Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 กันยายน 2556 LG ส่ง LG G2 สมาร์ทโฟนเรือธงระดับพรีเมียมปีนี้!! ของล็อตแรกที่ได้โควตามา 1 หมื่นเครื่องปรากฏว่ามียอดจองหมดแล้ว ราคาไม่ถึง 2 หมื่นบาทอย่างแน่นอน

ประเด็นหลัก


วันนี้(3ก.ย.)ที่โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ นายอนุพันธ์ ภักดีศุภฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ คือ แอลจี จีทู(LG G2) ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงระดับพรีเมียมของแอลจีในครึ่งปีหลังนี้ โดยมีหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว เทคโนโลยี ฟูล เอชดี ไอพีเอส ที่ให้สีสดสดใสเสมือนจริง มีเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผล ควอลคอมม์ สแน็ปดราก้อน 800  2.26 กิกะเฮิร์ซ และแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh ใช้งานได้นาน พร้อมมีการออกแบบปุ่ม Rear Key อยู่ตรงกลางด้านหลังเครื่อง สามารถใช้นิ้วชี้ปรับเพิ่มลดเสียงการสนทนา เข้าโหมดถ่ายรูป พร้อมมีฟีเจอร์ ช่วยเปิดปิดหน้าจอเพียงแค่เคาะ 2 ครั้งบนหน้าจอเบาๆ รวมถึงมีฟังกชั่นใช้งานแทนรีโมทคอนโทรลกับโทรศัพท์ เซตท๊อป บ๊อกซ์ ฯลฯ



“การเปิดตัวแอลจี จีทูในไทยถือเป็นประเทศแรกในอาเซียน โดยจะเริ่มวางตลาดได้ประมาณปลายเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งของล็อตแรกที่ได้โควตามา 1 หมื่นเครื่องปรากฏว่ามียอดจองหมดแล้ว โดยราคาขายกำลังพิจารณาแต่จะไม่ถึง 2 หมื่นบาทอย่างแน่นอน ซึ่งได้วางงบทำตลาดไว้ที่ 60-70 ล้านบาท โดยบริษัทเตรียมที่จะขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ อาทิ ภาคอีสาน ภาคใต้ ฯลฯ”

______________________________________


“แอลจี” ส่งสมาร์ทโฟน “แอลจี จีทู” ลงตลาดไทย


แอลจี รุกตลาดสมาร์ทโฟนไทย ส่งรุ่นเรือธงใหม่ “แอลจี จีทู” ลงตลาดไทยปลาย ก.ย.นี้ เผยไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่เปิดตัว แย้มราคาไม่ถึง 2 หมื่นบาท


วันนี้(3ก.ย.)ที่โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ นายอนุพันธ์ ภักดีศุภฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ คือ แอลจี จีทู(LG G2) ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงระดับพรีเมียมของแอลจีในครึ่งปีหลังนี้ โดยมีหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว เทคโนโลยี ฟูล เอชดี ไอพีเอส ที่ให้สีสดสดใสเสมือนจริง มีเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผล ควอลคอมม์ สแน็ปดราก้อน 800  2.26 กิกะเฮิร์ซ และแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh ใช้งานได้นาน พร้อมมีการออกแบบปุ่ม Rear Key อยู่ตรงกลางด้านหลังเครื่อง สามารถใช้นิ้วชี้ปรับเพิ่มลดเสียงการสนทนา เข้าโหมดถ่ายรูป พร้อมมีฟีเจอร์ ช่วยเปิดปิดหน้าจอเพียงแค่เคาะ 2 ครั้งบนหน้าจอเบาๆ รวมถึงมีฟังกชั่นใช้งานแทนรีโมทคอนโทรลกับโทรศัพท์ เซตท๊อป บ๊อกซ์ ฯลฯ



“การเปิดตัวแอลจี จีทูในไทยถือเป็นประเทศแรกในอาเซียน โดยจะเริ่มวางตลาดได้ประมาณปลายเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งของล็อตแรกที่ได้โควตามา 1 หมื่นเครื่องปรากฏว่ามียอดจองหมดแล้ว โดยราคาขายกำลังพิจารณาแต่จะไม่ถึง 2 หมื่นบาทอย่างแน่นอน ซึ่งได้วางงบทำตลาดไว้ที่ 60-70 ล้านบาท โดยบริษัทเตรียมที่จะขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ อาทิ ภาคอีสาน ภาคใต้ ฯลฯ”



นายอนุพันธ์ กล่าวต่อว่า แอลจีจะมีการปรับแผนการทำตลาดโทรศัพท์มือถือใหม่ โดยเริ่มนับจากศูนย์ใหม่ ซึ่งที่ผ่านมามีการทำวิจัยแล้วพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่เห็นว่าแอลจีมีผลิตภัณฑ์ที่ดี ดูแลลูกค้าและบริการหลังการขายดี แต่ลูกค้ายังเข้าถึงสินค้าได้ยาก จึงจะปรับเปลี่ยนมาเน้นการขายปลีกมากกว่าการขายส่งแบบในอดีต ด้วยการเข้าไปจับมือกับคู่ค้า ทั้งโอปอเรเตอร์ และร้านขายอุปกรณ์ไอที รวมถึงพวกร้านตู้โทรศัพท์ ด้วยการเข้าไปให้ความรู้และอบรมพนักงานขายให้สามารถให้ข้อมูลและการใช้งานสินค้ากับลูกค้าได้ ซึ่งในปีนี้แอลจี เตรียมที่จะออกสมาร์ทโฟนในระดับพรีเมียมอีกอย่างน้อย 2 รุ่นด้วย


http://www.dailynews.co.th/technology/230602

________________________________________________


“แอลจี” เร่งปรับภายใน ก่อนจับ G2 ลุยสังเวียนสมาร์ทโฟน


       “แอลจี” ขอเริ่มต้นจากศูนย์ตลาดสมาร์ทโฟน ทุ่ม 70 ล้านบาททำตลาด “LG G2” พร้อมเปิดตัวแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังเรียกความมั่นใจผู้บริโภคกลับคืน เร่งปรับการบริหารภายในธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ลั่นขอใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เผยล็อตแรกเข้าสินเดือนกันยายน 1 หมื่นเครื่องไม่พอขาย
     
       นายอนุพันธ์ ภักดีศุภฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือของแอลจีได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารภายในเพื่อรับกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะทยอยวางตลาดในช่วงปลายปีนี้ โดยจะขอเริ่มนับหนึ่งใหม่ในตลาดสมาร์ทโฟนเพื่อให้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้อย่างยั่งยืน
     
       “เสียงตอบรับจากผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมาพบว่าแอลจีมีผลิตภัณฑ์ที่ดี แข็งในแง่การดูแลลูกค้า แต่ยังขาดในแง่การเข้าถึงของผู้บริโภค ทำให้ต้องมีการรื้อรูปแบบการบริหารภายในเพื่อเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ และลืมรูปแบบการทำตลาดเดิมๆ ที่เคยใช้มา”
     
       สิ่งที่แอลจีต้องแก้ไขต่อไปในช่วงที่กำลังรอผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง LG G2 เข้ามาวางจำหน่ายในช่วงสิ้นเดือนกันยายนคือ การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งจะเน้นไปที่ตลาดรีเทลเป็นหลัก รวมกับการร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ในการจัดจำหน่าย ทั้งนี้ก็ยังไม่ทิ้งในส่วนของลูกตู้เนื่องจากยังต้องรักษาฐานในกลุ่มเอนทรีไว้ด้วย
     
       “หลังจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีจะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นสมาร์ทโฟนออกมาวางจำหน่ายอีกอย่างน้อย 2 รุ่น รวมถึงแท็บเล็ตก็พร้อมที่จะทำตลาดภายในปีนี้ด้วย ทำให้แอลจีต้องมีการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายให้ครบทุกจังหวัด อย่างน้อยจังหวัดละ 1-2 ราย”
     
       โดยเหตุผลที่ให้ความสำคัญต่อตลาดต่างจังหวัดมาก เพราะว่าการมาของ 3G ที่ช่วยให้ผู้บริโภคในต่างจังหวัดสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น และมีกำลังซื้อสูง ต่างจากในตลาดกรุงเทพฯ ที่เริ่มอิ่มตัวแล้ว
     
       อย่างไรก็ตาม ในการทำตลาดผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือของแอลจีต่อจากนี้จะเน้นเจาะกลุ่มเฉพาะในแต่ละผลิตภัณฑ์ไปเพื่อให้สามารถใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งในส่วนของ LG G2 วางงบทำตลาดไว้ที่ 60-70 ล้านบาท เพื่อทำตลาดในกลุ่มพรีเมียมสมาร์ทโฟน
     
       “การกำหนดราคาจำหน่ายของ G2 จะอยู่ที่ไม่เกิน 2 หมื่นบาทแน่นอน ซึ่งการที่แอลจีเลือกให้ไทยเป็นประเทศที่เปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ย่อมหมายถึงการที่ให้ความสำคัญต่อตลาดประเทศไทยค่อนข้างสูง โดยเบื้องต้นเครื่องล็อตแรกที่นำเข้ามา 10,000 เครื่องได้ถูกสั่งจองโดยดีลเลอร์ไปทั้งหมดแล้ว ทำให้ต้องรอดูต่อไปว่าจะสามารถนำ G2 เข้ามาในประเทศไทยได้มากแค่ไหน”
     
       ส่วนในแง่ของการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนในช่วงเดือนตุลาคมที่จะดุเดือดมากขึ้น จากการที่หลายๆ แบรนด์เริ่มนำผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์เข้ามาจำหน่ายพร้อมๆ กันนั้น นายอนุพันธ์มองว่า แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ประกอบกับตลาดในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากเรื่องของ 3G ทำให้ไม่เป็นห่วงมากนัก
     
       นอกจากนี้ยังให้เหตุผลที่ทางแอลจีมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์ยกชุด เนื่องมาจากต้องการสร้างความสำเร็จในธุรกิจนี้ให้มากขึ้น จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากภายในเพื่อให้สามารถก้าวข้ามผ่านจุดเปลี่ยนได้ เหมือนเช่นในตลาดโทรทัศน์ที่แอลจีเริ่มต้นจากศูนย์
     
       ทั้งนี้ ทางแอลจี ประเทศไทย ยังไม่มีการตั้งเป้าจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ รวมไปถึงในแง่ของส่วนแบ่งตลาด เนื่องจากมองว่าการเริ่มต้นจากศูนย์ใหม่ในครั้งนี้ เมื่อระยะเวลาผ่านไปส่วนแบ่งตลาดที่ออกมาจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความสำเร็จของแอลจีในตลาดโทรศัพท์มือถือว่าเป็นอย่างไร
     
       สำหรับนายอนุพันธ์ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งในแอลจีเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2556 โดยก่อนหน้านี้เคยทำงานร่วมกับโมโตโรล่า ประเทศไทย ก่อนย้ายเข้าไปร่วมงานกับกลุ่มทรู หลังจากนั้นออกมาให้กำเนิด “ตู้บุญเติม” ซึ่งเป็นตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือของไทย ก่อนจะเข้ามาร่วมงานกับทางแอลจี



http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000110633

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.