4G LTE มีให้บริการแล้ว 331 โครงข่าย และมีจำนวนโทรศัพท์มือถือที่รองรับการใช้งาน 4G ทั้งหมด 2,218 รุ่น ส่วนระบบ HD Voice มีให้บริการแล้วใน 116 โอเปอเรเตอร์ จาก 75 ประเทศ
'ปริมาณการใช้งานดาต้าของผู้บริโภคเป็นอีกส่วนที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2020 จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันถึง 8 เท่า จากปัจจุบันที่เฉลี่ยต่อเดือนราว 900 MB กลายเป็น 3.5 GB ต่อเดือน'
โดยสัดส่วนพฤติกรรมการใช้งานในสมาร์ทโฟนปัจจุบันคือ 45% มาจากการรับชมวิดีโอ ถัดมาเป็น โซเชียลเน็ตเวิร์ก 15% เปิดเว็บไซต์ 10% และฟังเพลง 2% ขณะที่ในปี 2020 จะเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นการรับชมวิดีโอสูงถึง 55% ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก 15% ส่วนการท่องเว็บไซต์ลดลงเหลือ 5% และฟังเพลงคงที่อยู่ 2% เท่าเดิม
อีริคสันชี้ทิศ 'ธุรกิจสมาร์ทโฟน'
***โฟกัสภูมิภาคอาเซียนและโอเชียเนีย
เมื่อมองย้อนกลับมาดูพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนีย กลับพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นหลัก โดยจากการสำรวจพบว่ากว่า 23% ของผู้บริโภคใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน
โดยปริมาณโทรศัพท์ มือถือที่อยู่ในภูมิภาคนี้ปัจจุบันอยู่ที่ 995 ล้านเลขหมาย เป็นสมาร์ทโฟนราว 224 ล้านเครื่อง ในขณะที่ปี 2020 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,330 ล้านเลขหมาย และเป็นการใช้งานสมาร์ทโฟน 810 ล้านเครื่อง ซึ่งการแข่งขันส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ในขณะที่ประเทศอย่างสิงคโปร์ และออสเตรเลีย จะเน้นไปที่การเพิ่มปริมาณการใช้งานทราฟิกมากขึ้น
ขณะที่ในมุมของเครือข่ายเชื่อว่าการขยายพื้นที่ให้บริการของ 3G และ 4G จะมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ และเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เกิดพฤติกรรมในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานใน ชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น
***มอง Digital Economy สมบูรณ์ได้ถ้ามี Network Society
สิ่งหนึ่งที่อีริคสัน มีมุมมองต่อแนวทางเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ที่ทางภาครัฐกำลังเร่งดำเนินการอยู่นั้น ต้องมีพื้นฐานของเน็ตเวิร์ก โซไซตี้ (Network Society) กล่าวคือการมีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในส่วนของการใช้งานอินเทอร์เน็ต เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ แล้ว
โดยเฉพาะการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G ของไทยถือว่าอยู่อันดับที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรองแค่สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ซึ่งในอนาคตถ้ามีการนำคลื่นความถี่ที่มีอยู่ออกมาเปิดประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขันในอุตสาหกรรม และเอกชนมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าไทยน่าจะขึ้นเป็นผู้นำในระบบ 4G หรือ 5G ในอนาคตได้ไม่ยาก
*** Connected Lifestyle จุดเปลี่ยนสำคัญในยุค 3G-4G***
เมื่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเริ่มกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ผู้บริโภคทุกคนสามารถเข้าถึงได้ สิ่งหนึ่งที่เกิดตามมาคือการใช้ชีวิตแบบเชื่อมต่อถึงกัน ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในการเชื่อมต่อเข้ากับเพื่อนๆ หรือบุคคลที่รู้จัก แต่จุดสำคัญของ Connected Lifestyle ไม่ได้อยู่ที่การใช้งานโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว
เพราะยังรวมไปถึงการเชื่อมต่อกับบ้าน (Connected Home) อย่างรูปแบบการใช้งานสมาร์ทโฮม หรือบ้านอัจฉริยะ ที่ใช้อุปกรณ์ที่สามารถสั่งงานผ่านระบบเน็ตเวิร์กเข้ามาใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับร่างกาย (Connectd Me) จำพวกอุปกรณ์ที่เป็น Wearable Device ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มในแง่ของสุขภาพ เพื่อนำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ที่จะพัฒนาเพิ่มขึ้นต่อไป
สุดท้ายคือ การเชื่อมต่อกับรถยนต์ หรือพาหนะเดินทาง (Connected Car) เพราะปัจจุบันเริ่มมีอุปกรณ์เสริมที่นำไปติดตั้งกับรถยนต์เพื่อให้กลายเป็น รถยนต์อัจฉริยะ ที่จะมีระบบในการตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในการหาข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น และแจ้งเตือนกับผู้ใช้งาน
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000148279
ไม่มีความคิดเห็น: