Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

1 กุมภาพันธ์ 2556 FREE TV พยายาม เพิ่มราคาโฆษณาอยู่ที่ 12% // ชี้คนยุค 3G จะดู TV และ ดูอีก 2 จอ!!


ประเด็นหลัก

       โดยพบว่าสื่อฟรีทีวีที่หาค่าอินเฟลชันจาก 367 รายการทางฟรีทีวี พบว่าในปี 2556 เฉลี่ยแล้วค่าการปรับขึ้นของราคาโฆษณาอยู่ที่ 8.7% และเมื่อคิดรวมกับฐานผู้ชมเข้ามาแล้ว พบว่ามีการปรับขึ้นของราคาโฆษณาเป็น 12% กล่าวคือ มีการปรับราคาโฆษณาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 8.7% แต่ผลจากฐานผู้ชมที่หายไปทำให้ความเป็นจริงมีการปรับราคาโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 12% ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาทั้งหมดมีการปรับขึ้นของราคาโฆษณาราว 6%



นายพิทยะพันธ์ ศรีแววเนตร ที่ปรึกษาสมาคมเอเยนซี่ฯ ร่วมกับนางสาวกนกกาญจน์ ประจงแสงศรี ผู้อำนวยการสมทบแผนก Strategy&Innovation บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด ได้ร่วมกันวิเคราะห์ถึงเทรนด์ของสื่อโฆษณาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2556 นี้ว่า สาเหตุที่ทำให้ฐานผู้ชมหายไปจากสื่อหลักอย่างฟรีทีวีนั้นเกิดจากระบบการสื่อสารของไทยที่กำลังจะก้าวสู่ 3G แบบเต็มตัว รวมทั้งการเติบโตของสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี มาเป็นสื่อที่สามารถตอบสนองได้แบบทุกที่ทุกเวลามากขึ้น และเครื่องมือสื่อสารรวมถึงสื่ออื่นๆ ทำให้ผู้ชมสามารถเลือกรับชมรายการต่างๆ ผ่านช่องทางอื่นๆ ทดแทนหรือหันไปรับชมรายการต่างๆ ผ่านสื่อทางเลือกอย่างเคเบิลทีวีและแซตเทลไลต์ทีวีแทน เห็นได้จากเทรนด์ของสื่อโฆษณาในปี 2556 ที่พบว่ามีอยู่ 13 ข้อ ได้แก่
     
       1.digitization พบว่าคนไทยที่เข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ตไม่ต่ำกว่า 5 ปีจะให้ความสำคัญต่อสื่อแมสมีเดียลดลง
     
       2. Now-ism ผู้บริโภคต้องการความสะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการใช้งานของสินค้าและบริการหรือข้อมูลข่าวสารต่างๆ มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์ความรวดเร็ว สะดวก และง่ายในการใช้ชีวิตเติบโตสูงขึ้น เช่น โฮมดีลิเวอรี, โฟรเซนฟูด, ร้านสะดวกซื้อ และฟาสต์ฟูด เป็นต้น
     
       3. Online Shopping กระแสการเสิร์ชหาข้อมูลจากโลกดิจิตอลมีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากขึ้น
     




   และ 13. MULTISCREEN ผู้บริโภคใช้เวลากับหน้าจอแต่ละครั้งได้มากกว่า 1 อย่าง เช่น ขณะดูทีวีก็เล่นมือถือไปด้วย จาก 13 เทรนด์ที่เกิดขึ้นล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี สิ่งสำคัญที่นักการตลาดและโฆษณาต้องคำนึงถึง การพัฒนาและหาเครื่องมือที่จะช่วยให้การโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม มีการผสมผสานการใช้สื่อให้เข้าถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป




__________________________________________





ฟรีทีวีโขกโฆษณาเวอร์ ปี 56 สื่อไอที-3G แรง



สมาคมมีเดียเอเยนซีฯ ฟันธงอุตสาหกรรมโฆษณามูลค่า 1.35 แสนล้านบาทปีนี้โตแน่ 10% เชื่อฟรีทีวีโขกโฆษณาเฉลี่ย 12% ดึงเวลาสู่สื่อใหม่แทน ชี้ 13 เทรนด์โฆษณาปี 2556 มี 13 เทรนด์ ล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และการเข้าสู่ระบบ 3G อย่างเต็มตัว
     
       นางวรรณี รัตนพล นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย หรือ MAAT (Madia Agency Association of Thailand) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปี 2556 คาดว่าจะเติบโต 10% คิดเป็นมูลค่า 1.49 แสนล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1.35 แสนล้านบาท
     
       ขณะที่สัดส่วนการใช้สื่อโฆษณาในปีนี้คาดว่าสื่อทีวีจะมีสัดส่วน 52% สื่อโรงภาพยนตร์ 14% สื่อเคเบิลทีวีและแซตเทลไลต์ทีวี 8% ตามมาด้วยสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ นิตยสาร เอาต์ดอร์ อินสโตร์ ทรานซิส และอินเทอร์เน็ต ตามลำดับ ขณะที่สื่ออินเทอร์เน็ตปีนี้มองว่าจะมีสัดส่วนที่ 3% ของภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา
     
       อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางสมาคมฯ ได้มีการกำหนดค่า Inflation (เงินเฟ้อ) หรือค่าการปรับขึ้นราคาของสื่อโฆษณาโดยเฉลี่ยขึ้นมาเพื่อให้สมาชิกใช้ตัวเลขนี้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และเพื่อให้มีเดียเอเยนซีสามารถนำผลการคำนวณค่าอินเฟลชันที่ได้ไปใช้เป็นค่ามาตรฐานในการวางแผนสื่อโฆษณา และกำหนดความคุ้มค่าโฆษณาให้ลูกค้าได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
     
       ฟรีทีวีขึ้นค่าโฆษณา 12%
     
       นายรัฐกร สืบสุข กรรมการ สมาคมฯ และนายณัฐพล เลิศศรีมงคล ผู้จัดการส่วนวิจัยและวิเคราห์ข้อมูลแผนก Strategy&Innovation บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด ร่วมกันกล่าวว่า การหาค่าอินเฟลชันเกิดจากการนำคอสต์อินเฟลชันมาคำนวณร่วมกับคอสต์ เพอร์ เรตติ้ง พอยต์ หรือค่าโฆษณาที่ผันแปรตามจำนวนผู้ชม/ผู้อ่าน ในแต่ละสื่อเพื่อหาค่ามาตรฐานให้แต่ละรายการหรือแต่ละสื่อ
     
       โดยพบว่าสื่อฟรีทีวีที่หาค่าอินเฟลชันจาก 367 รายการทางฟรีทีวี พบว่าในปี 2556 เฉลี่ยแล้วค่าการปรับขึ้นของราคาโฆษณาอยู่ที่ 8.7% และเมื่อคิดรวมกับฐานผู้ชมเข้ามาแล้ว พบว่ามีการปรับขึ้นของราคาโฆษณาเป็น 12% กล่าวคือ มีการปรับราคาโฆษณาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 8.7% แต่ผลจากฐานผู้ชมที่หายไปทำให้ความเป็นจริงมีการปรับราคาโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 12% ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาทั้งหมดมีการปรับขึ้นของราคาโฆษณาราว 6%
     
       13 เทรนด์โฆษณาปี56
     
       นายพิทยะพันธ์ ศรีแววเนตร ที่ปรึกษาสมาคมเอเยนซี่ฯ ร่วมกับนางสาวกนกกาญจน์ ประจงแสงศรี ผู้อำนวยการสมทบแผนก Strategy&Innovation บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด ได้ร่วมกันวิเคราะห์ถึงเทรนด์ของสื่อโฆษณาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2556 นี้ว่า สาเหตุที่ทำให้ฐานผู้ชมหายไปจากสื่อหลักอย่างฟรีทีวีนั้นเกิดจากระบบการสื่อสารของไทยที่กำลังจะก้าวสู่ 3G แบบเต็มตัว รวมทั้งการเติบโตของสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี มาเป็นสื่อที่สามารถตอบสนองได้แบบทุกที่ทุกเวลามากขึ้น และเครื่องมือสื่อสารรวมถึงสื่ออื่นๆ ทำให้ผู้ชมสามารถเลือกรับชมรายการต่างๆ ผ่านช่องทางอื่นๆ ทดแทนหรือหันไปรับชมรายการต่างๆ ผ่านสื่อทางเลือกอย่างเคเบิลทีวีและแซตเทลไลต์ทีวีแทน เห็นได้จากเทรนด์ของสื่อโฆษณาในปี 2556 ที่พบว่ามีอยู่ 13 ข้อ ได้แก่
     
       1.digitization พบว่าคนไทยที่เข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ตไม่ต่ำกว่า 5 ปีจะให้ความสำคัญต่อสื่อแมสมีเดียลดลง
     
       2. Now-ism ผู้บริโภคต้องการความสะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการใช้งานของสินค้าและบริการหรือข้อมูลข่าวสารต่างๆ มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์ความรวดเร็ว สะดวก และง่ายในการใช้ชีวิตเติบโตสูงขึ้น เช่น โฮมดีลิเวอรี, โฟรเซนฟูด, ร้านสะดวกซื้อ และฟาสต์ฟูด เป็นต้น
     
       3. Online Shopping กระแสการเสิร์ชหาข้อมูลจากโลกดิจิตอลมีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากขึ้น
     
       4. More-ism มากกว่าความต้องการด้านความสะดวกรวดเร็วและง่ายต่อการใช้งานแล้ว ทุกอย่างจะต้องมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในเรื่องของความคุ้มค่าและประสบการณ์ต่างๆ จากสินค้าและบริการนั้น
     
       5. Don't Fool Me เป็นเทรนด์ที่พบว่าปัจจุบันคนไทยเชื่อคนแปลกหน้ามากกว่าเพื่อน ทำให้การรีวิวที่เกิดขึ้นตามหน้าเว็บไซต์ และเพจต่างๆ ของสินค้าและบริการที่สนใจมีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากขึ้น
     
       6. I Create I Brand ผู้บริโภคมักจะมีความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแบรนด์ต่างๆ จนสามารถทำให้เกิดหรือดับของสินค้าต่างๆ ได้
     
       7. Mobile Addict โทรศัพท์มือถือจะติดตามตัวไปทุกที่
     
       8. Everywhere Accessibility จะพบว่าปีนี้ Cloud technology จะทำให้เกิดความสะดวกต่อการเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคแบบปัจเจกบุคคลมากขึ้น
     
       9. COMMUNITY กระแสการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และการแชร์ของคนไทยยังมีอยู่สูงในเว็บไซต์เกี่ยวกับสังคมออนไลน์ในปีนี้
     
       10. APPlaycation แอปพลิเคชันจะเข้ามามีบทบาทสูงขึ้น
     
       11. CONTENT WONDER แพลตฟอร์มของเจ้าของสื่อจะมีการปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป เพื่อยังคงดึงฐานผู้ชมให้ยังคงอยู่
     
       12. CONNECT BEYOND HUMAN การเป็นส่วนหนึ่งกับเทคโนโลยี
     
       และ 13. MULTISCREEN ผู้บริโภคใช้เวลากับหน้าจอแต่ละครั้งได้มากกว่า 1 อย่าง เช่น ขณะดูทีวีก็เล่นมือถือไปด้วย จาก 13 เทรนด์ที่เกิดขึ้นล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี สิ่งสำคัญที่นักการตลาดและโฆษณาต้องคำนึงถึง การพัฒนาและหาเครื่องมือที่จะช่วยให้การโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม มีการผสมผสานการใช้สื่อให้เข้าถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000013291&Keyword=3g

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.