25 ตุลาคม 2555 TOT โม้(เพิ่มเติม) ดึงซอฟต์แบงค์ยกระดับเทคโนโลยีให้บริการ4Gพื้นที่แน่นหนาและ3Gในพื้นที่ทั่วไป// หนักใจTOT3Gเรื่องเดิม
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้ ทีโอที ได้ตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการโครงข่าย 4G ควบคู่ไปกับบริการโครงข่าย 3G ซึ่งจะให้บริการโครงข่าย 4G เฉพาะพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งานเครือข่ายสูงและแน่นหนา และให้บริการโครงข่าย 3G ในพื้นที่ทั่วไป ซึ่งการนำเทคโนโลยีระบบ 4G มาใช้งาน จะเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการโทรคมนาคมที่ดียิ่งขึ้น เพิ่มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ด้วยการกระจายสัญญาณ wi-fi ทำให้แม้ไม่มีโทรศัพท์หรือเสาสัญญาณอินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
สำหรับบริการ 3จีของทีโอที ขณะนี้สถานีฐานได้มีการขยายไปแล้วกว่า 3,000 แห่ง แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องการใช้โครงข่ายร่วม
(โค-ไซค์) กับผู้ประกอบการเอกชน จึงเป็นผลให้ตามกรอบเวลาเดิมที่ทีโอทีจะขยายให้ได้ครบ 5,320 แห่งในสิ้นปี 2555 ต้องเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 1 ปี 2556 ส่วนรายได้จากบริการ 3จี ก็คาดว่าจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมในปี 2556 ประมาณ 1,400 ล้านบาท
____________________________
TOT เล็งเปิดให้บริการ 3G ควบคู่ 4G รองรับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
นายมนต์ชัย หนูสง รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการเข้าศึกษาดูงานการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของบริษัท ซอฟต์แบงค์ โมบายด์ คอร์ปอร์เรชั่น ซึ่งเป็นภาคเอกชนให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยได้นำเทคโนโลยี 3G และ 4G มาเปิดให้บริการ ซึ่งเพิ่มความสะดวกและยกระดับเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี
สำหรับประเทศไทย ทีโอที ได้ทดลองโครงข่าย 4G เมื่อเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ที่ผ่านมา บนคลื่นความถี่ 1,800 เมกะเฮิรตซ์ และ 2,300 เมกะเฮิรตซ์ ในลักษณะของบรอดแบนด์ไวร์เลส ในย่านการค้ากรุงเทพฯ ที่มีความต้องการใช้งานโครงข่ายโทรศัพท์สูง
ทั้งนี้ ทีโอที ได้ตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการโครงข่าย 4G ควบคู่ไปกับบริการโครงข่าย 3G ซึ่งจะให้บริการโครงข่าย 4G เฉพาะพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งานเครือข่ายสูงและแน่นหนา และให้บริการโครงข่าย 3G ในพื้นที่ทั่วไป ซึ่งการนำเทคโนโลยีระบบ 4G มาใช้งาน จะเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการโทรคมนาคมที่ดียิ่งขึ้น เพิ่มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ด้วยการกระจายสัญญาณ wi-fi ทำให้แม้ไม่มีโทรศัพท์หรือเสาสัญญาณอินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000130457&Keyword=3g
_____________________________________
ทีโอทีชงแผนงาน ขอใช้คลื่น2.3GHz ทำโมบาย แบ็คฮอล หวังสร้างความต่าง
นายมนต์ชัย หนูสง รักษาการกรรมการ?ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทีโอทีกำลังอยู่ระหว่างร่างแผนงานการขอใช้คลื่นความถี่ 2.3 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) ที่ทีโอทีถือครองอยู่ 64 เมกะเฮิรตซ์ โดยแผนงานที่ทีโอทีจะเสนอต่อกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)คือ การใช้คลื่นดังกล่าว เพื่อทำเป็นระบบมือถือโครงข่ายหลัก (โมบาย แบ็คฮอล) สำหรับเป็นโครงข่ายสำรองให้สถานีฐาน ในการเชื่อมต่อจุดไว-ไฟ ฮอทสปอต และขอใช้ทดสอบเทคโนโลยี 4จี (แอลทีอี) เพื่อขยายโครงข่ายอินเตอร์เนตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ไปสู่พื้นที่ห่างไกล ตามนโยบายสมาร์ทไทยแลนด์ของรัฐบาล
ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องขอใช้คลื่น 2.3 GHz เนื่องจากทีโอทีได้ครอบครองอยู่ 64 เมกะเฮิรตซ์ แต่การให้บริการตามใบอนุญาตเดิมที่คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คือ ให้ใช้สำหรับบริการโทรศัพท์สาธารณะในพื้นที่ห่างไกลเท่านั้น ดังนั้นทีโอทีจำเป็นต้องวางยุทธศาสตร์ของตัวเองในการทำธุรกิจดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว เพราะต้องยอมรับว่าตั้งแต่ที่ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประมูลใบอนุญาต(ไลเซ่นส์) 3จีคลื่น 2.1 GHz แล้วเสร็จ ทำให้ความได้เปรียบของทีโอทีในการชิงฐานลูกค้า 3จี หมดไป ดังนั้นจำเป็นต้องสร้างความแตกต่างและนำคลื่น 2.3 GHz มาใช้ประโยชน์
สำหรับบริการ 3จีของทีโอที ขณะนี้สถานีฐานได้มีการขยายไปแล้วกว่า 3,000 แห่ง แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องการใช้โครงข่ายร่วม
(โค-ไซค์) กับผู้ประกอบการเอกชน จึงเป็นผลให้ตามกรอบเวลาเดิมที่ทีโอทีจะขยายให้ได้ครบ 5,320 แห่งในสิ้นปี 2555 ต้องเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 1 ปี 2556 ส่วนรายได้จากบริการ 3จี ก็คาดว่าจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมในปี 2556 ประมาณ 1,400 ล้านบาท
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1515830
ทั้งนี้ ทีโอที ได้ตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการโครงข่าย 4G ควบคู่ไปกับบริการโครงข่าย 3G ซึ่งจะให้บริการโครงข่าย 4G เฉพาะพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งานเครือข่ายสูงและแน่นหนา และให้บริการโครงข่าย 3G ในพื้นที่ทั่วไป ซึ่งการนำเทคโนโลยีระบบ 4G มาใช้งาน จะเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการโทรคมนาคมที่ดียิ่งขึ้น เพิ่มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ด้วยการกระจายสัญญาณ wi-fi ทำให้แม้ไม่มีโทรศัพท์หรือเสาสัญญาณอินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
สำหรับบริการ 3จีของทีโอที ขณะนี้สถานีฐานได้มีการขยายไปแล้วกว่า 3,000 แห่ง แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องการใช้โครงข่ายร่วม
(โค-ไซค์) กับผู้ประกอบการเอกชน จึงเป็นผลให้ตามกรอบเวลาเดิมที่ทีโอทีจะขยายให้ได้ครบ 5,320 แห่งในสิ้นปี 2555 ต้องเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 1 ปี 2556 ส่วนรายได้จากบริการ 3จี ก็คาดว่าจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมในปี 2556 ประมาณ 1,400 ล้านบาท
____________________________
TOT เล็งเปิดให้บริการ 3G ควบคู่ 4G รองรับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
นายมนต์ชัย หนูสง รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการเข้าศึกษาดูงานการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของบริษัท ซอฟต์แบงค์ โมบายด์ คอร์ปอร์เรชั่น ซึ่งเป็นภาคเอกชนให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยได้นำเทคโนโลยี 3G และ 4G มาเปิดให้บริการ ซึ่งเพิ่มความสะดวกและยกระดับเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี
สำหรับประเทศไทย ทีโอที ได้ทดลองโครงข่าย 4G เมื่อเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ที่ผ่านมา บนคลื่นความถี่ 1,800 เมกะเฮิรตซ์ และ 2,300 เมกะเฮิรตซ์ ในลักษณะของบรอดแบนด์ไวร์เลส ในย่านการค้ากรุงเทพฯ ที่มีความต้องการใช้งานโครงข่ายโทรศัพท์สูง
ทั้งนี้ ทีโอที ได้ตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการโครงข่าย 4G ควบคู่ไปกับบริการโครงข่าย 3G ซึ่งจะให้บริการโครงข่าย 4G เฉพาะพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งานเครือข่ายสูงและแน่นหนา และให้บริการโครงข่าย 3G ในพื้นที่ทั่วไป ซึ่งการนำเทคโนโลยีระบบ 4G มาใช้งาน จะเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการโทรคมนาคมที่ดียิ่งขึ้น เพิ่มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ด้วยการกระจายสัญญาณ wi-fi ทำให้แม้ไม่มีโทรศัพท์หรือเสาสัญญาณอินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000130457&Keyword=3g
_____________________________________
ทีโอทีชงแผนงาน ขอใช้คลื่น2.3GHz ทำโมบาย แบ็คฮอล หวังสร้างความต่าง
นายมนต์ชัย หนูสง รักษาการกรรมการ?ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทีโอทีกำลังอยู่ระหว่างร่างแผนงานการขอใช้คลื่นความถี่ 2.3 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) ที่ทีโอทีถือครองอยู่ 64 เมกะเฮิรตซ์ โดยแผนงานที่ทีโอทีจะเสนอต่อกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)คือ การใช้คลื่นดังกล่าว เพื่อทำเป็นระบบมือถือโครงข่ายหลัก (โมบาย แบ็คฮอล) สำหรับเป็นโครงข่ายสำรองให้สถานีฐาน ในการเชื่อมต่อจุดไว-ไฟ ฮอทสปอต และขอใช้ทดสอบเทคโนโลยี 4จี (แอลทีอี) เพื่อขยายโครงข่ายอินเตอร์เนตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ไปสู่พื้นที่ห่างไกล ตามนโยบายสมาร์ทไทยแลนด์ของรัฐบาล
ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องขอใช้คลื่น 2.3 GHz เนื่องจากทีโอทีได้ครอบครองอยู่ 64 เมกะเฮิรตซ์ แต่การให้บริการตามใบอนุญาตเดิมที่คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คือ ให้ใช้สำหรับบริการโทรศัพท์สาธารณะในพื้นที่ห่างไกลเท่านั้น ดังนั้นทีโอทีจำเป็นต้องวางยุทธศาสตร์ของตัวเองในการทำธุรกิจดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว เพราะต้องยอมรับว่าตั้งแต่ที่ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประมูลใบอนุญาต(ไลเซ่นส์) 3จีคลื่น 2.1 GHz แล้วเสร็จ ทำให้ความได้เปรียบของทีโอทีในการชิงฐานลูกค้า 3จี หมดไป ดังนั้นจำเป็นต้องสร้างความแตกต่างและนำคลื่น 2.3 GHz มาใช้ประโยชน์
สำหรับบริการ 3จีของทีโอที ขณะนี้สถานีฐานได้มีการขยายไปแล้วกว่า 3,000 แห่ง แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องการใช้โครงข่ายร่วม
(โค-ไซค์) กับผู้ประกอบการเอกชน จึงเป็นผลให้ตามกรอบเวลาเดิมที่ทีโอทีจะขยายให้ได้ครบ 5,320 แห่งในสิ้นปี 2555 ต้องเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 1 ปี 2556 ส่วนรายได้จากบริการ 3จี ก็คาดว่าจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมในปี 2556 ประมาณ 1,400 ล้านบาท
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1515830
ไม่มีความคิดเห็น: