05 กันยายน 2557 ประชุม กสทช.ถกปมช่อง 3 อนาล็อกล่ม หลังพ.อ.นที ศุกลรัตน์ และพันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งามสง่า ไม่ได้มาร่วมประชุม มีเพียงนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และพลโทพีระพงษ์ มานะกิจ ที่เดินทางมา
ประเด็นหลัก
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า การประชุมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่ตามกำหนดเดิมได้นัดประชุมในเวลา 16.00 น. วันนี้ (5 ก.ย. 2557) เพื่อพิจารณาปัญหาการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในระบบแอนะล็อก บนโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ไม่สามารถเริ่มการประชุมได้ และทางสำนักงาน กสทช.ได้แจ้งยกเลิกการประชุมในภายหลัง เนื่องจากประธานบอร์ด พ.อ.นที ศุกลรัตน์ และพันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งามสง่า ไม่ได้มาร่วมประชุม มีเพียงนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และพลโทพีระพงษ์ มานะกิจ ที่เดินทางมาประชุม ขณะที่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงที่ไม่สามารถยื่นขอใบอนุญาตเพย์ทีวีได้
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. เปิดเผยว่า หลังจากได้ร่วมหารือกับกรรมการ กสท. อีก 2 ท่านที่มาประชุมได้วันนี้ เห็นพ้องตรงกันว่า จะแถลงจุดยืนว่า กสท.ควรต้องทำหน้าที่เท่าที่ทำได้ คือ การออกคำสั่งทางปกครองให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการนำช่อง 3 แอนะล็อกไปออกอากาศ แต่ยังไม่สามารถได้ข้อสรุปที่ตรงกันว่า ควรจะต้องดำเนินการภายในกี่วัน โดยส่วนตัวเห็นว่าควรดำเนินการภายใน 15 วัน แต่กรรมการอีก 2 ท่านยังไม่ได้ข้อสรุป หลังจากนี้คงต้องไปพิจารณา เพื่อนำเสนอเป็นวาระการประชุมบอร์ด กสท. ในวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.นี้ต่อไป
______________________________
ประชุม กสทช.ถกปมช่อง 3 อนาล็อกล่ม หลัง กก.ไม่ครบ
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ระบุว่า วันนี้ (5 ก.ย.) คณะกรรมการ กสทช.ไม่สามารถประชุมกรณีปัญหาการออกอากาศของช่อง 3 อนาล็อกได้ เนื่องจาก พ.อ.นที สุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) และ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการ กสทช. ไม่เข้าร่วมประชุม จึงต้องรอการประชุมในวันที่ 8 กันยายน อีกครั้ง
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000102153&Keyword=%A1%CA%B7
_____________________________
?กสท.ประชุมวาระพิเศษช่อง 3 ล่มหลังบอร์ดมาไม่ครบ?
ประชุมกสท. วาระพิเศษ วงแตก ไม่มีมติฟันธงช่อง 3 "พ.อ.ดร. นที- พ.ต.อ.ทวีศักดิ์" แจ้งยกเลิกเข้าร่วมกะทันหัน ด้าน “ สุภิญญา ” เสียงแข็งแสดงจุดยืน เดินตามกฎหมาย ส่งหนังสือแจ้งผู้ประกอบการโครงข่ายเคเบิล - ดาวเทียม ห้ามดึงสัญญาณช่อง 3 ออกอากาศ
วันนี้( 5 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) การประชุมวาระพิเศษของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)พิจารณากรณีช่อง 3 ไม่สามารถเกิดได้ เนื่องจากพ.อ.ดร. นทีศุกลรัตน์ ประธาน กสท. และ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการอีก 1 คนแจ้งยกเลิกเข้าร่วมประชุมกะทันหัน มีผู้เข้าร่วมจำนวน 3 คน คือ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ นายธวัชชัย จิตรภาษนันท์ และพลโท พีระพงษ์ มานะกิจซึ่งทั้ง 3 คนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญจึงขอให้ครบองค์ประชุมพิจารณาเพื่อหาทางออกร่วมกันและไม่ให้กระทบประชาชนผู้รับชม
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) กล่าวว่า ส่วนตัวยังแสดงจุดยืน ดำเนินการใช้มาตรการทางปกครองภายใน 15 วันกับผู้ประกอบการโครงข่าย ที่ดึงสัญญาณช่อง 3 อนาล็อกไปออกอากาศ และให้แจ้งผู้รับชมว่าจะไม่สามารถออกอากาศช่อง3 อนาล็อกได้ เนื่องจากขณะนี้ กสท.มีอำนาจเต็มที่ในการดำเนินการเรื่องนี้ ส่วนกรณีที่ช่อง 3อ้างประเด็นคนละนิติบุคคลแล้วไม่ยอมออกอากาศคู่ขนานนั้นเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้นเพราะมีผู้ตัดสินใจคนเดียวกันแม้คนละนิติบุคคล ดังนั้น การที่ช่อง 3 จะให้บริการ 4 ช่องเป็นเรื่องของแผนธุรกิจที่ทำได้แต่ก็ควรต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของกสท. ในฐานะผู้กำกับดูแลด้วย
“กสท.บังคับตามกฎหมาย หากต้องให้เลือกช่อง 3 กับทีวีจิตอลที่ร่วมประมูลกันมาเราจะเลือกทีวีดิจิตอลอยู่แล้ว ช่อง 3 รู้ว่าประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป(มัสต์ แครี่) ที่เมื่อออกอากาศทีวีดิจิตอลภายใน 30 วันจะพ้นจากการเป็นฟรีทีวีอนาล็อกแต่จะครอบคลุมเฉพาะการออกอากาศทีวีดิจิตอลและในขณะเดียวกันไม่ควรให้ผู้บริโภคเดือนร้อน ” น.ส.สุภิญญา กล่าว
ส่วนกรณีที่ช่อง 3 ไม่ยอมออกอากาศคู่ขนานและไม่ดำเนินการขออนุญาตเป็นช่องแบบบอกรับสมาชิก(เพย์ทีวี ) นั้น ช่อง 3 รู้ว่าจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2563 ควรหาทางออกในขณะเดียวกัน กสท.เชิญผู้บริหารมาร่วมหารือก็ไม่มา ส่งแต่ตัวแทนฝ่ายกฎหมายหนังสือชี้แจงแนวทางการแก้ไขก็ไม่มีซึ่งมองว่าช่อง 3 มีทางเลือกแต่ไม่ยอมเลือก อย่าให้ กสท. ต้องเป็นผู้เลือกเพราะต้องเดินตามกฎหมาย ทั้งนี้ช่อง 3 เป็นทุนนิยมอภิสิทธิ์มาตลอดระยะเวลา 40 ปี สุดท้ายต้องปรับตัว
นายธวัชชัย จิตรภาษนันท์ กรรมการ กสท. กล่าวว่า กสท. พร้อมพิจารณาอย่างเร่งด่วนที่จะช่วยแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ให้กับช่อง 3 เพื่อไม่ให้เกิดการปรากฎการณ์จอดำและขณะนี้โครงการแจกคูปองเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ทีวีดิจิตอลเริ่มเดินหน้าแล้วการอ้างเรื่องฐานผู้ชมดิจิตอลที่ยังน้อยอยู่และโครงข่ายยังเข้าไม่ถึงจึงเป็นประเด็นที่ฟังไม่ขึ้น.
http://www.dailynews.co.th/Content/IT/264685/กสท.ประชุมวาระพิเศษช่อง+3+ล่มหลังบอร์ดมาไม่ครบ
________________________________________
ประชุมกสท.ล่ม สุภิญญาแถลงจุดยืนร่วม ธวัชชัย-พีระพงษ์ สั่งปลด "ช่อง 3" จากโครงข่ายทีวีดาวเทียม-เคเบิล
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า การประชุมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่ตามกำหนดเดิมได้นัดประชุมในเวลา 16.00 น. วันนี้ (5 ก.ย. 2557) เพื่อพิจารณาปัญหาการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในระบบแอนะล็อก บนโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ไม่สามารถเริ่มการประชุมได้ และทางสำนักงาน กสทช.ได้แจ้งยกเลิกการประชุมในภายหลัง เนื่องจากประธานบอร์ด พ.อ.นที ศุกลรัตน์ และพันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งามสง่า ไม่ได้มาร่วมประชุม มีเพียงนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และพลโทพีระพงษ์ มานะกิจ ที่เดินทางมาประชุม ขณะที่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงที่ไม่สามารถยื่นขอใบอนุญาตเพย์ทีวีได้
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. เปิดเผยว่า หลังจากได้ร่วมหารือกับกรรมการ กสท. อีก 2 ท่านที่มาประชุมได้วันนี้ เห็นพ้องตรงกันว่า จะแถลงจุดยืนว่า กสท.ควรต้องทำหน้าที่เท่าที่ทำได้ คือ การออกคำสั่งทางปกครองให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการนำช่อง 3 แอนะล็อกไปออกอากาศ แต่ยังไม่สามารถได้ข้อสรุปที่ตรงกันว่า ควรจะต้องดำเนินการภายในกี่วัน โดยส่วนตัวเห็นว่าควรดำเนินการภายใน 15 วัน แต่กรรมการอีก 2 ท่านยังไม่ได้ข้อสรุป หลังจากนี้คงต้องไปพิจารณา เพื่อนำเสนอเป็นวาระการประชุมบอร์ด กสท. ในวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.นี้ต่อไป
ฟากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณีที่ช่อง 3 แอนะล็อกจะไม่ยื่นขอใบอนุญาตเป็นผู้ให้บริการทีวีแบบบอกรับสมาชิก (เพย์ทีวี) เพื่อให้สามารถออกอากาศบนโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีได้ แม้จะสิ้นสุดการเป็นผู้ให้บริการทีวีที่ให้บริการทั่วไปตามมติของ กสท. ตั้งแต่ 1 ก.ย. 2557
โดยแถลงการณ์ของ ไทยทีวีสี ช่อง 3 ระบุดังนี้
1.ช่อง 3 ไปร้องศาลว่ามติ กสท. ในเรื่องห้ามโครงข่ายดาวเทียม และเคเบิล เอาสัญญาณ ช่อง 3 ไปออกอากาศนั้นเป็นมติที่ไม่ชอบ เรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าใครถูกใครผิด ถ้าช่อง 3 ไปขออนุญาตเป็นเพย์ทีวี จะส่งผลให้ช่อง 3 แพ้่คดี
ก่อนที่ศาลจะตัดสินเรื่องนี้ หาก กสท.ด่วนใช้อำนาจบังคับใช้กฎหมาย ทำให้ ช่อง 3 จอดำ ก็ขอให้ทราบว่าเป็นเรื่องที่ กสท.ตัดสินดำเนินการ ทั้ง ๆ ที่มีทางเลือกอื่น เช่น การขยายเวลาบังคับใช้มติ หรือรอคำสั่งศาลปกครอง เป็นต้น
2.แม้ช่อง 3 จะไปขออนุญาตเป็นเพย์ทีวี ตามที่ กสท.แนะนำ เพื่อให้โครงข่ายดาวเทียม และเคเบิลเอาสัญญาณของช่อง 3 ไปออกอากาศได้นั้น เจ้าของลิทธิ์รายการของช่อง 3 จะถือว่าเป็นธุรกิจใหม่ ประเภทเพย์ทีวี จะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ใหม่ และค่าธรรมเนียมใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะมีการดัดแปลง แก้ไขสัญญาณ เนื้อหารายการ หรือโฆษณา หรือไม่ก็ตาม
จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะไปขอใบอนุญาตเป็นเพย์ทีวี
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1409913855
__________________________
กสท.ไม่กล้าฟัน! ช่อง3ดื้อประกาศไม่ออกอากาศคู่ขนาน (ชมคลิป)
บอร์ด กสท. 3 คน พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ แถลงจุดยืนร่วมกัน ชี้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย มั่นใจยังมีโอกาสบรรลุข้อตกลงร่วมกับช่อง 3...
หลังจากมีกำหนดการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ในวันนี้ (5 ก.ย.57) เพื่อสรุปมาตรการแจ้งเตือนโครงข่ายที่นำสัญญาณของช่อง 3 อนาล็อกไปออกอากาศ เนื่องจากช่อง 3 สิ้นสุดการเป็นผู้ให้บริการเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์แครี่ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ บอร์ด กสท. ได้ทวีตข้อความผ่าน @supinya เมื่อเวลาประมาณ 16.15 น. ว่า "ข่าวด่วน การประชุมล่ม เพราะกรรมการไม่ครบ 5 เหลือ 3 คน แต่ กสท. 3 คน จะลงไปแถลงจุดยืนกับสื่อแทน กรณีช่อง 3 เวลา 16.30 น. ห้องสื่อ ชั้น 2 กสทช."
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 16.30 น. ได้มีบอร์ด กสท. 3 คน คือ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการด้านเนื้อหาผังรายการ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการฝ่ายเศรษฐศาสตร์ และนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค ออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่ติดตามผลการประชุม กสท. เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยบอร์ด กสท. ทั้ง 3 คน ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่าการแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของบอร์ดทั้ง 3 คน
นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า เนื่องจากคณะกรรมการไม่ครบองค์ จึงประชุมต่อไม่ได้ แต่คณะกรรมการ 3 คน มีจุดยืนร่วมกัน ว่า กสท. ต้องดำเนินการทางปกครองกับผู้ประกอบการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล จึงเห็นชอบให้เรียกประชุมวันนี้ และเห็นว่า ควรแจ้งเตือนโครงข่ายทีวีดาวเทียม และเคเบิล ที่ให้บริการ ในระยะเวลาที่เหมาะสม ในการแจ้งเตือนผู้ชมเป็นการดำเนินการทางปกครอง
"กสท.มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และช่อง 3 ควรทำตาม โดยออกอากาศคู่ขนาน โดยมาขอใบอนุญาตในโครงข่ายดาวเทียม และปรับลดอัตราค่าโฆษณาลงให้เหลือ 6 นาที จาก 10 นาที ต่อชั่วโมง ในช่องดาวเทียม" กรรมการ ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าว
ด้าน พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า อยากทำความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน คำสั่งที่มีในขณะนี้ไม่ใช่การสั่งไปยังช่อง 3 แต่เป็นการสั่งโครงข่ายทั้งดาวเทียมและเคเบิล เนื่องจาก กสทช. ไม่สามารถสั่งไปยังช่อง 3 ได้ อย่างไรก็ตามอยากให้การดำเนินการต่างๆ อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย แต่แนวทางของ กสทช. อยู่ในฐานะของผู้กำกับดูแล เราไม่ได้มองว่าสื่อมวลชนเป็นศัตรู เรากำลังมองเพื่อหาทางผ่อนปรนและช่วยเหลือ แต่อยากให้เข้าใจว่าการดำเนินการใดๆ ที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของกฎหมายนั้น ก็ไม่ใช่แนวทางของ กสทช. เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ช่อง 3 มีทางเลือกว่าจะออกอากาศแบบคู่ขนานหรือจะไม่ออกอากาศเลย
กก.ด้านเนื้อหาผังรายการ กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์การทำงานใน กสทช. พบว่าการดำเนินการต่างๆ โดยใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดก็มักจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ประกอบการร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนจะถึงวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งจะมีการประชุมบอร์ด กสท. อีกครั้ง ตนเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวอาจมีทางออกได้ หากมีการบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ในที่สุด
ส่วน นายธวัชชัย กล่าวว่า กสท.พยายามร่วมหาทางแก้ไขปัญหา บางท่านมีการเปลี่ยนแปลง เราก็อยากให้มีการประชุมครบ สำหรับการออกคำสั่งเรื่องโครงข่าย หากเร่งหรือใส่ใจเรื่องนี้ โดยมองว่า ช่อง 3 ก็ยังมีทางออก คือ ออกอากาศคู่ขนาน หรือ ขอใบอนุญาตออกช่องดาวเทียมเคเบิลแทน ทั้งนี้ มีแค่ 2 แนวทางนี้ ไม่มีทางออกที่ 3
ขณะที่ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ปธ.กสท. 1 ในกรรมการ กสท.ที่ไม่ได้เข้าประชุมวันนี้ กล่าวว่า สาเหตุที่ตัวเองไม่เข้าประชุมบอร์ด กสท.ในวันนี้ เพราะมองว่าการประชุมครั้งนี้ไม่ถูกต้องตามหลักการณ์ และระเบียบวาระประชุม โดยจะเตรียมชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดในวันที่ 8 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่อง 3 ได้เผยแพร่คำชี้แจง ถึงเหตุผลกรณีไม่ออกอากาศแบบคู่ขนาน จำนวน 3 ข้อ โดยระบุว่า 1. ช่อง 3 โดยบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ไม่ได้เข้าร่วมประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลเนื่องจากติดเงื่อนไขสัญญาสัมปทานเดิม ช่อง 3 จึงไม่มีใบอนุญาตช่องรายการในระบบดิจิตอล 2. บริษัท บีอีซีมัลติมีเดีย จำกัด ซึ่งประมูลได้ช่องทีวีดิจิตอลมา 3 ช่อง ก็ไม่สามารถจะนำ "ช่อง 3 " ไปออกอากาศคู่ขนานได้ เนื่องจากผิดกฎกติกาของ กสทช. เอง ที่กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาต จะต้องดำเนินการด้วยตนเอง
3. ถ้า กสท. จะอนุญาตให้บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด นำรายการของช่อง 3 ไปออกอากาศคู่ขนาน (Pass Through) โดยที่สัญญาณ เนื้อหารายการและโฆษณาของช่อง 3 จะต้องไม่ถูกดัดแปลง แก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น ไม่เช่นนั้น จะก่อให้เกิดปัญหาแก่ช่อง 3 ในเรื่องลิขสิทธิ์รายการ จากเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ และยังมีขั้นตอนที่ทั้ง บีอีซี มัลติมีเดีย และบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ ต้องไปดำเนินการระหว่างกันให้ถูกต้อง อีกทั้งยังต้องไปหารือทำความตกลงกับ กสท. ในเรื่องการขออนุญาต ค่าประมูล ค่าสัมปทาน ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามกฎและเป็นธรรมต่อไป.
http://www.thairath.co.th/content/448225
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า การประชุมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่ตามกำหนดเดิมได้นัดประชุมในเวลา 16.00 น. วันนี้ (5 ก.ย. 2557) เพื่อพิจารณาปัญหาการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในระบบแอนะล็อก บนโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ไม่สามารถเริ่มการประชุมได้ และทางสำนักงาน กสทช.ได้แจ้งยกเลิกการประชุมในภายหลัง เนื่องจากประธานบอร์ด พ.อ.นที ศุกลรัตน์ และพันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งามสง่า ไม่ได้มาร่วมประชุม มีเพียงนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และพลโทพีระพงษ์ มานะกิจ ที่เดินทางมาประชุม ขณะที่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงที่ไม่สามารถยื่นขอใบอนุญาตเพย์ทีวีได้
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. เปิดเผยว่า หลังจากได้ร่วมหารือกับกรรมการ กสท. อีก 2 ท่านที่มาประชุมได้วันนี้ เห็นพ้องตรงกันว่า จะแถลงจุดยืนว่า กสท.ควรต้องทำหน้าที่เท่าที่ทำได้ คือ การออกคำสั่งทางปกครองให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการนำช่อง 3 แอนะล็อกไปออกอากาศ แต่ยังไม่สามารถได้ข้อสรุปที่ตรงกันว่า ควรจะต้องดำเนินการภายในกี่วัน โดยส่วนตัวเห็นว่าควรดำเนินการภายใน 15 วัน แต่กรรมการอีก 2 ท่านยังไม่ได้ข้อสรุป หลังจากนี้คงต้องไปพิจารณา เพื่อนำเสนอเป็นวาระการประชุมบอร์ด กสท. ในวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.นี้ต่อไป
______________________________
ประชุม กสทช.ถกปมช่อง 3 อนาล็อกล่ม หลัง กก.ไม่ครบ
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ระบุว่า วันนี้ (5 ก.ย.) คณะกรรมการ กสทช.ไม่สามารถประชุมกรณีปัญหาการออกอากาศของช่อง 3 อนาล็อกได้ เนื่องจาก พ.อ.นที สุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) และ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการ กสทช. ไม่เข้าร่วมประชุม จึงต้องรอการประชุมในวันที่ 8 กันยายน อีกครั้ง
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000102153&Keyword=%A1%CA%B7
_____________________________
?กสท.ประชุมวาระพิเศษช่อง 3 ล่มหลังบอร์ดมาไม่ครบ?
ประชุมกสท. วาระพิเศษ วงแตก ไม่มีมติฟันธงช่อง 3 "พ.อ.ดร. นที- พ.ต.อ.ทวีศักดิ์" แจ้งยกเลิกเข้าร่วมกะทันหัน ด้าน “ สุภิญญา ” เสียงแข็งแสดงจุดยืน เดินตามกฎหมาย ส่งหนังสือแจ้งผู้ประกอบการโครงข่ายเคเบิล - ดาวเทียม ห้ามดึงสัญญาณช่อง 3 ออกอากาศ
วันนี้( 5 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) การประชุมวาระพิเศษของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)พิจารณากรณีช่อง 3 ไม่สามารถเกิดได้ เนื่องจากพ.อ.ดร. นทีศุกลรัตน์ ประธาน กสท. และ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการอีก 1 คนแจ้งยกเลิกเข้าร่วมประชุมกะทันหัน มีผู้เข้าร่วมจำนวน 3 คน คือ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ นายธวัชชัย จิตรภาษนันท์ และพลโท พีระพงษ์ มานะกิจซึ่งทั้ง 3 คนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญจึงขอให้ครบองค์ประชุมพิจารณาเพื่อหาทางออกร่วมกันและไม่ให้กระทบประชาชนผู้รับชม
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) กล่าวว่า ส่วนตัวยังแสดงจุดยืน ดำเนินการใช้มาตรการทางปกครองภายใน 15 วันกับผู้ประกอบการโครงข่าย ที่ดึงสัญญาณช่อง 3 อนาล็อกไปออกอากาศ และให้แจ้งผู้รับชมว่าจะไม่สามารถออกอากาศช่อง3 อนาล็อกได้ เนื่องจากขณะนี้ กสท.มีอำนาจเต็มที่ในการดำเนินการเรื่องนี้ ส่วนกรณีที่ช่อง 3อ้างประเด็นคนละนิติบุคคลแล้วไม่ยอมออกอากาศคู่ขนานนั้นเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้นเพราะมีผู้ตัดสินใจคนเดียวกันแม้คนละนิติบุคคล ดังนั้น การที่ช่อง 3 จะให้บริการ 4 ช่องเป็นเรื่องของแผนธุรกิจที่ทำได้แต่ก็ควรต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของกสท. ในฐานะผู้กำกับดูแลด้วย
“กสท.บังคับตามกฎหมาย หากต้องให้เลือกช่อง 3 กับทีวีจิตอลที่ร่วมประมูลกันมาเราจะเลือกทีวีดิจิตอลอยู่แล้ว ช่อง 3 รู้ว่าประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป(มัสต์ แครี่) ที่เมื่อออกอากาศทีวีดิจิตอลภายใน 30 วันจะพ้นจากการเป็นฟรีทีวีอนาล็อกแต่จะครอบคลุมเฉพาะการออกอากาศทีวีดิจิตอลและในขณะเดียวกันไม่ควรให้ผู้บริโภคเดือนร้อน ” น.ส.สุภิญญา กล่าว
ส่วนกรณีที่ช่อง 3 ไม่ยอมออกอากาศคู่ขนานและไม่ดำเนินการขออนุญาตเป็นช่องแบบบอกรับสมาชิก(เพย์ทีวี ) นั้น ช่อง 3 รู้ว่าจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2563 ควรหาทางออกในขณะเดียวกัน กสท.เชิญผู้บริหารมาร่วมหารือก็ไม่มา ส่งแต่ตัวแทนฝ่ายกฎหมายหนังสือชี้แจงแนวทางการแก้ไขก็ไม่มีซึ่งมองว่าช่อง 3 มีทางเลือกแต่ไม่ยอมเลือก อย่าให้ กสท. ต้องเป็นผู้เลือกเพราะต้องเดินตามกฎหมาย ทั้งนี้ช่อง 3 เป็นทุนนิยมอภิสิทธิ์มาตลอดระยะเวลา 40 ปี สุดท้ายต้องปรับตัว
นายธวัชชัย จิตรภาษนันท์ กรรมการ กสท. กล่าวว่า กสท. พร้อมพิจารณาอย่างเร่งด่วนที่จะช่วยแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ให้กับช่อง 3 เพื่อไม่ให้เกิดการปรากฎการณ์จอดำและขณะนี้โครงการแจกคูปองเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ทีวีดิจิตอลเริ่มเดินหน้าแล้วการอ้างเรื่องฐานผู้ชมดิจิตอลที่ยังน้อยอยู่และโครงข่ายยังเข้าไม่ถึงจึงเป็นประเด็นที่ฟังไม่ขึ้น.
http://www.dailynews.co.th/Content/IT/264685/กสท.ประชุมวาระพิเศษช่อง+3+ล่มหลังบอร์ดมาไม่ครบ
________________________________________
ประชุมกสท.ล่ม สุภิญญาแถลงจุดยืนร่วม ธวัชชัย-พีระพงษ์ สั่งปลด "ช่อง 3" จากโครงข่ายทีวีดาวเทียม-เคเบิล
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า การประชุมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่ตามกำหนดเดิมได้นัดประชุมในเวลา 16.00 น. วันนี้ (5 ก.ย. 2557) เพื่อพิจารณาปัญหาการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในระบบแอนะล็อก บนโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ไม่สามารถเริ่มการประชุมได้ และทางสำนักงาน กสทช.ได้แจ้งยกเลิกการประชุมในภายหลัง เนื่องจากประธานบอร์ด พ.อ.นที ศุกลรัตน์ และพันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งามสง่า ไม่ได้มาร่วมประชุม มีเพียงนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และพลโทพีระพงษ์ มานะกิจ ที่เดินทางมาประชุม ขณะที่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงที่ไม่สามารถยื่นขอใบอนุญาตเพย์ทีวีได้
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. เปิดเผยว่า หลังจากได้ร่วมหารือกับกรรมการ กสท. อีก 2 ท่านที่มาประชุมได้วันนี้ เห็นพ้องตรงกันว่า จะแถลงจุดยืนว่า กสท.ควรต้องทำหน้าที่เท่าที่ทำได้ คือ การออกคำสั่งทางปกครองให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการนำช่อง 3 แอนะล็อกไปออกอากาศ แต่ยังไม่สามารถได้ข้อสรุปที่ตรงกันว่า ควรจะต้องดำเนินการภายในกี่วัน โดยส่วนตัวเห็นว่าควรดำเนินการภายใน 15 วัน แต่กรรมการอีก 2 ท่านยังไม่ได้ข้อสรุป หลังจากนี้คงต้องไปพิจารณา เพื่อนำเสนอเป็นวาระการประชุมบอร์ด กสท. ในวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.นี้ต่อไป
ฟากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณีที่ช่อง 3 แอนะล็อกจะไม่ยื่นขอใบอนุญาตเป็นผู้ให้บริการทีวีแบบบอกรับสมาชิก (เพย์ทีวี) เพื่อให้สามารถออกอากาศบนโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีได้ แม้จะสิ้นสุดการเป็นผู้ให้บริการทีวีที่ให้บริการทั่วไปตามมติของ กสท. ตั้งแต่ 1 ก.ย. 2557
โดยแถลงการณ์ของ ไทยทีวีสี ช่อง 3 ระบุดังนี้
1.ช่อง 3 ไปร้องศาลว่ามติ กสท. ในเรื่องห้ามโครงข่ายดาวเทียม และเคเบิล เอาสัญญาณ ช่อง 3 ไปออกอากาศนั้นเป็นมติที่ไม่ชอบ เรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าใครถูกใครผิด ถ้าช่อง 3 ไปขออนุญาตเป็นเพย์ทีวี จะส่งผลให้ช่อง 3 แพ้่คดี
ก่อนที่ศาลจะตัดสินเรื่องนี้ หาก กสท.ด่วนใช้อำนาจบังคับใช้กฎหมาย ทำให้ ช่อง 3 จอดำ ก็ขอให้ทราบว่าเป็นเรื่องที่ กสท.ตัดสินดำเนินการ ทั้ง ๆ ที่มีทางเลือกอื่น เช่น การขยายเวลาบังคับใช้มติ หรือรอคำสั่งศาลปกครอง เป็นต้น
2.แม้ช่อง 3 จะไปขออนุญาตเป็นเพย์ทีวี ตามที่ กสท.แนะนำ เพื่อให้โครงข่ายดาวเทียม และเคเบิลเอาสัญญาณของช่อง 3 ไปออกอากาศได้นั้น เจ้าของลิทธิ์รายการของช่อง 3 จะถือว่าเป็นธุรกิจใหม่ ประเภทเพย์ทีวี จะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ใหม่ และค่าธรรมเนียมใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะมีการดัดแปลง แก้ไขสัญญาณ เนื้อหารายการ หรือโฆษณา หรือไม่ก็ตาม
จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะไปขอใบอนุญาตเป็นเพย์ทีวี
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1409913855
__________________________
กสท.ไม่กล้าฟัน! ช่อง3ดื้อประกาศไม่ออกอากาศคู่ขนาน (ชมคลิป)
บอร์ด กสท. 3 คน พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ แถลงจุดยืนร่วมกัน ชี้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย มั่นใจยังมีโอกาสบรรลุข้อตกลงร่วมกับช่อง 3...
หลังจากมีกำหนดการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ในวันนี้ (5 ก.ย.57) เพื่อสรุปมาตรการแจ้งเตือนโครงข่ายที่นำสัญญาณของช่อง 3 อนาล็อกไปออกอากาศ เนื่องจากช่อง 3 สิ้นสุดการเป็นผู้ให้บริการเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์แครี่ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ บอร์ด กสท. ได้ทวีตข้อความผ่าน @supinya เมื่อเวลาประมาณ 16.15 น. ว่า "ข่าวด่วน การประชุมล่ม เพราะกรรมการไม่ครบ 5 เหลือ 3 คน แต่ กสท. 3 คน จะลงไปแถลงจุดยืนกับสื่อแทน กรณีช่อง 3 เวลา 16.30 น. ห้องสื่อ ชั้น 2 กสทช."
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 16.30 น. ได้มีบอร์ด กสท. 3 คน คือ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการด้านเนื้อหาผังรายการ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการฝ่ายเศรษฐศาสตร์ และนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค ออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่ติดตามผลการประชุม กสท. เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยบอร์ด กสท. ทั้ง 3 คน ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่าการแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของบอร์ดทั้ง 3 คน
นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า เนื่องจากคณะกรรมการไม่ครบองค์ จึงประชุมต่อไม่ได้ แต่คณะกรรมการ 3 คน มีจุดยืนร่วมกัน ว่า กสท. ต้องดำเนินการทางปกครองกับผู้ประกอบการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล จึงเห็นชอบให้เรียกประชุมวันนี้ และเห็นว่า ควรแจ้งเตือนโครงข่ายทีวีดาวเทียม และเคเบิล ที่ให้บริการ ในระยะเวลาที่เหมาะสม ในการแจ้งเตือนผู้ชมเป็นการดำเนินการทางปกครอง
"กสท.มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และช่อง 3 ควรทำตาม โดยออกอากาศคู่ขนาน โดยมาขอใบอนุญาตในโครงข่ายดาวเทียม และปรับลดอัตราค่าโฆษณาลงให้เหลือ 6 นาที จาก 10 นาที ต่อชั่วโมง ในช่องดาวเทียม" กรรมการ ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าว
ด้าน พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า อยากทำความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน คำสั่งที่มีในขณะนี้ไม่ใช่การสั่งไปยังช่อง 3 แต่เป็นการสั่งโครงข่ายทั้งดาวเทียมและเคเบิล เนื่องจาก กสทช. ไม่สามารถสั่งไปยังช่อง 3 ได้ อย่างไรก็ตามอยากให้การดำเนินการต่างๆ อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย แต่แนวทางของ กสทช. อยู่ในฐานะของผู้กำกับดูแล เราไม่ได้มองว่าสื่อมวลชนเป็นศัตรู เรากำลังมองเพื่อหาทางผ่อนปรนและช่วยเหลือ แต่อยากให้เข้าใจว่าการดำเนินการใดๆ ที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของกฎหมายนั้น ก็ไม่ใช่แนวทางของ กสทช. เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ช่อง 3 มีทางเลือกว่าจะออกอากาศแบบคู่ขนานหรือจะไม่ออกอากาศเลย
กก.ด้านเนื้อหาผังรายการ กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์การทำงานใน กสทช. พบว่าการดำเนินการต่างๆ โดยใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดก็มักจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ประกอบการร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนจะถึงวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งจะมีการประชุมบอร์ด กสท. อีกครั้ง ตนเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวอาจมีทางออกได้ หากมีการบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ในที่สุด
ส่วน นายธวัชชัย กล่าวว่า กสท.พยายามร่วมหาทางแก้ไขปัญหา บางท่านมีการเปลี่ยนแปลง เราก็อยากให้มีการประชุมครบ สำหรับการออกคำสั่งเรื่องโครงข่าย หากเร่งหรือใส่ใจเรื่องนี้ โดยมองว่า ช่อง 3 ก็ยังมีทางออก คือ ออกอากาศคู่ขนาน หรือ ขอใบอนุญาตออกช่องดาวเทียมเคเบิลแทน ทั้งนี้ มีแค่ 2 แนวทางนี้ ไม่มีทางออกที่ 3
ขณะที่ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ปธ.กสท. 1 ในกรรมการ กสท.ที่ไม่ได้เข้าประชุมวันนี้ กล่าวว่า สาเหตุที่ตัวเองไม่เข้าประชุมบอร์ด กสท.ในวันนี้ เพราะมองว่าการประชุมครั้งนี้ไม่ถูกต้องตามหลักการณ์ และระเบียบวาระประชุม โดยจะเตรียมชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดในวันที่ 8 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่อง 3 ได้เผยแพร่คำชี้แจง ถึงเหตุผลกรณีไม่ออกอากาศแบบคู่ขนาน จำนวน 3 ข้อ โดยระบุว่า 1. ช่อง 3 โดยบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ไม่ได้เข้าร่วมประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลเนื่องจากติดเงื่อนไขสัญญาสัมปทานเดิม ช่อง 3 จึงไม่มีใบอนุญาตช่องรายการในระบบดิจิตอล 2. บริษัท บีอีซีมัลติมีเดีย จำกัด ซึ่งประมูลได้ช่องทีวีดิจิตอลมา 3 ช่อง ก็ไม่สามารถจะนำ "ช่อง 3 " ไปออกอากาศคู่ขนานได้ เนื่องจากผิดกฎกติกาของ กสทช. เอง ที่กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาต จะต้องดำเนินการด้วยตนเอง
3. ถ้า กสท. จะอนุญาตให้บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด นำรายการของช่อง 3 ไปออกอากาศคู่ขนาน (Pass Through) โดยที่สัญญาณ เนื้อหารายการและโฆษณาของช่อง 3 จะต้องไม่ถูกดัดแปลง แก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น ไม่เช่นนั้น จะก่อให้เกิดปัญหาแก่ช่อง 3 ในเรื่องลิขสิทธิ์รายการ จากเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ และยังมีขั้นตอนที่ทั้ง บีอีซี มัลติมีเดีย และบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ ต้องไปดำเนินการระหว่างกันให้ถูกต้อง อีกทั้งยังต้องไปหารือทำความตกลงกับ กสท. ในเรื่องการขออนุญาต ค่าประมูล ค่าสัมปทาน ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามกฎและเป็นธรรมต่อไป.
http://www.thairath.co.th/content/448225
ไม่มีความคิดเห็น: