Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

21 พฤษภาคม 2554 ((( "ซุปเปอร์อาม่า" ))) มือถือที่เจาะกลุ่มอายุ 40+ / เฮาส์แบรนด์ "INFINITY หรือ อินฟินิตี้" หน้าเก่าแต่น่าสนใจ

((( "ซุปเปอร์อาม่า" ))) มือถือที่เจาะกลุ่มอายุ 40+ / เฮาส์แบรนด์ "INFINITY หรือ อินฟินิตี้" หน้าเก่าแต่น่าสนใจ

((( "ซุปเปอร์อาม่า" ))) มือถือที่เจาะกลุ่มอายุ 40+ / เฮาส์แบรนด์ "INFINITY หรือ อินฟินิตี้" หน้าเก่าแต่น่าสนใจ

ประเด็นหลัก

"INFINITY หรือ อินฟินิตี้" เริ่มทำตลาดแบบเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 2550 และล่าสุดมือถือ อินฟินิตี้ ท้าทายที่พร้อมเปิดตลาดในขณะนี้

โทรศัพท์ เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนผู้ผลิตจับตลาดกลุ่มที่มีรายได้สูงและอายุต่ำกว่า 40 ปีลงมา แต่สำหรับมือถืออินฟินิตี้นั้นเจาะกลุ่มคนที่มีอายุ 40+ และได้เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ คือ "ซุปเปอร์อาม่า"(Super R-ma) โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การเป็นมือถือที่ "จริงใจ ใช้ง่าย" และ "ซุปเปอร์อาม่า" ถูกออกแบบมาเพื่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงวัยและมีปัญหาทางด้านสายตา ด้วยหน้าจอสีขนาด 1.8 นิ้ว ชูจุดเด่นอยู่ที่การเป็นมือถือที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน Handlens Camera สามารถใช้แทนอุปกรณ์แว่นขยาย สามารถอ่านหนังสือหรือเห็นข้อความได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้สูงวัย และ ฟังก์ชัน R-ma Lock นวัตกรรม Intelligent เมื่อเครื่องล็อกอัตโนมัติ วิธีกดปุ่มคลายล็อกเพียงกดปุ่มเดียว ไม่ต้องกดหลายปุ่มให้เป็นเรื่องซับซ้อน รวมถึงแป้นกดตัวเลขขนาดใหญ่ ตัวอักษรขนาดใหญ่ อ่านง่าย รองรับการทำงานแบบ 2 ซิม มีGPRS SMS พร้อมด้วยความบันเทิงต่างๆที่ครบครัน อาทิ วิทยุ กล้องถ่ายภาพนิ่ง MP3 และหน่วยความจำภายในเครื่อง 2GB และยังมีระบบ SOS เพื่อขอความช่วยเหลือให้ใช้ได้สะดวกมากขึ้น วางจำหน่ายแล้วในราคาเพียง 1,990 บาท
_________________________________________________________

'สุรินทร์' มือปั้น'อินฟินิตี้' ปักฐานแบรนด์ไทย

น้น คอนเซ็ปต์อยู่ที่การเป็นมือถือที่ "จริงใจ ใช้ง่าย" และสามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น วัยรุ่น วัยทำงาน หรือ แม้แต่ผู้สูงอายุ ....
ถึงตอนนี้ต้องบอกว่าโทรศัพท์ เคลื่อนที่ที่เป็น เฮาส์แบรนด์ (ชื่อแบรนด์ตัวเองแต่ว่าจ้างผลิต) มีหลากหลายอยู่ในท้องตลาดแต่ที่ติดอันดับต้น ๆ นั้นต้องมีชื่อของ "ไอ-โมบาย"
เป็นเพราะสินค้าเฮาส์แบรนด์เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่ หลายทำให้บรรดาผู้ประกอบการยอมทุ่มเงินสร้างแบรนด์ขึ้นมา ไล่เลียงตั้งแต่ ทีดับบลิวแซท หรือ แม้กระทั่ง "เจมาร์ท" ซึ่งได้รับความนิยมไม่มากนัก
แต่ ทว่าในตอนนี้ยังมีมือถือสายพันธุ์ใหม่ภายใต้ชื่อแบรนด์ "INFINITY หรือ อินฟินิตี้" เริ่มทำตลาดแบบเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 2550 และล่าสุดมือถือ อินฟินิตี้ ท้าทายที่พร้อมเปิดตลาดในขณะนี้
ทำไม? และ เพราะอะไร "อินฟินิตี้" กล้าบุกตลาดมือถือเฮาส์แบรนด์ทั้ง ๆ ที่บางรายไม่ประสบความสำเร็จมากนัก อ่านคำตอบจากบทสัมภาษณ์พิเศษ นายสุรินทร์ อมรชัชวาลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย อินฟินิตี้ จำกัด ได้ในบรรทัดถัดจากนี้!!
* เหตุผลรุกตลาด
มีช่องว่างทางการตลาด พอสมควรโดยเฉพาะในขณะนี้อินเตอร์แบรนด์ (แบรนด์จากต่างประเทศ) กำลังแข่งขันกันอย่างรุนแรงดังนั้นจึงนำสินค้าเฮาส์แบรนด์เข้ามาแทรกและผม อยู่ในวงการมือถือมานานโดยเฉพาะเป็นแฟรนไชส์ให้กับ ดีแทค สมัยในช่วงยุคแรกๆ
ส่วนเหตุผลที่รุกตลาดในช่วงเวลานี้เพราะเชื่อมั่นในตัวสินค้าที่มี คุณภาพมากขึ้นตามลำดับและในปีนี้มือถือ "อินฟินิตี้" จะมีสินค้ารุ่นใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มมากขึ้นถึง 30 รุ่น ดังนั้นเชื่อว่าในปีนี้จะสามารถทำรายได้เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
*ตั้งเป้ารายได้ปีนี้
ภาพรวม ตลาดมือถือเฮาส์แบรนด์ปีนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลงกว่าปีที่แล้ว ซึ่งในปี 2554 คาดการณ์ว่าตลาดมือถือเฮาส์แบรนด์จะมีการเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20-30% จากเดิมปี 2553 เติบโตประมาณ 40% และปี 2552 โตขึ้นประมาณ 50% โดยปัจจัยหลักมาจากการแข่งขันทางด้านราคาของมือถือเฮาส์แบรนด์ที่มีการแข่ง ขันที่ค่อนข้างรุนแรง จึงทำให้ในปีนี้ทางบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อรักษาฐานลูกค้า และเป็นการกระจายสินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น
อีกทั้งมือ ถือที่ทางบริษัทจะเปิดตัวในปีนี้ทุกรุ่น เน้นคอนเซ็ปต์อยู่ที่การเป็นมือถือที่ "จริงใจ ใช้ง่าย" และสามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น วัยรุ่น วัยทำงาน หรือ แม้แต่ผู้สูงอายุ โดยในปีนี้ทางบริษัทมีแผนที่จะนำสินค้าเข้ามาทำการตลาดประมาณ 30 รุ่นด้วยกัน รองรับกลุ่มตลาดกลางและล่าง ด้วยระดับราคาต่ำกว่า 1,000 บาท ตลาดระดับกลาง 1,500-2,000 บาท ตลาดระดับกลางบนอยู่ที่ 2,000 บาทขึ้นไป รวมถึงในปีนี้ทางบริษัทเน้นการขายสินค้าผ่านทางโมเดิร์นเทรด อาทิ แม็คโคร , คาร์ฟูร์ และ บิ๊กซี มากขึ้นอีกด้วย โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างรายได้สูงถึง 200 ล้านบาท และในปีนี้ทางบริษัทตั้งเป้ารายได้โตกว่า 100% ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ให้บริษัทสูงถึง 400 ล้านบาทในปีนี้
* กลยุทธ์ตลาด
โทรศัพท์ เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนผู้ผลิตจับตลาดกลุ่มที่มีรายได้สูงและอายุต่ำกว่า 40 ปีลงมา แต่สำหรับมือถืออินฟินิตี้นั้นเจาะกลุ่มคนที่มีอายุ 40+ และได้เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ คือ "ซุปเปอร์อาม่า"(Super R-ma) โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การเป็นมือถือที่ "จริงใจ ใช้ง่าย" และ "ซุปเปอร์อาม่า" ถูกออกแบบมาเพื่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงวัยและมีปัญหาทางด้านสายตา ด้วยหน้าจอสีขนาด 1.8 นิ้ว ชูจุดเด่นอยู่ที่การเป็นมือถือที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน Handlens Camera สามารถใช้แทนอุปกรณ์แว่นขยาย สามารถอ่านหนังสือหรือเห็นข้อความได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้สูงวัย และ ฟังก์ชัน R-ma Lock นวัตกรรม Intelligent เมื่อเครื่องล็อกอัตโนมัติ วิธีกดปุ่มคลายล็อกเพียงกดปุ่มเดียว ไม่ต้องกดหลายปุ่มให้เป็นเรื่องซับซ้อน รวมถึงแป้นกดตัวเลขขนาดใหญ่ ตัวอักษรขนาดใหญ่ อ่านง่าย รองรับการทำงานแบบ 2 ซิม มีGPRS SMS พร้อมด้วยความบันเทิงต่างๆที่ครบครัน อาทิ วิทยุ กล้องถ่ายภาพนิ่ง MP3 และหน่วยความจำภายในเครื่อง 2GB และยังมีระบบ SOS เพื่อขอความช่วยเหลือให้ใช้ได้สะดวกมากขึ้น วางจำหน่ายแล้วในราคาเพียง 1,990 บาท
* ความน่าเชื่อถือของสินค้า
สโลแกนที่ตั้งไว้ คือ จริงใจ ใช้ง่าย คำว่า "จริง ใจ" หมายถึงจริงใจ กับลูกค้า ส่วนใช้ง่ายนั้นหมายถึงตัวหนังสือที่มีตัวเลขขนาดใหญ่ และการจำหน่ายสินค้านั้นอาศัยพันธมิตรทั่วประเทศผ่านร้านดีแทคช้อป และในปีที่ผ่านมาอินฟินิตี้สามารถจำหน่ายสินค้าไปแล้วจำนวน 200,000 เครื่อง ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 300,000 เครื่อง แบ่งเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานครจำนวน 30% และตลาดต่างจังหวัดประมาณ 70%
* เหตุผลเจาะกลุ่มอายุ 40+
เพราะใช้ ตัวเองเป็นบรรทัดฐานเนื่องจากผมอายุ 40 ปีสายตาเริ่มยาวอ่านหนังสือไม่ค่อยเห็นแล้ว ดังนั้นผมจึงเลยตัดสินใจจับกลุ่มฐานลูกค้ากลุ่มนี้และยังไม่มีผู้ประกอบการ รายใดเจาะตลาดผมเชื่อว่าผมเป็นรายแรกที่ทำตลาดในกลุ่มนี้และเชื่อว่าขนาด ตลาดของกลุ่มนี้มีจำนวนกว่าล้านรายเลยทีเดียว
* งบประมาณการตลาด
ปี นี้ใช้งบลงทุนจำนวน 50-60 ล้านบาท ส่วนงบประมาณการตลาดนั้นคงใช้ไม่มากนักแต่จะใช้วิธีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ไปเรื่อยๆ
* ที่มาของอินฟินิตี้
ที่มาของชื่อนี้ มาจากผมไปทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่งและเห็นแบรนด์ที่เขาใช้เป็นตัว เลขคือเลข 8 ผมก็เลยคิดและใช้ชื่อนี้ว่า INFINITY ซึ่งมีความหมายว่าไม่สิ้นสุด และ สินค้าของอินฟินิตี้อย่างที่บอกคือใช้งานง่าย และกลุ่มลูกค้าที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
*เริ่มต้นขายเมื่อไหร่
ผมเริ่มขายมือถือตั้งแต่ปี 2550 โดยเน้นมือถือ 2 ซิม ที่สามารถดูทีวีได้เน้นความคุ้มค่าและราคาถูก สินค้าที่อยู่ในตลาด คือ อินฟินิตี้ จีเบอร์รี่(G-Berry) และ อินฟินิตี้ คุ้มมาก 3 เป็นต้น

+ข้อมูลจำเพาะ:นายสุรินทร์ อมรชัชวาลกุล
ปัจจุบันอายุ 43 ปี จบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ,ปริญญาโท มหาวิทยาลัยรังสิต และ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เคย ผ่านประสบการณ์การทำงานเป็นพนักงานดีแทค หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ในสมัยที่นายภูษณ ปรีย์มาโนช อดีตผู้ร่วมก่อตั้งดีแทค บริหารงานในช่วงเวลานั้น

ฐานเศรษฐกิจ


ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.