Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

02 มกราคม 2558 WORKPOINT TV.ปัญญา ระบุ เราไม่รอให้โครงข่ายพร้อมแล้วค่อยปล่อยคอนเทนต์ดี ๆ ออกอากาศ แต่เริ่มปล่อยคอนเทนต์เด็ดตั้งแต่วันแรก เพื่อสร้างฐานคนดู สิ่งที่ทำมาก็ได้ผล ปัจจุบัน มีเรตติ้งอันดับ 3 รอง จากช่อง 7 และช่อง 3

ประเด็นหลัก




"ปัญญา นิรันดร์กุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร "เวิร์คพอยท์ทีวี" บอกว่า การแข่งขันปี 2558 จะทวีความรุนแรงขึ้น เพราะทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้น ทั้งโครงข่ายเรตติ้ง ฯลฯ เพื่อรองรับการแข่งขัน บริษัทได้ปรับผังใหม่เติมรายการใหม่กว่า 20 รายการ

"เราไม่รอให้โครงข่ายพร้อมแล้วค่อยปล่อยคอนเทนต์ดี ๆ ออกอากาศ แต่เริ่มปล่อยคอนเทนต์เด็ดตั้งแต่วันแรก เพื่อสร้างฐานคนดู สิ่งที่ทำมาก็ได้ผล ปัจจุบัน มีเรตติ้งอันดับ 3 รอง จากช่อง 7 และช่อง 3 และจะพยายามรักษาตำแหน่งนี้ต่อไป"



_____________________________________________________














แนวรบทีวีดิจิทัล...ระอุตั้งแต่ต้นปี แข่งคอนเทนต์รับงบฯโฆษณาหมื่นล้าน




จะเรียกว่าเริ่มเปิดศึก และเดินชกกันตั้งแต่ยกแรกเลยทันทีก็ว่าได้ สำหรับการก้าวเข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัล เมื่อช่วงปลายปี 2556 ที่มีผู้ประกอบการเข้าร่วมประมูลกันอย่างคึกคัก เพื่อช่วงชิง 24 ช่อง งานนี้ยักษ์ใหญ่ทั้ง ช่อง 3 ในชื่อของบริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด ช่อง 7 หรือ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัลทีวี จำกัด ของแกรมมี่ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด (ไทยรัฐ) ฯลฯ ที่ตบเท้าเข้าร่วมสมรภูมิกันพร้อมหน้า

สิ้นสุดการประมูล ช่อง 3 คว้าไป 3 ช่อง ด้วยมูลค่ารวมสูงสุดถึง 6,471 ล้านบาท รองมาแกรมมี่ 2 ช่อง คือ วาไรตี้เอชดี และเอสดี ด้วยมูลค่า 5,610 ล้านบาท และเบ็ดเสร็จ ทั้ง 24 ช่อง รวมเป็นเงินถึง 50,862 ล้านบาท

จากนั้นไม่นาน การชกยก 2 ก็เริ่มขึ้น ทุกค่ายต้องเริ่มทดลองออกอากาศ เมษายนปี 2557 ทั้ง ๆ ที่ยังมีอุปสรรคและปัญหาอีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของโครงข่าย เรตติ้ง ฯลฯ แต่ทุกค่ายก็ต้องเดินหน้า ภาพที่เกิดขึ้นตามมา คือ การแย่งชิงบุคลากร คอนเทนต์ (รายการ) อย่างอลหม่าน นี่ยังไม่รวมถึงการลงทุนเครื่องมืออุปกรณ์ด้วยงบประมาณก้อนโต

และเป็นที่มาของ "ต้นทุน" ที่ทำให้แทบทุกค่ายต้องแบกภาระไว้จนหลังแอ่น เนื่องจากยังไม่มีรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยง จนมีกระแสข่าวสะพัดว่า บางช่องกำลังจะปิดตัวลงทั้งที่เริ่มต้นได้เพียงไม่กี่เดือน และมีความชัดเจนว่า หลังจากที่ทดลองออกอากาศมา 9 เดือน งบฯโฆษณายังกระจุกอยู่กับฟรีทีวีช่องเดิม (ช่อง 3-5-7-9) ที่มีฐานคนดูอยู่แล้ว แต่ก็มีงบฯโฆษณาส่วนหนึ่งที่ไหลมายัง ทีวีดิจิทัล บางช่องที่คอนเทนต์ที่โดดเด่นและเริ่มมีฐานคนดู เช่น เวิร์คพอยท์, ช่อง 8 เป็นต้น

เติมคอนเทนต์แม่เหล็กเสริมทัพความชัดเจนของการแจกคูปอง เร่งขยายโครงข่ายทั่วประเทศ ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่จะเกิดขึ้นในปี 2558

เมื่อเริ่มเห็นแสงปลายอุโมงค์เพียงเล็กน้อย บรรดาทีวีดิจิทัลไม่รอช้า งัดคอนเทนต์แม่เหล็กมาสู้กันเต็มแรง

"ปัญญา นิรันดร์กุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร "เวิร์คพอยท์ทีวี" บอกว่า การแข่งขันปี 2558 จะทวีความรุนแรงขึ้น เพราะทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้น ทั้งโครงข่ายเรตติ้ง ฯลฯ เพื่อรองรับการแข่งขัน บริษัทได้ปรับผังใหม่เติมรายการใหม่กว่า 20 รายการ

"เราไม่รอให้โครงข่ายพร้อมแล้วค่อยปล่อยคอนเทนต์ดี ๆ ออกอากาศ แต่เริ่มปล่อยคอนเทนต์เด็ดตั้งแต่วันแรก เพื่อสร้างฐานคนดู สิ่งที่ทำมาก็ได้ผล ปัจจุบัน มีเรตติ้งอันดับ 3 รอง จากช่อง 7 และช่อง 3 และจะพยายามรักษาตำแหน่งนี้ต่อไป"

เช่นเดียวกับ "ถกลเกียรติ วีรวรรณ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดิจิทัลทีวี บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร ช่องวัน (ONE) บอกว่า ปีนี้ทุกช่องคงแข่งกันที่คอนเทนต์เป็นหลัก ตั้งแต่เดือนสิงหาคมบริษัทก็ได้ปล่อยรายการใหม่มาต่อเนื่อง รวมถึงปล่อยละครช่วงไพรมไทม์จันทร์-พฤหัสบดี ชนกับช่อง 3-7

ด้าน "องอาจ สิงห์ลำพอง" กรรมการผู้อำนวยการสายงานโทรทัศน์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่อง 8 ชี้ว่า เมื่อ กสทช.เดินหน้าแจกคูปองตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เป็นปัจจัยที่ทำให้การแข่งขันของช่องต่าง ๆ เริ่มต้นและจะเพิ่มดีกรีการแข่งขันขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2558 เป็นต้นไป เพราะทุกช่องจะทยอยปรับกลยุทธ์ เดินหน้าลงทุนในหลาย ๆ ส่วน เพื่อชิงเรตติ้งให้เร็วที่สุด

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายช่องที่เตรียมคอนเทนต์ไว้สู้เต็มอัตราศึก เพื่อดึงคนดูและเรตติ้ง  "จิตสุภา วัชรพล" เจ้าหน้าที่บริหารสายงานกลยุทธ์และการตลาด บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้บริหาร "ไทยรัฐทีวี" กล่าวว่า ปีนี้จะลงทุนทุกด้าน โดยเฉพาะคอนเทนต์ที่เตรียมไว้ 1,200 ล้านบาท รวมทั้งจะมีงบฯลงทุนเพื่อสร้างอาคารสำนักงาน และสตูดิโอใหม่ 13 ชั้นในรั้วไทยรัฐด้วย

เช่นเดียวกับ "วอยซ์ทีวี" มีแผนจะเพิ่มรายการที่ตอบโจทย์ผู้ชมกลุ่มอายุ 18-22 ปี ขณะที่ ไบรท์ทีวี ประกาศจะทุ่มเงินอีก 700-800 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้คอนเทนต์ ทั้งละคร วาไรตี้ ตลก ด้านช่องโมโน 29 ก็เพิ่มความเข้มข้นละครและภาพยนตร์ เสริมจุดยืนของช่อง "หนังดีซีรีส์ดัง" เป็นต้น

เข้มข้นเร่งชิงเม็ดเงิน 1 หมื่น ล.

สอดรับกับ "พเยาว์ ธรรมธีรสุนทร" หัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์สื่อทีวี บริษัท มายด์แชร์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า การแข่งขันของทีวีดิจิทัลทั้ง 24 ช่องในปีนี้ จะเพิ่มดีกรีรุนแรงขึ้น ซึ่งคอนเทนต์ยังเป็นตัวหลักที่แต่ละช่องต้องส่งออกมาสู้กัน ถ้าคอนเทนต์ดี คนก็จะตามไปดู นั่นหมายถึง เรตติ้งและเม็ดเงินโฆษณาที่จะเข้ามา และคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาทีวีดิจิทัล (ช่องใหม่) ปี 2558 จะเพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท จากปี 2557 ที่มีมูลค่า 6,000-7,000 ล้านบาท

"หากช่องไหนยังไม่มีฐานผู้ชมก็ต้องเร่งปรับกลยุทธ์ สร้างกลุ่มคนดูให้เร็วที่สุด เพราะปีนี้ ทุกช่องต้องมีรายได้จากโฆษณาเข้ามาแล้ว ไม่เช่นนั้นคงเหนื่อยแน่"

ช่อง 3-7 จัดทัพรักษาแชมป์

"สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์" รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่อง 3 เอชดี, ช่อง 3 เอสดีและช่องแฟมิลี่ แสดงความเห็นว่า ช่วง 6 เดือนแรกยังต้องประเมินสถานการณ์ทีวีดิจิทัลอีกครั้งว่าโครงข่ายจะครอบคลุมแค่ไหน ส่วนการวัดเรตติ้งน่าจะเกิดขึ้นจริงคงต้องใช้เวลา 6 เดือน และคูปองก็น่าจะแจกครบทั่วประเทศ เรตติ้งผู้ชมก็น่าจะเติบโตตาม

สำหรับ ช่อง 3 เอชดี จะปรับและสร้างจุดแข็งในบางช่วงเวลา เช่น 06.00-09.30 น. เวลาหลังข่าวเที่ยง เป็นต้น ส่วนช่อง 3 เอสดี จะพัฒนารายการในช่วงไพรมไทม์ 17.00-23.00 น. และช่องแฟมิลี่ ล่าสุดเจรจากับบริษัท เทอร์เนอร์ บรอดคาส ซิสเต็ม เอเซียแปซิฟิค จำกัด เพื่อนำคอนเทนต์การ์ตูนระดับโลกเข้ามาเสริม

"เราจะไม่ใส่คอนเทนต์ที่ชนกับช่อง 3 เอชดี เพื่อไม่ให้เกิดแย่งฐานผู้ชมกันเอง"

ด้านความเคลื่อนไหวของ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด เจ้าของช่อง 7 เอชดี ที่แม้มีประสบการณ์มายาวนานบนสมรภูมิฟรีทีวี แต่ช่อง 7 ก็ไม่ประมาทคู่แข่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ปล่อยโฆษณาชุดที่ 2 "คัดแล้วคัดอีก" เมื่อต้นเดือนธันวาคมปี 2557 ตอกย้ำคุณภาพรายการของช่อง หลังจากเดือนเมษายน ได้ปล่อยโฆษณาชุด "อั้ม ชวนดูทีวีดิจิทัลช่อง 7 สีเอชดี" พร้อมโรดโชว์ทั่วประเทศไปแล้ว รวมทั้งยังได้ปรับผังรายการใหม่ ปิดจุดอ่อนรายการข่าวช่วงเช้า เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ขณะที่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เจ้าของช่อง 9 และ MCOT แฟมิลี่ ออกอาการเซเล็กน้อย เมื่อผู้ผลิตคอนเทนต์ถอดรายการออก แต่หลังจากได้ผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ "ศิวะพร ชมสุวรรณ" ก็เดินหน้าทันทีด้วย 5 มาตรการเร่งด่วน ทั้งการบริหารจัดการภายในองค์กรและปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับการแข่งขันทีวีดิจิทัลปี 2558 มีเป้าหมายรักษาระดับท็อป 7 ของทีวีดิจิทัลสำหรับช่อง 9 และพัฒนาคอนเทนต์กู้เรตติ้งช่อง MCOT แฟมิลี่ ให้ไต่ขึ้นมาอยู่ในช่องกลาง ๆ ของทีวีดิจิทัลให้ได้

ทั้งหมดเป็นเพียงเศษเสี้ยวความเคลื่อนไหวที่กำลังเกิดขึ้น

เปิดศักราชใหม่นี้ ใครมีอะไรก็ต้องใส่เต็ม พร้อมก่อนโกยเรตติ้งก่อน ช่องไหนที่ยังไม่พร้อมก็ต้องสู้ รอไม่ได้อีกแล้ว



http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000000110

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.