01 สิงหาคม 2555 กทม. แรง !!! จี้ กสทช. ดูแลหน่อย หากเกิดเหตุอีกครั้ง จะสั่งห้ามทั้งหมดไม่ให้ดำเนินการติดตั้งสายสาธารณูปโภคอีกต่อไป
กทม. แรง !!! จี้ กสทช. ดูแลหน่อย หากเกิดเหตุอีกครั้ง จะสั่งห้ามทั้งหมดไม่ให้ดำเนินการติดตั้งสายสาธารณูปโภคอีกต่อไป
ประเด็นหลัก
นายธีระชนกล่าวต่อว่า สำหรับสายไฟสาธารณูปโภค อาทิ สายโทรศัพท์และสายเคเบิล ที่เกิดเหตุเสาไฟฟ้าหักโค่นทับประชาชน ที่ซอยรามคำแหง 30 และอีกหลายพื้นที่ พบว่าเป็นสายไฟที่อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการ โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งยังไม่ได้ขออนุญาต กฟน. โดย กฟน.แจ้งว่า กสทช.ระบุว่ามีอำนาจในการติดตั้ง ดังนั้น หากเกิดเหตุอีกครั้ง กทม.จะสั่งห้ามทั้งหมดไม่ให้ดำเนินการติดตั้งสายสาธารณูปโภคอีกต่อไป เพราะสายสาธารณูปโภคหลายสายมีน้ำหนักมาก ซึ่งทำให้เสาไฟฟ้ารับน้ำหนักมากเกินไปและเสาไฟฟ้าอาจเกิดล้มลงมาทำให้ ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้จะควบคุมการติดตั้งเพิ่มเติมถนนสายหลักด้วย ขณะเดียวกันจะประสานสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ออกข้อบัญญัติรองรับ ในการกำหนดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ กสทช.ปล่อยปละละเลย
9 ส.ค. กทม.ลงนาม MOU ร่วมกับ กฟน. ซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่าง
กทม. และการไฟฟ้านครหลวง จะดำเนินการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) การจัดซ่อมไฟฟ้าแสงสว่างสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 9 ส.ค.55 เวลา 11.30 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) เพื่อร่วมกันซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ กทม.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการติดตั้งและอุปกรณ์ทั้งหมด ส่วนการไฟฟ้านครหลวงจะสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า พร้อมกันนี้ ยังได้จัดการเสวนาเรื่อง การจัดการสาธารณูปโภคท้องถิ่น กรณีการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน และการติดตั้งไฟส่องสว่างทั่วเมือง โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร นายธวัชชัย ปิยนนทยา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร นายไพร พัฒโน อดีตนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ศ.ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ คณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการการไฟฟ้าเขตธนบุรี ร่วมพูดคุย โดยมีนายถนอม อ่อนเกตุพล เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านทางช่องเคเบิล อาทิ ช่องบลูสกาย บางกอกซิตี้แชนแนล ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น.
________________________________________
กทม.จับมือ กฟน. เดินหน้าปรับปรุงไฟฟ้าส่องสว่างทั่วกรุง
ดร.ธี ระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมการติดตั้งและซ่อมแซมไฟฟ้าแสงสว่างสาธารณะและจัดระเบียบ สายสื่อสาร โดยมีผู้แทนจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้แทนสำนักการโยธา และผู้แทนกลุ่มเขตทั้ง 6 กลุ่มเขต ร่วมการประชุม
รองผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานติดตั้งและปรับปรุง ไฟฟ้าส่องสว่างทั่วกรุงเทพฯ ภายใต้โครงการกรุงเทพฯ เมืองสวรรค์ ทั้งในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่เอกชน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 ธ.ค. โดยจะมีการกำหนดมาตรฐานหลอดไฟและแผนการติดตั้งร่วมกัน พร้อมออกข้อบัญญัติรองรับพื้นที่เอกชนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ หากประชาชนใช้สอยร่วมกันเกินกว่า 10 ปี แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดูแล ให้มีสภาพเป็นที่สาธารณะโดยปริยาย และทางราชการสามารถเข้าไปดำเนินการได้
9 ส.ค. กทม.ลงนาม MOU ร่วมกับ กฟน. ซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่าง
กทม. และการไฟฟ้านครหลวง จะดำเนินการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) การจัดซ่อมไฟฟ้าแสงสว่างสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 9 ส.ค.55 เวลา 11.30 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) เพื่อร่วมกันซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ กทม.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการติดตั้งและอุปกรณ์ทั้งหมด ส่วนการไฟฟ้านครหลวงจะสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า พร้อมกันนี้ ยังได้จัดการเสวนาเรื่อง การจัดการสาธารณูปโภคท้องถิ่น กรณีการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน และการติดตั้งไฟส่องสว่างทั่วเมือง โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร นายธวัชชัย ปิยนนทยา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร นายไพร พัฒโน อดีตนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ศ.ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ คณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการการไฟฟ้าเขตธนบุรี ร่วมพูดคุย โดยมีนายถนอม อ่อนเกตุพล เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านทางช่องเคเบิล อาทิ ช่องบลูสกาย บางกอกซิตี้แชนแนล ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น.
ลงพื้นที่สำรวจเสาไฟฟ้าเสียหายในพื้นที่เขตดอนเมือง
นอก จากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการแก้ไขปัญหาเสาไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 (Local Road) เขตดอนเมือง ซึ่งมีเสาไฟฟ้าที่ดับ ชำรุด เสียหาย ที่ติดตั้งบนแผงปูนกั้นการจราจร และได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 โดย กทม. และการไฟฟ้านครหลวงจะลงพื้นที่สำรวจความเสียหายร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) ก่อนดำเนินการแก้ไขต่อไป
เร่งจัดระเบียบสายสื่อสาร ก่อนเกิดเหตุร้ายซ้ำ
ใน ส่วนของการจัดระเบียบสายสื่อสาร กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันกำหนดแผนการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน พร้อมขอความร่วมมือภาคเอกชนให้คำนึงถึงความปลอดภัยของสาธารณะเป็นหลัก เนื่องจากการนำสายสื่อสารจำนวนมากติดตั้งบนเสาไฟฟ้า จะทำให้เสาไฟฟ้าต้องรับน้ำหนักมากเกินไปจนโค่นล้ม และเกิดอุบัติเหตุในที่สุด และจะมีการออกประกาศหรือคำสั่งห้ามติดตั้งสายสื่อสารเพิ่มเติมในถนนสายหลัก โดยกทม.จะทำหน้าที่วางท่อเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำสายสื่อสารต่างๆ ลงใต้ดิน เพื่อความปลอดภัยของคนกรุงเทพฯ และจะกำหนดถนนปลอดสายไฟ — สายเคเบิ้ลต่อไป
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นบริเวณใดที่มีสายไฟฟ้า สายสื่อสารรกรุงรัง ไม่เหมาะสม รวมถึงพบเห็นเสาไฟฟ้าที่มีสภาพที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ให้แจ้งสายด่วน กทม. โทร. 1555 หรือ สายด่วนการไฟฟ้านครหลวง โทร. 1130 โดยเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
ThaiPR.net
http://www.ryt9.com/s/prg/1457391
_________________________________________
กทม.วอน"ไอซีที"ดูแลสายสาธารณูปโภคของกสทช.หลังเกิดเหตุเสาไฟล้มหลายครั้ง
(กทม.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังการประชุมติดตั้งซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่างว่า ขณะนี้ กทม.ได้ดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงไฟส่องสว่างเกือบเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียง 600 ดวงเท่านั้น ที่ยังไม่ได้ปรับปรุง เนื่องจากเสาไฟฟ้าอยู่บนแท่นคอนกรีตหรือแบริเออร์ นอกจากนี้ยังพบว่ามีหลอดไฟที่บางส่วนไม่ได้มาตรฐานหลายพันดวง จึงได้สั่งการให้สำนักงานเขตและสำนักผังเมือง ดำเนินการโอนย้ายมาให้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักการโยธา (สนย.) ก่อนที่จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ เพื่อดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าเมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วเชื่อว่าพื้นที่เอกชนสามารถติดตั้ง เครื่องวัดกระแสไฟฟ้าหรือมิเตอร์ เพื่อจ่ายกระแสไฟได้ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นไฟฟ้ามีปัญหาสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนของ กทม.หมายเลข 1555 และสายด่วน กฟน. 1130 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแก้ไขภายใน 7 วัน
นาย ธีระชนกล่าวต่อว่า สำหรับสายไฟสาธารณูปโภค อาทิ สายโทรศัพท์และสายเคเบิล ที่เกิดเหตุเสาไฟฟ้าหักโค่นทับประชาชน ที่ซอยรามคำแหง 30 และอีกหลายพื้นที่ พบว่าเป็นสายไฟที่อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการ โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งยังไม่ได้ขออนุญาต กฟน. โดย กฟน.แจ้งว่า กสทช.ระบุว่ามีอำนาจในการติดตั้ง ดังนั้น หากเกิดเหตุอีกครั้ง กทม.จะสั่งห้ามทั้งหมดไม่ให้ดำเนินการติดตั้งสายสาธารณูปโภคอีกต่อไป เพราะสายสาธารณูปโภคหลายสายมีน้ำหนักมาก ซึ่งทำให้เสาไฟฟ้ารับน้ำหนักมากเกินไปและเสาไฟฟ้าอาจเกิดล้มลงมาทำให้ ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้จะควบคุมการติดตั้งเพิ่มเติมถนนสายหลักด้วย ขณะเดียวกันจะประสานสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ออกข้อบัญญัติรองรับ ในการกำหนดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ กสทช.ปล่อยปละละเลย
"อยาก ฝากไปยัง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม. ช่วยดูแลอย่าปล่อยปละละเลยให้สายไฟรุงรัง เนื่องจากมีประชาชนได้รับผลกระทบ ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายแล้ว" รองผู้ว่าฯกทม.กล่าว
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1343725101&grpid=03&catid=03
ประเด็นหลัก
นายธีระชนกล่าวต่อว่า สำหรับสายไฟสาธารณูปโภค อาทิ สายโทรศัพท์และสายเคเบิล ที่เกิดเหตุเสาไฟฟ้าหักโค่นทับประชาชน ที่ซอยรามคำแหง 30 และอีกหลายพื้นที่ พบว่าเป็นสายไฟที่อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการ โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งยังไม่ได้ขออนุญาต กฟน. โดย กฟน.แจ้งว่า กสทช.ระบุว่ามีอำนาจในการติดตั้ง ดังนั้น หากเกิดเหตุอีกครั้ง กทม.จะสั่งห้ามทั้งหมดไม่ให้ดำเนินการติดตั้งสายสาธารณูปโภคอีกต่อไป เพราะสายสาธารณูปโภคหลายสายมีน้ำหนักมาก ซึ่งทำให้เสาไฟฟ้ารับน้ำหนักมากเกินไปและเสาไฟฟ้าอาจเกิดล้มลงมาทำให้ ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้จะควบคุมการติดตั้งเพิ่มเติมถนนสายหลักด้วย ขณะเดียวกันจะประสานสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ออกข้อบัญญัติรองรับ ในการกำหนดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ กสทช.ปล่อยปละละเลย
9 ส.ค. กทม.ลงนาม MOU ร่วมกับ กฟน. ซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่าง
กทม. และการไฟฟ้านครหลวง จะดำเนินการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) การจัดซ่อมไฟฟ้าแสงสว่างสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 9 ส.ค.55 เวลา 11.30 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) เพื่อร่วมกันซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ กทม.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการติดตั้งและอุปกรณ์ทั้งหมด ส่วนการไฟฟ้านครหลวงจะสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า พร้อมกันนี้ ยังได้จัดการเสวนาเรื่อง การจัดการสาธารณูปโภคท้องถิ่น กรณีการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน และการติดตั้งไฟส่องสว่างทั่วเมือง โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร นายธวัชชัย ปิยนนทยา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร นายไพร พัฒโน อดีตนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ศ.ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ คณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการการไฟฟ้าเขตธนบุรี ร่วมพูดคุย โดยมีนายถนอม อ่อนเกตุพล เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านทางช่องเคเบิล อาทิ ช่องบลูสกาย บางกอกซิตี้แชนแนล ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น.
________________________________________
กทม.จับมือ กฟน. เดินหน้าปรับปรุงไฟฟ้าส่องสว่างทั่วกรุง
ดร.ธี ระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมการติดตั้งและซ่อมแซมไฟฟ้าแสงสว่างสาธารณะและจัดระเบียบ สายสื่อสาร โดยมีผู้แทนจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้แทนสำนักการโยธา และผู้แทนกลุ่มเขตทั้ง 6 กลุ่มเขต ร่วมการประชุม
รองผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานติดตั้งและปรับปรุง ไฟฟ้าส่องสว่างทั่วกรุงเทพฯ ภายใต้โครงการกรุงเทพฯ เมืองสวรรค์ ทั้งในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่เอกชน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 ธ.ค. โดยจะมีการกำหนดมาตรฐานหลอดไฟและแผนการติดตั้งร่วมกัน พร้อมออกข้อบัญญัติรองรับพื้นที่เอกชนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ หากประชาชนใช้สอยร่วมกันเกินกว่า 10 ปี แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดูแล ให้มีสภาพเป็นที่สาธารณะโดยปริยาย และทางราชการสามารถเข้าไปดำเนินการได้
9 ส.ค. กทม.ลงนาม MOU ร่วมกับ กฟน. ซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่าง
กทม. และการไฟฟ้านครหลวง จะดำเนินการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) การจัดซ่อมไฟฟ้าแสงสว่างสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 9 ส.ค.55 เวลา 11.30 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) เพื่อร่วมกันซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ กทม.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการติดตั้งและอุปกรณ์ทั้งหมด ส่วนการไฟฟ้านครหลวงจะสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า พร้อมกันนี้ ยังได้จัดการเสวนาเรื่อง การจัดการสาธารณูปโภคท้องถิ่น กรณีการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน และการติดตั้งไฟส่องสว่างทั่วเมือง โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร นายธวัชชัย ปิยนนทยา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร นายไพร พัฒโน อดีตนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ศ.ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ คณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการการไฟฟ้าเขตธนบุรี ร่วมพูดคุย โดยมีนายถนอม อ่อนเกตุพล เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านทางช่องเคเบิล อาทิ ช่องบลูสกาย บางกอกซิตี้แชนแนล ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น.
ลงพื้นที่สำรวจเสาไฟฟ้าเสียหายในพื้นที่เขตดอนเมือง
นอก จากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการแก้ไขปัญหาเสาไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 (Local Road) เขตดอนเมือง ซึ่งมีเสาไฟฟ้าที่ดับ ชำรุด เสียหาย ที่ติดตั้งบนแผงปูนกั้นการจราจร และได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 โดย กทม. และการไฟฟ้านครหลวงจะลงพื้นที่สำรวจความเสียหายร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) ก่อนดำเนินการแก้ไขต่อไป
เร่งจัดระเบียบสายสื่อสาร ก่อนเกิดเหตุร้ายซ้ำ
ใน ส่วนของการจัดระเบียบสายสื่อสาร กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันกำหนดแผนการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน พร้อมขอความร่วมมือภาคเอกชนให้คำนึงถึงความปลอดภัยของสาธารณะเป็นหลัก เนื่องจากการนำสายสื่อสารจำนวนมากติดตั้งบนเสาไฟฟ้า จะทำให้เสาไฟฟ้าต้องรับน้ำหนักมากเกินไปจนโค่นล้ม และเกิดอุบัติเหตุในที่สุด และจะมีการออกประกาศหรือคำสั่งห้ามติดตั้งสายสื่อสารเพิ่มเติมในถนนสายหลัก โดยกทม.จะทำหน้าที่วางท่อเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำสายสื่อสารต่างๆ ลงใต้ดิน เพื่อความปลอดภัยของคนกรุงเทพฯ และจะกำหนดถนนปลอดสายไฟ — สายเคเบิ้ลต่อไป
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นบริเวณใดที่มีสายไฟฟ้า สายสื่อสารรกรุงรัง ไม่เหมาะสม รวมถึงพบเห็นเสาไฟฟ้าที่มีสภาพที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ให้แจ้งสายด่วน กทม. โทร. 1555 หรือ สายด่วนการไฟฟ้านครหลวง โทร. 1130 โดยเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
ThaiPR.net
http://www.ryt9.com/s/prg/1457391
_________________________________________
กทม.วอน"ไอซีที"ดูแลสายสาธารณูปโภคของกสทช.หลังเกิดเหตุเสาไฟล้มหลายครั้ง
(กทม.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังการประชุมติดตั้งซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่างว่า ขณะนี้ กทม.ได้ดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงไฟส่องสว่างเกือบเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียง 600 ดวงเท่านั้น ที่ยังไม่ได้ปรับปรุง เนื่องจากเสาไฟฟ้าอยู่บนแท่นคอนกรีตหรือแบริเออร์ นอกจากนี้ยังพบว่ามีหลอดไฟที่บางส่วนไม่ได้มาตรฐานหลายพันดวง จึงได้สั่งการให้สำนักงานเขตและสำนักผังเมือง ดำเนินการโอนย้ายมาให้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักการโยธา (สนย.) ก่อนที่จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ เพื่อดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าเมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วเชื่อว่าพื้นที่เอกชนสามารถติดตั้ง เครื่องวัดกระแสไฟฟ้าหรือมิเตอร์ เพื่อจ่ายกระแสไฟได้ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นไฟฟ้ามีปัญหาสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนของ กทม.หมายเลข 1555 และสายด่วน กฟน. 1130 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแก้ไขภายใน 7 วัน
นาย ธีระชนกล่าวต่อว่า สำหรับสายไฟสาธารณูปโภค อาทิ สายโทรศัพท์และสายเคเบิล ที่เกิดเหตุเสาไฟฟ้าหักโค่นทับประชาชน ที่ซอยรามคำแหง 30 และอีกหลายพื้นที่ พบว่าเป็นสายไฟที่อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการ โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งยังไม่ได้ขออนุญาต กฟน. โดย กฟน.แจ้งว่า กสทช.ระบุว่ามีอำนาจในการติดตั้ง ดังนั้น หากเกิดเหตุอีกครั้ง กทม.จะสั่งห้ามทั้งหมดไม่ให้ดำเนินการติดตั้งสายสาธารณูปโภคอีกต่อไป เพราะสายสาธารณูปโภคหลายสายมีน้ำหนักมาก ซึ่งทำให้เสาไฟฟ้ารับน้ำหนักมากเกินไปและเสาไฟฟ้าอาจเกิดล้มลงมาทำให้ ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้จะควบคุมการติดตั้งเพิ่มเติมถนนสายหลักด้วย ขณะเดียวกันจะประสานสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ออกข้อบัญญัติรองรับ ในการกำหนดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ กสทช.ปล่อยปละละเลย
"อยาก ฝากไปยัง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม. ช่วยดูแลอย่าปล่อยปละละเลยให้สายไฟรุงรัง เนื่องจากมีประชาชนได้รับผลกระทบ ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายแล้ว" รองผู้ว่าฯกทม.กล่าว
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1343725101&grpid=03&catid=03
ไม่มีความคิดเห็น: