10 เมษายน 2558 DTAC ระบุ ลูกค้าหันมาใช้บริการ 4G มากขึ้นเป็นการกระตุ้นให้ปริมาณการใช้ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดเฉลี่ยประมาณ 4.2 กิกะไบต์/คน/เดือน ในฐานลูกค้า ดีแทค ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G แล้วจำนวน 1.75 ล้านเครื่อง

ประเด็นหลัก


++เครือข่าย 3G-4G มีกว่า 6.7 สถานี
    โดย "ซิกเว่ เบรคเก้" รองประธานกรรมการเทเลนอร์กรุ๊ป และเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด เทเลนอร์ เอเชีย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า วันนี้ดีแทคได้เปิดให้บริการ 4G ทั่วประเทศอย่างเป็นทางการได้เสร็จสมบูรณ์ตามคำมั่นสัญญาที่ประกาศไว้ โดยได้ส่งมอบโครงข่าย 3G และ 4G ได้มากกว่าเป้าหมาย ด้วยจำนวนโครงข่ายกว่า 6,700 สถานีฐาน ในกรุงเทพฯ และมากกว่า 40 จังหวัดทุกภาคทั่วประเทศ  เป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของ ดีแทค เพื่อมุ่งมั่นไปให้ถึงจุดหมายในการเป็นผู้นำในการให้บริการอินเตอร์เน็ต
  ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่งลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง  นับจากวันแรกที่ ดีแทค เริ่มทยอยเปิดให้บริการ 4G ทีละเมืองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา  ดีแทค ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยมีลูกค้าใช้งานดีแทค 4G เพิ่มขึ้นแล้วจำนวน 970,000 ราย เพิ่มขึ้นถึง 9 เท่า ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการมาในเดือนพฤษภาคม 2557 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้ จากการที่ลูกค้าหันมาใช้บริการ 4G มากขึ้นเป็นการกระตุ้นให้ปริมาณการใช้ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดเฉลี่ยประมาณ 4.2 กิกะไบต์/คน/เดือน ในฐานลูกค้า ดีแทค ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G แล้วจำนวน 1.75 ล้านเครื่อง ซึ่ง ดีแทค ตั้งเป้าว่าจะเร่งกระตุ้นตลาดให้ลูกค้าที่มีสมาร์ทโฟนรองรับหันมาใช้ 4G ให้หมดภายในสิ้นปี 2558 นี้ "ภายใต้การนำทัพของ "ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง" ซีอีโอคนใหม่จะเป็นกำลังสำคัญที่จะนำทัพดีแทคโดยเน้นไปสู่การพัฒนาโครงข่ายอินเตอร์เน็ตอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกับการพัฒนาการให้บริการทางการเงิน และการสานต่อแนวทางของดีแทค ที่โดดเด่นและแตกต่าง ในการสร้างความผูกพันกับลูกค้า"


_____________________________________________________











4Gความท้าทายใหม่
ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง ซีอีโอป้ายแดง ‘ดีแทค’

    "ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ถือฤกษ์งามยามดีเลือกเอาวันที่ 1 เมษายน 2558 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายหลังถูกเลือกให้มานั่งตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ ดีแทค แทน ซิกเว่ เบรคเก้
    การแถลงข่าวในวันนั้นภายใต้หัวข้อเรื่อง "dtac 4G is Officially Here" โดยมี "ซิกเว่ เบรคเก้" รองประธานกรรมการเทเลนอร์กรุ๊ป และ เจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด เทเลนอร์ เอเชีย ประกอบคู่ดูโอ้ร่วมแถลงข่าวด้วยเช่นเดียวกัน
++เครือข่าย 3G-4G มีกว่า 6.7 สถานี
    โดย "ซิกเว่ เบรคเก้" รองประธานกรรมการเทเลนอร์กรุ๊ป และเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด เทเลนอร์ เอเชีย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า วันนี้ดีแทคได้เปิดให้บริการ 4G ทั่วประเทศอย่างเป็นทางการได้เสร็จสมบูรณ์ตามคำมั่นสัญญาที่ประกาศไว้ โดยได้ส่งมอบโครงข่าย 3G และ 4G ได้มากกว่าเป้าหมาย ด้วยจำนวนโครงข่ายกว่า 6,700 สถานีฐาน ในกรุงเทพฯ และมากกว่า 40 จังหวัดทุกภาคทั่วประเทศ  เป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของ ดีแทค เพื่อมุ่งมั่นไปให้ถึงจุดหมายในการเป็นผู้นำในการให้บริการอินเตอร์เน็ต
  ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่งลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง  นับจากวันแรกที่ ดีแทค เริ่มทยอยเปิดให้บริการ 4G ทีละเมืองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา  ดีแทค ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยมีลูกค้าใช้งานดีแทค 4G เพิ่มขึ้นแล้วจำนวน 970,000 ราย เพิ่มขึ้นถึง 9 เท่า ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการมาในเดือนพฤษภาคม 2557 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้ จากการที่ลูกค้าหันมาใช้บริการ 4G มากขึ้นเป็นการกระตุ้นให้ปริมาณการใช้ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดเฉลี่ยประมาณ 4.2 กิกะไบต์/คน/เดือน ในฐานลูกค้า ดีแทค ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G แล้วจำนวน 1.75 ล้านเครื่อง ซึ่ง ดีแทค ตั้งเป้าว่าจะเร่งกระตุ้นตลาดให้ลูกค้าที่มีสมาร์ทโฟนรองรับหันมาใช้ 4G ให้หมดภายในสิ้นปี 2558 นี้ "ภายใต้การนำทัพของ "ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง" ซีอีโอคนใหม่จะเป็นกำลังสำคัญที่จะนำทัพดีแทคโดยเน้นไปสู่การพัฒนาโครงข่ายอินเตอร์เน็ตอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกับการพัฒนาการให้บริการทางการเงิน และการสานต่อแนวทางของดีแทค ที่โดดเด่นและแตกต่าง ในการสร้างความผูกพันกับลูกค้า"
++วางยุทธศาสตร์ 3 ด้าน
    "ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง" ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า  วันนี้เป็นวันแห่งการเริ่มต้นเข้าสู่มิติใหม่ของ ดีแทค  ได้ตั้งเป้าหมายสูงสุดที่จะมีลูกค้าใช้บริการ 4G จำนวน 2.5 ล้านราย ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมเพื่อสร้างสิ่งใหม่ต่อไป  ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะทำให้สำเร็จ และ จะขับเคลื่อน ดีแทค ให้สำเร็จตามเป้าหมายดังกล่าวภายในสิ้นปี 2558 โดยเน้นใน 3 ด้าน คือ
    เรื่องแรก ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้ให้บริการ 4G ที่เร็วที่สุดในประเทศไทย และดีที่สุดในอุตสาหกรรม ด้วยแบนด์วิดธ์ที่มากที่สุดถึง 15 เมกะเฮิรตซ์ ส่วนเรื่องที่ 2 คือ เป็นโครงข่ายการให้บริการ 3G ที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม ให้บริการ 3G ครอบคลุมจำนวนประชากร 95% ของทั้งประเทศ  และมีฐานลูกค้า 4G ที่มากที่สุดจำนวน 2.5 ล้านราย ในสิ้นปี 2558 และมีลูกค้า 60% จากจำนวนลูกค้าทั้งหมดที่ใช้บริการข้อมูล
    นอกจากนี้แล้วได้ตั้งเป้าหมายให้ ดีแทค ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตอันดับ 1 ของประเทศไทย พร้อมกับสร้างความเจริญเติบโตให้กับบริษัทภายใต้กลยุทธ์ Internet for All
    ต้องบอกว่าการเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ "ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง" ครั้งนี้ถือว่าเป็นความท้าทาย เพราะ 4 จี คือ เป้าหมายของผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย โดยเฉพาะปลายปีนี้ กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) เตรียมเปิดประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ นำร่องเป็นย่านแรก
    งานนี้ใครจะคว้าคลื่นได้สำเร็จต้องลุ้นกันต่อไป!!

ข้อมูลจำเพาะ
    ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค  เคยผ่านประสบการณ์ทำงาน ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Digi Telecommunications ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557 โดยก่อนหน้านั้นเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงให้กับ Telenor Sweden หลายตำแหน่ง ได้แก่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 -กรกฎาคม 2557 ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี (CTO) ตั้งแต่เดือนกันยายน 2550 -มีนาคม 2552 และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) สำหรับฝ่าย Fixed Network and Products ตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 - สิงหาคม 2550
    ไม่เพียงเท่านี้ได้ร่วมงานกับ Bredbandsbolaget ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของประเทศสวีเดนในปี 2542 ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงหลาย  อาทิเช่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ (CIO) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี (CTO) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) นอกจากนี้นายลาร์สยังมีประสบการณ์ทำงานกับ Ericsson Business Consulting ในตำแหน่งผู้จัดการและที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการ นายลาร์สเริ่มต้นชีวิตการทำงานในตำแหน่งพนักงานฝึกหัดที่บริษัท ABB ในปี 2536
    ผ่านการศึกษาระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ (MBA) จาก Gothenburg School of Economics ปริญญาโทวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์วิศวกรรม จาก Uppsala University และปริญญาโทวิทยาศาสตร์ สาขาวิศกรรมระบบ จาก Case Western Reserve University ประเทศสหรัฐอเมริกา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,041  วันที่  5 - 8  เมษายน  พ.ศ. 2558


http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=271800:4g-&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VSVLqFxAeuw