11 กุมภาพันธ์ 2558 Corning เตรียมพัฒนา Gorilla Glass จะพัฒนากระจกที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนและกันกระแทกได้เหมือนแร่ราคาแพงอย่างแซฟไฟร์ ทนทานต่อการกระแทกในกรณีที่ผู้ใช้ทำสมาร์ทโฟนตกหล่น
ประเด็นหลัก
บริษัทคอร์นิ่ง (Corning) ผู้ผลิตหน้าจอสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์พกพาแบรนด์กอริลลากลาส (Gorilla Glass) เปิดเผยว่ากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนากระจกที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนและกันกระแทกได้เหมือนแร่ราคาแพงอย่างแซฟไฟร์ ถือเป็นสัญญาณว่าสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในอนาคตจะใช้กระจกหน้าจอที่มีพัฒนาการเหนือกว่าอีกระดับ
Gorilla Glass นั้นเป็นแบรนด์กระจกหน้าจอที่สมาร์ทโฟนระดับโลกของแอปเปิลอย่างไอโฟน (iPhone) และสินค้ากลุ่มแกแล็กซี่ (Galaxy) ของซัมซุงเลือกใช้ โดยที่ผ่านมา แบรนด์ Gorilla Glass ถูกใช้การันตีกับผู้บริโภคในระดับหนึ่งว่าหน้าจอของสมาร์ทโฟนจะไม่ปรากฏรอยขีดข่วนได้ง่ายเหมือนกระจกทั่วไป ขณะเดียวกันก็ทนทานต่อการกระแทกในกรณีที่ผู้ใช้ทำสมาร์ทโฟนตกหล่น
ล่าสุดผู้พัฒนา Gorilla Glass ระบุว่ากำลังดำเนินโครงการพัฒนาชื่อ “โปรเจ็กต์ ไฟร์ (Project Phire)”
บนจุดประสงค์เพื่อพัฒนาวัสดุกระจกชนิดใหม่ที่รวมจุดเด่นของแซฟไฟร์และกระจกเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในแง่การป้องกันรอยขีดข่วนซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของแซฟไฟร์
_____________________________________________________
ผู้สร้าง Gorilla Glass เปิดแผนพัฒนาหน้าจอมือถือกันรอยดุจแซฟไฟร์
แฟ้มภาพการทดสอบความแข็งแกร่งของกระจกหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ล่าสุดผู้พัฒนา Gorilla Glass ระบุว่ากำลังพัฒนาวัสดุกระจกชนิดใหม่ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนไม่ต่างจากแซฟไฟร์
บริษัทคอร์นิ่ง (Corning) ผู้ผลิตหน้าจอสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์พกพาแบรนด์กอริลลากลาส (Gorilla Glass) เปิดเผยว่ากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนากระจกที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนและกันกระแทกได้เหมือนแร่ราคาแพงอย่างแซฟไฟร์ ถือเป็นสัญญาณว่าสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในอนาคตจะใช้กระจกหน้าจอที่มีพัฒนาการเหนือกว่าอีกระดับ
Gorilla Glass นั้นเป็นแบรนด์กระจกหน้าจอที่สมาร์ทโฟนระดับโลกของแอปเปิลอย่างไอโฟน (iPhone) และสินค้ากลุ่มแกแล็กซี่ (Galaxy) ของซัมซุงเลือกใช้ โดยที่ผ่านมา แบรนด์ Gorilla Glass ถูกใช้การันตีกับผู้บริโภคในระดับหนึ่งว่าหน้าจอของสมาร์ทโฟนจะไม่ปรากฏรอยขีดข่วนได้ง่ายเหมือนกระจกทั่วไป ขณะเดียวกันก็ทนทานต่อการกระแทกในกรณีที่ผู้ใช้ทำสมาร์ทโฟนตกหล่น
ล่าสุดผู้พัฒนา Gorilla Glass ระบุว่ากำลังดำเนินโครงการพัฒนาชื่อ “โปรเจ็กต์ ไฟร์ (Project Phire)”
บนจุดประสงค์เพื่อพัฒนาวัสดุกระจกชนิดใหม่ที่รวมจุดเด่นของแซฟไฟร์และกระจกเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในแง่การป้องกันรอยขีดข่วนซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของแซฟไฟร์
แซฟไฟร์นั้นเป็นแร่ตระกูลไพลินที่ได้ชื่อว่ามีความแข็งแกร่งรองจากเพชร ความเป็นวัสดุชั้นเลิศทำให้แซฟไฟร์ถูกนำไปใช้เป็นกระจกหน้าปัดนาฬิกาหรูราคาแพงที่จะไม่เกิดรอยขีดข่วนจากการใช้งาน ปรากฏว่าแซฟไฟร์กลายเป็นจุดสนใจในวงการไอทีเมื่อมีข่าวลือช่วงก่อนหน้านี้ว่าแอปเปิลจะใช้แซฟไฟร์ในการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่อย่าง iPhone 6 ซึ่งแม้ข่าวลือจะไม่เป็นความจริงแต่กระแสของแซฟไฟร์ก็ยังคุกรุ่นในวงการอุปกรณ์ไอที
ครั้งนั้น Corning ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการนำแซฟไฟร์มาผลิตเป็นหน้าจออุปกรณ์ไอทีเนื่องจากแซฟไฟร์มีคุณสมบัติทนต่อรอยขีดข่วนเท่านั้น แต่ไม่สามารถรับต่อแรงกระแทกได้เหมือนกระจกพิเศษที่บริษัทพัฒนาขึ้น แถมยังระบุว่ากระจกแซฟไฟร์มีจุดอ่อนมากมายที่ทำให้ไม่สามารถใช้กับสายการผลิตสมาร์ทโฟนที่ต้องครอบคลุมจำนวนหลายล้านเครื่อง เช่นต้นทุนการผลิตที่แพงกว่า, กระบวนการขึ้นรูปที่ใช้เวลานานกว่า, น้ำหนักของชิ้นส่วนที่มากกว่า, การใช้พลังงานในการผลิตที่สูงกว่า รวมถึงอัตราการผ่านของแสงที่ต่ำกว่า
รายงานจากสำนักข่าวซีเน็ต (CNET) เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของเจมส์ แคลปปิน (James Clappin) ประธานบริษัท Corning ว่าหลังจากที่บริษัทเคยแสดงจุดยืนว่าแซฟไฟร์โดดเด่นเรื่องการป้องกันรอยขีดข่วนเท่านั้น ขณะนี้ Corning จึงกำลังหาทางสร้างสินค้าใหม่ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เหมือนที่แซฟไฟร์ทำได้ ขณะเดียวกันก็ยังคงความสามารถในการรับแรงกระแทกได้ดีเหมือน Gorilla Glass 4 รุ่นล่าสุด
น่าเสียดายที่ยังไม่มีการเปิดเผยกรอบเวลาว่าเหล่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะสามารถเปิดตัวสินค้าจากกระจกรุ่นใหม่ได้เมื่อใด แต่เชื่อว่า Corning จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดก่อนที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะลงมือพัฒนากระจกแซฟไฟร์ด้วยตัวเองได้สำเร็จ
ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอแอปเปิลยืนยันต่อสื่อมวลชนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาแล้วว่าบริษัทได้ลงทุนสร้างโรงงานในรัฐแอริโซนาเพื่อพัฒนากระจกแซฟไฟร์ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ไอโฟนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ยังคงใช้กระจก Gorilla Glass เช่นเดียวกับไอโฟนรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 5S แสดงว่าแอปเปิลยังไม่สามารถผลิตกระจกแซฟไฟร์ได้สำเร็จอย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้
จุดที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้แอปเปิลพัฒนากระจกแซฟไฟร์ไม่ทันไอโฟนรุ่นใหม่คือบริษัทจีทีแอดวานซ์เทคโนโลยี (GT Advanced Technology) พันธมิตรซึ่งแอปเปิลออกมาวิจารณ์ว่าไม่สามารถพัฒนาแซฟไฟร์สำหรับนำไปใช้กับสินค้าของแอปเปิล แม้ว่าปัจจุบัน GT ยังคงทำงานร่วมกับแอปเปิลในการผลิตนาฬิกาอัจฉริยะ “แอปเปิลวอตช์ (Apple Watch)” ซึ่งจะใช้แซฟไฟร์เป็นหน้าปัดในนาฬิการุ่นท็อปบางรุ่นเท่านั้น
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000016627
บริษัทคอร์นิ่ง (Corning) ผู้ผลิตหน้าจอสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์พกพาแบรนด์กอริลลากลาส (Gorilla Glass) เปิดเผยว่ากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนากระจกที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนและกันกระแทกได้เหมือนแร่ราคาแพงอย่างแซฟไฟร์ ถือเป็นสัญญาณว่าสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในอนาคตจะใช้กระจกหน้าจอที่มีพัฒนาการเหนือกว่าอีกระดับ
Gorilla Glass นั้นเป็นแบรนด์กระจกหน้าจอที่สมาร์ทโฟนระดับโลกของแอปเปิลอย่างไอโฟน (iPhone) และสินค้ากลุ่มแกแล็กซี่ (Galaxy) ของซัมซุงเลือกใช้ โดยที่ผ่านมา แบรนด์ Gorilla Glass ถูกใช้การันตีกับผู้บริโภคในระดับหนึ่งว่าหน้าจอของสมาร์ทโฟนจะไม่ปรากฏรอยขีดข่วนได้ง่ายเหมือนกระจกทั่วไป ขณะเดียวกันก็ทนทานต่อการกระแทกในกรณีที่ผู้ใช้ทำสมาร์ทโฟนตกหล่น
ล่าสุดผู้พัฒนา Gorilla Glass ระบุว่ากำลังดำเนินโครงการพัฒนาชื่อ “โปรเจ็กต์ ไฟร์ (Project Phire)”
บนจุดประสงค์เพื่อพัฒนาวัสดุกระจกชนิดใหม่ที่รวมจุดเด่นของแซฟไฟร์และกระจกเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในแง่การป้องกันรอยขีดข่วนซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของแซฟไฟร์
_____________________________________________________
ผู้สร้าง Gorilla Glass เปิดแผนพัฒนาหน้าจอมือถือกันรอยดุจแซฟไฟร์
แฟ้มภาพการทดสอบความแข็งแกร่งของกระจกหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ล่าสุดผู้พัฒนา Gorilla Glass ระบุว่ากำลังพัฒนาวัสดุกระจกชนิดใหม่ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนไม่ต่างจากแซฟไฟร์
บริษัทคอร์นิ่ง (Corning) ผู้ผลิตหน้าจอสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์พกพาแบรนด์กอริลลากลาส (Gorilla Glass) เปิดเผยว่ากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนากระจกที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนและกันกระแทกได้เหมือนแร่ราคาแพงอย่างแซฟไฟร์ ถือเป็นสัญญาณว่าสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในอนาคตจะใช้กระจกหน้าจอที่มีพัฒนาการเหนือกว่าอีกระดับ
Gorilla Glass นั้นเป็นแบรนด์กระจกหน้าจอที่สมาร์ทโฟนระดับโลกของแอปเปิลอย่างไอโฟน (iPhone) และสินค้ากลุ่มแกแล็กซี่ (Galaxy) ของซัมซุงเลือกใช้ โดยที่ผ่านมา แบรนด์ Gorilla Glass ถูกใช้การันตีกับผู้บริโภคในระดับหนึ่งว่าหน้าจอของสมาร์ทโฟนจะไม่ปรากฏรอยขีดข่วนได้ง่ายเหมือนกระจกทั่วไป ขณะเดียวกันก็ทนทานต่อการกระแทกในกรณีที่ผู้ใช้ทำสมาร์ทโฟนตกหล่น
ล่าสุดผู้พัฒนา Gorilla Glass ระบุว่ากำลังดำเนินโครงการพัฒนาชื่อ “โปรเจ็กต์ ไฟร์ (Project Phire)”
บนจุดประสงค์เพื่อพัฒนาวัสดุกระจกชนิดใหม่ที่รวมจุดเด่นของแซฟไฟร์และกระจกเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในแง่การป้องกันรอยขีดข่วนซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของแซฟไฟร์
แซฟไฟร์นั้นเป็นแร่ตระกูลไพลินที่ได้ชื่อว่ามีความแข็งแกร่งรองจากเพชร ความเป็นวัสดุชั้นเลิศทำให้แซฟไฟร์ถูกนำไปใช้เป็นกระจกหน้าปัดนาฬิกาหรูราคาแพงที่จะไม่เกิดรอยขีดข่วนจากการใช้งาน ปรากฏว่าแซฟไฟร์กลายเป็นจุดสนใจในวงการไอทีเมื่อมีข่าวลือช่วงก่อนหน้านี้ว่าแอปเปิลจะใช้แซฟไฟร์ในการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่อย่าง iPhone 6 ซึ่งแม้ข่าวลือจะไม่เป็นความจริงแต่กระแสของแซฟไฟร์ก็ยังคุกรุ่นในวงการอุปกรณ์ไอที
ครั้งนั้น Corning ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการนำแซฟไฟร์มาผลิตเป็นหน้าจออุปกรณ์ไอทีเนื่องจากแซฟไฟร์มีคุณสมบัติทนต่อรอยขีดข่วนเท่านั้น แต่ไม่สามารถรับต่อแรงกระแทกได้เหมือนกระจกพิเศษที่บริษัทพัฒนาขึ้น แถมยังระบุว่ากระจกแซฟไฟร์มีจุดอ่อนมากมายที่ทำให้ไม่สามารถใช้กับสายการผลิตสมาร์ทโฟนที่ต้องครอบคลุมจำนวนหลายล้านเครื่อง เช่นต้นทุนการผลิตที่แพงกว่า, กระบวนการขึ้นรูปที่ใช้เวลานานกว่า, น้ำหนักของชิ้นส่วนที่มากกว่า, การใช้พลังงานในการผลิตที่สูงกว่า รวมถึงอัตราการผ่านของแสงที่ต่ำกว่า
รายงานจากสำนักข่าวซีเน็ต (CNET) เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของเจมส์ แคลปปิน (James Clappin) ประธานบริษัท Corning ว่าหลังจากที่บริษัทเคยแสดงจุดยืนว่าแซฟไฟร์โดดเด่นเรื่องการป้องกันรอยขีดข่วนเท่านั้น ขณะนี้ Corning จึงกำลังหาทางสร้างสินค้าใหม่ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เหมือนที่แซฟไฟร์ทำได้ ขณะเดียวกันก็ยังคงความสามารถในการรับแรงกระแทกได้ดีเหมือน Gorilla Glass 4 รุ่นล่าสุด
น่าเสียดายที่ยังไม่มีการเปิดเผยกรอบเวลาว่าเหล่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะสามารถเปิดตัวสินค้าจากกระจกรุ่นใหม่ได้เมื่อใด แต่เชื่อว่า Corning จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดก่อนที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะลงมือพัฒนากระจกแซฟไฟร์ด้วยตัวเองได้สำเร็จ
ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอแอปเปิลยืนยันต่อสื่อมวลชนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาแล้วว่าบริษัทได้ลงทุนสร้างโรงงานในรัฐแอริโซนาเพื่อพัฒนากระจกแซฟไฟร์ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ไอโฟนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ยังคงใช้กระจก Gorilla Glass เช่นเดียวกับไอโฟนรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 5S แสดงว่าแอปเปิลยังไม่สามารถผลิตกระจกแซฟไฟร์ได้สำเร็จอย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้
จุดที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้แอปเปิลพัฒนากระจกแซฟไฟร์ไม่ทันไอโฟนรุ่นใหม่คือบริษัทจีทีแอดวานซ์เทคโนโลยี (GT Advanced Technology) พันธมิตรซึ่งแอปเปิลออกมาวิจารณ์ว่าไม่สามารถพัฒนาแซฟไฟร์สำหรับนำไปใช้กับสินค้าของแอปเปิล แม้ว่าปัจจุบัน GT ยังคงทำงานร่วมกับแอปเปิลในการผลิตนาฬิกาอัจฉริยะ “แอปเปิลวอตช์ (Apple Watch)” ซึ่งจะใช้แซฟไฟร์เป็นหน้าปัดในนาฬิการุ่นท็อปบางรุ่นเท่านั้น
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000016627
ไม่มีความคิดเห็น: