Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

31 มกราคม 2555 กสทช. เตรียมห้ามโทรพรีเพดตัดเงินก่อน60วัน // พร้อมตรียม ตี-ค่ายมือถือใช้งานเพียงแค่1.05นาทีเก็บเงิน 2 นาทีอ้าง IC

กสทช. เตรียมห้ามโทรพรีเพดตัดเงินก่อน60วัน // พร้อมตรียม ตี-ค่ายมือถือใช้งานเพียงแค่1.05นาทีเก็บเงิน 2 นาทีอ้าง IC


ประเด็นหลัก


"60 วัน คือ เวลาที่เป็นไปได้ที่กสทช.และผู้ให้บริการยอมรับได้ ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับองค์กรผู้บริโภค เพราะ ต้องการให้ไม่มีวันหมดอายุ แต่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้"น.พ.ประวิทย์กล่าว

นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. กล่าวว่า กสทช.ได้ส่งหนังสือเตือนผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือให้จัดเก็บข้อมูลและราย ละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการพรีเพด ตามประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การจัดสรรและบริหารเลขหมายโทรคมนาคมพ.ศ.2551 หลังจากพบว่าไม่มีผู้ให้บริการรายใดดำเนินการตามประกาศ ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายต้องดำเนินการภายใน 30 วัน

ทั้งนี้ หากผู้ให้บริการไม่ปฏิบัติตามกสทช.จะต้องพิจารณากำหนดค่าปรับทางปกครอง ในอัตราไม่น้อยกว่า 2 หมื่นบาทต่อวัน ตามมาตรา 65 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544

นอกจากเรื่องบริการพรี เพดซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ความสนใจแล้ว ทาง กมธ.ยังขอให้ กสทช.เข้มงวดกับการคิดค่าบริการโรมมิ่งต่างประเทศ ที่จะเปิดให้ผู้ใช้บริการพรีเพดโดยอัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้มือถือไม่รู้เรื่อง ส่งผลให้ต้องเสียเงินในบัตรโดยไม่รู้ตัวเวลาเดินทางไปต่างประเทศ และเป็นค่าบริการที่สูงมาก ซึ่งทางกสทช.จะต้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้มากขึ้น

นอก จากนี้ยังมีประเด็นการคิดค่าบริการเป็นวินาที ที่ปัจจุบันผู้ใช้บริการถูกเอาปรียบค่อนข้างมาก เนื่องจากผู้ ให้บริการเรียกเก็บจากผู้ใช้เป็นนาที เช่น คิด 2 นาที แม้จะใช้งานเพียงแค่ 1.05 นาทีโดยอ้างเรื่องการจ่ายค่าเชือ่มโยงโครงข่าย หรือ ไอซี (อินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จ) ทั้งที่การจ่ายค่าไอซีระหว่างผู้ให้บริการนั้นคิดเป็นวินาที ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการได้รับส่วนต่างจากค่าบริการที่เรียกเก็บจากลูกค้าค่อน ข้างมาก




__________________________________________________________

'องค์กรผู้บริโภค' ร้อง กสทช. ปลดล็อกระบบ พรีเพด

สหพันธ์ องค์กรผู้บริโภค ออกแถลงการณ์เรียกร้อง กสทช. บังคับใช้กม.พรีเพดให้เป็นจริง และปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง พิจารณาแบบสัญญาโทรศัพท์มือถือ ปลดล็อกผู้บริโภคโทรศัพท์พรีเพดกว่า 60 ล้านคน

นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เร่งบังคับให้ ข้อ 11 ของประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ซึ่งระบุให้ โทรศัพท์มือถือแบบชำระค่าบริการล่วงหน้า หรือแบบเติมเงิน (พรีเพด) ห้ามกำหนดระยะเวลาการใช้งาน

ยกเว้นได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการ มีผลปฏิบัติจริง และให้ กสทช. เร่งปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองกลาง เพื่อปลดล็อกปัญหาให้กับผู้บริโภคที่ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่า บริการล่วงหน้ากว่า 60 ล้านคนทั่วประเทศ โดยขอให้ กสทช. เร่งพิจารณาแบบสัญญาฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จ พร้อมชี้แจงและกำหนดเวลาที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างชัดเจนภายใน 15 วัน ไม่เช่นนั้น จะดำเนินการฟ้องต่อศาลในฐานะที่ กสทช. ละเมิดคำสั่งศาลปกครอง

ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษาคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่รัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่ กฎหมายกำหนด หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร เนื่องจาก กทช. ในขณะนั้นใช้เวลาในการพิจารณาแบบสัญญาใหม่นานกว่า 3 ปี จนส่งผลให้ผู้ใช้บริการรายหนึ่งฟ้องต่อศาล

เนื่องจากถูกบริษัทกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ถูกระงับบริการและถูกยึดหมายเลขโทรศัพท์ โดยผู้ให้บริการอ้างว่า ได้ปฏิบัติตามสัญญาเดิมของการให้บริการ เนื่องจาก กทช. ยังพิจาณาสัญญาฉบับใหม่ไม่แล้วเสร็จ ศาลปกครองกลางจึงมีคำพิพากษาให้ กทช. ปฏิบัติหน้าที่ กสทช. เร่งพิจารณาแบบสัญญาโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้าของ บริษัทให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน หรือกำหนดแบบสัญญามาตรฐานเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า กสทช. ได้ทำงานจนผ่านระยะเวลาทดลองงานแล้ว ขณะที่ผู้บริโภคที่ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินจำนวนมากกว่า 60 ล้านเลขหมายและเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ยังต้องผจญอยู่กับปัญหา การถูกกำหนดระยะเวลาการใช้บริการ ถูกเร่งรัดให้ต้องใช้บริการ เช่น 10 บาท ใช้งานได้เพียง 1 วัน

ซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับว่า ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบพรีเพดทุกคนต้องจ่ายเงินค่าสื่อสารแม้จะใช้ บริการหรือไม่ก็ตามเป็นเงินอย่างน้อย 10 บาทต่อวันให้กับบริษัทผู้ให้บริการ หากฝ่าฝืนก็จะถูกยึดเงิน ยึดหมายเลขโทรศัพท์ ทั้งที่การกำหนดดังกล่าวเป็นการทำผิดประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 มานานกว่า 6 ปีแล้ว จึงได้มีการออกแถลงการณ์เพื่อทวงถามแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000014062

________________________________________________________________

เรียกร้อง กสทช. ปลดล็อคโทรศัพท์มือถือพรีเพดกว่า 60 ล้านคน



วันนี้(31 มกราคม2555)สหพันธ์องค์กรผู้บริโภคและองค์กรเครือข่ายผู้บริโภค โดยนางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เร่งบังคับให้ ข้อ 11 ของประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ซึ่งระบุให้ โทรศัพท์มือถือแบบชำระค่าบริการล่วงหน้า หรือแบบเติมเงิน ห้ามกำหนดระยะเวลาการใช้งาน ยกเว้นได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการ มีผลปฏิบัติจริง และให้ กสทช. เร่งปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองกลาง เพื่อปลดล็อคปัญหาให้กับผู้บริโภคที่ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่า บริการล่วงหน้ากว่า 60 ล้านคนทั่วประเทศ โดยขอให้ กสทช. เร่งพิจารณาแบบสัญญาฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จ พร้อมชี้แจงและกำหนดเวลาที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างชัดเจนภายใน 15 วัน ไม่เช่นนั้น จะดำเนินการฟ้องต่อศาลในฐานะที่ กสทช. ละเมิดคำสั่งศาลปกครอง


เนื่อง จากเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษาคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่รัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่ กฎหมายกำหนด หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร เนื่องจาก กทช. ในขณะนั้นใช้เวลาในการพิจารณาแบบสัญญาใหม่นานกว่า 3 ปี จนส่งผลให้ผู้ใช้บริการรายหนึ่งฟ้องต่อศาล เนื่องจากถูกบริษัทกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ถูกระงับบริการและถูกยึดหมายเลขโทรศัพท์ โดยผู้ให้บริการอ้างว่า ได้ปฏิบัติตามสัญญาเดิมของการให้บริการ เนื่องจาก กทช. ยังพิจาณาสัญญาฉบับใหม่ไม่แล้วเสร็จ ศาลปกครองกลางจึงมีคำพิพากษาให้ กทช. ปฏิบัติหน้าที่ กสทช. เร่งพิจารณาแบบสัญญาโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้าของ บริษัทให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน หรือกำหนดแบบสัญญามาตรฐานเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค


แถลงการณ์ยัง ระบุด้วยว่า กสทช. ได้ทำงานจนผ่านระยะเวลาทดลองงานแล้ว ขณะที่ผู้บริโภคที่ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินจำนวนมากกว่า 60 ล้านเลขหมายและเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ยังต้องผจญอยู่กับปัญหา การถูกกำหนดระยะเวลาการใช้บริการ ถูกเร่งรัดให้ต้องใช้บริการ เช่น 10 บาท ใช้งานได้เพียง 1 วัน ซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับว่า ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบพรีเพดทุกคนต้องจ่ายเงินค่าสื่อสาร แม้จะใช้บริการหรือไม่ก็ตามเป็นเงินอย่างน้อย 10 บาทต่อวันให้กับบริษัทผู้ให้บริการ หากฝ่าฝืนก็จะถูกยึดเงิน ยึดหมายเลขโทรศัพท์ ทั้งที่การกำหนดดังกล่าวเป็นการทำผิดประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 มานานกว่า 6 ปีแล้ว จึงได้มีการออกแถลงการณ์เพื่อทวงถามแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว

มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327999144&grpid=03&catid=03


___________________________________________________________________

เตรียมห้ามโทรพรีเพดตัดเงินก่อน60วัน



กสทช. เล็งขีดเส้นค่ายมือถือ ห้ามตัดเงินพรีเพดก่อน 60 วัน เล็งปรับวันละ 2 หมื่นบาทหากไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้

นพ.ประ วิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. จะเร่งทางสำนักงานให้สรุปเรื่องระยะเวลาในการตัดเงินของผู้ใช้โทรศัพท์ระบบ เติมเงิน หรือ พรีเพด ที่เบื้องต้นเห็นว่าเวลาที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ 60 วัน และจะประกาศเพื่อมีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ จะกำหนดด้วยว่า หากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือไม่ปฏิบัติตามจะต้องเสียค่าปรับวันละเท่าไร ซึ่งจะใช้การคำนวณจากจำนวนเงินของผู้ใช้บริการที่ถูกตัดและจำนวนลูกค้าพรีเพ ดของแต่ละผู้ให้บริการ คาดว่ามีมูลค่าปรับวันละหลายสิบล้านบาท เพื่อกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนและสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ใช้บริการ เพราะปัจจุบันการที่ผู้ให้บริการไม่ยอมคืนเงินนั้น ส่งผลให้มีเงินค้างอยู่ในระบบมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี

"60 วัน คือ เวลาที่เป็นไปได้ที่กสทช.และผู้ให้บริการยอมรับได้ ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับองค์กรผู้บริโภค เพราะ ต้องการให้ไม่มีวันหมดอายุ แต่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้"น.พ.ประวิทย์กล่าว

นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. กล่าวว่า กสทช.ได้ส่งหนังสือเตือนผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือให้จัดเก็บข้อมูลและราย ละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการพรีเพด ตามประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การจัดสรรและบริหารเลขหมายโทรคมนาคมพ.ศ.2551 หลังจากพบว่าไม่มีผู้ให้บริการรายใดดำเนินการตามประกาศ ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายต้องดำเนินการภายใน 30 วัน

ทั้งนี้ หากผู้ให้บริการไม่ปฏิบัติตามกสทช.จะต้องพิจารณากำหนดค่าปรับทางปกครอง ในอัตราไม่น้อยกว่า 2 หมื่นบาทต่อวัน ตามมาตรา 65 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544

นอกจากเรื่องบริการพรี เพดซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ความสนใจแล้ว ทาง กมธ.ยังขอให้ กสทช.เข้มงวดกับการคิดค่าบริการโรมมิ่งต่างประเทศ ที่จะเปิดให้ผู้ใช้บริการพรีเพดโดยอัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้มือถือไม่รู้เรื่อง ส่งผลให้ต้องเสียเงินในบัตรโดยไม่รู้ตัวเวลาเดินทางไปต่างประเทศ และเป็นค่าบริการที่สูงมาก ซึ่งทางกสทช.จะต้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้มากขึ้น

นอก จากนี้ยังมีประเด็นการคิดค่าบริการเป็นวินาที ที่ปัจจุบันผู้ใช้บริการถูกเอาปรียบค่อนข้างมาก เนื่องจากผู้ ให้บริการเรียกเก็บจากผู้ใช้เป็นนาที เช่น คิด 2 นาที แม้จะใช้งานเพียงแค่ 1.05 นาทีโดยอ้างเรื่องการจ่ายค่าเชือ่มโยงโครงข่าย หรือ ไอซี (อินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จ) ทั้งที่การจ่ายค่าไอซีระหว่างผู้ให้บริการนั้นคิดเป็นวินาที ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการได้รับส่วนต่างจากค่าบริการที่เรียกเก็บจากลูกค้าค่อน ข้างมาก

โพสทูเดย์
http://www.posttoday.com/%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E
0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-
%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94/135140/%E0%B
9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%
A1%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%82
%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E
0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%
B8%94%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%
81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9960%E0%B8%A7%E0%B8%B
1%E0%B8%99

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.