03 กันยายน 2557 Panasonic เปิดตัวเพื่อทำตลาดแท็บเล็ตกลุ่มลูกค้าองค์กร ประกอบไปด้วย Toughpad FZ-M1 และ Touchpad FZ-M1 Value จำหน่ายในราคา 70,663 บาท และ 44,148 บาท ตามลำดับ
ประเด็นหลัก
ในขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่าน บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของพานาโซนิค อย่าง โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตภายใต้ตระกูล ทัฟบุ๊ก และ ทัฟ แอสเซสเซอรรี่ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าองค์กรธุรกิจในไทยได้มากขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวเพื่อทำตลาดแท็บเล็ตกลุ่มลูกค้าองค์กร ประกอบไปด้วย Toughpad FZ-M1 และ Touchpad FZ-M1 Value โดยทั้ง 2 รุ่น เป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว น้ำหนัก 540 กรัม แตกต่างกันที่หน่วยประมวลผลภายในโดยในรุ่น FZ-M1 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel Core i5 RAM 2 GB SSD 128 GB ส่วนรุ่น FZ-M! Value จะเป็น Intel Celeron RAM 2 GB SSD 128 GB วางจำหน่ายในราคา 70,663 บาท และ 44,148 บาท ตามลำดับ
โดยแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น จะทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมและแอปพลิเคชันเดิมที่มีอยู่ภายในองค์กรธุรกิจ จึงช่วยให้สามารถนำไปใช้งานได้ทันที ในขณะเดียวกันยังมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างการเข้ารหัสและระบบบริหารจัดการตัวเครื่องพร้อมกับระยะเวลารับประกัน 3 ปี
______________________________
“พานาโซนิค” ลุยแท็บเล็ตวินโดวส์พันธุ์อึด จับกลุ่มองค์กรเฉพาะ
“พานาโซนิค” เชื่อตลาดองค์กรธุรกิจหลายแห่งยังมีความต้องการแท็บเล็ตสมบุกสมบัน ออก ToughPad 2 รุ่น ระดับราคา 4.4-7 หมื่นบาท เชื่อเติบโตไม่ต่ำกว่า 250% โดยเฉพาะในกลุ่มสายงานการผลิตที่ต้องการนำแท็บเล็ตไปใช้ในทุกสภาวะ
นายสาทิพย์ กองจันทรา ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท พานาโซนิค ทัฟบุ๊ค เอเชีย แปซิฟิก กรุ๊ป กล่าวว่า ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์ของพานาโซนิคเป็นตลาดเฉพาะ ทำให้บริษัทโฟกัสความร่วมมือไปกับพาร์ตเนอร์รายหลักในท้องตลาดอย่างอินเทล ที่เป็นผู้ผลิตชิปหน่วยประมวลผล และไมโครซอฟท์ ที่ทำระบบปฏิบัติการวินโดวส์เป็นหลัก
“กลุ่มลูกค้าสำคัญของพานาโซนิค คือ องค์กรเอกชนที่มีฐานใหญ่อย่างบริษัทขุดเจาะน้ำมัน ทางการทหาร รวมไปถึงองค์กรเอกชนที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่สมบุกสมบัน ซึ่งอาจจะไม่ใช่ลูกค้าไอทีโดยตรง แต่จะเป็นส่วนเสริมในกลุ่มวิศวกรรมมากกว่า”
ทั้งนี้ คาดว่าในส่วนของผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตของพานาโซนิคในปีนี้จะเติบโตราว 250% จากปีที่ผ่านมา ทำยอดขายได้ราว 1,300 เครื่อง เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่มีคู่แข่งน้อยรายและด้วยการทำตลาดที่เน้นการนำผลิตภัณฑ์เข้าไปให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ โดยในตลาดทั่วโลกแท็บเล็ตของพานาโซนิคมีสัดส่วนราว 40% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่าน บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของพานาโซนิค อย่าง โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตภายใต้ตระกูล ทัฟบุ๊ก และ ทัฟ แอสเซสเซอรรี่ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าองค์กรธุรกิจในไทยได้มากขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวเพื่อทำตลาดแท็บเล็ตกลุ่มลูกค้าองค์กร ประกอบไปด้วย Toughpad FZ-M1 และ Touchpad FZ-M1 Value โดยทั้ง 2 รุ่น เป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว น้ำหนัก 540 กรัม แตกต่างกันที่หน่วยประมวลผลภายในโดยในรุ่น FZ-M1 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel Core i5 RAM 2 GB SSD 128 GB ส่วนรุ่น FZ-M! Value จะเป็น Intel Celeron RAM 2 GB SSD 128 GB วางจำหน่ายในราคา 70,663 บาท และ 44,148 บาท ตามลำดับ
โดยแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น จะทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมและแอปพลิเคชันเดิมที่มีอยู่ภายในองค์กรธุรกิจ จึงช่วยให้สามารถนำไปใช้งานได้ทันที ในขณะเดียวกันยังมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างการเข้ารหัสและระบบบริหารจัดการตัวเครื่องพร้อมกับระยะเวลารับประกัน 3 ปี
ทั้งนี้ ในรุ่น FZ-M1 ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810G และ IP65 ทนต่อการตกกระแทกที่ระดับ 5 ฟุต ขณะที่ในรุ่น FZ-M1 Value จะรองรับแรงกระแทกที่ระดับ 150 เซนติเมตร ทนต่ออุณหภูมิ -10 ถึง 50 องศาเซลเซียส
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000100615
ในขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่าน บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของพานาโซนิค อย่าง โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตภายใต้ตระกูล ทัฟบุ๊ก และ ทัฟ แอสเซสเซอรรี่ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าองค์กรธุรกิจในไทยได้มากขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวเพื่อทำตลาดแท็บเล็ตกลุ่มลูกค้าองค์กร ประกอบไปด้วย Toughpad FZ-M1 และ Touchpad FZ-M1 Value โดยทั้ง 2 รุ่น เป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว น้ำหนัก 540 กรัม แตกต่างกันที่หน่วยประมวลผลภายในโดยในรุ่น FZ-M1 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel Core i5 RAM 2 GB SSD 128 GB ส่วนรุ่น FZ-M! Value จะเป็น Intel Celeron RAM 2 GB SSD 128 GB วางจำหน่ายในราคา 70,663 บาท และ 44,148 บาท ตามลำดับ
โดยแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น จะทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมและแอปพลิเคชันเดิมที่มีอยู่ภายในองค์กรธุรกิจ จึงช่วยให้สามารถนำไปใช้งานได้ทันที ในขณะเดียวกันยังมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างการเข้ารหัสและระบบบริหารจัดการตัวเครื่องพร้อมกับระยะเวลารับประกัน 3 ปี
______________________________
“พานาโซนิค” ลุยแท็บเล็ตวินโดวส์พันธุ์อึด จับกลุ่มองค์กรเฉพาะ
“พานาโซนิค” เชื่อตลาดองค์กรธุรกิจหลายแห่งยังมีความต้องการแท็บเล็ตสมบุกสมบัน ออก ToughPad 2 รุ่น ระดับราคา 4.4-7 หมื่นบาท เชื่อเติบโตไม่ต่ำกว่า 250% โดยเฉพาะในกลุ่มสายงานการผลิตที่ต้องการนำแท็บเล็ตไปใช้ในทุกสภาวะ
นายสาทิพย์ กองจันทรา ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท พานาโซนิค ทัฟบุ๊ค เอเชีย แปซิฟิก กรุ๊ป กล่าวว่า ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์ของพานาโซนิคเป็นตลาดเฉพาะ ทำให้บริษัทโฟกัสความร่วมมือไปกับพาร์ตเนอร์รายหลักในท้องตลาดอย่างอินเทล ที่เป็นผู้ผลิตชิปหน่วยประมวลผล และไมโครซอฟท์ ที่ทำระบบปฏิบัติการวินโดวส์เป็นหลัก
“กลุ่มลูกค้าสำคัญของพานาโซนิค คือ องค์กรเอกชนที่มีฐานใหญ่อย่างบริษัทขุดเจาะน้ำมัน ทางการทหาร รวมไปถึงองค์กรเอกชนที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่สมบุกสมบัน ซึ่งอาจจะไม่ใช่ลูกค้าไอทีโดยตรง แต่จะเป็นส่วนเสริมในกลุ่มวิศวกรรมมากกว่า”
ทั้งนี้ คาดว่าในส่วนของผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตของพานาโซนิคในปีนี้จะเติบโตราว 250% จากปีที่ผ่านมา ทำยอดขายได้ราว 1,300 เครื่อง เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่มีคู่แข่งน้อยรายและด้วยการทำตลาดที่เน้นการนำผลิตภัณฑ์เข้าไปให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ โดยในตลาดทั่วโลกแท็บเล็ตของพานาโซนิคมีสัดส่วนราว 40% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่าน บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของพานาโซนิค อย่าง โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตภายใต้ตระกูล ทัฟบุ๊ก และ ทัฟ แอสเซสเซอรรี่ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าองค์กรธุรกิจในไทยได้มากขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวเพื่อทำตลาดแท็บเล็ตกลุ่มลูกค้าองค์กร ประกอบไปด้วย Toughpad FZ-M1 และ Touchpad FZ-M1 Value โดยทั้ง 2 รุ่น เป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว น้ำหนัก 540 กรัม แตกต่างกันที่หน่วยประมวลผลภายในโดยในรุ่น FZ-M1 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel Core i5 RAM 2 GB SSD 128 GB ส่วนรุ่น FZ-M! Value จะเป็น Intel Celeron RAM 2 GB SSD 128 GB วางจำหน่ายในราคา 70,663 บาท และ 44,148 บาท ตามลำดับ
โดยแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น จะทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมและแอปพลิเคชันเดิมที่มีอยู่ภายในองค์กรธุรกิจ จึงช่วยให้สามารถนำไปใช้งานได้ทันที ในขณะเดียวกันยังมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างการเข้ารหัสและระบบบริหารจัดการตัวเครื่องพร้อมกับระยะเวลารับประกัน 3 ปี
ทั้งนี้ ในรุ่น FZ-M1 ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810G และ IP65 ทนต่อการตกกระแทกที่ระดับ 5 ฟุต ขณะที่ในรุ่น FZ-M1 Value จะรองรับแรงกระแทกที่ระดับ 150 เซนติเมตร ทนต่ออุณหภูมิ -10 ถึง 50 องศาเซลเซียส
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000100615
ไม่มีความคิดเห็น: