Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

25 กรกฎาคม 2555 “นที” เตือนระวังกล่องเก่าโอลิมปิก “จอดำ” PSI เชื่อ 800000 กล่องจอดำแน่นอน ( ถ้าจะดูต้องเป็นกล่อง เข้าหรัส เท่านั้น )

“นที” เตือนระวังกล่องเก่าโอลิมปิก “จอดำ” PSI เชื่อ 800000 กล่องจอดำแน่นอน ( ถ้าจะดูต้องเป็นกล่อง เข้าหรัส เท่านั้น )


ประเด็นหลัก

ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และจะมีผลทันทีวันนี้ (25 ก.ค.) ซึ่งล่าสุด มีความเป็นไปได้ว่ากล่องรับสัญญาณที่เป็นกล่องเก่า ซึ่งไม่สามารถถอดรหัสสัญญาณได้ อาจเสี่ยงกับปัญหา “จอดำ” ในกรณีลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิก 2012 อีกครั้งภายหลังทางทีวีพูลได้แจ้งว่า จะมีลูกค้าเก่าของจานดำ หรือ พีเอสไอ บางส่วนที่ยังใช้กล่องรับสัญญาณรุ่นเก่า ที่ยังเข้ารหัสไม่ได้ จะไม่สามารถรับสัญญาณภาพถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกได้ เพราะทีวีพูลต้องปฏิบัติตามหลักของการปกป้องไม่ให้ลิขสิทธิ์ล้นออกนอกประเทศ

ทั้งนี้ ตนเห็นว่า ในกรณีดังกล่าวทางพีเอสไอควรจะต้องดูแลในส่วนของลูกค้าตนเอง เนื่องจากประกาศเรื่อง Must Carry เอง ก็ต้องปกป้องปัญหาในเรื่องของลิขสิทธิ์ในจุดนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะเป็นการเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณรุ่นใหม่ที่สามารถเข้ารหัสได้ให้กับ ลูกค้า โดยบทลงโทษเรื่องจอดำสำหรับกรณีนี้อาจมีเพียงบางส่วนเท่านั้น รวมทั้งยังต้องผ่านการพิจารณาและการชั่งน้ำหนักความผิดอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากทางพีเอสไอไม่สามารถดำเนินการแก้ไขในจุดนี้ได้ ตนก็เชื่อว่า มีผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องการเข้าไป ดูแลลูกค้าพีเอสไอในส่วนนี้แทน

ขณะที่ นายวรสิทธิ์ ลีลาบูรณพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่พีเอสไอได้ทำตลาดทีวีดาวเทียมมาเป็นเวลา 20 มีการจำหน่ายกล่องรับสัญญาณออกไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 10.5 ล้านกล่อง ในจำนวนดังกล่าวมีกล่องรับสัญญาณที่ไม่สามารถเข้ารหัสสัญญาณได้เหลือใช้ใน กลุ่มลูกค้าของพีเอสไอ ราว 800,000 กล่อง ซึ่งในจำนวนนี้อาจส่งผลกระทบให้ไม่สามารถรับชมรายการที่มีปัญหาด้าน ลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จะมาถึงนี้ได้

ล่าสุด พีเอสไอจึงกำลังทำแผนการตลาดสำหรับลูกค้าเก่าสามารถนำกล่องเก่าที่เข้ารหัส สัญญาณไม่ได้มาเปลี่ยนเป็นกล่องรุ่นใหม่ที่สามารถเข้ารหัสสัญญาณได้ในราคา 499 บาท คาดสิ้นปีจะเหลือกลุ่มลูกค้าที่ใช้กล่องรุ่นเก่าที่เข้ารหัสสัญญาณไม่ได้ของ พีเอสไอราว 100,000 กล่อง



__________________________________________

“นที” เตือนระวังกล่องเก่าโอลิมปิก “จอดำ”


กสทช.ดี เดย์บังคับใช้ประกาศ “Must Carry” แล้ว “นที” เผย กฎไม่คุ้มกล่องเก่าที่ไม่สามารถถอดรหัสสัญญาณได้ ส่งผลให้เสี่ยงจอดำประมาณ 8 แสนกล่อง ด้านฟรีทีวีไม่กังวลมาก ส่วน เพย์ทีวี ดาวเทียม-เคเบิล กลัวถูกเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยภายหลังการเจรจาทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ ถึงประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ “Must Carry”

ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และจะมีผลทันทีวันนี้ (25 ก.ค.) ซึ่งล่าสุด มีความเป็นไปได้ว่ากล่องรับสัญญาณที่เป็นกล่องเก่า ซึ่งไม่สามารถถอดรหัสสัญญาณได้ อาจเสี่ยงกับปัญหา “จอดำ” ในกรณีลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิก 2012 อีกครั้งภายหลังทางทีวีพูลได้แจ้งว่า จะมีลูกค้าเก่าของจานดำ หรือ พีเอสไอ บางส่วนที่ยังใช้กล่องรับสัญญาณรุ่นเก่า ที่ยังเข้ารหัสไม่ได้ จะไม่สามารถรับสัญญาณภาพถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกได้ เพราะทีวีพูลต้องปฏิบัติตามหลักของการปกป้องไม่ให้ลิขสิทธิ์ล้นออกนอกประเทศ

ทั้งนี้ ตนเห็นว่า ในกรณีดังกล่าวทางพีเอสไอควรจะต้องดูแลในส่วนของลูกค้าตนเอง เนื่องจากประกาศเรื่อง Must Carry เอง ก็ต้องปกป้องปัญหาในเรื่องของลิขสิทธิ์ในจุดนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะเป็นการเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณรุ่นใหม่ที่สามารถเข้ารหัสได้ให้กับ ลูกค้า โดยบทลงโทษเรื่องจอดำสำหรับกรณีนี้อาจมีเพียงบางส่วนเท่านั้น รวมทั้งยังต้องผ่านการพิจารณาและการชั่งน้ำหนักความผิดอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากทางพีเอสไอไม่สามารถดำเนินการแก้ไขในจุดนี้ได้ ตนก็เชื่อว่า มีผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องการเข้าไป ดูแลลูกค้าพีเอสไอในส่วนนี้แทน

“ปัจจุบันยังมีกล่องบางกล่องที่โบราณมากๆ อาจไม่สามารถถอดรหัสได้ ดังนั้น ผู้ประกอบกิจการต้องดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ลูกค้าสามารถดูได้เช่นเดิม ซึ่งเท่าที่รู้มีอยู่เป็นจำนวนน้อยมาก”

อย่างไรก็ดี เชื่อว่า จะมีโปรโมชันออกมาจากผู้ประกอบกิจการทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวีออกมาขายกับประชาชนหรือลูกค้าเดิม เพื่อเชิญชวนให้เปลี่ยนกล่องเดิมมาเป็นกล่องใหม่แน่นอน

ขณะที่ นายวรสิทธิ์ ลีลาบูรณพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่พีเอสไอได้ทำตลาดทีวีดาวเทียมมาเป็นเวลา 20 มีการจำหน่ายกล่องรับสัญญาณออกไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 10.5 ล้านกล่อง ในจำนวนดังกล่าวมีกล่องรับสัญญาณที่ไม่สามารถเข้ารหัสสัญญาณได้เหลือใช้ใน กลุ่มลูกค้าของพีเอสไอ ราว 800,000 กล่อง ซึ่งในจำนวนนี้อาจส่งผลกระทบให้ไม่สามารถรับชมรายการที่มีปัญหาด้าน ลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จะมาถึงนี้ได้

ล่าสุด พีเอสไอจึงกำลังทำแผนการตลาดสำหรับลูกค้าเก่าสามารถนำกล่องเก่าที่เข้ารหัส สัญญาณไม่ได้มาเปลี่ยนเป็นกล่องรุ่นใหม่ที่สามารถเข้ารหัสสัญญาณได้ในราคา 499 บาท คาดสิ้นปีจะเหลือกลุ่มลูกค้าที่ใช้กล่องรุ่นเก่าที่เข้ารหัสสัญญาณไม่ได้ของ พีเอสไอราว 100,000 กล่อง

พ.อ.นที กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการฟรีทีวีช่อง 3, 5, 7, 9, 11 และ ThaiPbs ที่เข้าร่วมเสวนาไขข้อข้องใจร่วมกับผู้ประกอบการทีวี ที่มีต่อประกาศ Must Carry ต่างมีความกังวลในเรื่องลิขสิทธิ์เดิมที่ใช้อยู่จะมีผลกระทบอะไรหรือไหม แต่ส่วนใหญ่ไม่มีข้อกังวลต่อประกาศฉบับดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากตนได้ชี้แจงแล้วว่าให้ผู้ประกอบการฟรีทีวีสามารถถ่ายทอดสัญญาณทาง ช่องฟรีทีวีของตนเองได้เป็นปกติ

ขณะที่ผู้ประกอบกิจการเพย์ทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ต่างมีความกังวลในเรื่องกลัวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่ติด ลิขสิทธิ์รายการ โดยในข้อนี้ตนได้ชี้แจงด้วยเช่นกันว่าในประกาศข้อที่ 6 ระบุชัดเจนในสาระสำคัญแล้วว่า ผู้ที่ประกอบการในส่วนเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม ต้องทำหน้าที่เป็นเหมือนเสาอากาศถ่ายทอดสัญญาณที่รับมาโดยไม่มีการดัดแปลง แก้ไข อีกทั้งไม่ต้องมีภาระเพิ่มเติมในเรื่องของค่าลิขสิทธิ์

“ประกาศฉบับดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเป็นการรับรองสิทธิของประชาชน ว่า จะสามารถรับชมรายการที่ถ่ายทอดทางฟรีทีวีได้ทุกช่องทาง ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาที่อาจจะดูการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012 ไม่ได้ เนื่องจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) ได้เคยออกมาประกาศแล้วว่าจะรับชมได้เหมือนที่เคยเป็นมา”

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000091515

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.