06 มีนาคม 2558 (บทความ) ยอดขายแอนดรอยด์ทะลุพันล้าน // ยอดขายรวมของแอนดรอยด์และไอโอเอส มีส่วนแบ่งถึง 96.3% เพิ่มขึ้นจาก 93.8% ในปีก่อนหน้า ดูแล้วท่าทางคู่แข่งจะไล่เจาะตลาดยากลำบากสักนิด
ประเด็นหลัก
เมื่อดูยอดขายรวมของแอนดรอยด์และไอโอเอส มีส่วนแบ่งถึง 96.3% เพิ่มขึ้นจาก 93.8% ในปีก่อนหน้า ดูแล้วท่าทางคู่แข่งจะไล่เจาะตลาดยากลำบากสักนิด ยิ่งผู้นำตลาดเคลื่อนไหวก้าวข้ามไปถึงการนำเครื่องส่วนตัวไปช่วยทำงานกับองค์กรด้วยยิ่งน่าสนใจ
_____________________________________________________
ยอดขายแอนดรอยด์ทะลุพันล้าน
ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยสำหรับโปรแกรม Android for work ของกูเกิล นับเป็นการก้าวไปอีกหนึ่งระดับที่จะมุ่งให้บริการแก่ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทั่วโลกนำไปใช้งานได้ทั้งการใช้งาน ส่วนตัวและใช้ทำงานให้กับองค์กร โดยแยกออกจากกันและมีความปลอดภัยในการทำงานมากขึ้น
การตั้งเป้าหมายเจาะลูกค้ากลุ่มธุรกิจนี้ กูเกิลมองว่า เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับองค์กร และพนักงานที่สามารถนำอุปกรณ์ของตนเองมาทำงานที่เรียกว่า Bring Your Own Device (BYOD) เป็นแนวโน้มทางเทคโนโลยีที่พนักงานใช้อุปกรณ์ของตนมาใช้ทำงานกับองค์กร เช่น อีเมล เซิร์ฟเวอร์ และการเข้าฐานข้อมูล ที่กูเกิลได้ออกแบบมาให้
ขณะเดียวกันก็สามารถสลับการใช้งานส่วนตัวว่าจะเป็นการเล่นเกมที่ชื่นชอบ อีเมลส่วนตัว ถ่ายรูปเซลฟี่หรืออะไรก็แล้วแต่ โดยจะมีการแยกแอพทำงานและแอพส่วนตัวออกจากกัน และจะต้องเป็นแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป ส่วนเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ก็ใช้แอพพลิเคชั่นเข้ามาช่วยได้เช่นกัน
พร้อมกับการเปิดตัวพันธมิตรไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตอย่างซัมซุง, โซนี่, แอลจี, เอชทีซี, เอชพี, หัวเว่ย, เลอโนโว และโมโตโรล่า เป็นต้น รวมทั้งผู้พัฒนาแอพและบริษัทด้านเครือข่ายการจัดการ
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาระบบ ปฏิบัติการแอนดรอยด์มียอดขายทะลุ 1,000 ล้านเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว เป็นอันดับหนึ่งกับยอดขาย 1,059 ล้านเครื่อง มีส่วนแบ่งตลาดถึง 81.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากับยอดขาย 802 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 78.7% อันดับสองเป็นระบบปฏิบัติการไอโอเอส มียอดขาย 193 ล้านเครื่อง กับส่วนแบ่ง 14.8% เพิ่มขึ้นจาก 153 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 15.1% ตามด้วยวินโดวส์โฟน 34.9 ล้านเครื่อง มีส่วนแบ่ง 2.7% แบล็กเบอร์รี่ ยอดขาย 5.8 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 0.4% ที่เหลือเป็นระบบปฏิบัติการอื่นๆ
ไอดีซีซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดได้จัดทำตัวเลขยอดขายดังกล่าวระบุว่า ยอดจ่ายของค่ายแอนดรอยด์แน่นอนว่า ค่ายซัมซุงยังนำโด่งมา แต่ที่ช่วย ให้ค่ายนี้โดดเด่นก็คือผู้ผลิตจากประเทศจีนไม่ว่าจะเป็นหัวเว่ย, เลอโนโว, เสียวมี และแซดทีอี รวมทั้งแอลจีจากเกาหลีด้วย
เมื่อดูยอดขายรวมของแอนดรอยด์และไอโอเอส มีส่วนแบ่งถึง 96.3% เพิ่มขึ้นจาก 93.8% ในปีก่อนหน้า ดูแล้วท่าทางคู่แข่งจะไล่เจาะตลาดยากลำบากสักนิด ยิ่งผู้นำตลาดเคลื่อนไหวก้าวข้ามไปถึงการนำเครื่องส่วนตัวไปช่วยทำงานกับองค์กรด้วยยิ่งน่าสนใจ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้!!
หนุ่มดิจิตอล
cybernet @ thairath.co.th
http://www.thairath.co.th/content/484096
เมื่อดูยอดขายรวมของแอนดรอยด์และไอโอเอส มีส่วนแบ่งถึง 96.3% เพิ่มขึ้นจาก 93.8% ในปีก่อนหน้า ดูแล้วท่าทางคู่แข่งจะไล่เจาะตลาดยากลำบากสักนิด ยิ่งผู้นำตลาดเคลื่อนไหวก้าวข้ามไปถึงการนำเครื่องส่วนตัวไปช่วยทำงานกับองค์กรด้วยยิ่งน่าสนใจ
_____________________________________________________
ยอดขายแอนดรอยด์ทะลุพันล้าน
ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยสำหรับโปรแกรม Android for work ของกูเกิล นับเป็นการก้าวไปอีกหนึ่งระดับที่จะมุ่งให้บริการแก่ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทั่วโลกนำไปใช้งานได้ทั้งการใช้งาน ส่วนตัวและใช้ทำงานให้กับองค์กร โดยแยกออกจากกันและมีความปลอดภัยในการทำงานมากขึ้น
การตั้งเป้าหมายเจาะลูกค้ากลุ่มธุรกิจนี้ กูเกิลมองว่า เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับองค์กร และพนักงานที่สามารถนำอุปกรณ์ของตนเองมาทำงานที่เรียกว่า Bring Your Own Device (BYOD) เป็นแนวโน้มทางเทคโนโลยีที่พนักงานใช้อุปกรณ์ของตนมาใช้ทำงานกับองค์กร เช่น อีเมล เซิร์ฟเวอร์ และการเข้าฐานข้อมูล ที่กูเกิลได้ออกแบบมาให้
ขณะเดียวกันก็สามารถสลับการใช้งานส่วนตัวว่าจะเป็นการเล่นเกมที่ชื่นชอบ อีเมลส่วนตัว ถ่ายรูปเซลฟี่หรืออะไรก็แล้วแต่ โดยจะมีการแยกแอพทำงานและแอพส่วนตัวออกจากกัน และจะต้องเป็นแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป ส่วนเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ก็ใช้แอพพลิเคชั่นเข้ามาช่วยได้เช่นกัน
พร้อมกับการเปิดตัวพันธมิตรไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตอย่างซัมซุง, โซนี่, แอลจี, เอชทีซี, เอชพี, หัวเว่ย, เลอโนโว และโมโตโรล่า เป็นต้น รวมทั้งผู้พัฒนาแอพและบริษัทด้านเครือข่ายการจัดการ
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาระบบ ปฏิบัติการแอนดรอยด์มียอดขายทะลุ 1,000 ล้านเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว เป็นอันดับหนึ่งกับยอดขาย 1,059 ล้านเครื่อง มีส่วนแบ่งตลาดถึง 81.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากับยอดขาย 802 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 78.7% อันดับสองเป็นระบบปฏิบัติการไอโอเอส มียอดขาย 193 ล้านเครื่อง กับส่วนแบ่ง 14.8% เพิ่มขึ้นจาก 153 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 15.1% ตามด้วยวินโดวส์โฟน 34.9 ล้านเครื่อง มีส่วนแบ่ง 2.7% แบล็กเบอร์รี่ ยอดขาย 5.8 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 0.4% ที่เหลือเป็นระบบปฏิบัติการอื่นๆ
ไอดีซีซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดได้จัดทำตัวเลขยอดขายดังกล่าวระบุว่า ยอดจ่ายของค่ายแอนดรอยด์แน่นอนว่า ค่ายซัมซุงยังนำโด่งมา แต่ที่ช่วย ให้ค่ายนี้โดดเด่นก็คือผู้ผลิตจากประเทศจีนไม่ว่าจะเป็นหัวเว่ย, เลอโนโว, เสียวมี และแซดทีอี รวมทั้งแอลจีจากเกาหลีด้วย
เมื่อดูยอดขายรวมของแอนดรอยด์และไอโอเอส มีส่วนแบ่งถึง 96.3% เพิ่มขึ้นจาก 93.8% ในปีก่อนหน้า ดูแล้วท่าทางคู่แข่งจะไล่เจาะตลาดยากลำบากสักนิด ยิ่งผู้นำตลาดเคลื่อนไหวก้าวข้ามไปถึงการนำเครื่องส่วนตัวไปช่วยทำงานกับองค์กรด้วยยิ่งน่าสนใจ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้!!
หนุ่มดิจิตอล
cybernet @ thairath.co.th
http://www.thairath.co.th/content/484096
ไม่มีความคิดเห็น: