Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

02 มกราคม 2558 Huawei THAI ในกลุ่มดีไวซ์มากขึ้นในปี58 โดยจะเพิ่มงบประมาณเท่าตัวจาก 200 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท แง่ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 200,000 เครื่องในปีนี้เป็น 400,000 เครื่องภาย

ประเด็นหลัก


นายโทมัส หลิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย ดีไวซ์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า บริษัทจะเพิ่มความเข้มข้นในการทำตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดีไวซ์มากขึ้นในปีหน้า โดยจะเพิ่มงบประมาณเท่าตัวจาก 200 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท เพื่อผลักดันการทำตลาดในแง่ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 200,000 เครื่องในปีนี้เป็น 400,000 เครื่องภายในปีหน้า และจะโปรโมตแบรนด์มากขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้า ล่าสุดเลือกดาราวัยรุ่น "อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ" เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรกเพื่อเสริมการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่

สำหรับส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทย ล่าสุด ณ เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาขึ้นมาอยู่ที่ 2.5% และ 5.4-5.9% เป็นอันดับ 3 ในตลาดโลก โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่หัวเว่ยให้ความสำคัญมากกว่าประเทศอื่นในอาเซียน โดยปีนี้มีสินค้าออกสู่ตลาด 10 รุ่น ราคา 2,990-19,990 บาท มียอดขายรวม 200,000 เครื่อง ราคาเฉลี่ย 7,000 บาท/เครื่อง สูงกว่าราคาเฉลี่ยของตลาดสมาร์ทโฟนที่ 6,000 บาท

"ปีหน้าตั้งเป้าสูงขึ้น โดยเพิ่มงบฯทำตลาดในไทยเท่าตัวเป็น 400 ล้านบาท จากงบฯการตลาดในอาเซียนทั้งหมด 600 ล้านบาท ปีหน้าเปิดตัวใหม่ 20 รุ่น เพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้เป็น 5% จะมีการเปิดแบรนด์ช็อปที่สยามพารากอนเป็นที่แรกในกรุงเทพฯ หลังจากเปิดไปแล้ว 2 แห่งที่ภาคอีสานและภาคใต้"


_____________________________________________________














"หัวเว่ย" รุกชิงเค้กสมาร์ทดีไวซ์ เท 400 ล.เปิดศึกเพิ่มแชร์ปี58



มังกรจีน "หัวเว่ย" เตรียมสู้ศึกแข่งดุปีหน้า ประกาศควักกระเป๋าอัดฉีดเงินเพิ่มเท่าตัวเป็น 400 ล้านบาท เปิดเกมรุกตลาดต่างจังหวัดเต็มสตรีม ตั้งเป้าดันส่วนแบ่งตลาดขยับจาก 2.5% เป็น 5% โกยยอดขาย 400,000 เครื่อง ขนเครื่องรุ่นใหม่ลงตลาด 20 รุ่น พร้อมปรับราคาลงเพิ่มขีดแข่งขัน

นายโทมัส หลิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย ดีไวซ์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า บริษัทจะเพิ่มความเข้มข้นในการทำตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดีไวซ์มากขึ้นในปีหน้า โดยจะเพิ่มงบประมาณเท่าตัวจาก 200 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท เพื่อผลักดันการทำตลาดในแง่ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 200,000 เครื่องในปีนี้เป็น 400,000 เครื่องภายในปีหน้า และจะโปรโมตแบรนด์มากขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้า ล่าสุดเลือกดาราวัยรุ่น "อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ" เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรกเพื่อเสริมการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่

สำหรับส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทย ล่าสุด ณ เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาขึ้นมาอยู่ที่ 2.5% และ 5.4-5.9% เป็นอันดับ 3 ในตลาดโลก โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่หัวเว่ยให้ความสำคัญมากกว่าประเทศอื่นในอาเซียน โดยปีนี้มีสินค้าออกสู่ตลาด 10 รุ่น ราคา 2,990-19,990 บาท มียอดขายรวม 200,000 เครื่อง ราคาเฉลี่ย 7,000 บาท/เครื่อง สูงกว่าราคาเฉลี่ยของตลาดสมาร์ทโฟนที่ 6,000 บาท

"ปีหน้าตั้งเป้าสูงขึ้น โดยเพิ่มงบฯทำตลาดในไทยเท่าตัวเป็น 400 ล้านบาท จากงบฯการตลาดในอาเซียนทั้งหมด 600 ล้านบาท ปีหน้าเปิดตัวใหม่ 20 รุ่น เพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้เป็น 5% จะมีการเปิดแบรนด์ช็อปที่สยามพารากอนเป็นที่แรกในกรุงเทพฯ หลังจากเปิดไปแล้ว 2 แห่งที่ภาคอีสานและภาคใต้"

บริษัทจะเพิ่มน้ำหนักทำตลาดในต่างจังหวัดมากขึ้น หลังพบว่ายอดขายสมาร์ทโฟนในไทย 60% มาจากต่างจังหวัด และ 40% ในกรุงเทพฯ ซึ่งปีนี้ทำได้ดีในภาคใต้ และภาคกลาง ส่วนปีหน้าจะพยายามไปยังภาคเหนือและอีสานมากขึ้น รวมถึงขยายช่องทางออนไลน์ จากปัจจุบันมี "ลาซาด้า" เป็นพาร์ตเนอร์รายเดียว มียอดขายคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3%

"เราอาจหาออนไลน์เจ้าอื่นเพิ่มและเสริมช่องทางการจำหน่ายกับร้านค้าปลีก รวมถึงขยายศูนย์บริการจาก 75 สาขา เป็น 125 สาขาทั่วประเทศ"

นายหลิวยอมรับว่า การแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนปีหน้าจะทวีความรุนแรงขึ้น จากผู้ขายมากราย ขณะที่ผู้บริโภคมีความรู้ในการเลือกซื้อมากขึ้นแต่มั่นใจว่าหัวเว่ยจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดี เพราะไทยยังมีการเข้าถึงสมาร์ทโฟนเพียงแค่ 35% ของประชากรจึงยังมีโอกาสทำตลาดอีกมาก

"เพื่อให้ง่ายต่อการแข่งขันมากขึ้น เราได้มีการปรับราคาสินค้าบางรุ่นให้ต่ำลงเมื่อเทียบกับราคาขายในต่างประเทศ เพื่อให้แข่งขันได้ดีขึ้น โดยเราจะพยายามทำต้นทุนให้ดีที่สุดเพื่อให้ผู้บริโภคได้สิ่งที่ดีที่สุด"

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1419761850

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.