10 มีนาคม 2555 ไปรษณีย์ไทยเปิดม่าน!!หวังสร้างตลาดการเงิน <ปล่อยกู้ร้อยละ 1 >เพิ่มศูนย์โลจิสติกส์เท่าตัว (เปิดใจเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์)
ไปรษณีย์ไทยเปิดม่าน!!หวังสร้างตลาดการเงิน <ปล่อยกู้ร้อยละ 1 >เพิ่มศูนย์โลจิสติกส์เท่าตัว (เปิดใจเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์)
ประเด็นหลัก
การสร้างตลาดการเงินขึ้นมา คือ มีธนาณัติ มีตั๋วแลกเงิน รับบริการชำระเงิน มีการพูดถึงการเป็นพ่อค้าคนกลาง การเป็นศูนย์กลาง เพราะ ปณท เป็นผู้จัดส่ง แล้วมีกลุ่มผู้ผลิต ทั้งนี้ เชื่อว่า ปณท จะเป็นศูนย์กลางกระตุ้นเศรษฐกิจ ซื้อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นได้
เอนก : จริงๆ แล้ว แทนที่จะให้ประชาชนไปกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 10 หรือร้อยละ 5 ต่อเดือน ทำไมไม่ให้ประชาชนกู้ร้อยละ 1 ต่อเดือน ตรงนี้มันต่างกัน
__________________________________________________________
"ปณท เป็นความฝันของผม" เปิดใจ 'เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์' ตั้งเป้าเพิ่มศูนย์โลจิสติกส์เท่าตัว
เปิด ใจ เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ความหลังฝังใจ อยากบริหารงานในไปรษณีย์ไทย ตั้งเป้าเพิ่มศูนย์โลจิสติกส์รวม 22 แห่ง ในปี 55 พร้อมเผยอยากเห็นหน่วยงานครีเอทีฟจัดการด้านการตลาดไปรษณีย์...
9 มี.ค. ถือฤกษ์งามยามดี นัดแรกของการประชุมคณะกรรมการ หรือบอร์ดชุดใหม่ ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท หน่วยงานใต้สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที โดยมี ดร.เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ นั่งตำแหน่งประธานบอร์ด
หลายคนคงยังไม่เคย รู้ว่า ก่อนมานั่งเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุด ประธานบอร์ด ปณท คนนี้เคยคลุกคลีกับไปรษณีย์มาก่อน แต่จะเป็นเรื่องอะไร และวิสัยทัศน์ในการบริหารงานของประธานบอร์ดใหม่คนนี้จะเป็นอย่างไร ลองมาฟังรายละเอียดจาก “ดร.เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์” ได้นับจากบรรทัดนี้...
It Digest : วิสัยทัศน์ต่อ ปณท เป็นอย่างไรบ้าง
เอนก : ไปรษณีย์ไทยเป็นองค์กรที่เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะว่าปัจจุบันโลกการใช้ไปรษณีย์น้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของโลจิสติกส์ก็ยังต้องใช้งานอยู่ ซึ่งก็จะมี 2 แบบ คือ แบบที่ระลึก หรือสะสม และแบบใช้งาน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นธุรกิจของ ปณท ตามยุทธศาสตร์ดั้งเดิมที่ต้องสงวนรักษาไว้ ทั้งนี้ จะเห็นว่าการส่งจดหมายลดน้อยลง อะไรที่เป็นเรื่องเร่งด่วนก็จะส่งอีเอ็มเอส ซึ่งจุดนั้นเป็นการสร้างรายได้ให้กับไปรษณีย์
It Digest : นโยบายที่บอร์ดมอบให้ ปณท มีอะไรบ้าง
เอนก : ช่วงที่ผ่านมา บอร์ดมีการประชุมเรื่องแผนไปรษณีย์ก่อน ว่าจะพัฒนาเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ประเด็นเรื่องการดูแล และการพัฒนา ในส่วนของขนส่งพัสดุ และส่งจดหมายที่มีประชาชนหันมานิยมส่งมากขึ้น เช่น ส่งโปสการ์ดเมื่อไปเที่ยวต่างจังหวัด การส่งการ์ดเป็นที่ระลึก เป็นต้น ขณะเดียวกัน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ให้ความสำคัญกับโลจิสติกส์ ทำอย่างไรให้มีการพัฒนาโลจิสติกส์มากขึ้น สิ่งที่ปณท ควรดำเนินการก็คือ เป็นศูนย์กลาง หรือเป็นองค์กรที่เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และทั่วถึง
อย่าง ไรก็ตาม ทราบมาว่า ปี 2554 ปณท ตั้งศูนย์โลจิสติกส์ไว้แล้ว 11 แห่ง ตามหัวเมืองหลัก และการ ดำเนินการเป็นผลดี แต่ปี 2555 นี้ บอร์ดชุดใหม่มีนโยบายจะเพิ่มศูนย์โล จิสติกส์ขึ้นอีก 1 เท่า ขณะเดียวกัน ก็จะมีปัญหาเรื่องขีดความสามารถที่ทำรายได้ การแข่งขันในภาคเอกชน และการขนส่งที่ค่อนข้างสูง จะทำอย่างไร
It Digest : สิ่งที่บอร์ดต้องการ
เอนก : การสร้างตลาดการเงินขึ้นมา คือ มีธนาณัติ มีตั๋วแลกเงิน รับบริการชำระเงิน มีการพูดถึงการเป็นพ่อค้าคนกลาง การเป็นศูนย์กลาง เพราะ ปณท เป็นผู้จัดส่ง แล้วมีกลุ่มผู้ผลิต ทั้งนี้ เชื่อว่า ปณท จะเป็นศูนย์กลางกระตุ้นเศรษฐกิจ ซื้อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นได้
It Digest : ทัศนคติ ก่อน-หลัง ต่อการเข้ามานั่งเก้าอี้ ประธานบอร์ด ปณท
เอนก : จริงๆ เป็นความใฝ่ฝันอยู่แล้ว เพราะเป็นคนที่สะสมตราไปรษณียากรมาตั้งแต่เด็ก จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเดิมคิดว่าจะไปเรียนโรงเรียนไปรษณีย์ด้วยซ้ำไปถ้าเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ในสมัยนั้น เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และไม่คิดว่าจะมาเป็นบอร์ดในชุดนี้ด้วย แต่ในใจอยากเป็นบอร์ดชุดนี้มาก เพราะมีความหลังที่ประทับใจกับไปรษณีย์ไทย ตราไปรษณียากรให้ความรู้กับเรามาก ในขณะที่เราเรียนเรื่องสังคมศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญของโลก
It Digest : ก่อนหน้านี้ มีความสับสนเกี่ยวกับรายชื่อประธานบอร์ด ปณท ช่วยชี้แจงข้อเท็จจริง
เอนก : ในที่ประชุมวันแรกช่วงกลางเดือน ก.พ. มีการประชุมบอร์ด หลังจากที่ รมว.ไอซีที ลงนาม โดยมีการเลือกตั้งสรรหาประธานบอร์ด ซึ่งขณะนั้น มีนางสาวนงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ และบอร์ดคนอื่นที่มีระดับเป็นผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งเลขาฯ กฤษฎีกา แต่ขณะนั้น ภารกิจท่านมีจำนวนมาก จึงปฏิเสธ ดังนั้น มีนางสาวนงลักษณ์ จึงเสนอผมขึ้นเป็นประธาน ซึ่งทุกท่านก็เห็นด้วย
ทั้งนี้ ส่วนตัวมีความคุ้นเคยกับ ปณท เพราะเมื่อปี 2550 ได้เข้าเป็นคณะอนุกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณไปรษณีย์กลาง จึงได้ปรับปรุงทัศนียภาพและในตัวของอาคารที่พักด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานได้เกิดประโยชน์มากที่สุด และอยากพัฒนาไปรษณีย์ให้ก้าวหน้า รวมถึงการออมทรัพย์ด้วย
It Digest : จะทำไปรษณีย์ให้เป็นธนาคาร
เอนก : อยากจะพัฒนาไปรษณีย์ให้เป็นธนาคารสำหรับคนระดับกลาง-ล่าง
It Digest : ความคืบหน้าของธนาคารคนจน เป็นอย่างไรบ้าง
เอนก : ความจริงคือดำเนินการได้ เพราะว่าแม้จะเป็นเรื่องของนโยบายรัฐบาลเก่า แต่เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ส่วนตัวคิดว่า เรื่องใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชนในระดับรากหญ้า ก็ควรให้การสนับสนุน ซึ่งขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยก็อนุมัติให้บริษัทไปรษณีย์สามารถเปิดกิจการ เกี่ยวกับสินเชื่อ และก็มีการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาพร้อมคณะกรรมการบริหาร และก็มีบอร์ดดูแลเฉพาะ ซึ่งเรื่องนี้ รมว.ไอซีที ส่งมาให้กระทรวงการคลังแล้ว เพื่อให้ความเห็นชอบ เหลือเพียงแต่รออนุมัติจากกระทรวงการคลังเท่านั้น ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง หรือกระทรวงการคลังไม่เห็นด้วย ก็อาจจะต้องเอาเข้าคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ใหม่ เพื่อความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าโครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์
It Digest : มีคนห่วงว่า ไปรษณีย์จะเป็นหนี้ หรือเอาหนี้ไปเพิ่มให้ประชาชน
เอนก : จริงๆ แล้ว แทนที่จะให้ประชาชนไปกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 10 หรือร้อยละ 5 ต่อเดือน ทำไมไม่ให้ประชาชนกู้ร้อยละ 1 ต่อเดือน ตรงนี้มันต่างกัน
It Digest : ก่อนหน้ามีข่าวว่า มีพัสดุของไปรษณีย์ไทยที่ลงทะเบียนตกค้าง
เอนก : มันจะมีประเด็นช่วงน้ำท่วม พัสดุก็ติดขัด และเรื่องนี้ก็ได้รับการร้องเรียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายพื้นที่ และได้รับแจ้งฝ่ายบริหารว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม จึงทำให้ไม่สามารถจัดส่งให้ประชาชนได้ ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายให้ฝ่ายบริหารไปแล้วว่า การทำงานของไปรษณีย์ต้องมีการอบรมพนักงานให้มีจิตใจรักในการให้บริการกับ ประชาชน และต้องคิดว่าประชาชนเป็นเจ้านายของเรา เพราะถ้าไม่มีประชาชนมาใช้บริการ หรือมาอุดหนุน ก็คงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้
It Digest : ตามข่าวระบุว่า พัสดุไม่ได้สูญหายช่วงน้ำท่วม แต่โดนแกะออก ของหาย ทั้งที่เป็นพัสดุลงทะเบียน
เอนก : อาจจะเป็นช่วงก่อนจัดส่ง หรือจัดส่งไปที่บ้านแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องตรวจสอบ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีการเรียนการสอนในเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว หรืออาจจะมีบุคคลภายนอกเข้าไป ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวมีอยู่ทุกที่อยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะไปรษณีย์ อย่างในรถทัวร์ประเทศญี่ปุ่นกระเป๋าถูกงัด ส่วนข่าวมีออกมาว่ามีการงัดแงะ เป็นช่วงที่ส่งไปแล้วมีปัญหา อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารให้ความสำคัญกับเรื่องพัสดุมาก ทั้งความล่าช้า และการจัดส่ง
It Digest : มองว่าปัญหาและอุปสรรคที่ไปรษณีย์ไม่ได้ดำเนินการ แต่จะมาดำเนินการในบอร์ดชุดนี้
เอนก : ปัญหาและอุปสรรคขณะนี้ คือ ปณท จะเจอคู่แข่งจำนวนมากจากภาคเอกชนและภาครัฐ และเทคโนโลยีจากปัญหาการแข่งขันสูง เราต้องฉีกกรอบออกมา แต่ต้องเป็นอะไรที่ประชาชนเข้าถึงได้ มีทุกรูปแบบ เหมือนเข้าร้านสะดวกซื้อที่มีหมด และทำอย่างไรให้เป็นที่ไว้ใจ เหมือนที่พึ่งของประชาชนได้ในยามเกิดปัญหา และทำอย่างไรให้ ปณท สามารถรับใช้ชุมชน เพราะในเชิงของเศรษฐกิจ และสังคม ปณท ยังมีความผูกพันกับชาวบ้าน ตั้งแต่การส่งจดหมายตั้งแต่ยุคก่อน
It Digest : มองว่ากระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ก จะกลืนกลิ่นอายของการส่งข้อความทางจดหมายหรือไม่
เอนก : ความสำคัญและคุณค่าอาจจะแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นส่ง ส.ค.ส. อวยพรปีใหม่ ซึ่งการรับรู้ถึงความรู้สึกจะแตกต่างกัน เหมือนการอ่านข่าวบนเว็บไซต์ กับหนังสือพิมพ์ บางครั้งข่าวสารบนเว็บไซต์รวดเร็ว แต่บางคนอยากจะอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เป็นความแตกต่างกันของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม จะต้องหาวิธี หาโอกาส ใช้เหตุการณ์สำคัญของสังคม และเหตุการณ์บนโลกมาช่วยกระตุ้นรายได้ โดยเบื้องต้นบอร์ดได้มอบนโยบายให้ไปหารายได้จากไปรษณียบัตรด้วย
It Digest : การบ้านที่บอร์ดมอบหมายให้ ปณท ดำเนินการมีอะไรบ้าง
เอนก : 1. การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล คือ การสร้างมาตรฐานด้านโลจิสติกส์ให้กับประเทศ และสร้างรายได้ 2. ต้องการให้เป็นศูนย์กลางด้านบริการการขนส่งให้กับหน่วยงานของรัฐทั้งหมด และครบวงจร 3. การพัฒนาบุคคลากรด้านต่างๆ โดยเน้นด้านการตลาด 4. สร้างหน่วยงานวิจัยและพัฒนา หรือหน่วยงานที่มีแนวคิดออกแบบสร้างสรรค์ แนวครีเอทีฟ เพื่อออกแบบสร้างสรรค์เป็นกลยุทธ์ด้านการตลาด
It Digest : การพัฒนาทางด้านระบบไอที
เอนก : ด้านไอที ขณะนี้ไปได้ดีอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ทุกพื้นที่ของ ปณท สามารถใช้ระบบไอที เป็นการส่งต่อด้านออนไลน์ โดยเฉพาะธนาคาร สำคัญว่าบางทีในพื้นที่ที่ทุรกันดารที่ทำการไปรษณีย์ยังไม่สามารถดำเนินการ ได้เต็มที่ หรือบางพื้นที่เป็นที่ทำการฯ แต่ไม่ได้อยู่ในชุมชน จะทำยังไงให้ชุมชนสามารถเพิ่มรายได้ หรือหาสินค้ามาขาย เพื่อเป็นตัวแทนมาขายสร้างรายได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุการนำระบบไอทีมาใช้อย่างชัดเจนได้ เพราะต้องกลับไปศึกษาก่อน ทั้งนี้ สามารถพูดคุยกับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้ เพราะเป็นองค์กรด้านรัฐวิสาหกิจเหมือนกัน
It Digest : อยากจะปรับอะไรในองค์กรแห่งนี้มากที่สุด
เอนก : ขณะนี้ยังไม่รู้ แต่อยากให้มีหน่วยงานที่คิดริเริ่มสร้างสรรค์
It Digest : ฝากถึงผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์บ้าง
เอนก : อยากให้ผู้อ่านใช้บริการของไปรษณีย์ สนใจและดูความก้าวหน้าของหน่วยงานนี้ เพราะบางคนมองว่าไปรษณีย์หมดความสำคัญแล้ว การเขียนจดหมายหมดความสำคัญแล้ว มีอีเมล์เข้ามาแทนที่ เอสเอ็มเอส วอทส์แอพ เขามาแทนที่แล้วจะอยู่ได้อย่างไร จะทำอย่างไรให้เด็กและเยาวชนให้ความสนใจกับเรื่องการสะสมตราไปรษณียากร ซึ่งปี 2556 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการประชุมตราไปรษณียากรโลก และวันที่ 13 มี.ค. นี้ ปณท ร่วมกับรัฐบาล จัดโครงการ “99 ล้าน ถวายไท้องค์ราชัน” เพื่อเชิญชวนผู้สนใจร่วมทูลเกล้าฯ รายละ 1 ล้านบาท จำนวน 99 ราย รวมทั้งสิ้น 99 ล้านบาท เพื่อนำทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิ่งสะสมชุดพิเศษที่มีเพียง “หนึ่งเดียวในโลก” ในคอลเลกชั่นตราไปรษณียากรล้ำค่ารวม 3 อย่างในชุดเดียวกัน
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/244237
ประเด็นหลัก
การสร้างตลาดการเงินขึ้นมา คือ มีธนาณัติ มีตั๋วแลกเงิน รับบริการชำระเงิน มีการพูดถึงการเป็นพ่อค้าคนกลาง การเป็นศูนย์กลาง เพราะ ปณท เป็นผู้จัดส่ง แล้วมีกลุ่มผู้ผลิต ทั้งนี้ เชื่อว่า ปณท จะเป็นศูนย์กลางกระตุ้นเศรษฐกิจ ซื้อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นได้
เอนก : จริงๆ แล้ว แทนที่จะให้ประชาชนไปกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 10 หรือร้อยละ 5 ต่อเดือน ทำไมไม่ให้ประชาชนกู้ร้อยละ 1 ต่อเดือน ตรงนี้มันต่างกัน
__________________________________________________________
"ปณท เป็นความฝันของผม" เปิดใจ 'เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์' ตั้งเป้าเพิ่มศูนย์โลจิสติกส์เท่าตัว
เปิด ใจ เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ความหลังฝังใจ อยากบริหารงานในไปรษณีย์ไทย ตั้งเป้าเพิ่มศูนย์โลจิสติกส์รวม 22 แห่ง ในปี 55 พร้อมเผยอยากเห็นหน่วยงานครีเอทีฟจัดการด้านการตลาดไปรษณีย์...
9 มี.ค. ถือฤกษ์งามยามดี นัดแรกของการประชุมคณะกรรมการ หรือบอร์ดชุดใหม่ ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท หน่วยงานใต้สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที โดยมี ดร.เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ นั่งตำแหน่งประธานบอร์ด
หลายคนคงยังไม่เคย รู้ว่า ก่อนมานั่งเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุด ประธานบอร์ด ปณท คนนี้เคยคลุกคลีกับไปรษณีย์มาก่อน แต่จะเป็นเรื่องอะไร และวิสัยทัศน์ในการบริหารงานของประธานบอร์ดใหม่คนนี้จะเป็นอย่างไร ลองมาฟังรายละเอียดจาก “ดร.เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์” ได้นับจากบรรทัดนี้...
It Digest : วิสัยทัศน์ต่อ ปณท เป็นอย่างไรบ้าง
เอนก : ไปรษณีย์ไทยเป็นองค์กรที่เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะว่าปัจจุบันโลกการใช้ไปรษณีย์น้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของโลจิสติกส์ก็ยังต้องใช้งานอยู่ ซึ่งก็จะมี 2 แบบ คือ แบบที่ระลึก หรือสะสม และแบบใช้งาน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นธุรกิจของ ปณท ตามยุทธศาสตร์ดั้งเดิมที่ต้องสงวนรักษาไว้ ทั้งนี้ จะเห็นว่าการส่งจดหมายลดน้อยลง อะไรที่เป็นเรื่องเร่งด่วนก็จะส่งอีเอ็มเอส ซึ่งจุดนั้นเป็นการสร้างรายได้ให้กับไปรษณีย์
It Digest : นโยบายที่บอร์ดมอบให้ ปณท มีอะไรบ้าง
เอนก : ช่วงที่ผ่านมา บอร์ดมีการประชุมเรื่องแผนไปรษณีย์ก่อน ว่าจะพัฒนาเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ประเด็นเรื่องการดูแล และการพัฒนา ในส่วนของขนส่งพัสดุ และส่งจดหมายที่มีประชาชนหันมานิยมส่งมากขึ้น เช่น ส่งโปสการ์ดเมื่อไปเที่ยวต่างจังหวัด การส่งการ์ดเป็นที่ระลึก เป็นต้น ขณะเดียวกัน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ให้ความสำคัญกับโลจิสติกส์ ทำอย่างไรให้มีการพัฒนาโลจิสติกส์มากขึ้น สิ่งที่ปณท ควรดำเนินการก็คือ เป็นศูนย์กลาง หรือเป็นองค์กรที่เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และทั่วถึง
อย่าง ไรก็ตาม ทราบมาว่า ปี 2554 ปณท ตั้งศูนย์โลจิสติกส์ไว้แล้ว 11 แห่ง ตามหัวเมืองหลัก และการ ดำเนินการเป็นผลดี แต่ปี 2555 นี้ บอร์ดชุดใหม่มีนโยบายจะเพิ่มศูนย์โล จิสติกส์ขึ้นอีก 1 เท่า ขณะเดียวกัน ก็จะมีปัญหาเรื่องขีดความสามารถที่ทำรายได้ การแข่งขันในภาคเอกชน และการขนส่งที่ค่อนข้างสูง จะทำอย่างไร
It Digest : สิ่งที่บอร์ดต้องการ
เอนก : การสร้างตลาดการเงินขึ้นมา คือ มีธนาณัติ มีตั๋วแลกเงิน รับบริการชำระเงิน มีการพูดถึงการเป็นพ่อค้าคนกลาง การเป็นศูนย์กลาง เพราะ ปณท เป็นผู้จัดส่ง แล้วมีกลุ่มผู้ผลิต ทั้งนี้ เชื่อว่า ปณท จะเป็นศูนย์กลางกระตุ้นเศรษฐกิจ ซื้อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นได้
It Digest : ทัศนคติ ก่อน-หลัง ต่อการเข้ามานั่งเก้าอี้ ประธานบอร์ด ปณท
เอนก : จริงๆ เป็นความใฝ่ฝันอยู่แล้ว เพราะเป็นคนที่สะสมตราไปรษณียากรมาตั้งแต่เด็ก จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเดิมคิดว่าจะไปเรียนโรงเรียนไปรษณีย์ด้วยซ้ำไปถ้าเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ในสมัยนั้น เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และไม่คิดว่าจะมาเป็นบอร์ดในชุดนี้ด้วย แต่ในใจอยากเป็นบอร์ดชุดนี้มาก เพราะมีความหลังที่ประทับใจกับไปรษณีย์ไทย ตราไปรษณียากรให้ความรู้กับเรามาก ในขณะที่เราเรียนเรื่องสังคมศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญของโลก
It Digest : ก่อนหน้านี้ มีความสับสนเกี่ยวกับรายชื่อประธานบอร์ด ปณท ช่วยชี้แจงข้อเท็จจริง
เอนก : ในที่ประชุมวันแรกช่วงกลางเดือน ก.พ. มีการประชุมบอร์ด หลังจากที่ รมว.ไอซีที ลงนาม โดยมีการเลือกตั้งสรรหาประธานบอร์ด ซึ่งขณะนั้น มีนางสาวนงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ และบอร์ดคนอื่นที่มีระดับเป็นผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งเลขาฯ กฤษฎีกา แต่ขณะนั้น ภารกิจท่านมีจำนวนมาก จึงปฏิเสธ ดังนั้น มีนางสาวนงลักษณ์ จึงเสนอผมขึ้นเป็นประธาน ซึ่งทุกท่านก็เห็นด้วย
ทั้งนี้ ส่วนตัวมีความคุ้นเคยกับ ปณท เพราะเมื่อปี 2550 ได้เข้าเป็นคณะอนุกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณไปรษณีย์กลาง จึงได้ปรับปรุงทัศนียภาพและในตัวของอาคารที่พักด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานได้เกิดประโยชน์มากที่สุด และอยากพัฒนาไปรษณีย์ให้ก้าวหน้า รวมถึงการออมทรัพย์ด้วย
It Digest : จะทำไปรษณีย์ให้เป็นธนาคาร
เอนก : อยากจะพัฒนาไปรษณีย์ให้เป็นธนาคารสำหรับคนระดับกลาง-ล่าง
It Digest : ความคืบหน้าของธนาคารคนจน เป็นอย่างไรบ้าง
เอนก : ความจริงคือดำเนินการได้ เพราะว่าแม้จะเป็นเรื่องของนโยบายรัฐบาลเก่า แต่เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ส่วนตัวคิดว่า เรื่องใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชนในระดับรากหญ้า ก็ควรให้การสนับสนุน ซึ่งขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยก็อนุมัติให้บริษัทไปรษณีย์สามารถเปิดกิจการ เกี่ยวกับสินเชื่อ และก็มีการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาพร้อมคณะกรรมการบริหาร และก็มีบอร์ดดูแลเฉพาะ ซึ่งเรื่องนี้ รมว.ไอซีที ส่งมาให้กระทรวงการคลังแล้ว เพื่อให้ความเห็นชอบ เหลือเพียงแต่รออนุมัติจากกระทรวงการคลังเท่านั้น ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง หรือกระทรวงการคลังไม่เห็นด้วย ก็อาจจะต้องเอาเข้าคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ใหม่ เพื่อความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าโครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์
It Digest : มีคนห่วงว่า ไปรษณีย์จะเป็นหนี้ หรือเอาหนี้ไปเพิ่มให้ประชาชน
เอนก : จริงๆ แล้ว แทนที่จะให้ประชาชนไปกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 10 หรือร้อยละ 5 ต่อเดือน ทำไมไม่ให้ประชาชนกู้ร้อยละ 1 ต่อเดือน ตรงนี้มันต่างกัน
It Digest : ก่อนหน้ามีข่าวว่า มีพัสดุของไปรษณีย์ไทยที่ลงทะเบียนตกค้าง
เอนก : มันจะมีประเด็นช่วงน้ำท่วม พัสดุก็ติดขัด และเรื่องนี้ก็ได้รับการร้องเรียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายพื้นที่ และได้รับแจ้งฝ่ายบริหารว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม จึงทำให้ไม่สามารถจัดส่งให้ประชาชนได้ ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายให้ฝ่ายบริหารไปแล้วว่า การทำงานของไปรษณีย์ต้องมีการอบรมพนักงานให้มีจิตใจรักในการให้บริการกับ ประชาชน และต้องคิดว่าประชาชนเป็นเจ้านายของเรา เพราะถ้าไม่มีประชาชนมาใช้บริการ หรือมาอุดหนุน ก็คงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้
It Digest : ตามข่าวระบุว่า พัสดุไม่ได้สูญหายช่วงน้ำท่วม แต่โดนแกะออก ของหาย ทั้งที่เป็นพัสดุลงทะเบียน
เอนก : อาจจะเป็นช่วงก่อนจัดส่ง หรือจัดส่งไปที่บ้านแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องตรวจสอบ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีการเรียนการสอนในเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว หรืออาจจะมีบุคคลภายนอกเข้าไป ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวมีอยู่ทุกที่อยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะไปรษณีย์ อย่างในรถทัวร์ประเทศญี่ปุ่นกระเป๋าถูกงัด ส่วนข่าวมีออกมาว่ามีการงัดแงะ เป็นช่วงที่ส่งไปแล้วมีปัญหา อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารให้ความสำคัญกับเรื่องพัสดุมาก ทั้งความล่าช้า และการจัดส่ง
It Digest : มองว่าปัญหาและอุปสรรคที่ไปรษณีย์ไม่ได้ดำเนินการ แต่จะมาดำเนินการในบอร์ดชุดนี้
เอนก : ปัญหาและอุปสรรคขณะนี้ คือ ปณท จะเจอคู่แข่งจำนวนมากจากภาคเอกชนและภาครัฐ และเทคโนโลยีจากปัญหาการแข่งขันสูง เราต้องฉีกกรอบออกมา แต่ต้องเป็นอะไรที่ประชาชนเข้าถึงได้ มีทุกรูปแบบ เหมือนเข้าร้านสะดวกซื้อที่มีหมด และทำอย่างไรให้เป็นที่ไว้ใจ เหมือนที่พึ่งของประชาชนได้ในยามเกิดปัญหา และทำอย่างไรให้ ปณท สามารถรับใช้ชุมชน เพราะในเชิงของเศรษฐกิจ และสังคม ปณท ยังมีความผูกพันกับชาวบ้าน ตั้งแต่การส่งจดหมายตั้งแต่ยุคก่อน
It Digest : มองว่ากระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ก จะกลืนกลิ่นอายของการส่งข้อความทางจดหมายหรือไม่
เอนก : ความสำคัญและคุณค่าอาจจะแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นส่ง ส.ค.ส. อวยพรปีใหม่ ซึ่งการรับรู้ถึงความรู้สึกจะแตกต่างกัน เหมือนการอ่านข่าวบนเว็บไซต์ กับหนังสือพิมพ์ บางครั้งข่าวสารบนเว็บไซต์รวดเร็ว แต่บางคนอยากจะอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เป็นความแตกต่างกันของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม จะต้องหาวิธี หาโอกาส ใช้เหตุการณ์สำคัญของสังคม และเหตุการณ์บนโลกมาช่วยกระตุ้นรายได้ โดยเบื้องต้นบอร์ดได้มอบนโยบายให้ไปหารายได้จากไปรษณียบัตรด้วย
It Digest : การบ้านที่บอร์ดมอบหมายให้ ปณท ดำเนินการมีอะไรบ้าง
เอนก : 1. การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล คือ การสร้างมาตรฐานด้านโลจิสติกส์ให้กับประเทศ และสร้างรายได้ 2. ต้องการให้เป็นศูนย์กลางด้านบริการการขนส่งให้กับหน่วยงานของรัฐทั้งหมด และครบวงจร 3. การพัฒนาบุคคลากรด้านต่างๆ โดยเน้นด้านการตลาด 4. สร้างหน่วยงานวิจัยและพัฒนา หรือหน่วยงานที่มีแนวคิดออกแบบสร้างสรรค์ แนวครีเอทีฟ เพื่อออกแบบสร้างสรรค์เป็นกลยุทธ์ด้านการตลาด
It Digest : การพัฒนาทางด้านระบบไอที
เอนก : ด้านไอที ขณะนี้ไปได้ดีอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ทุกพื้นที่ของ ปณท สามารถใช้ระบบไอที เป็นการส่งต่อด้านออนไลน์ โดยเฉพาะธนาคาร สำคัญว่าบางทีในพื้นที่ที่ทุรกันดารที่ทำการไปรษณีย์ยังไม่สามารถดำเนินการ ได้เต็มที่ หรือบางพื้นที่เป็นที่ทำการฯ แต่ไม่ได้อยู่ในชุมชน จะทำยังไงให้ชุมชนสามารถเพิ่มรายได้ หรือหาสินค้ามาขาย เพื่อเป็นตัวแทนมาขายสร้างรายได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุการนำระบบไอทีมาใช้อย่างชัดเจนได้ เพราะต้องกลับไปศึกษาก่อน ทั้งนี้ สามารถพูดคุยกับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้ เพราะเป็นองค์กรด้านรัฐวิสาหกิจเหมือนกัน
It Digest : อยากจะปรับอะไรในองค์กรแห่งนี้มากที่สุด
เอนก : ขณะนี้ยังไม่รู้ แต่อยากให้มีหน่วยงานที่คิดริเริ่มสร้างสรรค์
It Digest : ฝากถึงผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์บ้าง
เอนก : อยากให้ผู้อ่านใช้บริการของไปรษณีย์ สนใจและดูความก้าวหน้าของหน่วยงานนี้ เพราะบางคนมองว่าไปรษณีย์หมดความสำคัญแล้ว การเขียนจดหมายหมดความสำคัญแล้ว มีอีเมล์เข้ามาแทนที่ เอสเอ็มเอส วอทส์แอพ เขามาแทนที่แล้วจะอยู่ได้อย่างไร จะทำอย่างไรให้เด็กและเยาวชนให้ความสนใจกับเรื่องการสะสมตราไปรษณียากร ซึ่งปี 2556 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการประชุมตราไปรษณียากรโลก และวันที่ 13 มี.ค. นี้ ปณท ร่วมกับรัฐบาล จัดโครงการ “99 ล้าน ถวายไท้องค์ราชัน” เพื่อเชิญชวนผู้สนใจร่วมทูลเกล้าฯ รายละ 1 ล้านบาท จำนวน 99 ราย รวมทั้งสิ้น 99 ล้านบาท เพื่อนำทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิ่งสะสมชุดพิเศษที่มีเพียง “หนึ่งเดียวในโลก” ในคอลเลกชั่นตราไปรษณียากรล้ำค่ารวม 3 อย่างในชุดเดียวกัน
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/244237
ไม่มีความคิดเห็น: