08 กุมภาพันธ์ 2555 ( โหดร้าย แต่ เป็น ผลดีประเทศมากๆๆ ) กสทช. เคาะเก็บข้อมูลการใช้งานโทรออกทุกเบอร์ ในรูปแบบ บัตรประชาชาน 13 หลัก
( โหดร้าย แต่ เป็น ผลดีประเทศมากๆๆ ) กสทช. เคาะเก็บข้อมูลการใช้งานโทรออกทุกเบอร์ ในรูปแบบ บัตรประชาชาน 13 หลัก
ประเด็นหลัก
ส่วนระยะเวลาหมดอายุในการเติม เงินขั้นต่ำนั้น จะหารือร่วมกัน ทั้งกับฝ่ายผู้ให้บริการ และผู้บริโภคเพื่อกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากหากกำหนดสั้นไป ผู้บริโภคจะเสียประโยชน์ ขณะเดียวกัน หากกำหนดนานไป ก็จะเป็นภาระของผู้ให้บริการในการรักษาเลขหมายเช่นกัน
นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. ในฐานะบอร์ด กทค.กล่าวถึงประเด็นการลงทะเบียนซิมการ์ดของมือถือแบบเติมเงิน หรือ พรีเพดว่า ที่ประชุมบอร์ด กทค.มีข้อสรุปให้ใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลักในการจัดเก็บข้อมูล และต้องมีพยานยืนยันว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริง ซึ่งจะนำมติเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของบอร์ด กสทช.เพื่อกำหนดวันที่จะเริ่มเก็บข้อมูลพร้อมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หนึ่ง โดยล่าสุดได้ขอความร่วมมือทุกเครือข่ายให้เก็บข้อมูลของผู้ซื้อซิมใหม่เพื่อ ลงทะเบียนได้ทันที ส่วนกรณีของซิมเก่านั้น จะมีการหารือถึงหลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดเก็บข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง
__________________________________________________________
กสทช.เคาะใช้เลข 13 หลักจัดเก็บข้อมูล'พรีเพด'
บอร์ด กทค. มีมติใช้เลข 13 หลัก จัดเก็บข้อมูลพรีเพด ขณะที่ นัมเบอร์พอร์ตฯ ให้ 4 หมื่น เลขหมายต่อวัน พร้อมให้การบ้านผู้ให้บริการทุกเครือข่าย ไปศึกษาแนวทางปฏิบัติอีกครั้งหนึ่ง หลังเรียก 5 ผู้ให้บริการมือถือถกร่วมกันวันนี้...
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมระหว่างคณะกรรมการ หรือ บอร์ด กทค. กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค บริษัท ทรูมูฟ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ว่า ที่ผ่านมา การลงทะเบียนซิมการ์ดกับระยะเวลาหมดอายุของโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน หรือพรีเพด ในเรื่องระยะเวลาหมดอายุของมือถือแบบเติมเงินนั้น ทาง กทค.ได้สั่งการทุกเครือข่ายกำหนดวันหมดอายุในการเติมเงินขั้นต่ำของมือถือ แบบเติมเงินภายใน 30 วัน โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ให้บริการไม่มีสิทธิ์ตัดสัญญาณโทรศัพท์ของลูกค้ามือถือแบบเติมเงินที่หมด อายุการใช้งาน ซึ่งหากยังไม่ได้ข้อสรุปก็จะยืดระยะเวลาอีกครั้งละ 30 วันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหาข้อสรุปได้
ส่วนระยะเวลาหมดอายุในการเติม เงินขั้นต่ำนั้น จะหารือร่วมกัน ทั้งกับฝ่ายผู้ให้บริการ และผู้บริโภคเพื่อกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากหากกำหนดสั้นไป ผู้บริโภคจะเสียประโยชน์ ขณะเดียวกัน หากกำหนดนานไป ก็จะเป็นภาระของผู้ให้บริการในการรักษาเลขหมายเช่นกัน
นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการ กสทช. ในฐานะบอร์ด กทค.กล่าวถึงประเด็นการให้บริการโอนย้ายเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปอีกค่าย หนึ่งโดยใช้เบอร์เดิม หรือ นัมเบอร์พอร์ตทิบิลิตี้ ว่า บอร์ด กทค. ได้ตั้งเป้าหมายลดอุปสรรคของการใช้สิทธิ์เปลี่ยนเครือข่าย ลดระยะเวลาดำเนินการให้สั้นลง ขยายพื้นที่การให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดจนขยายความสามารถในการให้บริการโอนย้ายเครือข่าย จากเดิมที่ให้บริการประมาณ 2 พันเลขหมายต่อวัน ให้เต็มศักยภาพที่ 4 หมื่นเลขหมายต่อวัน โดยตั้งประเด็นให้ผู้ให้บริการทุกเครือข่ายไปศึกษาแนวทางปฏิบัติอีกครั้ง หนึ่ง
ประเด็นการลงทะเบียนซิมการ์ดของมือถือแบบเติมเงิน เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องความมั่นคง ซึ่งแต่เดิมมีเพียงหลักการในการจัดเก็บข้อมูลตามประกาศ กทช.เรื่องหลักเกณฑ์การจัดสรรและบริหารเลขหมายโทรคมนาคม พ.ศ. 2551 แต่ไม่มีหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บข้อมูลในเชิงปฏิบัตินั้น
นาย สุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. ในฐานะบอร์ด กทค.กล่าวถึงประเด็นการลงทะเบียนซิมการ์ดของมือถือแบบเติมเงิน หรือ พรีเพดว่า ที่ประชุมบอร์ด กทค.มีข้อสรุปให้ใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลักในการจัดเก็บข้อมูล และต้องมีพยานยืนยันว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริง ซึ่งจะนำมติเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของบอร์ด กสทช.เพื่อกำหนดวันที่จะเริ่มเก็บข้อมูลพร้อมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หนึ่ง โดยล่าสุดได้ขอความร่วมมือทุกเครือข่ายให้เก็บข้อมูลของผู้ซื้อซิมใหม่เพื่อ ลงทะเบียนได้ทันที ส่วนกรณีของซิมเก่านั้น จะมีการหารือถึงหลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดเก็บข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.ในฐานะประธาน กทค.กล่าวว่า ผู้ให้บริการทุกเครือข่ายไม่ได้ต่อต้านในแนวคิดที่เสนอในวันนี้แต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการความชัดเจนเท่านั้น ซึ่ง กสทช. ที่เปิดประเด็นนี้ขึ้นมาก็จะกระตุ้นให้ทุกเครือข่ายเร่งปฏิบัติตามแนวทางที่ ได้ข้อสรุปจากการหารือร่วมกันนี้ต่อไป.
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/236960
ประเด็นหลัก
ส่วนระยะเวลาหมดอายุในการเติม เงินขั้นต่ำนั้น จะหารือร่วมกัน ทั้งกับฝ่ายผู้ให้บริการ และผู้บริโภคเพื่อกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากหากกำหนดสั้นไป ผู้บริโภคจะเสียประโยชน์ ขณะเดียวกัน หากกำหนดนานไป ก็จะเป็นภาระของผู้ให้บริการในการรักษาเลขหมายเช่นกัน
นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. ในฐานะบอร์ด กทค.กล่าวถึงประเด็นการลงทะเบียนซิมการ์ดของมือถือแบบเติมเงิน หรือ พรีเพดว่า ที่ประชุมบอร์ด กทค.มีข้อสรุปให้ใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลักในการจัดเก็บข้อมูล และต้องมีพยานยืนยันว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริง ซึ่งจะนำมติเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของบอร์ด กสทช.เพื่อกำหนดวันที่จะเริ่มเก็บข้อมูลพร้อมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หนึ่ง โดยล่าสุดได้ขอความร่วมมือทุกเครือข่ายให้เก็บข้อมูลของผู้ซื้อซิมใหม่เพื่อ ลงทะเบียนได้ทันที ส่วนกรณีของซิมเก่านั้น จะมีการหารือถึงหลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดเก็บข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง
__________________________________________________________
กสทช.เคาะใช้เลข 13 หลักจัดเก็บข้อมูล'พรีเพด'
บอร์ด กทค. มีมติใช้เลข 13 หลัก จัดเก็บข้อมูลพรีเพด ขณะที่ นัมเบอร์พอร์ตฯ ให้ 4 หมื่น เลขหมายต่อวัน พร้อมให้การบ้านผู้ให้บริการทุกเครือข่าย ไปศึกษาแนวทางปฏิบัติอีกครั้งหนึ่ง หลังเรียก 5 ผู้ให้บริการมือถือถกร่วมกันวันนี้...
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมระหว่างคณะกรรมการ หรือ บอร์ด กทค. กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค บริษัท ทรูมูฟ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ว่า ที่ผ่านมา การลงทะเบียนซิมการ์ดกับระยะเวลาหมดอายุของโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน หรือพรีเพด ในเรื่องระยะเวลาหมดอายุของมือถือแบบเติมเงินนั้น ทาง กทค.ได้สั่งการทุกเครือข่ายกำหนดวันหมดอายุในการเติมเงินขั้นต่ำของมือถือ แบบเติมเงินภายใน 30 วัน โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ให้บริการไม่มีสิทธิ์ตัดสัญญาณโทรศัพท์ของลูกค้ามือถือแบบเติมเงินที่หมด อายุการใช้งาน ซึ่งหากยังไม่ได้ข้อสรุปก็จะยืดระยะเวลาอีกครั้งละ 30 วันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหาข้อสรุปได้
ส่วนระยะเวลาหมดอายุในการเติม เงินขั้นต่ำนั้น จะหารือร่วมกัน ทั้งกับฝ่ายผู้ให้บริการ และผู้บริโภคเพื่อกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากหากกำหนดสั้นไป ผู้บริโภคจะเสียประโยชน์ ขณะเดียวกัน หากกำหนดนานไป ก็จะเป็นภาระของผู้ให้บริการในการรักษาเลขหมายเช่นกัน
นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการ กสทช. ในฐานะบอร์ด กทค.กล่าวถึงประเด็นการให้บริการโอนย้ายเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปอีกค่าย หนึ่งโดยใช้เบอร์เดิม หรือ นัมเบอร์พอร์ตทิบิลิตี้ ว่า บอร์ด กทค. ได้ตั้งเป้าหมายลดอุปสรรคของการใช้สิทธิ์เปลี่ยนเครือข่าย ลดระยะเวลาดำเนินการให้สั้นลง ขยายพื้นที่การให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดจนขยายความสามารถในการให้บริการโอนย้ายเครือข่าย จากเดิมที่ให้บริการประมาณ 2 พันเลขหมายต่อวัน ให้เต็มศักยภาพที่ 4 หมื่นเลขหมายต่อวัน โดยตั้งประเด็นให้ผู้ให้บริการทุกเครือข่ายไปศึกษาแนวทางปฏิบัติอีกครั้ง หนึ่ง
ประเด็นการลงทะเบียนซิมการ์ดของมือถือแบบเติมเงิน เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องความมั่นคง ซึ่งแต่เดิมมีเพียงหลักการในการจัดเก็บข้อมูลตามประกาศ กทช.เรื่องหลักเกณฑ์การจัดสรรและบริหารเลขหมายโทรคมนาคม พ.ศ. 2551 แต่ไม่มีหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บข้อมูลในเชิงปฏิบัตินั้น
นาย สุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. ในฐานะบอร์ด กทค.กล่าวถึงประเด็นการลงทะเบียนซิมการ์ดของมือถือแบบเติมเงิน หรือ พรีเพดว่า ที่ประชุมบอร์ด กทค.มีข้อสรุปให้ใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลักในการจัดเก็บข้อมูล และต้องมีพยานยืนยันว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริง ซึ่งจะนำมติเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของบอร์ด กสทช.เพื่อกำหนดวันที่จะเริ่มเก็บข้อมูลพร้อมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หนึ่ง โดยล่าสุดได้ขอความร่วมมือทุกเครือข่ายให้เก็บข้อมูลของผู้ซื้อซิมใหม่เพื่อ ลงทะเบียนได้ทันที ส่วนกรณีของซิมเก่านั้น จะมีการหารือถึงหลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดเก็บข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.ในฐานะประธาน กทค.กล่าวว่า ผู้ให้บริการทุกเครือข่ายไม่ได้ต่อต้านในแนวคิดที่เสนอในวันนี้แต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการความชัดเจนเท่านั้น ซึ่ง กสทช. ที่เปิดประเด็นนี้ขึ้นมาก็จะกระตุ้นให้ทุกเครือข่ายเร่งปฏิบัติตามแนวทางที่ ได้ข้อสรุปจากการหารือร่วมกันนี้ต่อไป.
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/236960
ไม่มีความคิดเห็น: