13 มีนาคม 2555 ( ฝัน หรือ คาดการณ์ ) RS ชี้ 3G พร้อม ตลาดดิจิตอลมิวสิคบูม
( ฝัน หรือ คาดการณ์ ) RS ชี้ 3G พร้อม ตลาดดิจิตอลมิวสิคบูม
ประเด็นหลัก
นายอภิชาติ์ หงษ์หิรัญเรือง รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจดิจิตอล บริษัท อาร์เอส กล่าวถึงตลาดดิจิตอลมิวสิคในไทยว่าอยู่ในภาวะทรงตัว เป็นผลมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ รวมไปถึงความพร้อมของ 3G ที่ยังไม่สมบูรณ์ โดยคาดว่ามูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,224 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดหลักมาจากเสียงเพลงรอสายหรือริงแบ็กโทน 77% หรือ 876 ล้านบาท ที่เหลืออีก 348 ล้านบาทเป็นบริการดาวน์โหลดเพลง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ทรงตัวมาจากปีก่อน โดยอาร์เอสดิจิตอลตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ที่ 500 ล้านบาทเติบโตขึ้นประมาณ 13% จากปีก่อนที่ทำรายได้ 470 ล้านบาท
'จำนวนผู้ที่ดาวน์โหลดดิจิตอลมิวสิคปัจจุบันมี 4.6 ล้านรายต่อเดือน แบ่งเป็นดาวน์โหลดเพลง 2.5 ล้านราย โดยเป็นผู้ใช้บริการของอาร์เอส28% กับบริการเสียงเพลงรอสาย 2.1 ล้านราย ใช้บริการของอาร์เอส31%'
แต่หากปีนี้ 3G พร้อมให้บริการบวกกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ราคาถูกลงเหลือ 3-4 พันบาท เชื่อว่าจะทำให้ตลาดรวมดิจิตอลมิวสิคในไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 1,500 ล้านบาทในปี 2556 เหมือนในต่างประเทศที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนจากการฟังเพลงบนอินเทอร์เน็ต มาเป็นมิวสิคสตรีมมิ่งบนมือถือ ซึ่งเชื่อว่าในไทยจะเห็นภาพการดาวน์โหลดโดยเฉพาะบริการสตรีมมิ่งมีสัดส่วน ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเสียงเพลงรอสายภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
_________________________________________________________
อาร์เอสชี้ 3G พร้อม ตลาดดิจิตอลมิวสิคบูม
อาร์เอส ดิจิตอล เชื่อหาก 3G พร้อม จะกระตุ้นตลาดดิจิตอล มิวสิคไทยปีหน้า แตะ 1,500 ล้านบาท โดยเฉพาะมิวสิคสตรีมมิ่งมาแน่ ระบุปีนี้ใช้กลยุทธ์โซเซียลมีเดียรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชอบแชร์เพลง ดันยอดขายปีนี้ 500 ล้านบาท
นายอภิชาติ์ หงษ์หิรัญเรือง รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจดิจิตอล บริษัท อาร์เอส กล่าวถึงตลาดดิจิตอลมิวสิคในไทยว่าอยู่ในภาวะทรงตัว เป็นผลมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ รวมไปถึงความพร้อมของ 3G ที่ยังไม่สมบูรณ์ โดยคาดว่ามูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,224 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดหลักมาจากเสียงเพลงรอสายหรือริงแบ็กโทน 77% หรือ 876 ล้านบาท ที่เหลืออีก 348 ล้านบาทเป็นบริการดาวน์โหลดเพลง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ทรงตัวมาจากปีก่อน โดยอาร์เอสดิจิตอลตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ที่ 500 ล้านบาทเติบโตขึ้นประมาณ 13% จากปีก่อนที่ทำรายได้ 470 ล้านบาท
'จำนวนผู้ที่ดาวน์โหลดดิจิตอลมิวสิคปัจจุบันมี 4.6 ล้านรายต่อเดือน แบ่งเป็นดาวน์โหลดเพลง 2.5 ล้านราย โดยเป็นผู้ใช้บริการของอาร์เอส28% กับบริการเสียงเพลงรอสาย 2.1 ล้านราย ใช้บริการของอาร์เอส31%'
แต่หากปีนี้ 3G พร้อมให้บริการบวกกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ราคาถูกลงเหลือ 3-4 พันบาท เชื่อว่าจะทำให้ตลาดรวมดิจิตอลมิวสิคในไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 1,500 ล้านบาทในปี 2556 เหมือนในต่างประเทศที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนจากการฟังเพลงบนอินเทอร์เน็ต มาเป็นมิวสิคสตรีมมิ่งบนมือถือ ซึ่งเชื่อว่าในไทยจะเห็นภาพการดาวน์โหลดโดยเฉพาะบริการสตรีมมิ่งมีสัดส่วน ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเสียงเพลงรอสายภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
สำหรับการแข่งขันในตลาดดิจิตอลมิวสิค จะแข่งกันที่การเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะการใช้โซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กที่ชื่นชอบการแชร์มิวสิคคอนเทนต์ ระหว่างกัน ทำให้อาร์เอสดิจิตอลนำกลยุทธ์ Social Music Experience มาเป็นหัวใจในการวางแผนการตลาดปีนี้ รวมถึงช่องทางจัดจำหน่ายแบบ 360 องศา เพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในภาวะสภาพตลาดทรงตัวในปัจจุบัน
ในปี 2555 อาร์เอสดิจิตอลเปลี่ยนช่องทางสื่อสารผ่านเว็บไซต์ใหม่ เหลือเพียง 3 เว็บไซต์หลัก คือ http://www.rsfriends.com, ilovekamikaze.com และ rsiamonline.com โดยจะทำงานร่วมกับธุรกิจเพลงในการแชร์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าและแนวโน้มตลาด ดิจิตอล เพื่อนำไปสู่การผลิตคอนเทนต์และแผนการโปรโมทที่ตรงกับความสนใจของตลาดแต่ละ กลุ่มเป้าหมาย
ส่วนช่องทางจัดจำหน่ายนั้น จะใช้กลยุทธ์ 360 องศาในการทำตลาดผ่านทั้งลูกค้าของอาร์เอสและพาร์ทเนอร์โดยกระจายในทุกๆ ช่องทางเพื่อให้คอนเทนต์เข้าถึงตลาดให้มากที่สุด แทนที่จะให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาหาเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะเห็นช่องทางขายผ่านหน้าร้านไม่ว่าจะเป็นผ่านบริการ *339 *223 อาร์เอส คอลล์เซ็นเตอร์ เว็บไซต์ และโมบายแอปพลิเคชันที่กำลังจะเปิดตัวในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยจะเปิดตัวแอปฯทั้งแอนดรอยด์และไอโอเอสก่อน ส่วนแบล็กเบอรี่หรือวินโดวส์โมบาย ก็จะทยอยเปิดตัวตามมาในภายหลัง
สำหรับช่องทางขายผ่านโอเปอเรเตอร์มือถือ ยังคงทำร่วมกับทุกค่ายรวมไปกิจกรรมการตลาดต่างๆ รวมทั้งผู้ผลิตมือถือทุกแบรนด์ โดยจะมีการวางไอคอนสำหรับการดาวน์โหลดเพลงไว้ในเครื่องเรียบร้อย แม้กระทั่งบิสซิเนสพาร์ทเนอร์ตามห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นแหล่งที่กลุ่มเป้าหมายอาร์เอสไปใช้บริการ ก็จะมีความร่วมมือให้กลายเป็นจุดเติมเพลงได้ในอนาคต
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000032381
ประเด็นหลัก
นายอภิชาติ์ หงษ์หิรัญเรือง รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจดิจิตอล บริษัท อาร์เอส กล่าวถึงตลาดดิจิตอลมิวสิคในไทยว่าอยู่ในภาวะทรงตัว เป็นผลมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ รวมไปถึงความพร้อมของ 3G ที่ยังไม่สมบูรณ์ โดยคาดว่ามูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,224 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดหลักมาจากเสียงเพลงรอสายหรือริงแบ็กโทน 77% หรือ 876 ล้านบาท ที่เหลืออีก 348 ล้านบาทเป็นบริการดาวน์โหลดเพลง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ทรงตัวมาจากปีก่อน โดยอาร์เอสดิจิตอลตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ที่ 500 ล้านบาทเติบโตขึ้นประมาณ 13% จากปีก่อนที่ทำรายได้ 470 ล้านบาท
'จำนวนผู้ที่ดาวน์โหลดดิจิตอลมิวสิคปัจจุบันมี 4.6 ล้านรายต่อเดือน แบ่งเป็นดาวน์โหลดเพลง 2.5 ล้านราย โดยเป็นผู้ใช้บริการของอาร์เอส28% กับบริการเสียงเพลงรอสาย 2.1 ล้านราย ใช้บริการของอาร์เอส31%'
แต่หากปีนี้ 3G พร้อมให้บริการบวกกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ราคาถูกลงเหลือ 3-4 พันบาท เชื่อว่าจะทำให้ตลาดรวมดิจิตอลมิวสิคในไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 1,500 ล้านบาทในปี 2556 เหมือนในต่างประเทศที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนจากการฟังเพลงบนอินเทอร์เน็ต มาเป็นมิวสิคสตรีมมิ่งบนมือถือ ซึ่งเชื่อว่าในไทยจะเห็นภาพการดาวน์โหลดโดยเฉพาะบริการสตรีมมิ่งมีสัดส่วน ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเสียงเพลงรอสายภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
_________________________________________________________
อาร์เอสชี้ 3G พร้อม ตลาดดิจิตอลมิวสิคบูม
อาร์เอส ดิจิตอล เชื่อหาก 3G พร้อม จะกระตุ้นตลาดดิจิตอล มิวสิคไทยปีหน้า แตะ 1,500 ล้านบาท โดยเฉพาะมิวสิคสตรีมมิ่งมาแน่ ระบุปีนี้ใช้กลยุทธ์โซเซียลมีเดียรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชอบแชร์เพลง ดันยอดขายปีนี้ 500 ล้านบาท
นายอภิชาติ์ หงษ์หิรัญเรือง รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจดิจิตอล บริษัท อาร์เอส กล่าวถึงตลาดดิจิตอลมิวสิคในไทยว่าอยู่ในภาวะทรงตัว เป็นผลมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ รวมไปถึงความพร้อมของ 3G ที่ยังไม่สมบูรณ์ โดยคาดว่ามูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,224 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดหลักมาจากเสียงเพลงรอสายหรือริงแบ็กโทน 77% หรือ 876 ล้านบาท ที่เหลืออีก 348 ล้านบาทเป็นบริการดาวน์โหลดเพลง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ทรงตัวมาจากปีก่อน โดยอาร์เอสดิจิตอลตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ที่ 500 ล้านบาทเติบโตขึ้นประมาณ 13% จากปีก่อนที่ทำรายได้ 470 ล้านบาท
'จำนวนผู้ที่ดาวน์โหลดดิจิตอลมิวสิคปัจจุบันมี 4.6 ล้านรายต่อเดือน แบ่งเป็นดาวน์โหลดเพลง 2.5 ล้านราย โดยเป็นผู้ใช้บริการของอาร์เอส28% กับบริการเสียงเพลงรอสาย 2.1 ล้านราย ใช้บริการของอาร์เอส31%'
แต่หากปีนี้ 3G พร้อมให้บริการบวกกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ราคาถูกลงเหลือ 3-4 พันบาท เชื่อว่าจะทำให้ตลาดรวมดิจิตอลมิวสิคในไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 1,500 ล้านบาทในปี 2556 เหมือนในต่างประเทศที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนจากการฟังเพลงบนอินเทอร์เน็ต มาเป็นมิวสิคสตรีมมิ่งบนมือถือ ซึ่งเชื่อว่าในไทยจะเห็นภาพการดาวน์โหลดโดยเฉพาะบริการสตรีมมิ่งมีสัดส่วน ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเสียงเพลงรอสายภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
สำหรับการแข่งขันในตลาดดิจิตอลมิวสิค จะแข่งกันที่การเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะการใช้โซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กที่ชื่นชอบการแชร์มิวสิคคอนเทนต์ ระหว่างกัน ทำให้อาร์เอสดิจิตอลนำกลยุทธ์ Social Music Experience มาเป็นหัวใจในการวางแผนการตลาดปีนี้ รวมถึงช่องทางจัดจำหน่ายแบบ 360 องศา เพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในภาวะสภาพตลาดทรงตัวในปัจจุบัน
ในปี 2555 อาร์เอสดิจิตอลเปลี่ยนช่องทางสื่อสารผ่านเว็บไซต์ใหม่ เหลือเพียง 3 เว็บไซต์หลัก คือ http://www.rsfriends.com, ilovekamikaze.com และ rsiamonline.com โดยจะทำงานร่วมกับธุรกิจเพลงในการแชร์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าและแนวโน้มตลาด ดิจิตอล เพื่อนำไปสู่การผลิตคอนเทนต์และแผนการโปรโมทที่ตรงกับความสนใจของตลาดแต่ละ กลุ่มเป้าหมาย
ส่วนช่องทางจัดจำหน่ายนั้น จะใช้กลยุทธ์ 360 องศาในการทำตลาดผ่านทั้งลูกค้าของอาร์เอสและพาร์ทเนอร์โดยกระจายในทุกๆ ช่องทางเพื่อให้คอนเทนต์เข้าถึงตลาดให้มากที่สุด แทนที่จะให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาหาเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะเห็นช่องทางขายผ่านหน้าร้านไม่ว่าจะเป็นผ่านบริการ *339 *223 อาร์เอส คอลล์เซ็นเตอร์ เว็บไซต์ และโมบายแอปพลิเคชันที่กำลังจะเปิดตัวในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยจะเปิดตัวแอปฯทั้งแอนดรอยด์และไอโอเอสก่อน ส่วนแบล็กเบอรี่หรือวินโดวส์โมบาย ก็จะทยอยเปิดตัวตามมาในภายหลัง
สำหรับช่องทางขายผ่านโอเปอเรเตอร์มือถือ ยังคงทำร่วมกับทุกค่ายรวมไปกิจกรรมการตลาดต่างๆ รวมทั้งผู้ผลิตมือถือทุกแบรนด์ โดยจะมีการวางไอคอนสำหรับการดาวน์โหลดเพลงไว้ในเครื่องเรียบร้อย แม้กระทั่งบิสซิเนสพาร์ทเนอร์ตามห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นแหล่งที่กลุ่มเป้าหมายอาร์เอสไปใช้บริการ ก็จะมีความร่วมมือให้กลายเป็นจุดเติมเพลงได้ในอนาคต
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000032381
ไม่มีความคิดเห็น: