Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

05 กันยายน 2557 J.I.B. ฝ่ามรสุมไอทีขาลง มองเรื่องการขยับขยายช่องทางขายออนไลน์มากขึ้น คาดว่าจะมียอดขาย 100 ล้านบาท/เดือน มีสัดส่วนประมาณ 20% ของยอดขายรวมที่ทำได้ ประมาณ 500 ล้านบาท/เดือน

ประเด็นหลัก



- มองเรื่องการขยับขยายช่องทางขายใหม่

ยังเน้นช่องทางออนไลน์มากขึ้น เมื่อก่อนเว็บไซต์ของเรามีคนเข้า 1.5 หมื่นไอพี/วัน เป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรกที่เปิดเว็บ เพราะอัพเดตราคาทุกวัน ทำให้คนเข้ามาเพื่อเช็ก ราคาจำนวนมาก ผมจึงใช้ฐานที่มีอยู่ตรงนี้ขยายช่องทางขายผ่านระบบออนไลน์ โดยเพิ่มปุ่ม "ซื้อ" เข้าไป ทำให้คนเริ่มเห็นและสั่งซื้อสินค้าออนไลน์พอสมควร

ที่น่าสนใจก็คือมีคนไม่น้อยที่กล้าซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ในราคาสูง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ดีไอวาย 1 ชุด ราคากว่า 5 หมื่นบาท ก็สั่งซื้อกันไม่น้อย ซึ่งเราส่งฟรีทั่วประเทศภายใน 1 วัน

จากแนวโน้มที่ดีเกินคาด ทำให้เราเตรียมขยายทีมงานเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาระบบให้ดีขึ้น รวมถึงเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์อีกด้วย แต่ยอดขายผ่านออนไลน์เทียบกับหน้าร้านคงยังไม่ได้ แต่คาดว่าในปีหน้าจะมียอดขาย 100 ล้านบาท/เดือน มีสัดส่วนประมาณ 20% ของยอดขายรวมที่ทำได้ ประมาณ 500 ล้านบาท/เดือน ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาลงทะเบียนในระบบออนไลน์ของเราแล้วหลักหมื่นคน

______________________________




J.I.B. ฝ่ามรสุมไอทีขาลง ค้าปลีกสไตล์ลูกทุ่งปั้นยอดขาย 6 พันล้าน



นับเป็นร้านค้าปลีกสินค้าไอทีที่น่าจับตายิ่ง สำหรับ "เจ.ไอ.บี" (มาจาก JIB ชื่อเล่นเจ้าของ) ทั้งในแง่การบุกเบิกธุรกิจเมื่อ 13 ปีก่อน จากร้านเล็ก ๆ ที่ห้างสรรพสินค้าชานเมือง (เซียร์รังสิต) และขยับขยายร้านเพิ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับยอดขายที่ทะยานขึ้นไม่หยุดในยุคบูม ที่ใคร ๆ ก็อยากมีคอมพิวเตอร์ไว้ใช้

จวบจนเข้าสู่ยุคขาลง กระทบกับวงการไอทีทุกระดับ ตั้งแต่ "ผู้ผลิต" แบรนด์ดังยันร้านค้าต่างต้องปรับตัวรับสารพัดปัจจัยลบ ตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ถึงมรสุมการเมืองที่กระทบทั้งเศรษฐกิจและกำลังซื้อ รวมถึงความนิยมสมาร์ทดีไวซ์ที่มาแย่งกำลังซื้อ

"ประชาชาติธุรกิจ" ฉบับนี้ มีโอกาสพูดคุยกับ "สมยศ เชาวลิต" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด หลายแง่มุม

- สภาพตลาดในปัจจุบันกับเมื่อก่อน

ต้องยอมรับว่าตลาดไอทีค่อนข้างตก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่สินค้าไอทีเป็นสิ่งใหม่ ทุกคนมีความต้องการสูง คอมพิวเตอร์ขายดีเป็นว่าเล่น แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว มีสมาร์ทโฟนและแท็บเลตมาแย่งยอดขายไป เพราะราคาที่ถูกกว่าและตอบสนองความต้องการในการใช้งานด้านความบันเทิงได้ครบถ้วน ทำให้คนขายคอมพ์อยู่ยากขึ้นมาก ถ้าให้ไปขายสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลตก็ใช่ว่าจะอยู่รอด เพราะมีผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่คุมตลาดอยู่

- ถ้าเจาะไปที่ภาพรวม เจ.ไอ.บี.

ยอดขายเราก็ตกตามตลาดที่ซบเซา เพราะเราขายคอมพิวเตอร์เป็นหลัก ในปี 2555 รายได้ปิดที่ 6,100 ล้านบาท ปี 2556 เหลือแค่ 5,800 ล้านบาท ขณะที่สภาพตลาดรวมได้รับผลกระทบจากมรสุมการเมือง และตลาดปรับไปนิยมสมาร์ทดีไวซ์เร็วเกินกว่าที่เราจะตามทัน

แต่ยอดขายหดตัวแค่นี้นับว่าดีแล้วเทียบกับคนอื่น เพราะรายเล็กและเจ้าใหญ่บางรายหายไปหลังวิกฤตเลยก็มีเราเองอาศัยช่วงที่ทุกคนแห่ไปขายสมาร์ทดีไวซ์ และมีคู่แข่งบางรายหายไป รักษายอดขายเอาไว้และชูจุดเด่นเรื่องเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบ (ดีไอวาย) ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นคือตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน เราเด่นเรื่องราคาถูกกว่าตลาดมาตลอด ทำให้ร้านแรกที่เซียร์รังสิตฮิตติดลม คนต่างจังหวัดไม่ต้องวิ่งเข้าไปซื้อถึงพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เพราะอะไร เพราะผมยอมขายเท่าทุน หรือขาดทุนในบางครั้ง จนสามารถเปิดสาขาเพิ่มได้

แต่มาในยุคนี้ให้มาแข่งราคาคงไม่ไหว เพราะส่วนต่างกำไรสินค้าไอทีน้อยลงมาก ร้านเราเองที่กระจายสาขาออกไปมาก ก็มีค่าใช้จ่ายทั้งเรื่องคน และค่าเช่าสถานที่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วต้องตัดสินใจปรับราคาสินค้าขึ้น เลิกนโยบายแข่งราคา หันมาแข่งด้านบริการแทน

- มีปิดสาขาด้วย

กลางปีที่แล้วมี 170 สาขาทั่วประเทศ ตอนนี้เหลือแค่ 140 สาขา และต่อไปจะไม่ขยายสาขามาก ๆ เหมือน 3 ปีก่อนที่เปิดเพิ่มปีเดียว 40 สาขา

แต่จะมองแค่ห้างเปิดใหม่ที่มีคนเดินเยอะเท่านั้น เพราะยิ่งเปิดมาก ค่าใช้จ่ายก็มากสาขาที่ปิดไปเป็นสาขาที่ไม่สร้างรายได้ จริงๆ ถ้าไม่ปิดสาขา รายได้รวมปีนี้น่าจะมากกว่าปีที่แล้วเยอะเลย เพราะขนาดปิดไป 30 แห่ง ผ่านมาครึ่งปีแรกของปีนี้ยังมีรายได้รวมถึง 3,000 ล้านบาท แต่ทั้งปีคงไม่ถึงเป้าที่ 6,400 ล้านบาทที่ตั้งไว้ น่าจะจบได้ที่ 6,100 ล้านบาท หรือเท่ากับเมื่อสองปีก่อน

- มองเรื่องการขยับขยายช่องทางขายใหม่

ยังเน้นช่องทางออนไลน์มากขึ้น เมื่อก่อนเว็บไซต์ของเรามีคนเข้า 1.5 หมื่นไอพี/วัน เป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรกที่เปิดเว็บ เพราะอัพเดตราคาทุกวัน ทำให้คนเข้ามาเพื่อเช็ก ราคาจำนวนมาก ผมจึงใช้ฐานที่มีอยู่ตรงนี้ขยายช่องทางขายผ่านระบบออนไลน์ โดยเพิ่มปุ่ม "ซื้อ" เข้าไป ทำให้คนเริ่มเห็นและสั่งซื้อสินค้าออนไลน์พอสมควร

ที่น่าสนใจก็คือมีคนไม่น้อยที่กล้าซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ในราคาสูง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ดีไอวาย 1 ชุด ราคากว่า 5 หมื่นบาท ก็สั่งซื้อกันไม่น้อย ซึ่งเราส่งฟรีทั่วประเทศภายใน 1 วัน

จากแนวโน้มที่ดีเกินคาด ทำให้เราเตรียมขยายทีมงานเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาระบบให้ดีขึ้น รวมถึงเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์อีกด้วย แต่ยอดขายผ่านออนไลน์เทียบกับหน้าร้านคงยังไม่ได้ แต่คาดว่าในปีหน้าจะมียอดขาย 100 ล้านบาท/เดือน มีสัดส่วนประมาณ 20% ของยอดขายรวมที่ทำได้ ประมาณ 500 ล้านบาท/เดือน ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาลงทะเบียนในระบบออนไลน์ของเราแล้วหลักหมื่นคน

- คอมพ์ดีไอวายยังไปได้ดี

ใช่ เพราะพอคู่แข่งไม่เน้นคอมพิวเตอร์รูปแบบนี้ จึงเหลือแค่ผมกับอีกเจ้าที่ทำตลาด ยอดขายทั้งหมดของ เจ.ไอ.บี. มาจากคอมพิวเตอร์ดีไอวายถึง 70% ของรายได้/ปี ส่วนที่เหลือเป็นโน้ตบุ๊ก 20% และอุปกรณ์ไอทีอื่น ๆ ที่สำคัญถึงจำนวนเครื่องที่ขายจะลดลง แต่เมื่อตีเป็นมูลค่าแล้วกลับเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วพอสมควร เพราะเครื่องดีไอวายที่ขายได้ มีมูลค่าเฉลี่ย 20,000 บาทขึ้นไป ผู้บริโภคซื้อไปใช้ในงานเฉพาะทาง เช่น ทำกราฟิก และเล่นเกม ลูกค้าสองกลุ่มนี้ต้องการใช้เครื่องที่สเป็กสูง ๆ ทำให้มูลค่าเครื่องสูงตามไปด้วยและเพื่อวางโพซิชั่นในตลาดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เราจึงร่วมมือกับค่ายเกม และผู้ผลิตอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์หลายราย เพื่อนำเครื่องไปสนับสนุนการแข่งขันเกมออนไลน์ ทำให้ใครที่อยากได้คอมพ์แรง ๆ จะมาที่เรา เพราะมีอุปกรณ์ครอบคลุมทุกแบบ

- แผนขยายธุรกิจใหม่ ๆ

คาดว่าจะเห็นชัดเจนในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ เป็นโปรเจ็กต์คล้ายกับการเปิดแฟรนไชส์ร้านเกม แต่เราจะไม่ได้ขายแฟรนไชส์ แต่ขายเครื่องประกอบให้ผู้ที่สนใจเปิดร้านเกมราคาพิเศษ พร้อมแพ็กเกจประกันสินค้า, การติดต่อค่ายเกมเพื่อขอลิขสิทธิ์, หาระบบจัดการร้าน และตกแต่งภายในให้ด้วย อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะแปะชื่อ เจ.ไอ.บี. หรือทำแค่สติ๊กเกอร์ติดหน้าร้านว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ในร้านทั้งหมดมาจากร้านเรา เพราะถ้าร้านนั้นทำเสียหาย แบรนดิ้งเราก็จะเสีย

ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ก็มี "Jib Jib" เป็นร้านขายอุปกรณ์เสริมสินค้าไอที มี "J.I.B. Mobile" ขายโทรศัพท์มือถือ มีอย่างละ 1 และ 2 สาขาตามลำดับ ซึ่งทั้งหมดจะชะลอการเปิดสาขาเพิ่มเติมไว้ก่อน เพราะตลาดอุปกรณ์เสริมเปลี่ยนเร็วมาก ขณะที่ค้าปลีกโทรศัพท์มือถือก็แข่งขันกันค่อนข้างหนัก

J.I.B. Moblie ตั้งเป้าไว้เมื่อต้นปีว่าจะขยายไป 15 สาขา ซึ่งถ้าทำจริง ๆ ตามนั้นคงแย่แน่ ดังนั้นอุปกรณ์เสริมและโทรศัพท์มือถือจึงจะเข้าไปอยู่ในร้าน เจ.ไอ.บี.บางสาขา เช่น ในสาขาที่มีแค่ร้านเรา หรือสาขาที่มีโอกาสขายทั้งสองสินค้านี้ได้เท่านั้น

- การไปร่วมงานเทรดแฟร์ต่าง ๆ

หลัก ๆ มีแค่ 3 งานคือ คอมมาร์ต 3 ครั้ง/ปี, ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป (TME) 3 ครั้ง/ปี และงานที่เราจัดเองที่เซียร์รังสิต และพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า อีกจุดละ 3 ครั้ง/ปี งานที่เราจัดเองยอดขายค่อนข้างดี เพราะลงเองเต็มที่ และขายในจุดที่คนต้องการมาซื้อสินค้าจริง ๆ ส่วน TME เอาโทรศัพท์มือถือกับโน้ตบุ๊กบางรุ่นไปลง ยอดขายจะสู้คอมมาร์ตไม่ได้ เพราะคอมมาร์ตครั้งล่าสุดที่ไป ทำยอดขายได้ 60 ล้านบาท ถือว่าน่าพอใจ แม้คนจะมาเดินน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่พวกที่มาเดินก็เพื่อมาซื้อ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มาเดินเล่นเยอะ

แต่คงต้องบอกเลยว่าถ้าคอมมาร์ตยังจัดแบบเดิมไม่เวิร์กแน่ ๆ เพราะเน้นขายของมากไป น่าจะมีการโชว์นวัตกรรมมากขึ้น เพราะคนที่ไปงานอยากได้ความรู้ด้วย แต่ไปแล้วไม่ได้ อยากให้ทำเหมือนงานมอเตอร์โชว์น่าจะดีกว่า

- เจ.ไอ.บี.สไตล์เป็นยังไง

ในแง่การขายของถึงจะปรับแค่ไหน ลูกค้าก็ยังมองว่าเรายังลูกทุ่ง คือเดินมาต่อราคา และคุยกับพนักงานได้ง่าย ๆ เมื่อก่อนเป็นไง วันนี้ก็เป็นอย่างนั้น เราจะคงจุดเด่นตรงนี้เอาไว้เช่นกัน แต่เรื่องราคาคงต้องงดไว้ เน้นมาที่การฝึกอบรมพนักงานหน้าร้านที่มี 650 คน จากทั้งหมด 1,100 คนมากกว่า ผมจะไม่เน้นการปิดการขาย แต่จะสอนว่าต้องเข้าหาลูกค้าอย่างไร และทำอย่างไรให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าซ้ำกับร้านเราอีก

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1409721182

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.