18 กันยายน 2557 SONY ขาดทุนทั้งสิ้น 230,000 ล้านเยน ผลมาจากธุรกิจ Mobile Business ที่ประสบปัญหาไม่สามารถต่อกรกับคู่แข่งภายในประเทศนั้นๆ ได้ และข้อจำกัดด้านการกระจายสินค้า
ประเด็นหลัก
ผู้บริหารโซนี่ ยอมรับผลประกอบการปีนี้ร่วงหนัก โดยคาดว่าจะขาดทุนทั้งสิ้น 230,000 ล้านเยน สูงกว่าที่เคยประมาณการเอาไว้ที่ 50,000 ล้านเยนถึง 4 เท่า พร้อมเผยว่า เป็นผลมาจากธุรกิจ Mobile Business ที่ประสบปัญหา ไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล และซัมซุงได้ ซึ่งนั่นทำให้ทางบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลในช่วงสิ้นปีนี้ได้เป็นครั้งแรก
เลือดยังคงไหลไม่หยุดสำหรับโซนี่ แม้จะเคยเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่วันนี้ กลับไม่สามารถแข่งขันได้ในหลายๆ ธุรกิจ แถมบางธุรกิจ นอกจากจะเปลืองตัวแล้ว ยังเปลืองเงินลงทุนไปอีกมาก และนำไปสู่การปรับลดคนงานในหลายๆ แผนกลงอย่างน่าเสียดาย
ส่วนสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ของโซนี่อย่าง Xperia ก็ทำยอดขายได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินในจีน และสหรัฐอเมริกา โดยทางบริษัทให้เหตุผลว่า มาจากการไม่สามารถต่อกรกับคู่แข่งภายในประเทศนั้นๆ ได้ และข้อจำกัดด้านการกระจายสินค้า
โซนี่ โยนความล้มเหลวนี้ให้แก่ธุรกิจโมบายโฟน โดยอ้างว่า เพราะไม่สามารถแข่งขันได้กับยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล และซัมซุง รวมถึงบรรดาผู้ผลิตรายย่อยในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้สูญเสียตลาดไปในที่สุด นอกจากนั้น ทางบริษัทยังมีแผนจะลดพนักงานในธุรกิจดังกล่าวลงถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลดต้นทุนด้วย
______________________________
โซนี่ขาดทุนหนัก ยอมรับปีนี้จ่ายปันผลไม่ไหว
ผู้บริหารโซนี่ ยอมรับผลประกอบการปีนี้ร่วงหนัก โดยคาดว่าจะขาดทุนทั้งสิ้น 230,000 ล้านเยน สูงกว่าที่เคยประมาณการเอาไว้ที่ 50,000 ล้านเยนถึง 4 เท่า พร้อมเผยว่า เป็นผลมาจากธุรกิจ Mobile Business ที่ประสบปัญหา ไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล และซัมซุงได้ ซึ่งนั่นทำให้ทางบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลในช่วงสิ้นปีนี้ได้เป็นครั้งแรก
เลือดยังคงไหลไม่หยุดสำหรับโซนี่ แม้จะเคยเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่วันนี้ กลับไม่สามารถแข่งขันได้ในหลายๆ ธุรกิจ แถมบางธุรกิจ นอกจากจะเปลืองตัวแล้ว ยังเปลืองเงินลงทุนไปอีกมาก และนำไปสู่การปรับลดคนงานในหลายๆ แผนกลงอย่างน่าเสียดาย
ส่วนสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ของโซนี่อย่าง Xperia ก็ทำยอดขายได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินในจีน และสหรัฐอเมริกา โดยทางบริษัทให้เหตุผลว่า มาจากการไม่สามารถต่อกรกับคู่แข่งภายในประเทศนั้นๆ ได้ และข้อจำกัดด้านการกระจายสินค้า
โซนี่ โยนความล้มเหลวนี้ให้แก่ธุรกิจโมบายโฟน โดยอ้างว่า เพราะไม่สามารถแข่งขันได้กับยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล และซัมซุง รวมถึงบรรดาผู้ผลิตรายย่อยในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้สูญเสียตลาดไปในที่สุด นอกจากนั้น ทางบริษัทยังมีแผนจะลดพนักงานในธุรกิจดังกล่าวลงถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลดต้นทุนด้วย
ด้านนักวิเคราะห์ต่างให้ความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้ทางบริษัทกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่การดันธุรกิจสมาร์ทโฟนให้กลับมามีกำไร ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเกินกำลัง
เช่น Rachel Lashford จาก Counsultancy Canalys ที่กล่าวว่า “ตอนนี้ไม่ใช่โซนี่เจ้าเดียวที่ประสบปัญหาไม่สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ในตลาดได้ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ก็เจอปัญหาเดียวกัน เช่น LG และ HTC ที่ก่อนหน้านี้ ก็ต้องรับมือกับการขาดทุนอยู่หลายไตรมาส แต่การปรับโครงสร้างองค์กร การโฟกัสไปที่สินค้าที่จะผลิต และการตั้งราคาให้เหมาะสม เหล่านี้ล้วนเป็นตัวช่วยให้องค์กรก้าวต่อไปได้”
สำหรับโซนี่ การวางแผนที่ผิดพลาดทำให้บริษัทตกหล่มลึกทางการเงินมานานหลายปีติดต่อกัน และนี่เป็นครั้งแรกของบริษัทเลยทีเดียวที่ถูกตลาดหุ้นของญี่ปุ่นจัดชื่อไว้ในกลุ่มบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น
ด้านธุรกิจการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์เองก็ประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกัน จะมีตัวที่รุ่งอยู่ก็คือ เครื่องเล่นเกม Playstation เสียมากกว่า เพื่อห้ามเลือดไม่ให้ไหลมากไปกว่านี้ ทางโซนี่ได้ขายตึกที่ทำการในนิวยอร์กไปด้วยมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนั้นแล้ว โซนี่ยังได้ลดคนงานลง 5,000 ตำแหน่งในส่วนงานคอมพิวเตอร์ และโทรทัศน์ ซึ่งทาง มร.คาซูโอะ มิราอิ ผู้บริหารของโซนี่ยังปฏิเสธที่จะขายทิ้งเนื่องจากพิจารณาว่านี่คือธุรกิจหลักของบริษัท
สำหรับแหล่งรายได้ใหม่ของโซนี่ ทางบริษัทได้เผยออกมาเล็กน้อยว่าจะมุ่งไปทางธุรกิจสมาร์ทวอร์ช และเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์ ด้วยการควบรวมความสามารถของอุปกรณ์ดังกล่าวเข้ากับเครื่องเล่นเพลย์สเตชัน 4
อาจกล่าวได้ว่า ปีนี้เป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับโซนี่อย่างแท้จริง
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000107315
ผู้บริหารโซนี่ ยอมรับผลประกอบการปีนี้ร่วงหนัก โดยคาดว่าจะขาดทุนทั้งสิ้น 230,000 ล้านเยน สูงกว่าที่เคยประมาณการเอาไว้ที่ 50,000 ล้านเยนถึง 4 เท่า พร้อมเผยว่า เป็นผลมาจากธุรกิจ Mobile Business ที่ประสบปัญหา ไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล และซัมซุงได้ ซึ่งนั่นทำให้ทางบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลในช่วงสิ้นปีนี้ได้เป็นครั้งแรก
เลือดยังคงไหลไม่หยุดสำหรับโซนี่ แม้จะเคยเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่วันนี้ กลับไม่สามารถแข่งขันได้ในหลายๆ ธุรกิจ แถมบางธุรกิจ นอกจากจะเปลืองตัวแล้ว ยังเปลืองเงินลงทุนไปอีกมาก และนำไปสู่การปรับลดคนงานในหลายๆ แผนกลงอย่างน่าเสียดาย
ส่วนสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ของโซนี่อย่าง Xperia ก็ทำยอดขายได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินในจีน และสหรัฐอเมริกา โดยทางบริษัทให้เหตุผลว่า มาจากการไม่สามารถต่อกรกับคู่แข่งภายในประเทศนั้นๆ ได้ และข้อจำกัดด้านการกระจายสินค้า
โซนี่ โยนความล้มเหลวนี้ให้แก่ธุรกิจโมบายโฟน โดยอ้างว่า เพราะไม่สามารถแข่งขันได้กับยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล และซัมซุง รวมถึงบรรดาผู้ผลิตรายย่อยในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้สูญเสียตลาดไปในที่สุด นอกจากนั้น ทางบริษัทยังมีแผนจะลดพนักงานในธุรกิจดังกล่าวลงถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลดต้นทุนด้วย
______________________________
โซนี่ขาดทุนหนัก ยอมรับปีนี้จ่ายปันผลไม่ไหว
ผู้บริหารโซนี่ ยอมรับผลประกอบการปีนี้ร่วงหนัก โดยคาดว่าจะขาดทุนทั้งสิ้น 230,000 ล้านเยน สูงกว่าที่เคยประมาณการเอาไว้ที่ 50,000 ล้านเยนถึง 4 เท่า พร้อมเผยว่า เป็นผลมาจากธุรกิจ Mobile Business ที่ประสบปัญหา ไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล และซัมซุงได้ ซึ่งนั่นทำให้ทางบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลในช่วงสิ้นปีนี้ได้เป็นครั้งแรก
เลือดยังคงไหลไม่หยุดสำหรับโซนี่ แม้จะเคยเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่วันนี้ กลับไม่สามารถแข่งขันได้ในหลายๆ ธุรกิจ แถมบางธุรกิจ นอกจากจะเปลืองตัวแล้ว ยังเปลืองเงินลงทุนไปอีกมาก และนำไปสู่การปรับลดคนงานในหลายๆ แผนกลงอย่างน่าเสียดาย
ส่วนสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ของโซนี่อย่าง Xperia ก็ทำยอดขายได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินในจีน และสหรัฐอเมริกา โดยทางบริษัทให้เหตุผลว่า มาจากการไม่สามารถต่อกรกับคู่แข่งภายในประเทศนั้นๆ ได้ และข้อจำกัดด้านการกระจายสินค้า
โซนี่ โยนความล้มเหลวนี้ให้แก่ธุรกิจโมบายโฟน โดยอ้างว่า เพราะไม่สามารถแข่งขันได้กับยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล และซัมซุง รวมถึงบรรดาผู้ผลิตรายย่อยในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้สูญเสียตลาดไปในที่สุด นอกจากนั้น ทางบริษัทยังมีแผนจะลดพนักงานในธุรกิจดังกล่าวลงถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลดต้นทุนด้วย
ด้านนักวิเคราะห์ต่างให้ความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้ทางบริษัทกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่การดันธุรกิจสมาร์ทโฟนให้กลับมามีกำไร ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเกินกำลัง
เช่น Rachel Lashford จาก Counsultancy Canalys ที่กล่าวว่า “ตอนนี้ไม่ใช่โซนี่เจ้าเดียวที่ประสบปัญหาไม่สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ในตลาดได้ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ก็เจอปัญหาเดียวกัน เช่น LG และ HTC ที่ก่อนหน้านี้ ก็ต้องรับมือกับการขาดทุนอยู่หลายไตรมาส แต่การปรับโครงสร้างองค์กร การโฟกัสไปที่สินค้าที่จะผลิต และการตั้งราคาให้เหมาะสม เหล่านี้ล้วนเป็นตัวช่วยให้องค์กรก้าวต่อไปได้”
สำหรับโซนี่ การวางแผนที่ผิดพลาดทำให้บริษัทตกหล่มลึกทางการเงินมานานหลายปีติดต่อกัน และนี่เป็นครั้งแรกของบริษัทเลยทีเดียวที่ถูกตลาดหุ้นของญี่ปุ่นจัดชื่อไว้ในกลุ่มบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น
ด้านธุรกิจการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์เองก็ประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกัน จะมีตัวที่รุ่งอยู่ก็คือ เครื่องเล่นเกม Playstation เสียมากกว่า เพื่อห้ามเลือดไม่ให้ไหลมากไปกว่านี้ ทางโซนี่ได้ขายตึกที่ทำการในนิวยอร์กไปด้วยมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนั้นแล้ว โซนี่ยังได้ลดคนงานลง 5,000 ตำแหน่งในส่วนงานคอมพิวเตอร์ และโทรทัศน์ ซึ่งทาง มร.คาซูโอะ มิราอิ ผู้บริหารของโซนี่ยังปฏิเสธที่จะขายทิ้งเนื่องจากพิจารณาว่านี่คือธุรกิจหลักของบริษัท
สำหรับแหล่งรายได้ใหม่ของโซนี่ ทางบริษัทได้เผยออกมาเล็กน้อยว่าจะมุ่งไปทางธุรกิจสมาร์ทวอร์ช และเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์ ด้วยการควบรวมความสามารถของอุปกรณ์ดังกล่าวเข้ากับเครื่องเล่นเพลย์สเตชัน 4
อาจกล่าวได้ว่า ปีนี้เป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับโซนี่อย่างแท้จริง
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000107315
ไม่มีความคิดเห็น: