Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

17 มิถุนายน 2557 BenQ Thailand เตรียมขนสมาร์ทโฟนลงสนาม ในไตรมาส 3 รองรับการใช้งาน 4G LTE เข้ามา 3-4 รุ่น


ประเด็นหลัก


นายพัทธกร พรศิริธิเวช ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มปรับธุรกิจโดยตัดสินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊กออกไปเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และนำกล้องดิจิทัลเข้ามาทำตลาด แต่จากการแข่งขันที่รุนแรงจึงลดบทบาทลงเหลือแอลซีดีมอนิเตอร์, โปรเจ็กเตอร์ และดิจิทัลไซเนจ แต่ในไตรมาส 3 เตรียมนำสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 4G LTE เข้ามา 3-4 รุ่น แม้แข่งขันรุนแรงไม่แพ้โน้ตบุ๊กแต่มั่นใจว่าแข่งขันได้จากเทคโนโลยีที่มี ความแตกต่างจากคู่แข่ง

______________________________________

"เบ็นคิว"ปรับโฟกัสเลี่ยงดัมพ์ราคา เตรียมขนสมาร์ทโฟนลงสนามด้วย



"เบ็นคิว" เตรียมขนสมาร์ทโฟนบุกตลาดรอบใหม่ ปรับโฟกัสเน้นเฉพาะสินค้าที่มีโอกาสแข่งขันได้ ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท โต 15-20% ดันยอดขาย "จอมอนิเตอร์" ทะลุแสนเครื่อง

นายพัทธกร พรศิริธิเวช ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มปรับธุรกิจโดยตัดสินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊กออกไปเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และนำกล้องดิจิทัลเข้ามาทำตลาด แต่จากการแข่งขันที่รุนแรงจึงลดบทบาทลงเหลือแอลซีดีมอนิเตอร์, โปรเจ็กเตอร์ และดิจิทัลไซเนจ แต่ในไตรมาส 3 เตรียมนำสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 4G LTE เข้ามา 3-4 รุ่น แม้แข่งขันรุนแรงไม่แพ้โน้ตบุ๊กแต่มั่นใจว่าแข่งขันได้จากเทคโนโลยีที่มี ความแตกต่างจากคู่แข่ง

"ตลาดโน้ตบุ๊กแข่งกันหนักมาก ไม่ใช่แค่ในไทย แต่รวมถึงตลาดทั่วโลกทำให้บริษัทแม่ตัดสินใจหยุดการทำตลาดและปรับรูปแบบสินค้าที่จำหน่าย จากที่มีสินค้าหลายชนิด ทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์, เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เป็นต้น"

โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ ที่ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำได้ 700-800 ล้านบาท ประมาณ 15-20% แบ่งเป็นรายได้จากจอมอนิเตอร์ 40%, โปรเจ็กเตอร์ 40% และดิจิทัลไซเนจอีก 20% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เร่งอัดฉีดเงินเข้าระบบ เช่น ในโครงการรับจำนำข้าวของชาวนา และหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ สามารถจัดสรรงบประมาณเพื่อซื้อสินค้าได้ รวมถึงอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคดีขึ้นหลังสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองคลี่คลาย

นายพัทธกร กล่าวว่า ตลาดจอมอนิเตอร์แข่งกันที่เทคโนโลยีเป็นหลัก ไม่ได้เน้นราคาเหมือนในอดีต ผู้บริโภคเริ่มรู้ว่าหน้าจอไม่ได้แค่รับชมควรมีฟังก์ชั่นพิ่มเติม แต่ภาพรวมตลาดไม่โตมากนัก เพราะใช้คู่เดสก์ทอปซึ่งโตไม่เกิน 10% ต่อปี คาดว่าปีนี้ยอดขายจอมอนิเตอร์จะได้ประมาณ 1 แสนเครื่อง เพิ่มจากปีที่แล้วที่ 8 หมื่นเครื่อง มี 20 รุ่น ราคา่ 2,000-30,000 บาท

"เน้นทำตลาดผ่านช่องทางค้าปลีก 500 แห่ง มีคีย์ดีลเลอร์ 50 ราย สินค้าที่จำหน่ายจะเจาะไปในแต่ละประเภทการใช้งาน ใช้งานเบื้องต้น, เกมเมอร์ และหน้าจอถนอมสายตา ตลาดรวมปีนี้คงเพิ่มขึ้น 8-10% เป็น 1.6-1.7 แสนเครื่อง จาก 1.5 แสนเครื่องปีที่แล้ว เบ็นคิวตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ 6% เป็นอันดับ 4 จาก 4.5% ปีที่แล้ว"

ล่าสุดเปิดตัวจอมอนิเตอร์ 3 รุ่น RL2240HE กับ XL2420Z ขนาด 22 และ 24 นิ้วตามลำดับ เจาะเกมเมอร์ มีฟังก์ชั่นพิเศษด้านมุมมองภาพและความถี่ในการกะพริบของจอ ราคาประมาณ 1 หมื่นบาท และ EW2440L หน้าจอ 24 นิ้ว มีเทคโนโลยีถนอมสายตา (Low Blue Light)

สำหรับ "โปรเจ็กเตอร์" ปีนี้จะมียอดขาย 20,000 เครื่อง โตขึ้นเท่าตัว มีส่วนแบ่งการตลาด 20% เป็นอันดับ 2 จากตลาดรวม 1 แสนเครื่อง โต 10% ทั้งนี้ รายได้จากการจำหน่ายสินค้าโปรเจ็กเตอร์จะมาจากโปรเจ็กต์ต่าง ๆ 70% และร้านค้าปลีก 30% ดังนั้นจึงได้อานิสงส์จากภาครัฐกลับมามีงบประมาณใช้จ่ายอีกครั้ง รวมถึงกระแสฟุตบอลโลก



http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1402957416

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.