18 มกราคม 2558 กลุ่มสามารถ คาด เปิดตัว i-mobile รุ่นใหม่อีก 25 รุ่น ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5.5 ล้านเครื่องแล้ว ยังจะเพิ่มรายได้ประจำจากค่าบริการคอนเทนต์ ร่วมกับพันธมิตร AIS, DTAC, True ตลอดจนพันธมิตรทางด้านสื่ออย่าง Siam Sports เป็นต้น
ประเด็นหลัก
สายธุรกิจ Mobile Multi-media นำโดยบมจ.สามารถ ไอ-โมบาย ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากยอดขายสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้น จากการเปิดตัวรุ่นใหม่อีก 25 รุ่น ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5.5 ล้านเครื่องแล้ว ยังจะเพิ่มรายได้ประจำจากค่าบริการคอนเทนต์ ด้วยการเน้นกลยุทธ์ Partnership Marketing ในการขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตร อาทิ สโมสรฟุตบอลชั้นนำ บริษัทผู้ให้บริการมือถือไม่ว่าจะเป็น AIS, DTAC, True ตลอดจนพันธมิตรทางด้านสื่ออย่าง Siam Sports เป็นต้น โดยจะมีการพัฒนาสินค้าและพ่วงบริการ Content ในรูปแบบเจาะกลุ่ม หรือ Segmentation
_____________________________________________________
"กลุ่มสามารถ" ตั้งเป้ารายได้ 3 หมื่นล้าน ประกาศลุยธุรกิจ U-Trans เต็มสูบ
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2558 กลุ่มบริษัทสามารถ ได้แก่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น, บมจ.สามารถเทลคอม, บมจ.สามารถไอ-โมบาย บมจ.วันทูวันคอนแทคส์ ได้แถลงเป้าหมายธุรกิจในปี 2558 โดยตั้งเป้ารายได้ฉลองก่อตั้งครบ 60 ปี ไว้ที่ 30,000 ล้านบาท พร้อมประกาศเดินหน้าธุรกิจเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน การเดินทางและระบบสาธารณูปโภค เพื่อให้มีรายได้ทะลุแสนล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 2557 แม้จะได้รับผลกระทบจากการชะลอโครงการภาครัฐ แต่ทุกสายงานธุรกิจเป็นไปด้วยดี ทั้งสายธุรกิจ ICT Solutions ก็ได้งานเพิ่มกว่า 60 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 7,000 ล้านบาท ด้านสายธุรกิจ Mobile Multimedia มียอดขายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ทั้งปีขายได้ 4.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 14% บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ ขยายตลาดต่างประเทศด้วยสาขาแรกที่ประเทศกัมพูชา สายธุรกิจ U-Trans (Utilities & Transportations) ได้เซ็นสัญญาโครงการพัฒนาประสิทธิภาพการจราจรทางอากาศกับกรมการบินพลเรือน ของประเทศสหภาพพม่า มูลค่า 3.92 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 120 ล้านบาท รวมทั้งได้เซ็นสัญญากับ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย เพื่อติดตั้งระบบอุปกรณ์บริการการจราจรทางอากาศของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่า 465 ล้านบาท ขณะที่บริษัทย่อยก็ได้เซ็นสัญญาโครงการใหม่ๆ กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมมูลค่า 1,200 ล้านบาท ทำให้สายธุรกิจนี้ได้งานใหม่ในปี 2557 คิดเป็นมูลค่าถึง 1,800 ล้านบาท
สำหรับปี 2558 จะเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งสำคัญและสูงสุดนับจากการก่อตั้ง โดยจะขยายการลงทุนในธุรกิจ Utilities & Transportations ซึ่งภายในไตรมาสแรกนี้จะมีการประกาศแผนการลงทุนอย่างเป็นทางการ
ขณะที่เป้ารายได้รวมของทั้งกลุ่มฯ อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% โดยสายธุรกิจ ICT Solutions บมจ. สามารถเทลคอม ตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท โตขึ้น 40% ซึ่งนอกจากงานโครงการที่จะเข้าประมูลมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาทแล้ว ยังมีปัจจัยหนุนจากนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายโครงข่ายการสื่อสาร การส่งเสริมอีคอมเมิร์ซ การพัฒนา e-Government จึงได้กำหนดโครงสร้างธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย 1.โซลูชั่นโครงสร้างเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม Network Infrastructure Solutions 2.โซลูชั่นเทคโนโลยีประยุกต์ Enhanced Technology Solutions และ 3.แอปพลิเคชั่นสนับสนุนการประกอบธุรกิจ Business Applications
สายธุรกิจ Mobile Multi-media นำโดยบมจ.สามารถ ไอ-โมบาย ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากยอดขายสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้น จากการเปิดตัวรุ่นใหม่อีก 25 รุ่น ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5.5 ล้านเครื่องแล้ว ยังจะเพิ่มรายได้ประจำจากค่าบริการคอนเทนต์ ด้วยการเน้นกลยุทธ์ Partnership Marketing ในการขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตร อาทิ สโมสรฟุตบอลชั้นนำ บริษัทผู้ให้บริการมือถือไม่ว่าจะเป็น AIS, DTAC, True ตลอดจนพันธมิตรทางด้านสื่ออย่าง Siam Sports เป็นต้น โดยจะมีการพัฒนาสินค้าและพ่วงบริการ Content ในรูปแบบเจาะกลุ่ม หรือ Segmentation
สายธุรกิจ U-Trans เป็นสายธุรกิจใหม่และจะเป็นกำลังสำคัญ เนื่องจากเป็นแหล่งรายได้ประจำที่สำคัญของกลุ่มบริษัท จากบริการเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค อาทิ ระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ ระบบจัดการยานพาหนะเพื่อการขนส่งและการเดินทาง ตลอดจนธุรกิจด้านพลังงาน ซึ่งล่าสุดได้เซ็นสัญญากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตในการปรับปรุงสถานีไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีมูลค่า 483 ล้านบาท โดยสายธุรกิจ U-Trans จะเป็นการรวมบริษัทในเครือสามารถที่สั่งสมความชำนาญและประสบการณ์ในงานที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคและงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรอบด้านไว้ด้วยกัน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1421392961
____________________________________________________
'สามารถ'ตั้งเป้าโกย3หมื่นล้าน โฟกัสธุรกิจสาธารณูปโภคและขนส่งเสริมยอดไอที-มือถือ
กลุ่มสามารถตั้งเป้ารายได้รวม 30,000 ล้าน โตขึ้น 30% พร้อมแผนขยายธุรกิจด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการขนส่ง หนุนดิจิตอลอีโคโนมี-เออีซี-4 จี คาดรายได้ทะลุแสนล้านในปี 2563
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกจากบริษัทจะเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจปัจจุบันเพื่อต่อยอดรายได้แล้ว ปี 58 จะเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งสำคัญนับจากการก่อตั้งมา โดยมีแผนจะขยายการลงทุนในธุรกิจ สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการขนส่ง หรือ ยู-ทรานส์ (Utilities & Transportations) อย่างชัดเจน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 2558 จำนวน 30,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 20-30% ด้วยปัจจัยการผลักดันเศรษฐกิจผ่านนโยบายดิจิตอลอีโคโนมีของภาครัฐ, การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี, การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มซีแอลเอ็มวี ตลอดจนแนวโน้มการขยายเครือข่ายการสื่อสารจาก 3 จี สู่ 4 จี รวมถึงการขยายเครือข่ายดิจิตอลทีวี ยังคาดการณ์ว่ากำไรของกลุ่มไอซีที และไอ-โมบายจะทะลุสถิติสูงสุดอีกครั้งในปีนี้
สำหรับเป้ารายได้รวม 30,000 ล้านบาท จะมาจากสายธุรกิจกลุ่มไอซีที 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 40% รายได้จากกลุ่มธุรกิจไอ-โมบาย 13,000 ล้านบาท จะเน้นกลยุทธ์ในการขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตร โดยจะมีการพัฒนาสินค้าและพ่วงบริการคอนเทนต์ในรูปแบบเจาะกลุ่ม ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเกิดรายได้ประจำจากค่าบริการคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องอีกด้วย อีกทั้งบริษัทมีแผนจะเปิดตัวมือถือไอ-โมบายสมาร์ทโฟน จำนวน 25 รุ่น มั่นใจว่าจะสร้างสถิติยอดจำหน่ายถึง 5.5 ล้านเครื่อง เพื่อก้าวขึ้นเป็นแบรนด์มือถือที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศ
ส่วนกลุ่มยู-ทรานส์ และธุรกิจอื่น รวมกันอีก 7,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะลงทุนในรูปแบบพลังงานดั้งเดิม จากโรงไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกจากขยะแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานน้ำ โดยเจรจากับรัฐบาลลาว และพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทสามารถยู-ทรานส์ ซึ่งประกอบด้วยบริษัทลูกคือ คอมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิส, กัมปอต พาวเวอร์ แพลน และ เทด้า บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการวางเครือข่ายสายส่งไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดได้เซ็นสัญญากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตในการปรับปรุงสถานีไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีมูลค่า 483 ล้านบาท จะเห็นว่าสายธุรกิจยู-ทรานส์จะเป็นแหล่งรายได้ประจำที่สำคัญของกลุ่มสามารถฯ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 จะเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งสำคัญและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสามารถฯ ในธุรกิจพลังงาน เพราะมองโอกาสในประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ลาวพลังงานน้ำ 10 เมกะวัตต์ และกัมพูชา เป็นพลังงานถ่านหิน 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งก็ยังขาดโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานอยู่ โดยกำหนดจะประกาศเกี่ยวกับแผนการลงทุนอย่างชัดเจนในไตรมาส 1/2558 ซึ่งคาดว่ารายได้นับจากนี้ไปอีก 5 ปี คือในปี 2563 จะทำรายได้เกินแสนล้านบาท ซึ่ง 50% มาจากกลุ่มธุรกิจเดิม และอีก 50% มาจากกลุ่มธุรกิจใหม่และพลังงาน"
ส่วนผลการดำเนินธุรกิจในปี 2557 ที่ผ่านมา ทุกสายธุรกิจเดินหน้าไปได้ด้วยดี แม้จะได้รับผลกระทบบ้างจากการชะลอโครงการภาครัฐ แต่สายธุรกิจไอซีทีก็สามารถได้งานเพิ่มจำนวนกว่า 60 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ด้านสายธุรกิจไอ-โมบาย ประสบความสำเร็จจากยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในปี 57 ทั้งสิ้น 4.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 14% ในปีที่ผ่านมา บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ หนึ่งในบริษัทลูก ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการคอลเซ็นเตอร์ครบวงจร ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย.
Printer-friendly version
http://www.thaipost.net/news/170115/101752
สายธุรกิจ Mobile Multi-media นำโดยบมจ.สามารถ ไอ-โมบาย ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากยอดขายสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้น จากการเปิดตัวรุ่นใหม่อีก 25 รุ่น ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5.5 ล้านเครื่องแล้ว ยังจะเพิ่มรายได้ประจำจากค่าบริการคอนเทนต์ ด้วยการเน้นกลยุทธ์ Partnership Marketing ในการขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตร อาทิ สโมสรฟุตบอลชั้นนำ บริษัทผู้ให้บริการมือถือไม่ว่าจะเป็น AIS, DTAC, True ตลอดจนพันธมิตรทางด้านสื่ออย่าง Siam Sports เป็นต้น โดยจะมีการพัฒนาสินค้าและพ่วงบริการ Content ในรูปแบบเจาะกลุ่ม หรือ Segmentation
_____________________________________________________
"กลุ่มสามารถ" ตั้งเป้ารายได้ 3 หมื่นล้าน ประกาศลุยธุรกิจ U-Trans เต็มสูบ
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2558 กลุ่มบริษัทสามารถ ได้แก่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น, บมจ.สามารถเทลคอม, บมจ.สามารถไอ-โมบาย บมจ.วันทูวันคอนแทคส์ ได้แถลงเป้าหมายธุรกิจในปี 2558 โดยตั้งเป้ารายได้ฉลองก่อตั้งครบ 60 ปี ไว้ที่ 30,000 ล้านบาท พร้อมประกาศเดินหน้าธุรกิจเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน การเดินทางและระบบสาธารณูปโภค เพื่อให้มีรายได้ทะลุแสนล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 2557 แม้จะได้รับผลกระทบจากการชะลอโครงการภาครัฐ แต่ทุกสายงานธุรกิจเป็นไปด้วยดี ทั้งสายธุรกิจ ICT Solutions ก็ได้งานเพิ่มกว่า 60 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 7,000 ล้านบาท ด้านสายธุรกิจ Mobile Multimedia มียอดขายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ทั้งปีขายได้ 4.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 14% บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ ขยายตลาดต่างประเทศด้วยสาขาแรกที่ประเทศกัมพูชา สายธุรกิจ U-Trans (Utilities & Transportations) ได้เซ็นสัญญาโครงการพัฒนาประสิทธิภาพการจราจรทางอากาศกับกรมการบินพลเรือน ของประเทศสหภาพพม่า มูลค่า 3.92 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 120 ล้านบาท รวมทั้งได้เซ็นสัญญากับ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย เพื่อติดตั้งระบบอุปกรณ์บริการการจราจรทางอากาศของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่า 465 ล้านบาท ขณะที่บริษัทย่อยก็ได้เซ็นสัญญาโครงการใหม่ๆ กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมมูลค่า 1,200 ล้านบาท ทำให้สายธุรกิจนี้ได้งานใหม่ในปี 2557 คิดเป็นมูลค่าถึง 1,800 ล้านบาท
สำหรับปี 2558 จะเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งสำคัญและสูงสุดนับจากการก่อตั้ง โดยจะขยายการลงทุนในธุรกิจ Utilities & Transportations ซึ่งภายในไตรมาสแรกนี้จะมีการประกาศแผนการลงทุนอย่างเป็นทางการ
ขณะที่เป้ารายได้รวมของทั้งกลุ่มฯ อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% โดยสายธุรกิจ ICT Solutions บมจ. สามารถเทลคอม ตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท โตขึ้น 40% ซึ่งนอกจากงานโครงการที่จะเข้าประมูลมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาทแล้ว ยังมีปัจจัยหนุนจากนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายโครงข่ายการสื่อสาร การส่งเสริมอีคอมเมิร์ซ การพัฒนา e-Government จึงได้กำหนดโครงสร้างธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย 1.โซลูชั่นโครงสร้างเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม Network Infrastructure Solutions 2.โซลูชั่นเทคโนโลยีประยุกต์ Enhanced Technology Solutions และ 3.แอปพลิเคชั่นสนับสนุนการประกอบธุรกิจ Business Applications
สายธุรกิจ Mobile Multi-media นำโดยบมจ.สามารถ ไอ-โมบาย ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากยอดขายสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้น จากการเปิดตัวรุ่นใหม่อีก 25 รุ่น ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5.5 ล้านเครื่องแล้ว ยังจะเพิ่มรายได้ประจำจากค่าบริการคอนเทนต์ ด้วยการเน้นกลยุทธ์ Partnership Marketing ในการขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตร อาทิ สโมสรฟุตบอลชั้นนำ บริษัทผู้ให้บริการมือถือไม่ว่าจะเป็น AIS, DTAC, True ตลอดจนพันธมิตรทางด้านสื่ออย่าง Siam Sports เป็นต้น โดยจะมีการพัฒนาสินค้าและพ่วงบริการ Content ในรูปแบบเจาะกลุ่ม หรือ Segmentation
สายธุรกิจ U-Trans เป็นสายธุรกิจใหม่และจะเป็นกำลังสำคัญ เนื่องจากเป็นแหล่งรายได้ประจำที่สำคัญของกลุ่มบริษัท จากบริการเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค อาทิ ระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ ระบบจัดการยานพาหนะเพื่อการขนส่งและการเดินทาง ตลอดจนธุรกิจด้านพลังงาน ซึ่งล่าสุดได้เซ็นสัญญากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตในการปรับปรุงสถานีไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีมูลค่า 483 ล้านบาท โดยสายธุรกิจ U-Trans จะเป็นการรวมบริษัทในเครือสามารถที่สั่งสมความชำนาญและประสบการณ์ในงานที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคและงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรอบด้านไว้ด้วยกัน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1421392961
____________________________________________________
'สามารถ'ตั้งเป้าโกย3หมื่นล้าน โฟกัสธุรกิจสาธารณูปโภคและขนส่งเสริมยอดไอที-มือถือ
กลุ่มสามารถตั้งเป้ารายได้รวม 30,000 ล้าน โตขึ้น 30% พร้อมแผนขยายธุรกิจด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการขนส่ง หนุนดิจิตอลอีโคโนมี-เออีซี-4 จี คาดรายได้ทะลุแสนล้านในปี 2563
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกจากบริษัทจะเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจปัจจุบันเพื่อต่อยอดรายได้แล้ว ปี 58 จะเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งสำคัญนับจากการก่อตั้งมา โดยมีแผนจะขยายการลงทุนในธุรกิจ สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการขนส่ง หรือ ยู-ทรานส์ (Utilities & Transportations) อย่างชัดเจน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 2558 จำนวน 30,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 20-30% ด้วยปัจจัยการผลักดันเศรษฐกิจผ่านนโยบายดิจิตอลอีโคโนมีของภาครัฐ, การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี, การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มซีแอลเอ็มวี ตลอดจนแนวโน้มการขยายเครือข่ายการสื่อสารจาก 3 จี สู่ 4 จี รวมถึงการขยายเครือข่ายดิจิตอลทีวี ยังคาดการณ์ว่ากำไรของกลุ่มไอซีที และไอ-โมบายจะทะลุสถิติสูงสุดอีกครั้งในปีนี้
สำหรับเป้ารายได้รวม 30,000 ล้านบาท จะมาจากสายธุรกิจกลุ่มไอซีที 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 40% รายได้จากกลุ่มธุรกิจไอ-โมบาย 13,000 ล้านบาท จะเน้นกลยุทธ์ในการขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตร โดยจะมีการพัฒนาสินค้าและพ่วงบริการคอนเทนต์ในรูปแบบเจาะกลุ่ม ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเกิดรายได้ประจำจากค่าบริการคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องอีกด้วย อีกทั้งบริษัทมีแผนจะเปิดตัวมือถือไอ-โมบายสมาร์ทโฟน จำนวน 25 รุ่น มั่นใจว่าจะสร้างสถิติยอดจำหน่ายถึง 5.5 ล้านเครื่อง เพื่อก้าวขึ้นเป็นแบรนด์มือถือที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศ
ส่วนกลุ่มยู-ทรานส์ และธุรกิจอื่น รวมกันอีก 7,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะลงทุนในรูปแบบพลังงานดั้งเดิม จากโรงไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกจากขยะแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานน้ำ โดยเจรจากับรัฐบาลลาว และพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทสามารถยู-ทรานส์ ซึ่งประกอบด้วยบริษัทลูกคือ คอมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิส, กัมปอต พาวเวอร์ แพลน และ เทด้า บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการวางเครือข่ายสายส่งไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดได้เซ็นสัญญากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตในการปรับปรุงสถานีไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีมูลค่า 483 ล้านบาท จะเห็นว่าสายธุรกิจยู-ทรานส์จะเป็นแหล่งรายได้ประจำที่สำคัญของกลุ่มสามารถฯ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 จะเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งสำคัญและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสามารถฯ ในธุรกิจพลังงาน เพราะมองโอกาสในประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ลาวพลังงานน้ำ 10 เมกะวัตต์ และกัมพูชา เป็นพลังงานถ่านหิน 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งก็ยังขาดโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานอยู่ โดยกำหนดจะประกาศเกี่ยวกับแผนการลงทุนอย่างชัดเจนในไตรมาส 1/2558 ซึ่งคาดว่ารายได้นับจากนี้ไปอีก 5 ปี คือในปี 2563 จะทำรายได้เกินแสนล้านบาท ซึ่ง 50% มาจากกลุ่มธุรกิจเดิม และอีก 50% มาจากกลุ่มธุรกิจใหม่และพลังงาน"
ส่วนผลการดำเนินธุรกิจในปี 2557 ที่ผ่านมา ทุกสายธุรกิจเดินหน้าไปได้ด้วยดี แม้จะได้รับผลกระทบบ้างจากการชะลอโครงการภาครัฐ แต่สายธุรกิจไอซีทีก็สามารถได้งานเพิ่มจำนวนกว่า 60 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ด้านสายธุรกิจไอ-โมบาย ประสบความสำเร็จจากยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในปี 57 ทั้งสิ้น 4.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 14% ในปีที่ผ่านมา บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ หนึ่งในบริษัทลูก ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการคอลเซ็นเตอร์ครบวงจร ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย.
Printer-friendly version
http://www.thaipost.net/news/170115/101752
ไม่มีความคิดเห็น: