13 กุมภาพันธ์ 2558 จีน ปรับ Qualcomm มูลค่า 975 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน รวมถึงข้อตกลงใหม่ที่ควอลคอมม์ตกลงกับรัฐบาลจีนที่จะเรียกเก็บค่ารอยัลตี้จากผู้ผลิตสมาร์ทโฟน
ประเด็นหลัก
อาจกล่าวได้ว่าเป็นการเจรจาน่าสนใจ กับการเรียกเก็บค่าปรับครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างควอลคอมม์กับทางการจีนที่มูลค่า 975 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน รวมถึงข้อตกลงใหม่ที่ควอลคอมม์ตกลงกับรัฐบาลจีนที่จะเรียกเก็บค่ารอยัลตี้จากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนโดยคิดที่ 65 เปอร์เซ็นต์ของราคาขายสมาร์ทโฟน จากเดิมที่คิดจากราคาขายเต็มจำนวน โดยมีการคาดการณ์ว่าข้อตกลงในครั้งนี้ของทางการจีนเป็นความพยายามช่วยเหลือผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนอย่างเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) และหัวเว่ย (Huawei) นั่นเอง
_____________________________________________________
จีนปรับควอลคอมม์ 975 ล้านเหรียญสหรัฐ!
จีนเรียกค่าปรับควอลคอมม์ 975 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในประวัติศาสตร์จีน แถมออกกฎใหม่ ปรับลดอัตราค่ารอยัลตี้ของควอลคอมม์ที่เรียกเก็บจากบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเหลือ 65 เปอร์เซ็นต์จากราคาขายอีกด้วย
อาจกล่าวได้ว่าเป็นการเจรจาน่าสนใจ กับการเรียกเก็บค่าปรับครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างควอลคอมม์กับทางการจีนที่มูลค่า 975 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน รวมถึงข้อตกลงใหม่ที่ควอลคอมม์ตกลงกับรัฐบาลจีนที่จะเรียกเก็บค่ารอยัลตี้จากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนโดยคิดที่ 65 เปอร์เซ็นต์ของราคาขายสมาร์ทโฟน จากเดิมที่คิดจากราคาขายเต็มจำนวน โดยมีการคาดการณ์ว่าข้อตกลงในครั้งนี้ของทางการจีนเป็นความพยายามช่วยเหลือผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนอย่างเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) และหัวเว่ย (Huawei) นั่นเอง
ปัญหาดังกล่าวระหว่างควอลคอมม์และรัฐบาลจีนเริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายปี ค.ศ. 2013 ซึ่งในขณะนั้น ทางควอลคอมม์ระบุแต่เพียงว่า ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนเป็นความลับ แต่ยอมรับว่าได้มีการกระทำผิดจริงตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาด
อย่างไรก็ดี ทันทีที่ปัญหาได้ข้อยุติ และตลาดหุ้นนิวยอร์กทราบข่าว หุ้นของควอลคอมม์ก็พุ่งขึ้นถึง 2.8 เปอร์เซ็นต์ทันที รวมถึงมีการคาดการณ์รายได้ที่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ด้วย
ทางควอลคอมม์เผยว่า แม้จะผิดหวังต่อคำตัดสินดังกล่าว แต่ทางบริษัทจะไม่คัดค้านต่อกฎใหม่เนื่องจากเป็นการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน
Steve Mollenkopf ผู้บริหารระดับสูงของควอลคอมม์กล่าวว่า เขารู้สึกยินดีที่ปัญหานี้สามารถยุติลงได้
"จากนี้เราจะได้ทุ่มเทความสนใจและทรัพยากรของเราเพื่อการดูแลลูกค้าและพาร์ทเนอร์ในจีนได้อย่างเต็มที่"
อย่างไรก็ดี ตำแหน่งที่ควอลคอมม์ยืนอยู่ในธุรกิจสมาร์ทโฟนของจีนกล่าวได้ว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก เนื่องจากจีนได้ขยายเครือข่ายสู่ไฮสปีด 4G ส่งผลให้ความต้องการสมาร์ทโฟนในจีนเพิ่มขึ้นสูงสุด จนกลายเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในฐานะซัพพลายเออร์ชิปสมาร์ทโฟนรายใหญ่ (ที่สุดของโลก) ไม่ว่าอย่างไร ควอลคอมม์ก็จะต้องเดินหน้ารักษาสถานภาพในตลาดนี้เอาไว้ให้ได้
อีกทั้งหากพิจารณาจากผลประกอบการของควอลคอมม์ในปีที่ผ่านมาพบว่า ในจำนวนรายได้ 26,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่เป็นรายได้จากการดำเนินกิจการนอกสหรัฐอเมริกากว่าครึ่งเป็นรายได้จากจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งสิ้น
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000016273
อาจกล่าวได้ว่าเป็นการเจรจาน่าสนใจ กับการเรียกเก็บค่าปรับครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างควอลคอมม์กับทางการจีนที่มูลค่า 975 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน รวมถึงข้อตกลงใหม่ที่ควอลคอมม์ตกลงกับรัฐบาลจีนที่จะเรียกเก็บค่ารอยัลตี้จากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนโดยคิดที่ 65 เปอร์เซ็นต์ของราคาขายสมาร์ทโฟน จากเดิมที่คิดจากราคาขายเต็มจำนวน โดยมีการคาดการณ์ว่าข้อตกลงในครั้งนี้ของทางการจีนเป็นความพยายามช่วยเหลือผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนอย่างเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) และหัวเว่ย (Huawei) นั่นเอง
_____________________________________________________
จีนปรับควอลคอมม์ 975 ล้านเหรียญสหรัฐ!
จีนเรียกค่าปรับควอลคอมม์ 975 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในประวัติศาสตร์จีน แถมออกกฎใหม่ ปรับลดอัตราค่ารอยัลตี้ของควอลคอมม์ที่เรียกเก็บจากบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเหลือ 65 เปอร์เซ็นต์จากราคาขายอีกด้วย
อาจกล่าวได้ว่าเป็นการเจรจาน่าสนใจ กับการเรียกเก็บค่าปรับครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างควอลคอมม์กับทางการจีนที่มูลค่า 975 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน รวมถึงข้อตกลงใหม่ที่ควอลคอมม์ตกลงกับรัฐบาลจีนที่จะเรียกเก็บค่ารอยัลตี้จากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนโดยคิดที่ 65 เปอร์เซ็นต์ของราคาขายสมาร์ทโฟน จากเดิมที่คิดจากราคาขายเต็มจำนวน โดยมีการคาดการณ์ว่าข้อตกลงในครั้งนี้ของทางการจีนเป็นความพยายามช่วยเหลือผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนอย่างเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) และหัวเว่ย (Huawei) นั่นเอง
ปัญหาดังกล่าวระหว่างควอลคอมม์และรัฐบาลจีนเริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายปี ค.ศ. 2013 ซึ่งในขณะนั้น ทางควอลคอมม์ระบุแต่เพียงว่า ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนเป็นความลับ แต่ยอมรับว่าได้มีการกระทำผิดจริงตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาด
อย่างไรก็ดี ทันทีที่ปัญหาได้ข้อยุติ และตลาดหุ้นนิวยอร์กทราบข่าว หุ้นของควอลคอมม์ก็พุ่งขึ้นถึง 2.8 เปอร์เซ็นต์ทันที รวมถึงมีการคาดการณ์รายได้ที่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ด้วย
ทางควอลคอมม์เผยว่า แม้จะผิดหวังต่อคำตัดสินดังกล่าว แต่ทางบริษัทจะไม่คัดค้านต่อกฎใหม่เนื่องจากเป็นการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน
Steve Mollenkopf ผู้บริหารระดับสูงของควอลคอมม์กล่าวว่า เขารู้สึกยินดีที่ปัญหานี้สามารถยุติลงได้
"จากนี้เราจะได้ทุ่มเทความสนใจและทรัพยากรของเราเพื่อการดูแลลูกค้าและพาร์ทเนอร์ในจีนได้อย่างเต็มที่"
อย่างไรก็ดี ตำแหน่งที่ควอลคอมม์ยืนอยู่ในธุรกิจสมาร์ทโฟนของจีนกล่าวได้ว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก เนื่องจากจีนได้ขยายเครือข่ายสู่ไฮสปีด 4G ส่งผลให้ความต้องการสมาร์ทโฟนในจีนเพิ่มขึ้นสูงสุด จนกลายเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในฐานะซัพพลายเออร์ชิปสมาร์ทโฟนรายใหญ่ (ที่สุดของโลก) ไม่ว่าอย่างไร ควอลคอมม์ก็จะต้องเดินหน้ารักษาสถานภาพในตลาดนี้เอาไว้ให้ได้
อีกทั้งหากพิจารณาจากผลประกอบการของควอลคอมม์ในปีที่ผ่านมาพบว่า ในจำนวนรายได้ 26,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่เป็นรายได้จากการดำเนินกิจการนอกสหรัฐอเมริกากว่าครึ่งเป็นรายได้จากจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งสิ้น
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000016273
ไม่มีความคิดเห็น: