07 มกราคม 2558 OPPO วางเป้าหมายจำหน่ายสมาร์ทโฟนในไทยไว้ที่ราว 2 ล้านเครื่องห้ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 3 ในตลาด คาดว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนประมาณ 8 รุ่น ในส่วนของงบการตลาดในปีที่ผ่านมาใช้ไป 500 ล้านบาท
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาตั้งเป้าหมายในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนไว้ 1 ล้านเครื่อง แต่ทำได้ประมาณ 90% จากเป้าที่วางไว้ ทำให้อยู่ในอันดับประมาณ 4-5 ในตลาด ในขณะที่ปีนี้วางเป้าหมายไว้ที่ราว 2 ล้านเครื่อง เพื่อช่วยให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและให้ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 3 ในตลาดให้ได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของรายได้ปีที่ผ่านมา ออปโป้ สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ราว 6 พันล้านบาท และตั้งเป้าในปีนี้ไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้ ออปโป้คาดว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนประมาณ 8 รุ่น ในส่วนของงบการตลาดในปีที่ผ่านมาใช้ไป 500 ล้านบาท และก็จะทุ่มงบอย่างต่อเนื่องในปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน
ในส่วนของช่องทางจำหน่ายปัจจุบัน ออปโป้ ค่อนข้างครอบคลุมร้านค้าทั่วประเทศแล้วจากจุดขายกว่า4,000 จุด จากคู่ค้าที่เป็นพันธมิตรอย่างทีจีโฟน เจมาร์ท รวมไปถึงตามห้างสรรพสินค้า รีเทลสโตร์ และร้านขายโทรศัพท์ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และจะทยอยเพิ่มร้านค้ารายย่อยเป็น 6,000 จุด ภายในสิ้นปีนี้
_____________________________________________________
'ออปโป้' ตั้งเป้าขายสมาร์ทโฟนปีนี้ 2 ล้านเครื่อง หวังขึ้นเบอร์ 3
ออปโป้ มองเทรนด์สมาร์ทโฟนปีนี้ แบรนด์จีนเข้ามาครองตลาดแน่นอน ตั้งเป้าวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนปีนี้ 2 ล้านเครื่อง หวังขึ้นเป็นอันดับ 3 ในตลาด ด้วยยอดขายกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ประเดิมต้นปีด้วย Oppo N3 และ R5 ชูจุดเด่นกล้องหมุนได้ และเครื่องบางที่สุดในโลก
นายจรูญ วิริยะพรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้เชื่อว่าแบรนด์จีนจะทยอยเข้ามาครองตลาด เพราะแต่ละแบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี และเงินทุนที่จะเข้ามาทุ่มงบในการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
'ปัจจุบันแบรนด์จีนโดยรวมมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนประมาณ 10-15% และคาดว่าในปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 150% ทำให้โดยรวมแล้วแบรนด์จีนในตลาดไทยจะมีส่วนแบ่งมากกว่า 30% จากปริมาณสมาร์ทโฟนกว่า 18 ล้านเครื่อง'
ขณะที่คู่แข่งจากประเทศอื่นอย่างญี่ปุ่น เนื่องจากเกิดปัญหาในบริษัทแม่ทำให้ไม่สามารถโฟกัสในธุรกิจได้เท่าที่ควร ขณะที่แบรนด์จากเกาหลี ก็เริ่มอยู่ในช่วงขาลง ดังที่เห็นจากข้อมูลในตลาดทั่วโลก ในขณะที่แบรนด์จีนอย่างแซตทีอี ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดไทยแต่ยังติดกับการทำตลาดร่วมกับโอเปอเรเตอร์ทำให้ยังเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมากไม่ได้ แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
โดยปีที่แล้วออปโป้สามารถทำตลาดในระดับไฮเอนด์ได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้มองว่า 2 รุ่นใหม่ที่นำมาเปิดตลาดในช่วงต้นปีนี้ทั้ง N3 และ R5 จะเข้ามาเสริมในตลาดนี้ได้ เพราะปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของออปโป้มาจากสมาร์ทโฟนที่ราคาเกิน 1 หมื่นบาทขึ้นไปอยู่ที่ 30-40% และเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ออปโป้ยังเล็งที่จะเพิ่มยอดสินค้าในระดับราคาประมาณ 8,000 - 10,000 บาท ที่ออปโป้ยังไม่มีสินค้าเข้ามาตอบโจทย์ในตลาดดังกล่าว เนื่องจากในกลุ่มนี้มีสัดส่วนประมาณ 20% ของตลาด ขณะที่ในกลุ่มอื่นๆออปโป้มีผลิตภัณฑ์ครบอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาตั้งเป้าหมายในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนไว้ 1 ล้านเครื่อง แต่ทำได้ประมาณ 90% จากเป้าที่วางไว้ ทำให้อยู่ในอันดับประมาณ 4-5 ในตลาด ในขณะที่ปีนี้วางเป้าหมายไว้ที่ราว 2 ล้านเครื่อง เพื่อช่วยให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและให้ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 3 ในตลาดให้ได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของรายได้ปีที่ผ่านมา ออปโป้ สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ราว 6 พันล้านบาท และตั้งเป้าในปีนี้ไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้ ออปโป้คาดว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนประมาณ 8 รุ่น ในส่วนของงบการตลาดในปีที่ผ่านมาใช้ไป 500 ล้านบาท และก็จะทุ่มงบอย่างต่อเนื่องในปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน
'จุดแข็งของออปโป้ในตลาดคือ มีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ ในเฉพาะคุณภาพของกล้องถ่ายภาพที่คมชัด สวยงาม มีจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีภายในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นระบบการชาร์จเร็ว ระบบลดแสงสว่างหน้าจอรวมถึงคุณภาพของสินค้า'
ในส่วนของช่องทางจำหน่ายปัจจุบัน ออปโป้ ค่อนข้างครอบคลุมร้านค้าทั่วประเทศแล้วจากจุดขายกว่า4,000 จุด จากคู่ค้าที่เป็นพันธมิตรอย่างทีจีโฟน เจมาร์ท รวมไปถึงตามห้างสรรพสินค้า รีเทลสโตร์ และร้านขายโทรศัพท์ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และจะทยอยเพิ่มร้านค้ารายย่อยเป็น 6,000 จุด ภายในสิ้นปีนี้
สำหรับ OPPO N3 มีจุดเด่นที่กล้องหมุนอัตโนมัติความละเอียด16 ล้านพิกเซล มีโหมด Ultra HD เก็บรายละเอียดภาพได้มากถึง 64 ล้านพิกเซล ในมุม206 องศา ในราคา 19,990 บาท ส่วนOPPO R5เป็นสมาร์ทโฟนที่สุดของความบางและแกร่ง หนาเพียง 4.85 มิลลิเมตร ในราคา 15,990 บาท โดยปริมาณล็อตแรกที่นำเข้ามาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นเครื่อง
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000002167
__________________________________
"ออปโป้" ส่งสมาร์ทโฟนเรือธงลงตลาด 2 รุ่น ชูกล้อง 50 ล้านพิกเซล
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า วันนี้ (7 ม.ค.) บริษัท ไทย ออฟโป้ จำกัด วางจำหน่ายสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ในประเทศไทยคือ N3 และ R5 หลังจากที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปลายปีก่อน โดยทั้งคู่ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่จะทำตลาดของแบรนด์ในปีนี้
นายจรูญ วิริยะพรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด เปิดเผยว่า N3 และ R5 ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ และผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ผ่านสเปก กับราคาที่คุ้มค่า
โดย N3 สามารถถ่ายภาพในระดับความละเอียด Ultra HD หรือ 64 ล้านพิกเซล ส่วนโหมดปกติให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และสามารถหมุนกล้องอัตโนมัติได้ถึง 206 องศา ทำให้ตอบโจทย์การถ่ายภาพแบบเซลฟี่ที่มีความละเอียดสูงได้ ทำงานบนซีพียูควอดคอร์ และแสดงผลบนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ราคา 19,990 บาท
ส่วน R5 เป็นสมาร์ทโฟนที่บางเพียง 4.85 มม.ใช้ซีพียูแบบออคต้าคอร์ (8 แกนสมอง) ชนิด 64 บิท ใช้งานบนหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมโหมดถ่ายภาพชัดถึง 50 ล้านพิกเซล ใช้เวลาโฟกัสวัตถุเพียง 0.18 วินาที ราคา 15,990 บาท
ทั้งสองรุ่นมีระบบ Rapid Charge System ทำให้ชาร์ตไฟเร็วถึง 4 เท่าตัว หรือชาร์ตเพียง 30 นาที แต่บรรจุพลังงานเข้าแบตเตอร์รี่ถึง 75% และรองรับเทคโนโลยี 4G LTE วางขายวันที่ 8 ม.ค. เป็นต้นไป ในร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ และไฮเปอร์เทรดทั่วไป
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1420619042
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาตั้งเป้าหมายในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนไว้ 1 ล้านเครื่อง แต่ทำได้ประมาณ 90% จากเป้าที่วางไว้ ทำให้อยู่ในอันดับประมาณ 4-5 ในตลาด ในขณะที่ปีนี้วางเป้าหมายไว้ที่ราว 2 ล้านเครื่อง เพื่อช่วยให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและให้ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 3 ในตลาดให้ได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของรายได้ปีที่ผ่านมา ออปโป้ สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ราว 6 พันล้านบาท และตั้งเป้าในปีนี้ไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้ ออปโป้คาดว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนประมาณ 8 รุ่น ในส่วนของงบการตลาดในปีที่ผ่านมาใช้ไป 500 ล้านบาท และก็จะทุ่มงบอย่างต่อเนื่องในปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน
ในส่วนของช่องทางจำหน่ายปัจจุบัน ออปโป้ ค่อนข้างครอบคลุมร้านค้าทั่วประเทศแล้วจากจุดขายกว่า4,000 จุด จากคู่ค้าที่เป็นพันธมิตรอย่างทีจีโฟน เจมาร์ท รวมไปถึงตามห้างสรรพสินค้า รีเทลสโตร์ และร้านขายโทรศัพท์ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และจะทยอยเพิ่มร้านค้ารายย่อยเป็น 6,000 จุด ภายในสิ้นปีนี้
_____________________________________________________
'ออปโป้' ตั้งเป้าขายสมาร์ทโฟนปีนี้ 2 ล้านเครื่อง หวังขึ้นเบอร์ 3
ออปโป้ มองเทรนด์สมาร์ทโฟนปีนี้ แบรนด์จีนเข้ามาครองตลาดแน่นอน ตั้งเป้าวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนปีนี้ 2 ล้านเครื่อง หวังขึ้นเป็นอันดับ 3 ในตลาด ด้วยยอดขายกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ประเดิมต้นปีด้วย Oppo N3 และ R5 ชูจุดเด่นกล้องหมุนได้ และเครื่องบางที่สุดในโลก
นายจรูญ วิริยะพรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้เชื่อว่าแบรนด์จีนจะทยอยเข้ามาครองตลาด เพราะแต่ละแบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี และเงินทุนที่จะเข้ามาทุ่มงบในการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
'ปัจจุบันแบรนด์จีนโดยรวมมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนประมาณ 10-15% และคาดว่าในปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 150% ทำให้โดยรวมแล้วแบรนด์จีนในตลาดไทยจะมีส่วนแบ่งมากกว่า 30% จากปริมาณสมาร์ทโฟนกว่า 18 ล้านเครื่อง'
ขณะที่คู่แข่งจากประเทศอื่นอย่างญี่ปุ่น เนื่องจากเกิดปัญหาในบริษัทแม่ทำให้ไม่สามารถโฟกัสในธุรกิจได้เท่าที่ควร ขณะที่แบรนด์จากเกาหลี ก็เริ่มอยู่ในช่วงขาลง ดังที่เห็นจากข้อมูลในตลาดทั่วโลก ในขณะที่แบรนด์จีนอย่างแซตทีอี ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดไทยแต่ยังติดกับการทำตลาดร่วมกับโอเปอเรเตอร์ทำให้ยังเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมากไม่ได้ แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
โดยปีที่แล้วออปโป้สามารถทำตลาดในระดับไฮเอนด์ได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้มองว่า 2 รุ่นใหม่ที่นำมาเปิดตลาดในช่วงต้นปีนี้ทั้ง N3 และ R5 จะเข้ามาเสริมในตลาดนี้ได้ เพราะปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของออปโป้มาจากสมาร์ทโฟนที่ราคาเกิน 1 หมื่นบาทขึ้นไปอยู่ที่ 30-40% และเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ออปโป้ยังเล็งที่จะเพิ่มยอดสินค้าในระดับราคาประมาณ 8,000 - 10,000 บาท ที่ออปโป้ยังไม่มีสินค้าเข้ามาตอบโจทย์ในตลาดดังกล่าว เนื่องจากในกลุ่มนี้มีสัดส่วนประมาณ 20% ของตลาด ขณะที่ในกลุ่มอื่นๆออปโป้มีผลิตภัณฑ์ครบอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาตั้งเป้าหมายในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนไว้ 1 ล้านเครื่อง แต่ทำได้ประมาณ 90% จากเป้าที่วางไว้ ทำให้อยู่ในอันดับประมาณ 4-5 ในตลาด ในขณะที่ปีนี้วางเป้าหมายไว้ที่ราว 2 ล้านเครื่อง เพื่อช่วยให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและให้ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 3 ในตลาดให้ได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของรายได้ปีที่ผ่านมา ออปโป้ สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ราว 6 พันล้านบาท และตั้งเป้าในปีนี้ไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้ ออปโป้คาดว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนประมาณ 8 รุ่น ในส่วนของงบการตลาดในปีที่ผ่านมาใช้ไป 500 ล้านบาท และก็จะทุ่มงบอย่างต่อเนื่องในปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน
'จุดแข็งของออปโป้ในตลาดคือ มีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ ในเฉพาะคุณภาพของกล้องถ่ายภาพที่คมชัด สวยงาม มีจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีภายในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นระบบการชาร์จเร็ว ระบบลดแสงสว่างหน้าจอรวมถึงคุณภาพของสินค้า'
ในส่วนของช่องทางจำหน่ายปัจจุบัน ออปโป้ ค่อนข้างครอบคลุมร้านค้าทั่วประเทศแล้วจากจุดขายกว่า4,000 จุด จากคู่ค้าที่เป็นพันธมิตรอย่างทีจีโฟน เจมาร์ท รวมไปถึงตามห้างสรรพสินค้า รีเทลสโตร์ และร้านขายโทรศัพท์ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และจะทยอยเพิ่มร้านค้ารายย่อยเป็น 6,000 จุด ภายในสิ้นปีนี้
สำหรับ OPPO N3 มีจุดเด่นที่กล้องหมุนอัตโนมัติความละเอียด16 ล้านพิกเซล มีโหมด Ultra HD เก็บรายละเอียดภาพได้มากถึง 64 ล้านพิกเซล ในมุม206 องศา ในราคา 19,990 บาท ส่วนOPPO R5เป็นสมาร์ทโฟนที่สุดของความบางและแกร่ง หนาเพียง 4.85 มิลลิเมตร ในราคา 15,990 บาท โดยปริมาณล็อตแรกที่นำเข้ามาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นเครื่อง
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000002167
__________________________________
"ออปโป้" ส่งสมาร์ทโฟนเรือธงลงตลาด 2 รุ่น ชูกล้อง 50 ล้านพิกเซล
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า วันนี้ (7 ม.ค.) บริษัท ไทย ออฟโป้ จำกัด วางจำหน่ายสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ในประเทศไทยคือ N3 และ R5 หลังจากที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปลายปีก่อน โดยทั้งคู่ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่จะทำตลาดของแบรนด์ในปีนี้
นายจรูญ วิริยะพรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด เปิดเผยว่า N3 และ R5 ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ และผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ผ่านสเปก กับราคาที่คุ้มค่า
โดย N3 สามารถถ่ายภาพในระดับความละเอียด Ultra HD หรือ 64 ล้านพิกเซล ส่วนโหมดปกติให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และสามารถหมุนกล้องอัตโนมัติได้ถึง 206 องศา ทำให้ตอบโจทย์การถ่ายภาพแบบเซลฟี่ที่มีความละเอียดสูงได้ ทำงานบนซีพียูควอดคอร์ และแสดงผลบนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ราคา 19,990 บาท
ส่วน R5 เป็นสมาร์ทโฟนที่บางเพียง 4.85 มม.ใช้ซีพียูแบบออคต้าคอร์ (8 แกนสมอง) ชนิด 64 บิท ใช้งานบนหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมโหมดถ่ายภาพชัดถึง 50 ล้านพิกเซล ใช้เวลาโฟกัสวัตถุเพียง 0.18 วินาที ราคา 15,990 บาท
ทั้งสองรุ่นมีระบบ Rapid Charge System ทำให้ชาร์ตไฟเร็วถึง 4 เท่าตัว หรือชาร์ตเพียง 30 นาที แต่บรรจุพลังงานเข้าแบตเตอร์รี่ถึง 75% และรองรับเทคโนโลยี 4G LTE วางขายวันที่ 8 ม.ค. เป็นต้นไป ในร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ และไฮเปอร์เทรดทั่วไป
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1420619042
ไม่มีความคิดเห็น: