18 มีนาคม 2556 ล็อกซเล่ย์(เจ้าพ่อติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคม) ลุยงานติดตั้งโครงข่ายDigital TVเพิ่มอีก (รอประกวดราคาอีกเป็นจำนวนมาก)
ประเด็นหลัก
นายธงชัย ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์เปิดเผยว่า ปีนี้สัดส่วนรายได้จากสายงานโครงการ ประกอบด้วยกลุ่มไอซีทีและโทรคมนาคม กลุ่มธุรกิจงานโครงการ และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีจะสร้างรายได้หลัก สัดส่วนราว 70% ที่เหลือเป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจการค้าและบริการ โดยปีนี้มีการรับรู้รายได้จากโครงการปีที่แล้ว มูลค่า 8,000 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอผลประกวดราคาอีก 28,000 ล้านบาท มาจากกลุ่มไอซีที 16,500 ล้านบาท เป็นโครงการในพม่าที่ร่วมกับบริษัท แอดวานซ์ อินฟอร์ฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (เอไอที) ติดตั้งเคเบิลใต้น้ำ มูลค่า 9,000 ล้านบาท และบริหารจัดการระบบขึ้นลงสนามบินในเมืองย่างกุ้ง และโรงไฟฟ้าพลังงานลม
ส่วนการติดตั้งโครงข่าย ทีโอที 3G เฟส 2 จำนวน 10,000 สถานีฐาน มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท บริษัทยังคงร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มสามารถในนามกิจการร่วมค้าเอสแอล คอนซัลเตียมเช่นเดิม และยังทำตลาดบริการบนโครงข่ายเสมือน (MVNO) ภายใต้แบรนด์ i-kool ต่อเนื่อง แต่เป็นการทำสัญญาในฐานะคู่ค้ารายย่อย รวมถึงทำซิมร่วมกับสายการบินแอร์เอเชียภายใต้แบรนด์ "TuneTalk"
สำหรับการเปิดประมูลช่องทีวีดิจิทัลของ กสทช.ในปลายปีนี้ แม้ล็อกซเล่ย์จะไม่เข้าประมูลช่องรายการ แต่การประมูลสร้างโอกาสธุรกิจให้บริษัทในฐานะผู้รับเหมาติดตั้งโครงข่ายทีวีดิจิทัลจากผู้ได้รับใบอนุญาตที่ต้องเร่งขยายโครงข่ายตามเงื่อนไข กสทช. เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบทีวีดิจิทัล และจำนวนผู้ให้บริการช่องรายการที่จะมีมาก ซึ่งในเบื้องต้นแต่ละโครงข่ายต้องใช้เงินลงทุน 2,000-3,000 ล้านบาทโดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 18,000 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 25% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 14,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 526 ล้านบาท แยกเป็นกลุ่มไอซีทีและโทรคมนาคม 12,000 ล้านบาท ธุรกิจการค้า 5,000 ล้านบาท และธุรกิจบริการ 1,000 ล้านบาท
____________________________________
"ล็อกซเล่ย์"เร่งสปีดลุยงานติดตั้งโครงข่าย"โทรคมนาคม-ทีวีดิจิทัล"
นายธงชัย ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์เปิดเผยว่า ปีนี้สัดส่วนรายได้จากสายงานโครงการ ประกอบด้วยกลุ่มไอซีทีและโทรคมนาคม กลุ่มธุรกิจงานโครงการ และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีจะสร้างรายได้หลัก สัดส่วนราว 70% ที่เหลือเป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจการค้าและบริการ โดยปีนี้มีการรับรู้รายได้จากโครงการปีที่แล้ว มูลค่า 8,000 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอผลประกวดราคาอีก 28,000 ล้านบาท มาจากกลุ่มไอซีที 16,500 ล้านบาท เป็นโครงการในพม่าที่ร่วมกับบริษัท แอดวานซ์ อินฟอร์ฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (เอไอที) ติดตั้งเคเบิลใต้น้ำ มูลค่า 9,000 ล้านบาท และบริหารจัดการระบบขึ้นลงสนามบินในเมืองย่างกุ้ง และโรงไฟฟ้าพลังงานลม
ส่วนการติดตั้งโครงข่าย ทีโอที 3G เฟส 2 จำนวน 10,000 สถานีฐาน มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท บริษัทยังคงร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มสามารถในนามกิจการร่วมค้าเอสแอล คอนซัลเตียมเช่นเดิม และยังทำตลาดบริการบนโครงข่ายเสมือน (MVNO) ภายใต้แบรนด์ i-kool ต่อเนื่อง แต่เป็นการทำสัญญาในฐานะคู่ค้ารายย่อย รวมถึงทำซิมร่วมกับสายการบินแอร์เอเชียภายใต้แบรนด์ "TuneTalk"
สำหรับการเปิดประมูลช่องทีวีดิจิทัลของ กสทช.ในปลายปีนี้ แม้ล็อกซเล่ย์จะไม่เข้าประมูลช่องรายการ แต่การประมูลสร้างโอกาสธุรกิจให้บริษัทในฐานะผู้รับเหมาติดตั้งโครงข่ายทีวีดิจิทัลจากผู้ได้รับใบอนุญาตที่ต้องเร่งขยายโครงข่ายตามเงื่อนไข กสทช. เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบทีวีดิจิทัล และจำนวนผู้ให้บริการช่องรายการที่จะมีมาก ซึ่งในเบื้องต้นแต่ละโครงข่ายต้องใช้เงินลงทุน 2,000-3,000 ล้านบาทโดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 18,000 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 25% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 14,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 526 ล้านบาท แยกเป็นกลุ่มไอซีทีและโทรคมนาคม 12,000 ล้านบาท ธุรกิจการค้า 5,000 ล้านบาท และธุรกิจบริการ 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทจะพยายามกระจายความเสี่ยงไปในหลายกลุ่มและขยายไปลงทุนต่างประเทศเพื่อเตรียมพร้อมรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียนปี 2558 โดยตั้งเป้าใน 2-3 ปีรายได้จากธุรกิจ
ต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 20-30% จากปัจจุบัน 10% ซึ่งบริษัทได้เตรียมแผนเพิ่มทุนขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป 165 ล้านหุ้น หรือ 1,000 ล้านบาท เพื่อไปลงทุนในการขยายโครงการใหม่ ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1363585551&grpid=&catid=06&subcatid=0603
ไม่มีความคิดเห็น: