27 กันยายน 2555 (เกาะติดประมูล3G) สภาอุตฯ-หอการค้า-สมาคมโทรคมฯหนุน กสทช.ประมูล 3G // กสทช.มั่นใจ3Gเปลื่ยนการลงทุนได้
(เกาะติดประมูล3G) สภาอุตฯ-หอการค้า-สมาคมโทรคมฯหนุน กสทช.ประมูล 3G // กสทช.มั่นใจ3Gเปลื่ยนการลงทุนได้
ประเด็นหลัก
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ภายหลังการประมูลแล้ว ทุกฝ่ายต้องร่วมกันพัฒนาให้คนชนบทสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ในราคาที่ เป็นธรรมและมีราคาถูกได้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่เกิดการล้มประมูลเมื่อปี 53 ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสมาก และคาดหวังว่าการประมูลที่จะถึงจะไม่มีปัญหา"นายพยุงศักดิ์ กล่าว
ส่วน นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสิ่งที่ประเทศจะได้จาการประมูล คือการพัฒนาประเทศและประโยชน์ที่จะเกิดกับประชาชน
พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. มั่นใจว่า มองว่า ใน 4 – 6 ปี ข้างหน้า นักลงทุนในตลาดหุ้นไทย จะหันมาซื้อขายหุ้นทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมด หรือ 100% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นใน ฮ่องกง ที่มีการซื้อขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต เนื่องจากพบว่า ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา มีการซื้อขายหุ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้ว่า การซื้อขายลงทุนผ่านระบบออนไลน์จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์ เองต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
____________________________________
ประมูล 3G เพิ่มมูลค่าธุรกิจมหาศาล
กสทช.มั่นใจ ประมูล 3 จี 16 ตุลาคมนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าธุรกิจไทยมหาศาล
ใน งานเสวนา โอกาสธุรกิจ ชีวิตรูปแบบใหม่ ยุค 3จี พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. มั่นใจว่า การประมูลระบบ 3จี จะเกิดขึ้นใน วันที่ 16 ตุลาคมนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกเลิกการระงับ การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ ตามที่ กสทช. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง
พัน เอก เศรษฐพงค์ บอกด้วยว่า เมื่อประเทศไทยมีการใช้บริการ 3จี แล้ว จะช่วยสร้างมูลค่าอย่างมหาศาลให้กับระบบธุรกิจในทุกภาคส่วน เช่น ระบบการเงิน โดยเฉพาะ ตลาดหลักทรัพย์ของไทย เพราะเมื่อระบบโทรคมนาคมได้รับการพัฒนาจนพร้อมใช้งานแล้ว จะมีการใช้บริการด้านการเงินบนอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดต้นทุนด้านการเงิน อาทิ ตู้ ATM ของสถาบันการเงินต่างๆ
ทั้งนี้ มองว่า ใน 4 – 6 ปี ข้างหน้า นักลงทุนในตลาดหุ้นไทย จะหันมาซื้อขายหุ้นทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมด หรือ 100% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นใน ฮ่องกง ที่มีการซื้อขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต เนื่องจากพบว่า ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา มีการซื้อขายหุ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้ว่า การซื้อขายลงทุนผ่านระบบออนไลน์จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์ เองต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
นอก จากนี้ ยังเห็นว่า การพัฒนาโทรคมนาคม ผ่านการให้บริการ 3จี จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมโทรคมในอีก 15 ปี ข้างหน้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พันเอก เศรษฐพงศ์ บอกต่อว่า ขณะนี้ มีบริษัทรับซองประมูลแล้ว 17 ราย โดยกลุ่มบริษัทที่ขอรับซองมากที่สุด คือ กลุ่ม AIS และ บมจ. ทรู คอปอเรชั่น ที่ยืนขอรับซองมาอย่างละ 3 บริษัท ส่วน DTAC ยืนขอรับซอง 2 บริษัท ซึ่ง กทค. จะปิดยืนขอรับซองประมูลในพรุ่งนี้ และจะประกาศจำนวนบริษัทที่ผานเกณฑ์ในวันที่ 9 ตุลาคม ก่อนที่จะมีการซ้อมใหญ่การประมูล ในวันที่ 12 - 13 ตุลาคม
บริษัทหลัก ทรัพย์เกียรตินาคิน เลือกให้ DTAC เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น DTAC โดยมองว่า ราคาหุ้นสะท้อนมูลค่ารวม 3G น้อยที่สุด DTAC จะได้ประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนบนใบอนุญาตใหม่ 23% มากกว่า ADVANC และ TRUE และคาดว่ามีโอกาสจ่ายเงินปันผลงวดไตรมาส 3 ของปีนี้ที่หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 1% โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมรวมหลังการประมูลระบบ 3G ของ DTAC ที่ 105 บาท // ADVANC ที่ 185 บาท และ TRUE ที่ 5 บาท 80 สตางค์
moneychannel
http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-32/4137-alotof
_____________________________________
สภาอุตฯ-หอการค้า-สมาคมโทรคมฯหนุน กสทช.ประมูล 3G ช่วยไทยเป็น HUB
นาย พยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดประมูลคลื่นความถี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี 2.1 GHz ในวันที่ 16 ต.ค. ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นี้ ทางสภาอตุสาหกรรมแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทย ต่างสนับสนุนให้เกิดการประมูล โดยมั่นใจว่าจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนในภูมิภาค
ใน ส่วนของภาคธุรกิจเองก็จะได้ประโยชน์มหาศาลที่ตามมาจากการประมูล และหากเกิดเหตุการณ์สำคัญระดับชาติ ยังสามารถหาข้อมูลหรือติดต่อสื่อสารระหว่างนักธุรกิจด้วยกันเพื่อตัดสินใจ กันได้ทันที นอกจากนี้ การทำธุริจ จะสามารถลดต้นทุนต่างๆ ได้จากการส่งเอกสารข้อมูลต่างๆ อ่านอินเตอร์เน็ต จากเดิมที่ต้องเดินทางไปพบกัน
"ภายหลังการประมูลแล้ว ทุกฝ่ายต้องร่วมกันพัฒนาให้คนชนบทสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ในราคาที่ เป็นธรรมและมีราคาถูกได้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่เกิดการล้มประมูลเมื่อปี 53 ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสมาก และคาดหวังว่าการประมูลที่จะถึงจะไม่มีปัญหา"นายพยุงศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้า และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ใน 10 ประเทศอาเซียน เหลือเพียงแค่ไทย กับพม่าเท่านั้น ที่ยังไม่มี 3 จีใช้ ซึ่งสภาหอการค้าฯ มองว่าหลังการประมูล 3จี ในภาคเอกชนจะประโยชน์ ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อออกใบรับรอง หรือข้อมูลมาตรฐานสินค้า และภาคการเกษตรฯ ก็จะเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น
ส่วน นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การล้มประมูล 3จี เมื่อปี 53 อาจทำให้อดกังวลไม่ได้ว่าจะเกิดการล้มประมูลอีกหรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสิ่งที่ประเทศจะได้จาการประมูล คือการพัฒนาประเทศและประโยชน์ที่จะเกิดกับประชาชน เช่น ราคาเครื่องสมาร์ทโฟน อาจมีราคาถูกลง ซึ่งขณะนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ไทยต้องพัฒนาให้เกิดการประมูล เพื่อให้เทียบเท่าสากล และเป็นการประกาศความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี 58
ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ก.ย.กสทช.จะเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ายื่นซองการประมูล พร้อมหนังสือค้ำประกันโดยต้องวางเงินค่าธรรมเนียมคำขอใบอนุญาตการประมูล ในอัตรา 5 แสนบาท รวมถึงวางเช็คค่ามัดจำการประมูลอีก 1,350 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq05/1497937
____________________________________
ภาคเอกชนดันเกิด 3G เต็มที
ภาคเอกชน “สมาคมโทรคมนาคม-สภาหอการค้า-สภาอุตสาหกรรม” ประสานเสียงหนุนให้เกิด 3G เต็มที่ เชื่อมีแต่ดีมากกว่าผลเสีย พร้อมวอนอย่ามีมือมึดมาทำลายการประมูลเหมือนครั้งที่แล้ว
นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ในการประมูลความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (IMT) ย่าน 2.1GHz หรือ 3G ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) จัดขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.นี้ เพื่อเปิดให้ผู้เข้าขอรับใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) เชื่อว่าจะทำให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศไทย เกิดอุปสงค์ อุปทาน ใหม่ และที่สำคัญยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะจะช่วยให้โครงสร้างพื้นฐานไอซีทีมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน และนักลงทุนได้ เนื่องจากการจะเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย โครงสร้างพื้นฐานไอซีทีถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญหากจะเลือกเข้ามาลงทุน
การประมูลในครั้งนี้ยังจะทำให้ผู้ประกอบการทุกรายทั้งรายเก่าที่อยู่ในตลาด และผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่จะเกิดขึ้นในตลาดโทรคมนาคมเริ่มต้นนับ 1 ไปพร้อมๆกัน ในการทำตลาด เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาอาจจะมีความไม่เสมอภาคบ้างก็ตาม ดังนั้นการทำตลาดของผู้ประกอบการหลังการประมูลทุกรายจะแข่งกันแย่งชิงลูกค้า ด้วยการบริการที่ดีที่สุด การตลาดที่ดีที่สุด อาทิ เรื่องของราคาที่จะถูกลง หรือมีการลด แลก แจกแถม เป็นต้น ซึ่งสุดท้ายจะส่งผลให้กับประชาชนที่ได้รับประโยชน์ในที่สุด
ด้าน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาโครง สร้างพื้นฐานระบบโทรคมนาคมขอบประเทศไทยหล่นไปอันดับท้ายๆ ซึ่งสะท้อนถึงขีดความสามารถของประเทศไทย ที่ไม่สามารถทำให้เกิดการประมูล 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz ได้
'ที่ผ่านมาไทยเราเสียจังหวะ แต่ครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะเกิดการประมูล 3G ได้ ซึ่งจะทำให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบทที่ห่างไกล และเข้าถึงความรู้ทัดเทียมกับคนเมืองได้ รวมถึงการพัฒนา การแพทย์และสาธารณะสุข ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยมีความชัดเจนในเรื่องของการก้าวเข้าสู่ เศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี และเป็นศูนย์กลางการค้า ระบบโลจิสติกส์'
อย่างไรก็ตามการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นสิ่งสำคัญมาก การพัฒนาเรื่องการติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ การประมูล 3G ที่กำลังจะเกิดขึ้น มาในช่วงที่เหมาะสม และหวังว่าเราจะไม่สะดุดขาตัวเอง คลื่นความถี่เป็นสมบัติของประชาชน ซึ่งประชาชนควรจะได้ใช้ ขณะเดียวกันเรื่องความเป็นธรรมเกี่ยวกับค่าบริการ ก็น่าจะเป็นธรรมมีความสอดคล้องความต้องการของประชาชน นักธุรกิจ
'เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่เกิดการล้มประมูลเมื่อปี 2553 ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสมาก และคาดหวังว่าการประมูลที่จะเกิดขึ้น 16 ต.ค.นี้ จะไม่มีปัญหาเช่นเดียวกับในอดีต'
ขณะที่ นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยหวังว่า จะเกิดการประมูล 3G ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าว จะมาส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ และการเกิดบริการใหม่ๆ รวมถึงจะทำให้โครงสร้างพื้นฐานของการเข้าการใช้บริการอินเทอร์เน็ตในเขต พื้นที่ชนบท ได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ ที่คล้ายๆ กับการประมูลครั้งก่อนเกิดขึ้น มีการล้มการประมูล ฟ้องร้องกัน ขณะนี้ในประเทศอาเซียน 10 ประเทศ มีแค่ 2 ประเทศ คือ 1.ประเทศไทย 2. พม่า ที่ยังไม่มี โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ใช้
'ทุกคนอยากให้ 3G เกิด และเข้าใจความกังวลของประชาชน โดยการประมูลจะอยู่ในสายตาประชาชน รัฐอาจจะมองในเรื่องของประโยชน์เรื่องเม็ดเงิน แต่ในฐานะสภาหอการค้า เรามองถึงการเข้าถึงการใช้บริการสื่อสารที่เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุดใน ทุกๆ พื้นที่'
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000119020
ประเด็นหลัก
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ภายหลังการประมูลแล้ว ทุกฝ่ายต้องร่วมกันพัฒนาให้คนชนบทสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ในราคาที่ เป็นธรรมและมีราคาถูกได้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่เกิดการล้มประมูลเมื่อปี 53 ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสมาก และคาดหวังว่าการประมูลที่จะถึงจะไม่มีปัญหา"นายพยุงศักดิ์ กล่าว
ส่วน นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสิ่งที่ประเทศจะได้จาการประมูล คือการพัฒนาประเทศและประโยชน์ที่จะเกิดกับประชาชน
พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. มั่นใจว่า มองว่า ใน 4 – 6 ปี ข้างหน้า นักลงทุนในตลาดหุ้นไทย จะหันมาซื้อขายหุ้นทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมด หรือ 100% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นใน ฮ่องกง ที่มีการซื้อขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต เนื่องจากพบว่า ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา มีการซื้อขายหุ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้ว่า การซื้อขายลงทุนผ่านระบบออนไลน์จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์ เองต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
____________________________________
ประมูล 3G เพิ่มมูลค่าธุรกิจมหาศาล
กสทช.มั่นใจ ประมูล 3 จี 16 ตุลาคมนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าธุรกิจไทยมหาศาล
ใน งานเสวนา โอกาสธุรกิจ ชีวิตรูปแบบใหม่ ยุค 3จี พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. มั่นใจว่า การประมูลระบบ 3จี จะเกิดขึ้นใน วันที่ 16 ตุลาคมนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกเลิกการระงับ การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ ตามที่ กสทช. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง
พัน เอก เศรษฐพงค์ บอกด้วยว่า เมื่อประเทศไทยมีการใช้บริการ 3จี แล้ว จะช่วยสร้างมูลค่าอย่างมหาศาลให้กับระบบธุรกิจในทุกภาคส่วน เช่น ระบบการเงิน โดยเฉพาะ ตลาดหลักทรัพย์ของไทย เพราะเมื่อระบบโทรคมนาคมได้รับการพัฒนาจนพร้อมใช้งานแล้ว จะมีการใช้บริการด้านการเงินบนอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดต้นทุนด้านการเงิน อาทิ ตู้ ATM ของสถาบันการเงินต่างๆ
ทั้งนี้ มองว่า ใน 4 – 6 ปี ข้างหน้า นักลงทุนในตลาดหุ้นไทย จะหันมาซื้อขายหุ้นทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมด หรือ 100% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นใน ฮ่องกง ที่มีการซื้อขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต เนื่องจากพบว่า ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา มีการซื้อขายหุ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้ว่า การซื้อขายลงทุนผ่านระบบออนไลน์จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์ เองต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
นอก จากนี้ ยังเห็นว่า การพัฒนาโทรคมนาคม ผ่านการให้บริการ 3จี จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมโทรคมในอีก 15 ปี ข้างหน้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พันเอก เศรษฐพงศ์ บอกต่อว่า ขณะนี้ มีบริษัทรับซองประมูลแล้ว 17 ราย โดยกลุ่มบริษัทที่ขอรับซองมากที่สุด คือ กลุ่ม AIS และ บมจ. ทรู คอปอเรชั่น ที่ยืนขอรับซองมาอย่างละ 3 บริษัท ส่วน DTAC ยืนขอรับซอง 2 บริษัท ซึ่ง กทค. จะปิดยืนขอรับซองประมูลในพรุ่งนี้ และจะประกาศจำนวนบริษัทที่ผานเกณฑ์ในวันที่ 9 ตุลาคม ก่อนที่จะมีการซ้อมใหญ่การประมูล ในวันที่ 12 - 13 ตุลาคม
บริษัทหลัก ทรัพย์เกียรตินาคิน เลือกให้ DTAC เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น DTAC โดยมองว่า ราคาหุ้นสะท้อนมูลค่ารวม 3G น้อยที่สุด DTAC จะได้ประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนบนใบอนุญาตใหม่ 23% มากกว่า ADVANC และ TRUE และคาดว่ามีโอกาสจ่ายเงินปันผลงวดไตรมาส 3 ของปีนี้ที่หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 1% โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมรวมหลังการประมูลระบบ 3G ของ DTAC ที่ 105 บาท // ADVANC ที่ 185 บาท และ TRUE ที่ 5 บาท 80 สตางค์
moneychannel
http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-32/4137-alotof
_____________________________________
สภาอุตฯ-หอการค้า-สมาคมโทรคมฯหนุน กสทช.ประมูล 3G ช่วยไทยเป็น HUB
นาย พยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดประมูลคลื่นความถี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี 2.1 GHz ในวันที่ 16 ต.ค. ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นี้ ทางสภาอตุสาหกรรมแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทย ต่างสนับสนุนให้เกิดการประมูล โดยมั่นใจว่าจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนในภูมิภาค
ใน ส่วนของภาคธุรกิจเองก็จะได้ประโยชน์มหาศาลที่ตามมาจากการประมูล และหากเกิดเหตุการณ์สำคัญระดับชาติ ยังสามารถหาข้อมูลหรือติดต่อสื่อสารระหว่างนักธุรกิจด้วยกันเพื่อตัดสินใจ กันได้ทันที นอกจากนี้ การทำธุริจ จะสามารถลดต้นทุนต่างๆ ได้จากการส่งเอกสารข้อมูลต่างๆ อ่านอินเตอร์เน็ต จากเดิมที่ต้องเดินทางไปพบกัน
"ภายหลังการประมูลแล้ว ทุกฝ่ายต้องร่วมกันพัฒนาให้คนชนบทสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ในราคาที่ เป็นธรรมและมีราคาถูกได้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่เกิดการล้มประมูลเมื่อปี 53 ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสมาก และคาดหวังว่าการประมูลที่จะถึงจะไม่มีปัญหา"นายพยุงศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้า และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ใน 10 ประเทศอาเซียน เหลือเพียงแค่ไทย กับพม่าเท่านั้น ที่ยังไม่มี 3 จีใช้ ซึ่งสภาหอการค้าฯ มองว่าหลังการประมูล 3จี ในภาคเอกชนจะประโยชน์ ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อออกใบรับรอง หรือข้อมูลมาตรฐานสินค้า และภาคการเกษตรฯ ก็จะเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น
ส่วน นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การล้มประมูล 3จี เมื่อปี 53 อาจทำให้อดกังวลไม่ได้ว่าจะเกิดการล้มประมูลอีกหรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสิ่งที่ประเทศจะได้จาการประมูล คือการพัฒนาประเทศและประโยชน์ที่จะเกิดกับประชาชน เช่น ราคาเครื่องสมาร์ทโฟน อาจมีราคาถูกลง ซึ่งขณะนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ไทยต้องพัฒนาให้เกิดการประมูล เพื่อให้เทียบเท่าสากล และเป็นการประกาศความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี 58
ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ก.ย.กสทช.จะเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ายื่นซองการประมูล พร้อมหนังสือค้ำประกันโดยต้องวางเงินค่าธรรมเนียมคำขอใบอนุญาตการประมูล ในอัตรา 5 แสนบาท รวมถึงวางเช็คค่ามัดจำการประมูลอีก 1,350 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq05/1497937
____________________________________
ภาคเอกชนดันเกิด 3G เต็มที
ภาคเอกชน “สมาคมโทรคมนาคม-สภาหอการค้า-สภาอุตสาหกรรม” ประสานเสียงหนุนให้เกิด 3G เต็มที่ เชื่อมีแต่ดีมากกว่าผลเสีย พร้อมวอนอย่ามีมือมึดมาทำลายการประมูลเหมือนครั้งที่แล้ว
นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ในการประมูลความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (IMT) ย่าน 2.1GHz หรือ 3G ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) จัดขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.นี้ เพื่อเปิดให้ผู้เข้าขอรับใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) เชื่อว่าจะทำให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศไทย เกิดอุปสงค์ อุปทาน ใหม่ และที่สำคัญยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะจะช่วยให้โครงสร้างพื้นฐานไอซีทีมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน และนักลงทุนได้ เนื่องจากการจะเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย โครงสร้างพื้นฐานไอซีทีถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญหากจะเลือกเข้ามาลงทุน
การประมูลในครั้งนี้ยังจะทำให้ผู้ประกอบการทุกรายทั้งรายเก่าที่อยู่ในตลาด และผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่จะเกิดขึ้นในตลาดโทรคมนาคมเริ่มต้นนับ 1 ไปพร้อมๆกัน ในการทำตลาด เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาอาจจะมีความไม่เสมอภาคบ้างก็ตาม ดังนั้นการทำตลาดของผู้ประกอบการหลังการประมูลทุกรายจะแข่งกันแย่งชิงลูกค้า ด้วยการบริการที่ดีที่สุด การตลาดที่ดีที่สุด อาทิ เรื่องของราคาที่จะถูกลง หรือมีการลด แลก แจกแถม เป็นต้น ซึ่งสุดท้ายจะส่งผลให้กับประชาชนที่ได้รับประโยชน์ในที่สุด
ด้าน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาโครง สร้างพื้นฐานระบบโทรคมนาคมขอบประเทศไทยหล่นไปอันดับท้ายๆ ซึ่งสะท้อนถึงขีดความสามารถของประเทศไทย ที่ไม่สามารถทำให้เกิดการประมูล 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz ได้
'ที่ผ่านมาไทยเราเสียจังหวะ แต่ครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะเกิดการประมูล 3G ได้ ซึ่งจะทำให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบทที่ห่างไกล และเข้าถึงความรู้ทัดเทียมกับคนเมืองได้ รวมถึงการพัฒนา การแพทย์และสาธารณะสุข ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยมีความชัดเจนในเรื่องของการก้าวเข้าสู่ เศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี และเป็นศูนย์กลางการค้า ระบบโลจิสติกส์'
อย่างไรก็ตามการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นสิ่งสำคัญมาก การพัฒนาเรื่องการติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ การประมูล 3G ที่กำลังจะเกิดขึ้น มาในช่วงที่เหมาะสม และหวังว่าเราจะไม่สะดุดขาตัวเอง คลื่นความถี่เป็นสมบัติของประชาชน ซึ่งประชาชนควรจะได้ใช้ ขณะเดียวกันเรื่องความเป็นธรรมเกี่ยวกับค่าบริการ ก็น่าจะเป็นธรรมมีความสอดคล้องความต้องการของประชาชน นักธุรกิจ
'เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่เกิดการล้มประมูลเมื่อปี 2553 ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสมาก และคาดหวังว่าการประมูลที่จะเกิดขึ้น 16 ต.ค.นี้ จะไม่มีปัญหาเช่นเดียวกับในอดีต'
ขณะที่ นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยหวังว่า จะเกิดการประมูล 3G ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าว จะมาส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ และการเกิดบริการใหม่ๆ รวมถึงจะทำให้โครงสร้างพื้นฐานของการเข้าการใช้บริการอินเทอร์เน็ตในเขต พื้นที่ชนบท ได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ ที่คล้ายๆ กับการประมูลครั้งก่อนเกิดขึ้น มีการล้มการประมูล ฟ้องร้องกัน ขณะนี้ในประเทศอาเซียน 10 ประเทศ มีแค่ 2 ประเทศ คือ 1.ประเทศไทย 2. พม่า ที่ยังไม่มี โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ใช้
'ทุกคนอยากให้ 3G เกิด และเข้าใจความกังวลของประชาชน โดยการประมูลจะอยู่ในสายตาประชาชน รัฐอาจจะมองในเรื่องของประโยชน์เรื่องเม็ดเงิน แต่ในฐานะสภาหอการค้า เรามองถึงการเข้าถึงการใช้บริการสื่อสารที่เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุดใน ทุกๆ พื้นที่'
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000119020
ไม่มีความคิดเห็น: