06 มกราคม 2558 Xiaomi.Lei Jun ตั้งเป้ายอดขายของบริษัทเอาไว้ที่ 100 ล้านเครื่อง โดยจะมีการขยายตลาดสมาร์ทโฟนเสี่ยวหมี่ไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เม็กซิโก ตุรกี รัสเซีย และบราซิล
ประเด็นหลัก
เป็นบริษัทที่เติบโต และติดทำเนียบ 1 ใน 5 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างรวดเร็วมากกับเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) จากแดนมังกร โดยยอดขายสมาร์ทโฟนของเสี่ยวหมี่ได้เขยิบขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 ซึ่งอยู่ที่ 7.2 ล้านเครื่อง มาถึง 18.7 ล้านเครื่องในปี ค.ศ. 2013 และขายได้ทะลุเป้าในปี ค.ศ. 2014 ที่ 61 ล้านเครื่องดังที่ปรากฏ ทำให้ชื่อของเสี่ยวหมี่ติดอันดับ 3 เป็นรองแค่แอปเปิล (Apple) และซัมซุง (Samsung) เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในปี ค.ศ. 2015 นี้ Lei Jun ซีอีโอของบริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายของบริษัทเอาไว้ที่ 100 ล้านเครื่อง โดยจะมีการขยายตลาดสมาร์ทโฟนเสี่ยวหมี่ไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เม็กซิโก ตุรกี รัสเซีย และบราซิล
_____________________________________________________
สุดฮึกเหิม “เสี่ยวหมี่” ประกาศดันยอดสมาร์ทโฟน 100 ล้านเครื่อง!
สุดฮึกเหิม “เสี่ยวหมี่” ประกาศดันยอดสมาร์ทโฟน 100 ล้านเครื่อง!
ยักษ์ใหญ่จากแดนมังกร “เสี่ยวหมี่” (Xiaomi) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสามของโลกประกาศยอดขายตลอดปี ค.ศ. 2014 แล้วว่ามีสูงถึง 61.12 ล้านเครื่อง สร้างรายได้ 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่เป้าหมายของปีนี้สูงถึง 100 ล้านเครื่องเลยทีเดียว
เป็นบริษัทที่เติบโต และติดทำเนียบ 1 ใน 5 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างรวดเร็วมากกับเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) จากแดนมังกร โดยยอดขายสมาร์ทโฟนของเสี่ยวหมี่ได้เขยิบขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 ซึ่งอยู่ที่ 7.2 ล้านเครื่อง มาถึง 18.7 ล้านเครื่องในปี ค.ศ. 2013 และขายได้ทะลุเป้าในปี ค.ศ. 2014 ที่ 61 ล้านเครื่องดังที่ปรากฏ ทำให้ชื่อของเสี่ยวหมี่ติดอันดับ 3 เป็นรองแค่แอปเปิล (Apple) และซัมซุง (Samsung) เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในปี ค.ศ. 2015 นี้ Lei Jun ซีอีโอของบริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายของบริษัทเอาไว้ที่ 100 ล้านเครื่อง โดยจะมีการขยายตลาดสมาร์ทโฟนเสี่ยวหมี่ไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เม็กซิโก ตุรกี รัสเซีย และบราซิล
ด้านอินเดียก็เป็นประเทศที่น่าจับตามองสำหรับการเข้าทำตลาดภายใต้แบรนด์เสี่ยวหมี่ เพราะบริษัทสามารถขายสมาร์ทโฟนได้ถึง 1 ล้านเครื่องภายใน 5 เดือนแรก อย่างไรก็ดี การทำตลาดในอินเดียตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเสี่ยวหมี่ถูกศาลอินเดียสั่งแบนเนื่องจากศาลพิสูจน์ได้ว่า Xiaomi ละเมิดสิทธิบัตรของ Ericsson
นอกจากนี้ Lei Jun ยังได้โพสต์ให้กำลังใจส่งตรงพนักงานของบริษัทกว่า 5,000 คนด้วยว่า ปัจจุบันสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนกำลังเป็นที่จับตาของชาวโลก และสามารถแข่งขันได้แล้วกับแบรนด์ดังๆ โดยเฉพาะซัมซุง (Samsung) ที่เสี่ยวหมี่สามารถเอาชนะด้านยอดขายไปได้อย่างสบายๆ (เฉพาะในตลาดจีน)
ที่สำคัญ ทางบริษัทยังมีแผนลงทุนกับบริษัทด้านฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม โดยจับมือกับพันธมิตรทั้งในและนอกประเทศ เช่น Misfit Wearables สตาร์ทอัปสัญชาติมะกัน ซึ่งผู้ก่อตั้งคือ John Sculley อดีตซีอีโอของแอปเปิล หรือ Midea ผู้ผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือนที่ระยะหลังมาจุดประกายกับแนวคิดบ้านอัจฉริยะ
จากการเปิดเผยของ Technode ระบุว่า เสี่ยวหมี่มีแผนจะลงทุนในบริษัทฮาร์ดแวร์ลักษณะนี้ให้ได้ถึง 100 บริษัท และปัจจุบันบริษัทได้ลงทุนไปแล้ว 20 บริษัท ซึ่งในจำนวนนี้รวม Misfit และ Midea แล้วเรียบร้อย
“เราจะเป็นบริษัทที่วงการเทคโนโลยีไม่เคยพบเห็นมาก่อน และจากนี้ไปทุกๆ ก้าวที่เราเดินจะถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการ” Lei Jun กล่าว
พร้อมกันนี้ ทางบริษัทยังได้เปิดตัว Redmi 2 ซึ่ง Redmi 2 มาพร้อมหน้าจอ 4.7 นิ้ว 1280 x 720 พิกเซล ซีพียู Qualcomm Snapdragon 410 ควอดคอร์ 64 บิต 1.2 GHz แรม 1GB สตอเรจความจุ 8GB (เพิ่มได้สูงสุด 32GB) กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล ระบบปฏิบัติการ MIUI และรองรับ 4G แบบสองซิมซึ่งใช้ได้พร้อมกัน ส่วนแบตเตอรี่ 2200 mAh น้ำหนักเครื่อง 133 กรัม
Redmi เปิดตัวที่ 699 หยวน หรือประมาณ 3,800 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 9 มกราคมนี้
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000001092
เป็นบริษัทที่เติบโต และติดทำเนียบ 1 ใน 5 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างรวดเร็วมากกับเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) จากแดนมังกร โดยยอดขายสมาร์ทโฟนของเสี่ยวหมี่ได้เขยิบขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 ซึ่งอยู่ที่ 7.2 ล้านเครื่อง มาถึง 18.7 ล้านเครื่องในปี ค.ศ. 2013 และขายได้ทะลุเป้าในปี ค.ศ. 2014 ที่ 61 ล้านเครื่องดังที่ปรากฏ ทำให้ชื่อของเสี่ยวหมี่ติดอันดับ 3 เป็นรองแค่แอปเปิล (Apple) และซัมซุง (Samsung) เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในปี ค.ศ. 2015 นี้ Lei Jun ซีอีโอของบริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายของบริษัทเอาไว้ที่ 100 ล้านเครื่อง โดยจะมีการขยายตลาดสมาร์ทโฟนเสี่ยวหมี่ไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เม็กซิโก ตุรกี รัสเซีย และบราซิล
_____________________________________________________
สุดฮึกเหิม “เสี่ยวหมี่” ประกาศดันยอดสมาร์ทโฟน 100 ล้านเครื่อง!
สุดฮึกเหิม “เสี่ยวหมี่” ประกาศดันยอดสมาร์ทโฟน 100 ล้านเครื่อง!
ยักษ์ใหญ่จากแดนมังกร “เสี่ยวหมี่” (Xiaomi) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสามของโลกประกาศยอดขายตลอดปี ค.ศ. 2014 แล้วว่ามีสูงถึง 61.12 ล้านเครื่อง สร้างรายได้ 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่เป้าหมายของปีนี้สูงถึง 100 ล้านเครื่องเลยทีเดียว
เป็นบริษัทที่เติบโต และติดทำเนียบ 1 ใน 5 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างรวดเร็วมากกับเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) จากแดนมังกร โดยยอดขายสมาร์ทโฟนของเสี่ยวหมี่ได้เขยิบขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 ซึ่งอยู่ที่ 7.2 ล้านเครื่อง มาถึง 18.7 ล้านเครื่องในปี ค.ศ. 2013 และขายได้ทะลุเป้าในปี ค.ศ. 2014 ที่ 61 ล้านเครื่องดังที่ปรากฏ ทำให้ชื่อของเสี่ยวหมี่ติดอันดับ 3 เป็นรองแค่แอปเปิล (Apple) และซัมซุง (Samsung) เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในปี ค.ศ. 2015 นี้ Lei Jun ซีอีโอของบริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายของบริษัทเอาไว้ที่ 100 ล้านเครื่อง โดยจะมีการขยายตลาดสมาร์ทโฟนเสี่ยวหมี่ไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เม็กซิโก ตุรกี รัสเซีย และบราซิล
ด้านอินเดียก็เป็นประเทศที่น่าจับตามองสำหรับการเข้าทำตลาดภายใต้แบรนด์เสี่ยวหมี่ เพราะบริษัทสามารถขายสมาร์ทโฟนได้ถึง 1 ล้านเครื่องภายใน 5 เดือนแรก อย่างไรก็ดี การทำตลาดในอินเดียตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเสี่ยวหมี่ถูกศาลอินเดียสั่งแบนเนื่องจากศาลพิสูจน์ได้ว่า Xiaomi ละเมิดสิทธิบัตรของ Ericsson
นอกจากนี้ Lei Jun ยังได้โพสต์ให้กำลังใจส่งตรงพนักงานของบริษัทกว่า 5,000 คนด้วยว่า ปัจจุบันสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนกำลังเป็นที่จับตาของชาวโลก และสามารถแข่งขันได้แล้วกับแบรนด์ดังๆ โดยเฉพาะซัมซุง (Samsung) ที่เสี่ยวหมี่สามารถเอาชนะด้านยอดขายไปได้อย่างสบายๆ (เฉพาะในตลาดจีน)
ที่สำคัญ ทางบริษัทยังมีแผนลงทุนกับบริษัทด้านฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม โดยจับมือกับพันธมิตรทั้งในและนอกประเทศ เช่น Misfit Wearables สตาร์ทอัปสัญชาติมะกัน ซึ่งผู้ก่อตั้งคือ John Sculley อดีตซีอีโอของแอปเปิล หรือ Midea ผู้ผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือนที่ระยะหลังมาจุดประกายกับแนวคิดบ้านอัจฉริยะ
จากการเปิดเผยของ Technode ระบุว่า เสี่ยวหมี่มีแผนจะลงทุนในบริษัทฮาร์ดแวร์ลักษณะนี้ให้ได้ถึง 100 บริษัท และปัจจุบันบริษัทได้ลงทุนไปแล้ว 20 บริษัท ซึ่งในจำนวนนี้รวม Misfit และ Midea แล้วเรียบร้อย
“เราจะเป็นบริษัทที่วงการเทคโนโลยีไม่เคยพบเห็นมาก่อน และจากนี้ไปทุกๆ ก้าวที่เราเดินจะถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการ” Lei Jun กล่าว
พร้อมกันนี้ ทางบริษัทยังได้เปิดตัว Redmi 2 ซึ่ง Redmi 2 มาพร้อมหน้าจอ 4.7 นิ้ว 1280 x 720 พิกเซล ซีพียู Qualcomm Snapdragon 410 ควอดคอร์ 64 บิต 1.2 GHz แรม 1GB สตอเรจความจุ 8GB (เพิ่มได้สูงสุด 32GB) กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล ระบบปฏิบัติการ MIUI และรองรับ 4G แบบสองซิมซึ่งใช้ได้พร้อมกัน ส่วนแบตเตอรี่ 2200 mAh น้ำหนักเครื่อง 133 กรัม
Redmi เปิดตัวที่ 699 หยวน หรือประมาณ 3,800 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 9 มกราคมนี้
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000001092
ไม่มีความคิดเห็น: