08 กุมภาพันธ์ 2558 UIH.วิชัย ระบุ คาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% จากปีที่แล้วทำได้ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% แม้ตลาดรวมจะเติบโตติดลบ 3-4%
ประเด็นหลัก
นายวิชัย เบญจรงคกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ (UIH) ผู้ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสงกล่าวว่า บริษัทอยู่ในธุรกิจนี้มานานกว่า 20 ปี ไม่ได้แปลว่าล้าสมัย เพราะมีการอัพเดตบริการและพัฒนาโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยุทธศาสตร์ธุรกิจที่จะเดินไปจะมุ่งไปในเรื่อง ดิจิทัลสอดคล้องนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ของรัฐบาล ซึ่งจะเกี่ยวกับบริษัทใน 2 ด้านด้วยกัน คือด้านฮาร์ดอินฟราสตรักเจอร์ เนื่องจากเกี่ยวกับการเข้าถึงโครงข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงของประชาชนทั่วไป ตลอดจนองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงขึ้น และด้านซอฟต์อินฟราสตรักเจอร์ เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์, อีเทรดเดอร์ เป็นต้น คาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% จากปีที่แล้วทำได้ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% แม้ตลาดรวมจะเติบโตติดลบ 3-4%
_____________________________________________________
"UIH" มุ่งโซลูชั่นบรอดแบนด์ครบวงจร-เพิ่มโฟกัสตลาดอาเซียน
"UIH" อัพเกรดสู่การเป็นผู้ให้บริการ "โซลูชั่นบรอดแบนด์ครบวงจร" โชว์ศักยภาพ "โครงข่าย-เงินลงทุน-บุคลากร" ขยับเป้ารายได้โต 10% รองรับนโยบาย "ดิจิทัล อีโคโนมี" ทั้งตั้งหน่วยงานใหม่ขยายการทำตลาดบุกอาเซียน
นายวิชัย เบญจรงคกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ (UIH) ผู้ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสงกล่าวว่า บริษัทอยู่ในธุรกิจนี้มานานกว่า 20 ปี ไม่ได้แปลว่าล้าสมัย เพราะมีการอัพเดตบริการและพัฒนาโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยุทธศาสตร์ธุรกิจที่จะเดินไปจะมุ่งไปในเรื่อง ดิจิทัลสอดคล้องนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ของรัฐบาล ซึ่งจะเกี่ยวกับบริษัทใน 2 ด้านด้วยกัน คือด้านฮาร์ดอินฟราสตรักเจอร์ เนื่องจากเกี่ยวกับการเข้าถึงโครงข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงของประชาชนทั่วไป ตลอดจนองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงขึ้น และด้านซอฟต์อินฟราสตรักเจอร์ เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์, อีเทรดเดอร์ เป็นต้น คาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% จากปีที่แล้วทำได้ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% แม้ตลาดรวมจะเติบโตติดลบ 3-4%
"ตลาดรวมดาต้าคอมมิวนิเคชั่นปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท เติบโตติดลบเพราะบริษัทในประเทศชะลอการลงทุนจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ต่อจากนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนจากนโยบายดิจิทัลอีโคโนมี รัฐบาลต้องการให้เกิดการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ จะเห็นธุรกิจบนออนไลน์มากขึ้น แม้การแข่งขันจะมากขึ้นแต่ด้วยศักยภาพโครงข่ายและการให้บริการที่ครบวงจรจะทำให้เรารักษาความเป็นผู้นำในตลาดนี้ไว้ได้"
นอกจากการพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพเครือข่ายเพื่อยกระดับการบริการบรอดแบนด์แบบครบวงจร (OneStopBroadband Solution Service) แล้ว บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเครือข่ายระดับอาเซียนจึงวางจุดเชื่อมต่อเครือข่ายบรอดแบนด์7แห่งในประเทศที่เชียงรายตาก หนองคาย มุกดาหาร สระแก้ว และสงขลาที่อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอด่านนอก เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และมาเลเซีย รวมถึงเตรียมความพร้อมเครือข่ายเพื่อเชื่อมโยงไปทั่วโลกด้วยการวาง Point of Presence (POP) ที่สิงคโปร์และฮ่องกง
"ช่วงปี 2554-2555 เราเร่งขยายโครงข่ายทั่วประเทศ ปี 2555-2557 มีการขยายการเชื่อมต่อไปต่างประเทศ เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อในภูมิภาคนี้ในปี 2558 ในแง่การทำตลาด เราได้ตั้งหน่วยงานดูแลธุรกิจต่างประเทศขึ้นมาเพื่อขยายตลาดในอาเซียน เช่น ลาว และพม่าด้วย ในแง่เงินลงทุนในปีนี้จะอยู่ที่ 700-800 ล้านบาท เน้นดูแลรักษาระบบและโครงข่ายที่มีอยู่เป็นหลัก"
นายสันติ เมธาวิกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทเดียวกันเสริมว่า กลยุทธ์การตลาดของบริษัทในปีนี้คือการปรับตัวจากบทบาทผู้ให้บริการเครือข่ายไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นบรอดแบนด์ครบวงจรในระดับองค์กรเพื่อรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยจุดแข็ง3เรื่อง ได้แก่ ความพร้อมด้านเงินลงทุน, เครือข่ายที่ครอบคลุม และบุคลากร ทั้งยังรวมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อขยายการทำตลาด เช่น ร่วมกับดีแทคให้บริการฟิกซ์ โมบาย บรอดแบนด์ และร่วมมือกับทีซีทีเทคโนโลยีและ 1Net รุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยและสิงคโปร์ เป็นต้น
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423109557
ไม่มีความคิดเห็น: