Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

23 เมษายน 2558 Twitter พบข้อผิดพลาดของนโยบายที่กำหนดโดยองค์กรเกี่ยวกับการละเมิด ข่มขู่ กลั่นแกล้งผู้อื่นบนอินเทอร์เน็ต

ประเด็นหลัก



        โซเชียลเน็ตเวิร์กยักษ์ใหญ่อย่างทวิตเตอร์ (Twitter) พบข้อผิดพลาดของนโยบายที่กำหนดโดยองค์กรเกี่ยวกับการละเมิด ข่มขู่ กลั่นแกล้งผู้อื่นบนอินเทอร์เน็ต โดยระบุว่า ที่เคยกำหนดข้อความเกี่ยวกับการละเมิดว่าจะต้องระบุอย่างชัดเจนถึงคนคนนั้นเป็นข้อกำหนดที่แคบเกินไป นอกจากนั้น ในการบล็อกแอ็กเคานต์ที่มีพฤติกรรมรุนแรงนั้น จะต้องมีการแจ้งเข้ามายังทวิตเตอร์ก่อนอยู่ดี
     
       แต่มาคราวนี้ ทวิตเตอร์ระบุว่า จะเข้าแทรกแซงการโพสต์ข้อความของผู้ใช้แล้ว โดยมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านภาษาใหม่ให้สามารถตรวจสอบข้อความต่างๆ ได้อย่างละเอียดมากขึ้น และสามารถระบุได้ว่า ข้อความใดเข้าข่ายข่มขู่ หรือกลั่นแกล้งผู้อื่น ซึ่งโพสต์บางโพสต์อาจถูกระงับไม่ให้ยูสเซอร์รายอื่นๆ มองเห็นเลยทีเดียว
     
       การปรับเปลี่ยนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีหลักฐานมากมายเกี่ยวกับการละเมิด การกล่นแกล้งบนทวิตเตอร์เกิดขึ้น เช่น กรณีของผู้ดำเนินรายการทีวี Sue Perkins ที่ออกมาระบุว่า จะหยุดใช้ทวิตเตอร์หลังจากพบว่า บนไทม์ไลน์ของเธอเต็มไปด้วยข้อความหยาบคายจากคนที่เข้ามาโพสต์ หรือ Shaun Himmerick โปรดิวเซอร์วิดีโอเกม มอร์ทัล คอมแบท เอ็กซ์ (Mortal Combat X) ที่บอกว่า จะหยุดใช้ทวิตเตอร์หลังพบยูสเซอร์บางรายใช้ช่องทางดังกล่าวเข้ามาข่มขู่ภรรยา และลูกสาวของเขา
     
       นอกจากนั้น เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการสำรวจการส่งข้อความกลั่นแกล้งผู้อื่นในเด็กอายุระหว่าง 13-17 ปีจำนวน 1,000 คน โดยผู้ให้บริการบรอดแบนด์อย่าง Europasat พบว่า เกือบครึ่งของเด็กกลุ่มนี้เคยส่งข้อความดังกล่าว


_____________________________________________________













ทวิตเตอร์เอาจริง จำกัดเวลาใช้งานอันธพาลที่ชอบข่มขู่คนอื่น



        โซเชียลเน็ตเวิร์กยักษ์ใหญ่อย่างทวิตเตอร์ (Twitter) พบข้อผิดพลาดของนโยบายที่กำหนดโดยองค์กรเกี่ยวกับการละเมิด ข่มขู่ กลั่นแกล้งผู้อื่นบนอินเทอร์เน็ต โดยระบุว่า ที่เคยกำหนดข้อความเกี่ยวกับการละเมิดว่าจะต้องระบุอย่างชัดเจนถึงคนคนนั้นเป็นข้อกำหนดที่แคบเกินไป นอกจากนั้น ในการบล็อกแอ็กเคานต์ที่มีพฤติกรรมรุนแรงนั้น จะต้องมีการแจ้งเข้ามายังทวิตเตอร์ก่อนอยู่ดี
     
       แต่มาคราวนี้ ทวิตเตอร์ระบุว่า จะเข้าแทรกแซงการโพสต์ข้อความของผู้ใช้แล้ว โดยมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านภาษาใหม่ให้สามารถตรวจสอบข้อความต่างๆ ได้อย่างละเอียดมากขึ้น และสามารถระบุได้ว่า ข้อความใดเข้าข่ายข่มขู่ หรือกลั่นแกล้งผู้อื่น ซึ่งโพสต์บางโพสต์อาจถูกระงับไม่ให้ยูสเซอร์รายอื่นๆ มองเห็นเลยทีเดียว
     
       การปรับเปลี่ยนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีหลักฐานมากมายเกี่ยวกับการละเมิด การกล่นแกล้งบนทวิตเตอร์เกิดขึ้น เช่น กรณีของผู้ดำเนินรายการทีวี Sue Perkins ที่ออกมาระบุว่า จะหยุดใช้ทวิตเตอร์หลังจากพบว่า บนไทม์ไลน์ของเธอเต็มไปด้วยข้อความหยาบคายจากคนที่เข้ามาโพสต์ หรือ Shaun Himmerick โปรดิวเซอร์วิดีโอเกม มอร์ทัล คอมแบท เอ็กซ์ (Mortal Combat X) ที่บอกว่า จะหยุดใช้ทวิตเตอร์หลังพบยูสเซอร์บางรายใช้ช่องทางดังกล่าวเข้ามาข่มขู่ภรรยา และลูกสาวของเขา
     
       นอกจากนั้น เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการสำรวจการส่งข้อความกลั่นแกล้งผู้อื่นในเด็กอายุระหว่าง 13-17 ปีจำนวน 1,000 คน โดยผู้ให้บริการบรอดแบนด์อย่าง Europasat พบว่า เกือบครึ่งของเด็กกลุ่มนี้เคยส่งข้อความดังกล่าว
     
       ยกตัวอย่างการเข้าแทรกแซงของระบบใหม่คือ หากมีใครทวิตข้อความว่าจะมีการทำร้ายนาย ก. ก็เพียงพอสำหรับการดำเนินการแล้ว ขณะที่ในอดีตผู้ใช้ทวิตเตอร์จะต้องระบุรายละเอียดมากกว่านั้น เช่น ต้องระบุว่ามีแผนจะตีนาย ก. โดยใช้ไม้เบสบอลที่ที่ทำงานของนาย ก. เป็นต้น
     
       “นโยบายเก่าของเรานั้นค่อนข้างต้องการรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเกินไป ทำให้จำกัดความสามารถในการจัดการผู้ที่มีพฤติกรรมรุนแรงไปโดยปริยาย ซึ่งทางทวิตเตอรได้ทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ภาษาให้ดีขึ้น เพื่อให้ความสามารถในการแยกแยะการล่วงละเมิดของยูสเซอร์ดีขึ้น” Shreyas Doshi ผู้อำนวยการด้าน Product Management ของทวิตเตอร์กล่าว
     
       นอกจากนั้น ทวิตเตอร์ยังเริ่มยุติการให้บริการแก่ยูสเซอร์บางรายที่มีพฤติกรรมชอบข่มขู่ผู้อื่นแล้ว โดยจะจำกัดเวลาใช้งานสำหรับยูสเซอร์รายนั้นๆ ไม่ใช่ใช้ได้ตามใจชอบเหมือนในอดีต และหากต้องการให้ทางทวิตเตอร์ปลดล็อกแอ็กเคานต์ให้ ยูสเซอร์เกเรจะต้องลบข้อความไม่ดีทั้งหลายในอดีตให้หมดด้วย
     
       อาจกล่าวได้ว่า เป็นก้าวแห่งการปรับปรุงที่น่าสนใจ และสามารถดูแลเหล่าอันธพาลบนอินเทอร์เน็ตให้อยู่ในที่ในทางได้ดีทีเดียว ซึ่งการพยายามดูแลผู้ใช้งานอันธพาลเหล่านี้ ทวิตเตอร์เคยต้องจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อใช้คัดกรองรีพอร์ตจากยูสเซอร์ รวมถึงเคยให้บุคคลภายนอกช่วยติดป้ายให้แก่ข้อความข่มขู่มาแล้วด้วย



http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000045831

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.