18 มิถุนายน 2556 เริ่มเดือด++ ศึกทีวีดาวเทียมขาช้อปทั้งที่เป็นรายการขายสินค้าโดยตรง และสปอตโฆษณา ..ล่าสุดคาดตัวเลขสูงกว่า 10000 ล้านบาทแล้ว!!!
ประเด็นหลัก
++ทีวีไดเร็คผนึกCTH/JML Direct
เจ้าตลาดธุรกิจโฮมช็อปปิ้ง อย่างบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD มีความเคลื่อนไหวในการดำเนินธุรกิจตลอดเวลา ล่าสุด มีการจับมือกับพันธมิตรถึง 2 รายใหญ่ รายแรก จับมือกับบริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ CTH ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเคเบิลทีวีที่มีเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกันในสัดส่วน 40% และ CTH สัดส่วน 60% ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ในการดำเนินธุรกิจทีวี โฮมช็อปปิ้ง ผ่านโครงข่ายของ CTH ซึ่งดำเนินการออกอากาศเคเบิลทีวีทั่วประเทศไทย ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนชื่อบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการ ถือเป็นหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างการเติบโตด้วยการเพิ่มช่องทางขายทุกช่องทางทั้งของเดิมที่มีอยู่และของใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
++โอช็อปปิ้งขอ500ล้าน
ช่อง โอ ช็อปปิ้ง ของบริษัท จีซีเจ โอ ช็อปปิ้ง จำกัด ที่ร่วมทุนกันระหว่างบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซีเจ โอ ช้อปปิ้ง จำกัด บริษัทโฮม ช้อปปิ้งฯ อันดับ 1 ของประเทศเกาหลีใต้ อาจจะไม่ใช่น้องใหม่ล่าสุด เพราะเข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ก็นับว่าเป็นน้องใหม่ที่มีกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการใช้กลยุทธ์การตลาดที่เน้นการบริการที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น เช่น การส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศ รวมถึงการรับสินค้าก่อนการชำระเงิน นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมการตลาด เช่น การแจกทองคำ การให้ส่วนลดเป็นเครดิตสำหรับการซื้อสินค้าครั้งต่อไป เป็นต้น ล้วนแต่เป็นลูกเล่นทางการตลาดเพื่อหวังสร้างขอดขาย ไม่รวมถึงมีแผนการขยายฐานช่องทางการออกอากาศให้ครอบคลุมเคเบิลทีวีทั่วประเทศ นอกเหนือจากทีวีดาวเทียมที่ปัจจุบันออกอากาศทางช่องหมายเลข 0 ทางกล่อง GMM Z , ช่อง 127 ทางจานดาวเทียม PSI , ช่อง 33 ทางจานดาวเทียม PSI OK ช่อง 30 ทางจานดาวเทียม DTV เป็นต้น
++"ช้อป ชาแนล"5ปีขึ้นที่1
ช้อป ชาแนล ของบริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นน้องใหม่ล่าสุดในวงการโฮมช็อปปิ้ง ที่เกิดจากการรวมตัวกันของบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่นฯ ยักษ์ใหญ่ทีวีช็อปปิ้งญี่ปุ่น บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ที่มองเห็นโอกาสทางการตลาด เปิดตัวสถานี ช้อป ชาแนล ผ่านช่องสัญญาณดาวเทียม พีเอสไอ ช่อง 62 ในระบบซี-แบนด์ ออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง เน้นสินค้าคุณภาพชั้นนำจากญี่ปุ่น สินค้าพิเศษของไทย และจากทั่วโลก ซึ่งจะชูจุดเด่นของ ช้อป ชาแนล ที่เน้นจัดรายการสดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตอบโต้ได้ในรายการ ซึ่งบริษัทคาดว่าปีแรกจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 3 พันล้านบาท ภายใน 5 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งรายที่ประกาศจะขึ้นเป็นที่ 1 ในธุรกิจโฮม ช็อปปิ้งของประเทศไทยแทนที่ทีวีไดเร็คที่เป็นเจ้าตลาดในปัจจุบัน โดยกลยุทธ์สำคัญที่จะนำมาใช้ คือการสร้างความน่าเชื่อถือ ความจริงใจ และสินค้าคุณภาพให้กับผู้บริโภคยอมรับ ซึ่งบริษัทเตรียมแผนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนสิงหาคมนี้
+++1577 ชูกลยุทธ์เพิ่มสินค้า
ด้าน 1577 ของบริษัท พรอพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี่ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจในรูปแบบการซื้อสินค้าออนไลน์และโฮมช็อปปิ้ง ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มขอช็อปสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าว ในปีนี้ก็เน้นการทำตลาดด้วยกลยุทธ์ การคัดสรรสินค้าที่ดีมีคุณภาพมากขึ้น และสินค้าที่ตรงความต้องการของลูกค้า จากผลการสำรวจความเห็นจากลูกค้า ซึ่งเตรียมสินค้าใหม่กว่า 100 รายการ เพิ่มจากเดิมที่มีอยู่แล้วกว่า 100 รายการ โดยเฉพาะสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาระบบการชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า พร้อมกับใช้งบประมาณเกือบ 400 ล้านบาทในการทำการตลาดครบวงจร และยังมีแผนที่จะร่วมทุนกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศในการรุกตลาดโฮมช็อปปิ้งในไทยด้วย
ในส่วนของรายการแนะนำสินค้าทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ก็จะเพิ่มขึ้นอีก 20 รายการจากเดิมที่มี 10 รายการ ในจำนวน 5-6 ช่องรายการ พร้อมให้ความสำคัญกับช่องทางขายผ่านเว็บไซต์ คือ www.lanlabuy.com รวมถึงโซเชียลเน็ตเวิร์ก อย่าง Facebook ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าสิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.4-1.5 พันล้านบาท เติบโต 35% และภายในปี 2557 นี้จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโฮม ช็อปปิ้งด้วยรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.5 พันล้านบาทได้
______________________________________
หน้าเก่า-เจ้าใหม่ทีวีดาวเทียม เปิดศึก
การเติบโตของธุรกิจทีวีดาวเทียมช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับในปีนี้จะมีการเปิดประมูลทีวีดิจิตอลสาธารณะไม่ได้ส่งผลโดยตรงเฉพาะธุรกิจโทรทัศน์และสื่อโฆษณาเท่านั้น แต่ยังส่งผลบวกที่ทำให้เกิดช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่เรียกว่า โฮมช็อปปิ้ง ทั้งที่เป็นรายการขายสินค้าโดยตรง และสปอตโฆษณา
โดยประเมินกันว่ามูลค่าตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง เฉพาะในปีนี้ตัวเลขน่าจะสูงถึงหมื่นล้านบาทเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าทางการตลาดประมาณ 5 พันล้านบาทเท่านั้น สาเหตุสำคัญคือการเข้ามาทำตลาดของผู้เล่นหน้าใหม่มากขึ้น ขณะที่รายเดิมก็ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องด้วย ดังนั้น ภาวะการแข่งขันในปีนี้จึงรุนแรงตามมาด้วย เพราะผู้ประกอบการแต่ละรายต่างก็ต้องช่วงชิงเค้กก้อนใหญ่ก้อนนี้ ซึ่งแต่ละค่ายต่างก็งัดกลยุทธ์มาทำตลาดกันอย่างดุเดือด
++ทีวีไดเร็คผนึกCTH/JML Direct
เจ้าตลาดธุรกิจโฮมช็อปปิ้ง อย่างบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD มีความเคลื่อนไหวในการดำเนินธุรกิจตลอดเวลา ล่าสุด มีการจับมือกับพันธมิตรถึง 2 รายใหญ่ รายแรก จับมือกับบริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ CTH ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเคเบิลทีวีที่มีเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกันในสัดส่วน 40% และ CTH สัดส่วน 60% ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ในการดำเนินธุรกิจทีวี โฮมช็อปปิ้ง ผ่านโครงข่ายของ CTH ซึ่งดำเนินการออกอากาศเคเบิลทีวีทั่วประเทศไทย ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนชื่อบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการ ถือเป็นหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างการเติบโตด้วยการเพิ่มช่องทางขายทุกช่องทางทั้งของเดิมที่มีอยู่และของใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
ส่วนรายที่ 2 เป็นการร่วมทุนกับ JML Direct แห่งประเทศอังกฤษ ผู้นำ 1 ใน 3 ด้านธุรกิจโฮมช็อปปิ้งและค้าปลีกที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Screen to Screen ในการจัดตั้งบริษัท JML Direct (Thailand) ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท เพื่อรองรับธุรกิจค้าปลีกของบริษัทและเป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้า ตลอดจนเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในการนำเสนอต่อผู้บริโภค ระบบ Screen to Screen ดังกล่าวเป็นการสร้างการรับรู้ถึงตัวสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางโทรทัศน์ทั้งระบบฟรีทีวีและเคเบิลทีวีเพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าให้ไปยังช่องทางการจัดจำหน่าย ณ ชั้นวางสินค้าที่บริษัทมีการติดตั้งจอมอนิเตอร์ที่มีการนำเทคนิคต่างๆ กว่า 20 รายการมาใช้ เพื่อทำหน้าที่ให้รายละเอียดสินค้าเสมือนเป็นพนักงานขายที่บอกถึงจุดเด่นของสินค้าแต่ละรายการเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อ ณ จุดขายสินค้านั้นๆ
นอกจากนี้ ทีวีไดเร็คยังเน้นการทำธุรกิจผ่านช่องทางการตลาดแบบครบวงจร เพื่อเพิ่มยอดขายในปีนี้ให้เติบโตในอัตรา 20% จากปีก่อนที่มียอดขายกว่า 2.2 พันล้านบาท
++โอช็อปปิ้งขอ500ล้าน
ช่อง โอ ช็อปปิ้ง ของบริษัท จีซีเจ โอ ช็อปปิ้ง จำกัด ที่ร่วมทุนกันระหว่างบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซีเจ โอ ช้อปปิ้ง จำกัด บริษัทโฮม ช้อปปิ้งฯ อันดับ 1 ของประเทศเกาหลีใต้ อาจจะไม่ใช่น้องใหม่ล่าสุด เพราะเข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ก็นับว่าเป็นน้องใหม่ที่มีกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการใช้กลยุทธ์การตลาดที่เน้นการบริการที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น เช่น การส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศ รวมถึงการรับสินค้าก่อนการชำระเงิน นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมการตลาด เช่น การแจกทองคำ การให้ส่วนลดเป็นเครดิตสำหรับการซื้อสินค้าครั้งต่อไป เป็นต้น ล้วนแต่เป็นลูกเล่นทางการตลาดเพื่อหวังสร้างขอดขาย ไม่รวมถึงมีแผนการขยายฐานช่องทางการออกอากาศให้ครอบคลุมเคเบิลทีวีทั่วประเทศ นอกเหนือจากทีวีดาวเทียมที่ปัจจุบันออกอากาศทางช่องหมายเลข 0 ทางกล่อง GMM Z , ช่อง 127 ทางจานดาวเทียม PSI , ช่อง 33 ทางจานดาวเทียม PSI OK ช่อง 30 ทางจานดาวเทียม DTV เป็นต้น
ในปีแรกนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะทำยอดขายให้ได้ 500 ล้านบาท พร้อมกับฐานลูกค้ามากกว่า 1 แสนราย ก่อนที่จะขอขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจโฮมช็อปปิ้ง ภายในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เพราะที่ประเทศเกาหลีใต้ ซีเจ โอช้อปปิ้งทำได้มาแล้ว
++"ช้อป ชาแนล"5ปีขึ้นที่1
ช้อป ชาแนล ของบริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นน้องใหม่ล่าสุดในวงการโฮมช็อปปิ้ง ที่เกิดจากการรวมตัวกันของบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่นฯ ยักษ์ใหญ่ทีวีช็อปปิ้งญี่ปุ่น บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ที่มองเห็นโอกาสทางการตลาด เปิดตัวสถานี ช้อป ชาแนล ผ่านช่องสัญญาณดาวเทียม พีเอสไอ ช่อง 62 ในระบบซี-แบนด์ ออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง เน้นสินค้าคุณภาพชั้นนำจากญี่ปุ่น สินค้าพิเศษของไทย และจากทั่วโลก ซึ่งจะชูจุดเด่นของ ช้อป ชาแนล ที่เน้นจัดรายการสดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตอบโต้ได้ในรายการ ซึ่งบริษัทคาดว่าปีแรกจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 3 พันล้านบาท ภายใน 5 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งรายที่ประกาศจะขึ้นเป็นที่ 1 ในธุรกิจโฮม ช็อปปิ้งของประเทศไทยแทนที่ทีวีไดเร็คที่เป็นเจ้าตลาดในปัจจุบัน โดยกลยุทธ์สำคัญที่จะนำมาใช้ คือการสร้างความน่าเชื่อถือ ความจริงใจ และสินค้าคุณภาพให้กับผู้บริโภคยอมรับ ซึ่งบริษัทเตรียมแผนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนสิงหาคมนี้
+++1577 ชูกลยุทธ์เพิ่มสินค้า
ด้าน 1577 ของบริษัท พรอพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี่ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจในรูปแบบการซื้อสินค้าออนไลน์และโฮมช็อปปิ้ง ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มขอช็อปสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าว ในปีนี้ก็เน้นการทำตลาดด้วยกลยุทธ์ การคัดสรรสินค้าที่ดีมีคุณภาพมากขึ้น และสินค้าที่ตรงความต้องการของลูกค้า จากผลการสำรวจความเห็นจากลูกค้า ซึ่งเตรียมสินค้าใหม่กว่า 100 รายการ เพิ่มจากเดิมที่มีอยู่แล้วกว่า 100 รายการ โดยเฉพาะสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาระบบการชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า พร้อมกับใช้งบประมาณเกือบ 400 ล้านบาทในการทำการตลาดครบวงจร และยังมีแผนที่จะร่วมทุนกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศในการรุกตลาดโฮมช็อปปิ้งในไทยด้วย
ในส่วนของรายการแนะนำสินค้าทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ก็จะเพิ่มขึ้นอีก 20 รายการจากเดิมที่มี 10 รายการ ในจำนวน 5-6 ช่องรายการ พร้อมให้ความสำคัญกับช่องทางขายผ่านเว็บไซต์ คือ www.lanlabuy.com รวมถึงโซเชียลเน็ตเวิร์ก อย่าง Facebook ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าสิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.4-1.5 พันล้านบาท เติบโต 35% และภายในปี 2557 นี้จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโฮม ช็อปปิ้งด้วยรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.5 พันล้านบาทได้
ตลาดโฮมช็อปปิ้งที่เพิ่งผ่านไปเกือบครึ่งปีแรก ก็เห็นว่าตลาดมีการแข่งขันรุนแรงจากผู้ประกอบการรายเดิมที่พยายามรักษาฐานลูกค้าของตนเองไว้ ด้วยการเน้นการบริการและการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและช่องทางการขาย ซึ่งเชื่อว่าสงครามในธุรกิจนี้ยังจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผู้เล่นต่างชาติอีกหลายรายจ่อจะเข้ามาร่วมทุนกับคนไทย ในการบุกตลาดหมื่นล้านบาทนี้ แต่สุดท้ายค่ายไหนจะอยู่ได้คงต้องวัดกันที่ "สินค้าและการบริการ" ว่าจะโดนใจขาช็อปคนไทยมากแค่ไหน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=187105:2013-06-14-04-54-
37&catid=107:2009-02-08-11-34-25&Itemid=456
ไม่มีความคิดเห็น: