26 มีนาคม 2555 คาดสมาร์ทโฟนหายทำผู้บริโภคมะกันสูญเงิน 3 หมื่นล.ดอลล์ ปีนี้
คาดสมาร์ทโฟนหายทำผู้บริโภคมะกันสูญเงิน 3 หมื่นล.ดอลล์ ปีนี้
ประเด็นหลัก
สำหรับตัวเลขค่าเสียหายรวมของ ชาวอเมริกันที่อาจได้รับจากเหตุการณ์สมาร์ทโฟนหาย 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐนั้นคำนวณจากค่าเครื่อง ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโอเปอเรเตอร์ ความเสี่ยงจากข้อมูลสำคัญด้านการเงินในโทรศัพท์รั่วไหล ซึ่งล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคได้ทั้งสิ้น
การสำรวจยังพบอีกว่า ราว 95% ของ"ผู้เก็บสมาร์ทโฟนได้"นั้นพยายามจะใช้สมาร์ทโฟน โดย 89% พยายามเปิดแอปส่วนตัวที่มีอยู่ในเครื่อง และมีเพียง 50% เท่านั้นที่พยายามติดต่อเจ้าของ
สำหรับพื้นที่อื่นนอกสหรัฐฯ อังกฤษถือเป็นอีกประเทศที่มีต้นทุนการทำโทรศัพท์มือถือหายสูง โดยพบว่าค่าความเสียหายโดยรวมนั้นอยู่ที่ราว 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 620 ล้านบาท) ซึ่งสำนัก Venturebeat เปรียบเทียบว่าเพียงพอสำหรับการซื้อเค้กในงานเษกสมรสของเจ้าชายและดัชเชส แห่งแคมพริดจ์เมื่อปีที่แล้วถึง 500 ชิ้น
_______________________________________________________
คาดสมาร์ทโฟนหายทำผู้บริโภคมะกันสูญเงิน 3 หมื่นล.ดอลล์ ปีนี้
ผลสำรวจตลาดสหรัฐฯล่าสุดพบ ภาวะสมาร์ทโฟนหายจะทำให้ผู้บริโภคอเมริกันสูญเงินรวมถึง 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ (2012) หรือประมาณ 9.3 แสนล้านบาท โดยความจริงที่น่าตกใจคือกลุ่มตัวอย่าง 9 ใน 15 ล้านคนระบุว่าเคยพบกับเหตุการณ์สมาร์ทโฟนหาย เฉลี่ยแล้วคิดเป็นการหายในเวลา 3.5 วินาทีต่อ 1 เครื่อง
ผู้ทำการสำรวจเรื่องราวของสถิติการทำโทรศัพท์มือถืออัจฉริยะหายในสหรัฐฯคือ Lookout Mobile เป็นบริษัทผู้สร้างซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยบนโทรศัพท์มือถือ โดยสถิติการหาย 3.5 วินาทีต่อเครื่อง นั้นแปลได้ว่าในเวลา 7 นาที มีการทำสมาร์ทโฟนหายในสหรัฐฯมากกว่า 120 เครื่อง
การสำรวจนี้ตอกย้ำว่าการทำสมาร์ทโฟนหายนั้นเป็นเรื่องปกติ เช่นเหตุการณ์พนักงานบริษัทแอปเปิลทำ "ต้นแบบ iPhone 4" หายในบาร์กลางคืนจนทำให้แอปเปิลต้องวุ่นวายกับคดีความหลายขั้นตอน โดยการสำรวจของ Lookout Mobile นั้นอิงจากลูกค้าของบริษัท 15 ล้านรายในปี 2011
จุดที่น่าสนใจคือ Lookout Mobile พบว่า 5 เมืองหลักที่ชาวอเมริกันทำโทรศัพท์มือถือหายมากที่สุดคือ Philadelphia, Seattle, Oakland, Long Beach และ Newark โดยสถานที่ยอดนิยมในการหายคือร้านกาแฟ coffee shop และบาร์กลางคืน
สำหรับตัวเลขค่าเสียหายรวมของชาวอเมริกันที่อาจได้รับจากเหตุการณ์สมาร์ทโฟน หาย 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐนั้นคำนวณจากค่าเครื่อง ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโอเปอเรเตอร์ ความเสี่ยงจากข้อมูลสำคัญด้านการเงินในโทรศัพท์รั่วไหล ซึ่งล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคได้ทั้งสิ้น
การสำรวจยังพบอีกว่า ราว 95% ของ"ผู้เก็บสมาร์ทโฟนได้"นั้นพยายามจะใช้สมาร์ทโฟน โดย 89% พยายามเปิดแอปส่วนตัวที่มีอยู่ในเครื่อง และมีเพียง 50% เท่านั้นที่พยายามติดต่อเจ้าของ
สำหรับพื้นที่อื่นนอกสหรัฐฯ อังกฤษถือเป็นอีกประเทศที่มีต้นทุนการทำโทรศัพท์มือถือหายสูง โดยพบว่าค่าความเสียหายโดยรวมนั้นอยู่ที่ราว 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 620 ล้านบาท) ซึ่งสำนัก Venturebeat เปรียบเทียบว่าเพียงพอสำหรับการซื้อเค้กในงานเษกสมรสของเจ้าชายและดัชเชส แห่งแคมพริดจ์เมื่อปีที่แล้วถึง 500 ชิ้น
แถมยังมีการเปรียบเทียบว่า มูลค่าความเสียหายรวมที่ผู้บริโภคได้รับจากการทำโทรศัพท์มือถือหายที่เมือง Seattle นั้นคิดเป็นเงินเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งเงินเดือนของซีอีโอ Starbucks ตลอดปี 2011
ยังมีอีกสถิติน่าทึ่งในเอเชีย คือ กรุงโซล เกาหลีใต้นั้นเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ทำโทรศัพท์มือถือหายที่โรงเรียน สอนศิลปะป้องกันตัว
..แล้วไทยล่ะ คุณคิดว่าสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่หายที่ไหน?..
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000037421
ประเด็นหลัก
สำหรับตัวเลขค่าเสียหายรวมของ ชาวอเมริกันที่อาจได้รับจากเหตุการณ์สมาร์ทโฟนหาย 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐนั้นคำนวณจากค่าเครื่อง ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโอเปอเรเตอร์ ความเสี่ยงจากข้อมูลสำคัญด้านการเงินในโทรศัพท์รั่วไหล ซึ่งล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคได้ทั้งสิ้น
การสำรวจยังพบอีกว่า ราว 95% ของ"ผู้เก็บสมาร์ทโฟนได้"นั้นพยายามจะใช้สมาร์ทโฟน โดย 89% พยายามเปิดแอปส่วนตัวที่มีอยู่ในเครื่อง และมีเพียง 50% เท่านั้นที่พยายามติดต่อเจ้าของ
สำหรับพื้นที่อื่นนอกสหรัฐฯ อังกฤษถือเป็นอีกประเทศที่มีต้นทุนการทำโทรศัพท์มือถือหายสูง โดยพบว่าค่าความเสียหายโดยรวมนั้นอยู่ที่ราว 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 620 ล้านบาท) ซึ่งสำนัก Venturebeat เปรียบเทียบว่าเพียงพอสำหรับการซื้อเค้กในงานเษกสมรสของเจ้าชายและดัชเชส แห่งแคมพริดจ์เมื่อปีที่แล้วถึง 500 ชิ้น
_______________________________________________________
คาดสมาร์ทโฟนหายทำผู้บริโภคมะกันสูญเงิน 3 หมื่นล.ดอลล์ ปีนี้
ผลสำรวจตลาดสหรัฐฯล่าสุดพบ ภาวะสมาร์ทโฟนหายจะทำให้ผู้บริโภคอเมริกันสูญเงินรวมถึง 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ (2012) หรือประมาณ 9.3 แสนล้านบาท โดยความจริงที่น่าตกใจคือกลุ่มตัวอย่าง 9 ใน 15 ล้านคนระบุว่าเคยพบกับเหตุการณ์สมาร์ทโฟนหาย เฉลี่ยแล้วคิดเป็นการหายในเวลา 3.5 วินาทีต่อ 1 เครื่อง
ผู้ทำการสำรวจเรื่องราวของสถิติการทำโทรศัพท์มือถืออัจฉริยะหายในสหรัฐฯคือ Lookout Mobile เป็นบริษัทผู้สร้างซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยบนโทรศัพท์มือถือ โดยสถิติการหาย 3.5 วินาทีต่อเครื่อง นั้นแปลได้ว่าในเวลา 7 นาที มีการทำสมาร์ทโฟนหายในสหรัฐฯมากกว่า 120 เครื่อง
การสำรวจนี้ตอกย้ำว่าการทำสมาร์ทโฟนหายนั้นเป็นเรื่องปกติ เช่นเหตุการณ์พนักงานบริษัทแอปเปิลทำ "ต้นแบบ iPhone 4" หายในบาร์กลางคืนจนทำให้แอปเปิลต้องวุ่นวายกับคดีความหลายขั้นตอน โดยการสำรวจของ Lookout Mobile นั้นอิงจากลูกค้าของบริษัท 15 ล้านรายในปี 2011
จุดที่น่าสนใจคือ Lookout Mobile พบว่า 5 เมืองหลักที่ชาวอเมริกันทำโทรศัพท์มือถือหายมากที่สุดคือ Philadelphia, Seattle, Oakland, Long Beach และ Newark โดยสถานที่ยอดนิยมในการหายคือร้านกาแฟ coffee shop และบาร์กลางคืน
สำหรับตัวเลขค่าเสียหายรวมของชาวอเมริกันที่อาจได้รับจากเหตุการณ์สมาร์ทโฟน หาย 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐนั้นคำนวณจากค่าเครื่อง ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโอเปอเรเตอร์ ความเสี่ยงจากข้อมูลสำคัญด้านการเงินในโทรศัพท์รั่วไหล ซึ่งล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคได้ทั้งสิ้น
การสำรวจยังพบอีกว่า ราว 95% ของ"ผู้เก็บสมาร์ทโฟนได้"นั้นพยายามจะใช้สมาร์ทโฟน โดย 89% พยายามเปิดแอปส่วนตัวที่มีอยู่ในเครื่อง และมีเพียง 50% เท่านั้นที่พยายามติดต่อเจ้าของ
สำหรับพื้นที่อื่นนอกสหรัฐฯ อังกฤษถือเป็นอีกประเทศที่มีต้นทุนการทำโทรศัพท์มือถือหายสูง โดยพบว่าค่าความเสียหายโดยรวมนั้นอยู่ที่ราว 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 620 ล้านบาท) ซึ่งสำนัก Venturebeat เปรียบเทียบว่าเพียงพอสำหรับการซื้อเค้กในงานเษกสมรสของเจ้าชายและดัชเชส แห่งแคมพริดจ์เมื่อปีที่แล้วถึง 500 ชิ้น
แถมยังมีการเปรียบเทียบว่า มูลค่าความเสียหายรวมที่ผู้บริโภคได้รับจากการทำโทรศัพท์มือถือหายที่เมือง Seattle นั้นคิดเป็นเงินเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งเงินเดือนของซีอีโอ Starbucks ตลอดปี 2011
ยังมีอีกสถิติน่าทึ่งในเอเชีย คือ กรุงโซล เกาหลีใต้นั้นเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ทำโทรศัพท์มือถือหายที่โรงเรียน สอนศิลปะป้องกันตัว
..แล้วไทยล่ะ คุณคิดว่าสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่หายที่ไหน?..
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000037421
ไม่มีความคิดเห็น: