Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

25 กันยายน 2554 "น้ำท่วม"ทุบตลาดไอทีQ3วูบ30% จับตาปลายปีทุกแบรนด์ถล่มราคาระบายสต๊อก (( แปลกดี!!โตชิบา ส่งขอทางเรือ ))

"น้ำท่วม"ทุบตลาดไอทีQ3วูบ30% จับตาปลายปีทุกแบรนด์ถล่มราคาระบายสต๊อก (( แปลกดี!!โตชิบา ส่งขอทางเรือ ))

"น้ำท่วม"ทุบตลาดไอทีQ3วูบ30% จับตาปลายปีทุกแบรนด์ถล่มราคาระบายสต๊อก (( แปลกดี!!โตชิบา ส่งขอทางเรือ ))
ประเด็นหลัก

โตชิบา

สำหรับ โตชิบาได้มีการปรับแผน โดยตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน โตชิบาได้เปลี่ยนการส่งสินค้าจากโรงงาน ซึ่งเดิมใช้การขนส่งทางอากาศใช้เวลาเพียง 1 วัน เปลี่ยนมาใช้การขนส่งทางเรือซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์แทน เพื่อยืดเวลาการนำสินค้าเข้าให้นานขึ้น และช่วยให้สต๊อกเก่าสามารถระบายได้ทัน นอกจากนี้ยังเป็นการลดต้นทุนการขนส่งไปด้วย พร้อมกับปรับพอร์ตสินค้า โดยเพิ่มสินค้าที่ขายได้เร็วเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เช่น รุ่นคอร์ i5 หรือ รุ่นเอนทรี ราคาประมาณหมื่นต้น ๆ


เลอโนโว

สำหรับเลอโน โว เบื้องต้นได้เตรียมพร้อมปรับแผนการทำตลาดในไตรมาส 4 โดยจะปรับลดอัตราการเติบโต เนื่องจากปัจจัยลบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมกับการหาช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆ ในการขยายตลาดเอสเอ็มอี คอร์ปอเรต เพื่อชดเชยตลาดคอนซูเมอร์ที่หดตัวลง

_______________________________________________________

"น้ำท่วม"ทุบตลาดไอทีQ3วูบ30% จับตาปลายปีทุกแบรนด์ถล่มราคาระบายสต๊อก


ปัญหา น้ำท่วมทุบกำลังซื้อตลาดไอทีไตรมาส 3 ลดลงเกือบ 30% แถมจัดซื้อโปรเจ็กต์ภาครัฐดีเลย์ช่วงรอยต่อการเมือง จับตาไตรมาส 4 แข่งเดือด ผู้ค้าแห่ดัมพ์ราคาสินค้าเร่งระบาย สต๊อก "เลอโนโว" ปรับลดการเติบโต จับตลาดเอสเอ็มอี องค์กรชดเชย "โตชิบา" ปรับพอร์ตโฟกัสสินค้า ขายดี พร้อมเปลี่ยนมาใช้ขนส่งทางเรือเพื่อลดต้นทุนและยืดระยะเวลาการนำเข้า


นาย จีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นมีผลกระทบกับทุกอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมไอที เพราะผู้ได้รับผลกระทบจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรง ชีวิต หรือซ่อมแซมบ้านเรือนก่อน ทำให้คนชะลอการซื้อสินค้าไอที โดยตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาพบว่าการจำหน่ายสินค้าไอทีคอนซูเมอร์ตาม ร้านรีเทลมียอดขายลดลงประมาณสองดิจิต โดยจังหวัดที่เกิดปัญหาพบว่ายอดขายลดลงอย่างชัดเจน

ขณะที่ร้านค้าใน กทม.ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะลูกค้าจากต่างจังหวัดบางส่วนจะเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าใน กทม. เมื่อเกิดภาวะน้ำท่วมไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้

"การเติบโตของตลาดไอ ทีในไตรมาส 3 จะน้อยกว่าไตรมาส 2 แน่นอน คาดว่าจะลดลงประมาณสองดิจิต เพราะปกติไตรมาส 3 ตลาดคอนซูเมอร์จะชะลอตัวอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดปัญหา น้ำท่วม ยิ่งทำให้ตลาดชะลอตัวยาวนานขึ้น ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะยาวนานถึงพฤศจิกายน ส่วนตลาดคอร์ปอเรต ปกติไตรมาส 3 จะพีกที่สุด แต่เนื่องจากช่วงรอยต่อรัฐบาล จึงมีบางโปรเจ็กต์เลื่อนออกไป เช่น โปรเจ็กต์ของกระทรวงการคลังสั่งซื้อพีซีหลักพันเครื่องก็ชะลอไป"

นอก จากนี้ เริ่มเห็นภาพการดัมพ์ราคาสินค้าลดลงตามร้านค้าไอทีต่าง ๆ มากกว่า 10% โดยเฉพาะแบรนด์ที่ตั้งเป้าการเติบโตสูงเพราะจะมีการสั่งสินค้าเข้ามาสต๊อก จำนวนมาก เมื่อกำลังซื้อลดลงผิดปกติทำให้ร้านค้าต้องเร่งระบายสินค้า โดยเฉพาะงานคอมมาร์ตปลายปีนี้คาดว่าจะได้เห็นสงครามราคาอย่างรุนแรง

สำหรับ เลอโนโว เบื้องต้นได้เตรียมพร้อมปรับแผนการทำตลาดในไตรมาส 4 โดยจะปรับลดอัตราการเติบโต เนื่องจากปัจจัยลบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมกับการหาช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆ ในการขยายตลาดเอสเอ็มอี คอร์ปอเรต เพื่อชดเชยตลาดคอนซูเมอร์ที่หดตัวลง

ด้านนายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทยฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัทโตชิบาไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมได้ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าของคอนซูเมอร์ ลดน้อยลง

และประเมินว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้ตลาดรวมจะมียอดขายลดลงประมาณ 10-30% โดยปัจจุบันเริ่มเห็นดีลเลอร์ บางรายชะลอการสั่งซื้อสินค้าใหม่ เพื่อเคลียร์สต๊อกเก่าก่อน และมีดีลเลอร์บางรายก็ขอยืดเครดิตตั้งแต่ 15-30 วัน

สำหรับโตชิบาได้ มีการปรับแผน โดยตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน โตชิบาได้เปลี่ยนการส่งสินค้าจากโรงงาน ซึ่งเดิมใช้การขนส่งทางอากาศใช้เวลาเพียง 1 วัน เปลี่ยนมาใช้การขนส่งทางเรือซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์แทน เพื่อยืดเวลาการนำสินค้าเข้าให้นานขึ้น และช่วยให้สต๊อกเก่าสามารถระบายได้ทัน นอกจากนี้ยังเป็นการลดต้นทุนการขนส่งไปด้วย พร้อมกับปรับพอร์ตสินค้า โดยเพิ่มสินค้าที่ขายได้เร็วเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เช่น รุ่นคอร์ i5 หรือ รุ่นเอนทรี ราคาประมาณหมื่นต้น ๆ

"การวางแผนนำสินค้าเข้าจะต้องวาง แผนให้ดี ๆ และบาลานซ์ให้ได้ เพราะหากขนส่งทางอากาศสินค้าเข้าสู่ตลาดเยอะมาก ทำให้สต๊อกมีเยอะมากเกินไป แต่ในทางกลับกัน ถ้าเกิดตลาดมีดีมานด์มากขึ้น แต่นำสินค้าเข้าไม่ทัน จะทำให้สูญเสียโอกาสเช่นกัน"

นอกจากนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไปคาดว่าจะเห็นการแข่งขันราคารุนแรงส่วน หนึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ทำให้สินค้าตามช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ มีจำนวนมาก ทำให้จำเป็นต้องเร่งเคลียร์สินค้า บวกกับปลายปีจะเป็นช่วงเทคโนโลยีใหม่ ซีพียูใหม่ที่จะทยอยเข้ามา ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นให้สินค้าเก่าออกจากตลาด ขณะเดียวกันยังเป็นช่วงปิดปีงบประมาณด้วย ดังนั้นทุกแบรนด์จึงจำเป็นต้องกระตุ้นการขายอย่างเต็มที่

"ปกติราคา สินค้าในช่วงปลายปีลดลงประมาณ 5-10% อยู่แล้ว แต่จากสภาพการแข่งขันและปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้คาดว่าจะทำให้ราคาต่ำลงเพิ่มขึ้นอีก 10-20%"

ขณะ ที่นายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอเอ็มดี ประเทศไทย ผู้ผลิตชิปสำหรับคอมพิวเตอร์กล่าวว่า จากรายงานของไอดีซีประเมินว่า ภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์ปีนี้ประมาณ 3.9 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นโน้ตบุ๊กจำนวน 2.5 ล้านเครื่อง และเดสก์ทอป 1.4 ล้านเครื่อง แต่จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3 นี้อาจจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อคอมพิวเตอร์ในกลุ่มคอนซูเมอร์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็อาจส่งผลให้เกิดสงครามราคาในช่วงไตรมาส 4

เพราะ เมื่อยอดขายไม่เป็นไปตามที่ประเมินไว้ก็จำเป็นต้องเร่งระบายสต๊อก สินค้า โดยเฉพาะงานคอมมาร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะได้เห็นการแข่งขันราคากันอย่างรุนแรงเพื่อเคลียร์สินค้าเก่า


ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1316847163&grpid=&catid=06&subcatid=

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.