Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

24 กันยายน 2555 แฉ !! อดีตบอร์ด 'ธนา' จ้างที่ปรึกษากม. TOT ฉาว // สหภาพฯTOT ร้อง บอร์ดหลายยุคหลายสมัยทำกินส่งผลงานไม่เดิน

แฉ !! อดีตบอร์ด 'ธนา' จ้างที่ปรึกษากม. TOT ฉาว // สหภาพฯTOT ร้อง บอร์ดหลายยุคหลายสมัยทำกินส่งผลงานไม่เดิน


ประเด็นหลัก

กระบวนการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย มีปัญหา


ผล ที่ตามมาคือมีการแก้ไขทีโออาร์ เช่น ตัดข้อ 6.2 เพื่อเปิดให้ผู้เสนอราคาที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้ที่สภาทนายความสามารถเสนอราคา ได้, กำหนดให้ผู้เสนอราคาคือบริษัทต้องจดทะเบียนในไทยไม่น้อยกว่า 1 ปี,ผู้เสนอราคาคือบริษัทต้องมีประสบการณ์และผลงานเป็นที่ยอมรับในการให้คำ ปรึกษาในงานกฎหมายทั่วไป งานกฎหมายโทรคมนาคม งานกฎหมายอื่นๆ งานคดีข้อพิพาท งานอนุญาโตตุลาการและงานสัญญา โดยต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญภาษาไทยเป็นอย่างดี รวมทั้งมีบุคลากรที่ให้คำปรึกษาภาษาอังกฤษได้อย่างน้อย 1 คน

แต่ น.ส.น้ำจิตต์ ประธานกรรมการจัดจ้างและนายพิทักษ์ เขมะรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักกฎหมาย ได้ดำเนินการขออนุมัติเซ็นสัญญากับบริษัท พนัส โดยมิชอบ ทั้งๆ ที่บริษัท พนัส ขาดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาตามที่กำหนดไว้ในทีโออาร์เพราะบริษัทพนัสไม่มีผล งานด้านกฎหมาย ที่สำคัญเมื่อตรวจสอบไปยังสภาทนายความพบว่าบุคคลากรของบริษัท พนัส มีสำนักงานประจำที่อื่นซึ่งมิใช่บริษัท พนัส ตามที่เสนอต่อทีโอที โดยบริษัทหนึ่งในนั้นคือ บริษัท ธนาแอนด์พาร์ทเนอร์ ที่นายธนา ธรรมวิหาร กรรมการทีโอทีในขณะนั้นถือหุ้นอยู่ 49.5% ด้วย

ในสัญญาจ้างที่ปรึกษากฎหมาย มูลค่า 13 ล้านบาท หมวดค่าจ้างและวิธีการจ่ายค่าจ้าง มีทนาย 2 คนที่ส่อให้เห็นมีความสัมพันธ์กับ บอร์ดธนา อย่างใกล้ชิด คือนายนิสัย วีรเดชะ ร่วมถือหุ้นอยู่ในบริษัท ธนาแอนด์พาร์ทเนอร์ กับ นายธีรไชย เกษปรีชาสวัสดิ์ แจ้งสำนักงานอยู่ที่เลขที่ 100/930-931 ซอยเสนานิคม ถนนสุขาภิบาล ลาดพร้าว กทม.10230 ซึ่งเป็นที่อยู่เดียวกับบริษัท ธนาแอนด์พาร์ทเนอร์


นายพรชัยกล่าวย้ำว่ากระบวนการจัดจ้างบริษัท ที่ปรึกษากฎหมาย ที่เป็นการร่วมมือสมคบคิดระหว่างผู้บริหารและบอร์ดทีโอที สมควรถูกพิจารณาลงโทษไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โดยเฉพาะมีการประกาศไปทั่วว่าจะกลับมาเป็นบอร์ดอีกครั้งแบบไม่ละอายใจ เนื่องจากตอนนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกบอร์ดใหม่ หวังว่าน.อ.อนุดิษฐ์ รมว.ไอซีที กับ กระทรวงการคลัง จะแสดงความรับผิดชอบแต่งตั้งบอร์ดที่มีธรรมาภิบาลและรักษาประโยชน์ประเทศ ชาติบ้าง แทนที่จะหลับตาตั้งคนตามที่การเมืองสั่งมาอย่างเดียว



สหภาพฯTOT ขอ


ว่ากันว่าในวันที่ 25 ก.ย.จะมีการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อดำเนินการแต่งตั้งบอร์ด ที่ผ่านมาบอร์ดหลายยุคหลายสมัยไม่สามารถขับเคลื่อนได้ เพราะหลังจากเป็นบอร์ด ก็มาตั้งโต๊ะทำมาหากินกันเอง แบ่งปันกันระหว่างพรรคพวก ลูกน้องเก่า หรือ กลุ่มทุนที่หนุนหลังส่งประกวดให้เข้ามาเป็นบอร์ด ที่สำคัญการเมืองไม่นิ่ง มีหลายขั้วอำนาจ ตอนแรกมาด้วยกันดีๆ พอโปรเจกต์เข้า เห็นโครงการเป็นร้อยเป็นพันหรือหลายๆพันล้านบาท ก็เกิดอาการอยากได้ ละโมภ โลภไม่สิ้นสุด เกิดการแยกร่างอวตาร สายหนึ่งแยกไปจับผู้บริหารกลุ่มหนึ่ง อีกสายก็แยกไปสร้างขุมกำลังมาสู้ เตะตัดขากันสนุกสนาน สั่งงานข้ามหัว จนไม่รู้จะฟังใคร

ผลที่เกิดขึ้นก็คืองานไม่เดินหน้า ทั้งธุรกิจและโครงการต่างๆ ทั้งๆ ที่เห็นหายนะรออยู่เบื้องหน้า เมื่อหมดรายได้สัมปทาน แต่บอร์ดผู้ทรงเกียรติ (หลายท่าน) ก็ไม่เคยวางแผนอนาคตให้ทีโอที หวังแต่สวาปามพุงกางระยะสั้น

บอร์ดที่จะขับเคลื่อนได้ ต้องเป็นเอกภาพ ชัดเจน ดาบอาญาสิทธิ์ต้องถือคนเดียว และถ้าจำเป็นต้องฟัน ก็อย่ายั้งมือ

ที่สำคัญ การแต่งตั้งบอร์ดทีโอทีครั้งนี้ จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าท่านอนุดิษฐ์ ยังมีอำนาจในการกำกับดูแลอยู่หรือไม่ จะเป็นรมว.ไอซีทีตัวจริงได้เสียที หรือเป็นแค่รมว.หุ่นกระบอกมีคนเชิดอยู่เบื้องหลัง ไม่กี่วันรู้กัน !!













___________________________________



แฉอดีตบอร์ด 'ธนา' จ้างที่ปรึกษากม.ทีโอทีฉาว

น้ำลดตอผุด ถึงลาออกแต่โชคคงไม่ช่วย คนทีโอทีทำหนังสือร้องเรียนพฤติกรรมมิชอบ 'ธนา ธรรมวิหาร' อดีตบอร์ดทีโอที ร่วมมือกับ 2 ผู้บริหาร จ้างที่ปรึกษากฎหมาย สมคบคิดแบบเย้ยฟ้าท้าดินไม่เกรงกลัวความผิด ยันเอาเรื่องถึงที่สุดเตรียมร้อง 'ยิ่งลักษณ์' กับดีเอสไอและกระทรวงการคลัง จันทร์ที่ 24 ก.ย.นี้ หลังเดินสายร้องป.ป.ช. ไอซีที และ ป.ป.ท. หากไม่ซูเอี๋ยเรื่องไม่น่าเงียบ

นายพรชัย มีมาก อดีตประธานสหภาพฯ ทีโอที และเลขานุการมูลนิธิรู้รักสามัคคีพนักงานองค์การโทรศัพท์ฯ กล่าวว่าในวันจันทร์ที่ 24 ก.ย.นี้จะยื่นหนังสือร้องเรียนถึงการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการจ้างที่ ปรึกษากฎหมายของบริษัท ทีโอที โดยเป็นการร่วมมือระหว่างผู้บริหารกับอดีตกรรมการบอร์ดบางคน ถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกระทรวงการคลัง หลังจากร้องเรียนไปยังป.ป.ช.เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ลงเลขรับที่ 18458, กระทรวงไอซีที ลงเลขรับที่ 14833 และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ลงวันที่รับเรื่อง 13 ก.ย. 2555 เวลา 14.30 น.

'ที่ผ่านมาในการต่อสู้ทางคดี มีการจ้างที่ปรึกษากฎหมายโดยถูกต้องตามระเบียบของทีโอที จนกระทั่งหมดสัญญาต้องมีการจัดจ้างใหม่ ตามระเบียบของทีโอที ซึ่งขั้นตอนต่างๆดำเนินการมาอย่างถูกต้องจนกระทั่งถึงขั้นตอนขออนุมัติการ จ้าง จึงได้เกิดเหตุผิดปกติ ที่มีการดำเนินการโดยมิชอบ มีการแสวงหาผลประโยชน์โดยกรรมการบอร์ดเข้าไปเกี่ยวข้องโดยการแก้เงื่อนไขการ จ้าง'

ทั้งนี้ในหนังสือร้องเรียนสรุปได้ว่า คณะกรรมการจัดจ้างที่ปรึกษากฎหมาย ได้เลือกบริษัท ที่ปรึกษากฎหมายแชนด์เล่อร์และทองเอก เพราะมีประสบการณ์ให้คำปรึกษาด้านโทรคมนาคมตามเงื่อนไขทีโออาร์ระบุไว้ ซึ่งเมื่อถึงขั้นตอนอนุมัติเซ็นสัญญา ปรากฎว่าถูกขอให้มีการทบทวน จนทำให้ประธานคณะกรรมการจัดจ้างที่ปรึกษากฎหมายต้องลาออก และมีการแต่งตั้งน.ส.น้ำจิตต์ โล่ตระกูล มาทำหน้าที่ประธานแทน

ผลที่ตามมาคือมีการแก้ไขทีโออาร์ เช่น ตัดข้อ 6.2 เพื่อเปิดให้ผู้เสนอราคาที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้ที่สภาทนายความสามารถเสนอราคา ได้, กำหนดให้ผู้เสนอราคาคือบริษัทต้องจดทะเบียนในไทยไม่น้อยกว่า 1 ปี,ผู้เสนอราคาคือบริษัทต้องมีประสบการณ์และผลงานเป็นที่ยอมรับในการให้คำ ปรึกษาในงานกฎหมายทั่วไป งานกฎหมายโทรคมนาคม งานกฎหมายอื่นๆ งานคดีข้อพิพาท งานอนุญาโตตุลาการและงานสัญญา โดยต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญภาษาไทยเป็นอย่างดี รวมทั้งมีบุคลากรที่ให้คำปรึกษาภาษาอังกฤษได้อย่างน้อย 1 คน

เมื่อจัดการด้านทีโอทีเรียบร้อย ด้วยการยกเลิกบริษัท แชนด์เล่อร์ แต่งตั้งประธานคนใหม่ และแก้ไขทีโออาร์ให้เอื้อประโยชน์เอกชน ซึ่งในที่นี้คือบริษัท สำนักกฎหมายพนัส ทัศนียานนท์และเพื่อน จำกัด โดยจำเป็นต้องมีการแต่งตัวใหม่ เพื่อเข้ามารับงานที่ปรึกษากฎหมาย เริ่มด้วยการ เปลี่ยนชื่อจากบริษัท สินทรัพย์สิริกร ซึ่งประกอบกิจการขายลอตเตอรี่ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2555 เพื่อสร้างเรื่องให้สอดคล้องกับทีโออาร์ที่กำหนดให้ผู้เสนอราคาต้องจด ทะเบียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยบริษัท สินทรัพย์สิริกร จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2553

ในวันที่ 26 มี.ค. 2555 บริษัท พนัส เสนอราคา โดยไม่มีการแจ้งว่าผู้เสนอราคาคือตัวบริษัท พนัส มีประสบการณ์และผลงานในการให้คำปรึกษาในงานกฎหมายทั่วไป งานกฎหมายโทรคมนาคม งานกฎหมายอื่น งานคดีพิพาท งานอนุญาโตตุลาการและงานสัญญาแต่อย่างใด แต่กลับอ้างประสบการณ์ของบุคลากรของสำนักงานอื่น ที่ไม่ใช่ประสบการณ์ของบริษัท พนัส เพราะเดิมก่อนเปลี่ยนชื่อก็มีแต่ผลงานการขายลอตเตอรี่เท่านั้น

แต่น.ส.น้ำจิตต์ ประธานกรรมการจัดจ้างและนายพิทักษ์ เขมะรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักกฎหมาย ได้ดำเนินการขออนุมัติเซ็นสัญญากับบริษัท พนัส โดยมิชอบ ทั้งๆ ที่บริษัท พนัส ขาดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาตามที่กำหนดไว้ในทีโออาร์เพราะบริษัทพนัสไม่มีผล งานด้านกฎหมาย ที่สำคัญเมื่อตรวจสอบไปยังสภาทนายความพบว่าบุคคลากรของบริษัท พนัส มีสำนักงานประจำที่อื่นซึ่งมิใช่บริษัท พนัส ตามที่เสนอต่อทีโอที โดยบริษัทหนึ่งในนั้นคือ บริษัท ธนาแอนด์พาร์ทเนอร์ ที่นายธนา ธรรมวิหาร กรรมการทีโอทีในขณะนั้นถือหุ้นอยู่ 49.5% ด้วย

ในสัญญาจ้างที่ปรึกษากฎหมาย มูลค่า 13 ล้านบาท หมวดค่าจ้างและวิธีการจ่ายค่าจ้าง มีทนาย 2 คนที่ส่อให้เห็นมีความสัมพันธ์กับ บอร์ดธนา อย่างใกล้ชิด คือนายนิสัย วีรเดชะ ร่วมถือหุ้นอยู่ในบริษัท ธนาแอนด์พาร์ทเนอร์ กับ นายธีรไชย เกษปรีชาสวัสดิ์ แจ้งสำนักงานอยู่ที่เลขที่ 100/930-931 ซอยเสนานิคม ถนนสุขาภิบาล ลาดพร้าว กทม.10230 ซึ่งเป็นที่อยู่เดียวกับบริษัท ธนาแอนด์พาร์ทเนอร์

นอกจากนี้บอร์ดธนา ยังใช้อำนาจเกินหน้าที่ประธานกรรมการตรวจสอบของทีโอที ด้วยการเขียนด้วยลายมือสั่งการให้นายพิทักษ์ ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างระบบจัดเก็บข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ วงเงินประมาณ 25 ล้านบาท

'การจ้างที่ปรึกษากฎหมายโดยมิชอบ จะเป็นผลทำให้ทีโอทีได้รับความเสียหายเพราะงานคดีของทีโอที มีมูลฟ้องกว่า 2แสนล้านบาท เช่น คดีฟื้นฟูกิจการของทีทีแอนด์ที ทุนทรัพย์รวม 38,708 ล้านบาท งานคดีค่าเชื่อมโยงโครงข่ายที่ทีโอทีฟ้องกสท ดีแทค ทรูมูฟและดีพีซีต่อศาลปกครอง ทุนทรัพย์รวม 1.7 แสนล้านบาท'

นายพรชัยกล่าวย้ำว่ากระบวนการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย ที่เป็นการร่วมมือสมคบคิดระหว่างผู้บริหารและบอร์ดทีโอที สมควรถูกพิจารณาลงโทษไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โดยเฉพาะมีการประกาศไปทั่วว่าจะกลับมาเป็นบอร์ดอีกครั้งแบบไม่ละอายใจ เนื่องจากตอนนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกบอร์ดใหม่ หวังว่าน.อ.อนุดิษฐ์ รมว.ไอซีที กับ กระทรวงการคลัง จะแสดงความรับผิดชอบแต่งตั้งบอร์ดที่มีธรรมาภิบาลและรักษาประโยชน์ประเทศ ชาติบ้าง แทนที่จะหลับตาตั้งคนตามที่การเมืองสั่งมาอย่างเดียว


ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000117132

________________________________________


คำขอจากสหภาพฯทีโอที



เมื่อ วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา นางวันทนา บ่อโพธิ์ ประธานสหภาพแรงงาน ทีโอที ได้เข้าพบน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ซึ่งท่านรัฐมนตรี ได้แจ้งเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการบอร์ด ทีโอที ว่าใกล้จะเสร็จแล้วพร้อมจะเสนอไปให้กระทรวงการคลังพิจารณาคุณสมบัติ คาดว่าภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ จะประกาศได้

โดยได้พิจารณาบุคคลที่มีแนวคิดในทางเดียวกัน ไม่ขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมา และต้องรู้จักหน้าที่ของการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ โดยบอร์ดต้องทำหน้าที่บอร์ด ไม่ใช่ลงไปทำหน้าที่ผู้บริหารเป็นแม้กระทั่งประธานกีฬาฟุตบอล

นางวันทนา บ่อโพธิ์ ประธานสหภาพแรงงงาน ทีโอที ได้เรียกร้องและขอให้ท่านอนุดิษฐ์แต่งตั้งคนดี มีความสามารถ มาเป็นบอร์ดทีโอที เพราะที่ผ่านมาบอร์ดที่ทำหน้าที่ประธานกิจการสัมพันธ์ กับสหภาพแรงงานไม่เคยมีการเรียกประชุมเลย ทั้งๆ ที่กฎหมายกำหนดให้ประชุมกันเดือนละครั้ง

นอกจากนั้นบอร์ดที่ผ่านมาบางท่าน ถูกพนักงานร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.ซึ่งทำให้เสียภาพพจน์ของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลทีโอที โดยขอให้อย่าแต่งตั้งบุคคลที่ทำให้เสียชื่อเสียงกลับเข้ามาอีก เช่นเรื่องการจ้างบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย การเช่าโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ และคนสนิทของท่านรมว.ไอซีที ที่ชอบมาแอบอ้างชื่อท่าน ในการแต่งตั้งโยกย้าย และการจัดซื้อพัสดุเคเบิล

ว่ากันว่าในวันที่ 25 ก.ย.จะมีการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อดำเนินการแต่งตั้งบอร์ด ที่ผ่านมาบอร์ดหลายยุคหลายสมัยไม่สามารถขับเคลื่อนได้ เพราะหลังจากเป็นบอร์ด ก็มาตั้งโต๊ะทำมาหากินกันเอง แบ่งปันกันระหว่างพรรคพวก ลูกน้องเก่า หรือ กลุ่มทุนที่หนุนหลังส่งประกวดให้เข้ามาเป็นบอร์ด ที่สำคัญการเมืองไม่นิ่ง มีหลายขั้วอำนาจ ตอนแรกมาด้วยกันดีๆ พอโปรเจกต์เข้า เห็นโครงการเป็นร้อยเป็นพันหรือหลายๆพันล้านบาท ก็เกิดอาการอยากได้ ละโมภ โลภไม่สิ้นสุด เกิดการแยกร่างอวตาร สายหนึ่งแยกไปจับผู้บริหารกลุ่มหนึ่ง อีกสายก็แยกไปสร้างขุมกำลังมาสู้ เตะตัดขากันสนุกสนาน สั่งงานข้ามหัว จนไม่รู้จะฟังใคร

ผลที่เกิดขึ้นก็คืองานไม่เดินหน้า ทั้งธุรกิจและโครงการต่างๆ ทั้งๆ ที่เห็นหายนะรออยู่เบื้องหน้า เมื่อหมดรายได้สัมปทาน แต่บอร์ดผู้ทรงเกียรติ (หลายท่าน) ก็ไม่เคยวางแผนอนาคตให้ทีโอที หวังแต่สวาปามพุงกางระยะสั้น

บอร์ดที่จะขับเคลื่อนได้ ต้องเป็นเอกภาพ ชัดเจน ดาบอาญาสิทธิ์ต้องถือคนเดียว และถ้าจำเป็นต้องฟัน ก็อย่ายั้งมือ

ที่สำคัญ การแต่งตั้งบอร์ดทีโอทีครั้งนี้ จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าท่านอนุดิษฐ์ ยังมีอำนาจในการกำกับดูแลอยู่หรือไม่ จะเป็นรมว.ไอซีทีตัวจริงได้เสียที หรือเป็นแค่รมว.หุ่นกระบอกมีคนเชิดอยู่เบื้องหลัง ไม่กี่วันรู้กัน !!

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000117384

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.