30 มิถุนายน 2555 ข่าวค่ำ!! โทรคมนาคมและการสือสาร 3 ข่าวเด่น ประจำวันที่ 28 / 06 / 2555
ข่าวค่ำ!! โทรคมนาคมและการสือสาร 3 ข่าวเด่น ประจำวันที่ 28 / 06 / 2555
1..... (ศาลแพ่งไม่คุ้มครองฉุกเฉิน)ศาลเชื่อ+ ยังดูได้ตามระบบปกติและช่องทางอืนได้ปกติแทนดาวเทียม+หวั่นกระทบข้อตกลงระหว่างประเทศ
2..... (กสทช.เล็งศึกษาด่วน) เล็งร่วมรัฐบาลจะเข้าไปซื้อลิขสิทธิ์เองหากเป็นเนื้อหาดู / เล็งออกกฎห้ามบล็อคสัญญาณ 5 ก.ค.นี้
3..... Thailand International Mobile Show 2012 ถล่มโปรล้างสต็อกรับคิวเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน คาดเงินสะพัดโมบายโชว์ 1,200 ล้านบาทผู้เข้าชมงานราว 4 แสนคน
เริ่มเรื่อง
(ศาลแพ่งไม่คุ้มครองฉุกเฉิน)ศาลเชื่อ+ ยังดูได้ตามระบบปกติและช่องทางอืนได้ปกติแทนดาวเทียม+หวั่นกระทบข้อตกลงระหว่างประเทศ
ASTV ผู้จัดการ รายงานว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังสามารถได้รับชมการถ่ายทอดการแข่งขัน ฟุตบอลดังกล่าวจากทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ช่อง 5 และช่อง 9 ได้โดยผ่านทางสายอากาศรับสัญญาณทั่วไป หรือโดยการรับช่องทางอื่น ดังเช่น ทางอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์เคลื่อนที่ หากศาลมีคำสั่งอนุญาตให้คุ้มครองชั่วคราวในส่วนของจำเลยที่ 1-3 ดังที่โจทก์ทั้ง 5 ขอ ทางสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ซึ่งอยู่นอกเขตอำนาจศาลไทยอาจใช้เป็นข้ออ้างในเรื่องสิขสิทธิ์ผ่านทางจำเลย ที่ 4 เพื่อระงับการส่งสัญญาณให้แก่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ช่อง 5 และช่อง 9 ได้ ส่วนการระงับสัญญาณจะเป็นการกระทำไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์สิทธิกันในภายหลังระหว่างคู่กรณี แต่กระทบที่จะเกิดขึ้นทันทีก็คือ ไม่เพียงแต่โจทก์ทั้ง 5 และผู้บริโภคที่ใช้บริการในทำนองเดียวกับโจทก์ทั้ง 5 แล้ว ยังลุกลามไปถึงผู้บริโภคอื่นทั้งประเทศที่อาจไม่ได้รับชมการถ่ายทอดการแข่ง ขันฟุตบอลดังกล่าวไปด้วย อันจะเป็นความเสียหายมากมายยิ่งกว่า นอกจากนี้ ผลกระทบยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น ก็คือความน่าเชื่อถือของประเทศที่มีต่อประชาคมโลกในเรื่องการรับรองสิทธิใน ทรัพย์สินทางปัญญาและอาจส่งผลต่อเนื่องไปถึงการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬารายการ อื่นๆ รวมทั้งข้อตกลงระหว่างประเทศในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาในอนาคต อันยากที่จะเยียวยาแก้ไข
ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว นายณรัช อิ่มสุขศรี เลขานุการศาลแพ่ง ได้แถลงย้ำคำสั่งของศาลแพ่งว่า ศาลแพ่งได้คำนึงถึงประโยชน์ของทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภค โจทก์ และผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับสิทธิถ่ายทอดบอลยูโร ศาลเข้าใจว่าช่อง 3, 5 และ 9 เป็นโทรทัศน์สาธารณะ มีบทบาทต้องรับใช้สิทธิ์ของประชาชน แต่ช่อง 3, 5 และ 9 ได้ทำสัญญากับทางแกรมมี่ ถ้าหากมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว และให้ถ่ายทอดสดใน 2 ระบบ อาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์และทางยูฟ่าอาจจะระงับสัญญาณได้ ทำให้ประชาชนที่ชมการถ่ายทอดสดผ่านทางเสาก้างปลาไม่ได้รับชม เมื่อพิจารณาแล้วจึงให้ความคุ้มครองคนส่วนใหญ่ แต่ศาลก็ได้เขียนในคำสั่งให้ช่อง 3, 5 และ 9 คำนึงถึงสิทธิ์ของประชาชนมากขึ้น โดยอยู่ภายใต้กฎหมายของ กสทช.
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000080034
__________________________________
(กสทช.เล็งศึกษาด่วน) เล็งร่วมรัฐบาลจะเข้าไปซื้อลิขสิทธิ์เองหากเป็นเนื้อหาดู / เล็งออกกฎห้ามบล็อคสัญญาณ 5 ก.ค.นี้
ASTV ผู้จัดการ และ มติชน รายงานว่า น.ส.สุภิญญาระบุด้วยว่า สำหรับเรื่องลิขสิทธิ์ที่มีความกังวลกันว่า ในอนาคตอาจมีการแข่งขันกันแย่งซื้อลิขสิทธิ์สูง นายวรวัจน์จึงเสนอว่า ต่อไปถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องที่เป็นภัย ควรจะต้องรีบดูว่า กสทช.จะเข้าไปซื้อลิขสิทธิ์เองได้หรือไม่ แต่ตนเองก็ยังรับปากไม่ได้ เพราะต้องไปหารือกับคณะกรรมการ กสทช.ก่อน เช่น หากมีกรณีแย่งกันซื้อแล้วไปขายกล่องอย่างเดียว คนอื่นๆ ก็อาจจะไม่ได้ดู จะต้องมีการกำหนดหรือไม่ว่า หากเป็นเนื้อหาที่คนไทยควรได้ดู รัฐบาลกับ กสทช.จะร่วมกันซื้อเลยหรือไม่ หรือจะร่วมกันประมูลกับเอกชน ซึ่งมีหลายทางเลือก แต่ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีข้อสรุป เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ และอาจเกิดปัญหา คงต้องมีการหารือกันอีก
อย่างไรก็ตาม น.ส.สุภิญญายอมรับว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นปีนี้ มีสาเหตุมาจากการแข่งขันของภาคธุรกิจที่รุนแรงขึ้น มีการรับชมฟรีทีวีผ่านทีวีดาวเทียม ซึ่งโมเดลธุรกิจไม่เหมือนกันและไม่มีกติกามาก่อน ส่งผลให้ธุรกิจเอกชนมีความแข็งแรงมากขึ้น และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เองก็ต้องการขึ้นตลาด ไม่เผื่อแผ่คนอื่นเพื่อให้ตัวเองขายกล่องได้ ถามว่าเป็นการแข่งขันหรือไม่ ก็เป็นการแข่งขัน แต่ถามว่าเป็นธรรมกับผู้บริโภคหรือไม่ ก็ไม่เป็นธรรม ซึ่งเราก็ต้องออกฎเพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม
น.ส. สุภิญญา กล่าวว่า กรณีจอดำขณะนี้คงต้องรอศาลแพ่งว่าจะสามารถมีคำสั่งคุ้มครอง ให้สามารถดูการแข่งขันในรอบสุดท้ายวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ได้หรือไม อย่างไรก็ตามในระยะยาวต่อจากนี้ฟรีทีวีทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของความรับผิดชอบสื่อของรัฐบาลด้วย เช่น อสมท.เพราะไปล็อคสัญญาณให้ออกดาวเทียม ส่วนกสทช. ก็จะไปออกกติกาดูแลควบคุมผู้ประกอบการในวันที่5 กรกฎาคมนี้ โดยจัดเวทีเชิญฟรีทีวีมาร่วมหารือกันจะเชิญทีวีพูล ทรู ฟรีทีวีมาชี้แจงเพื่อเป็นหลักว่าจะไม่มีกรณีบล็อกสัญญานกันอีกเบื้องต้นการ ถ่ายทอดโอลิมปิกจะเป็นทีวีพูล คาดว่าจะมีการถ่ายทอดทุกช่อง ส่วนฟุตบอลโลกยังมีเวลาอีก 2 ปี ซึ่งประเด็นเรื่องการการออกกฎห้ามการบล็อกสัญญาณฟรีทีวีในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ กสทช. จะกลับไปพิจารณาร่างกฎห้ามปิดกั้นฟรีทีวี ส่วนกระบวนการร่างกฎดังกล่าว จะต้องมีการฟังประชาพิจารณ์ และประกาศในราชกิจจานุเบกษารวมใช้ระยะเวลา 2-3 เดือน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1340971633&grpid=03&catid=03
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000080066&Keyword=%A1%CA%B7%AA
__________________________________
Thailand International Mobile Show 2012 ถล่มโปรล้างสต็อกรับคิวเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน คาดเงินสะพัดโมบายโชว์ 1,200 ล้านบาทผู้เข้าชมงานราว 4 แสนคน
ASTV ผู้จัดการ และ กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น กล่าวถึงการจัดงาน Thailand International Mobile Show 2012 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ว่าถือเป็นการเปิดฐานลูกค้าใหม่ในย่านชานเมือง รวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการเลือกซื้อสินค้าอย่างเต็มที่ จากพื้นที่ที่กว้างขึ้นกว่าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ถึง 3 เท่า และยังเป็นช่วงที่สินค้ารุ่นใหม่เริ่มทยอยเข้ามาในตลาดด้วย
'คาดว่า จะมีผู้เข้าชมงานราว 4 แสนคน เงินสะพัดกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยกว่างานโมบาย เอ็กซ์โปที่จัดขึ้นใจกลางเมือง เพราะเป็นครั้งแรกที่ลองออกมาจัดงานที่ไบเทค'
เมื่อมองถึงสภาพโดยรวม ของตลาดโทรศัพท์มือถือในช่วงต้นปีที่ผ่านมาพบว่า ตลาดรวมน่าจะตกลงราว 5% จากสภาพเศรษฐกิจ รวมกับแบรนด์ผู้ผลิตไม่มีเครื่องรุ่นใหม่ๆออกมาทำตลาด แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังการแข่งขันในตลาดจะสูงขึ้น ขณะเดียวกันราคาเฉลี่ยของสมาร์ทโฟนก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย
'การมาของ สมาร์ทโฟนควอดคอร์ จะทำให้ราคาเฉลี่ยของสมาร์ทโฟนสูงขึ้น จากปีที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคาจะต่ำกว่า 20,000 บาททั้งหมด แต่เมื่อมีซีพียูควอดคอร์ ทำให้ราคาขยับสูงขึ้นเกิน 20,000 บาท ซึ่งจากส่วนต่างดังกล่าวก็จะช่วยผลักดันให้ตลาดมีการเติบโตขึ้นราว 10%'
นาย โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดค้าปลีกมือถือครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่ค่อนข้างเงียบ เหงา ตั้งแต่เดือนก.ค. เป็นต้นไป ผู้ผลิตแบรนด์ดังเตรียมนำสมาร์ทโฟน เทคโนโลยีใหม่ใช้หน่วยประมวลผลควอดคอร์เข้ามาทำตลาด คาดว่าสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ราคาจะเพิ่มขึ้นอีก 10% เมื่อถึงสิ้นปีตลาดรวมมีโอกาสเติบโตได้ถึง 10%
ล่าสุดทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท จัดงาน “ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โมบาย โชว์ 2012” เป็นครั้งแรกที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.-1 ก.ค. งานครั้งนี้มีเนื้อที่มากกว่างานโมบาย เอ็กซ์โป 3 เท่า ทั้งมีผู้ค้าเข้าร่วมงานมากถึง 50 รายจากเดิมที่มี 30 ราย ตั้งเป้ามีผู้เข้าชมมากกว่า 4 แสนราย เงินสะพัดไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านบาท
“สินค้า ที่น่าจะมาแรงที่สุดยังเป็นสมาร์ทโฟน และแทบเล็ต ผู้ค้าแต่ละรายส่งโปรโมชั่นแรงเข้ามาแข่งขันเพื่อล้างสต็อกสินค้า และรอขายสินค้าใหม่ เช่น ดีแทค และ ทรูมูฟ ที่มอบส่วนลดพิเศษให้กว่า 50% ทั้งยังเปิดตัวสินค้าใหม่จากผู้ผลิตชั้นนำทั้งอินเตอร์แบรนด์ และ เฮ้าส์แบรนด์ ซัมซุง แอลจี ไอโมบาย และออปโป้” นายโอภาส กล่าวครึ่งปีหลังแข่งดุ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20120629/459142/โมบายโชว์-ถล่มโปรล้างสต็อกรับคิวเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน.html
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000079830
1..... (ศาลแพ่งไม่คุ้มครองฉุกเฉิน)ศาลเชื่อ+ ยังดูได้ตามระบบปกติและช่องทางอืนได้ปกติแทนดาวเทียม+หวั่นกระทบข้อตกลงระหว่างประเทศ
2..... (กสทช.เล็งศึกษาด่วน) เล็งร่วมรัฐบาลจะเข้าไปซื้อลิขสิทธิ์เองหากเป็นเนื้อหาดู / เล็งออกกฎห้ามบล็อคสัญญาณ 5 ก.ค.นี้
3..... Thailand International Mobile Show 2012 ถล่มโปรล้างสต็อกรับคิวเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน คาดเงินสะพัดโมบายโชว์ 1,200 ล้านบาทผู้เข้าชมงานราว 4 แสนคน
เริ่มเรื่อง
(ศาลแพ่งไม่คุ้มครองฉุกเฉิน)ศาลเชื่อ+ ยังดูได้ตามระบบปกติและช่องทางอืนได้ปกติแทนดาวเทียม+หวั่นกระทบข้อตกลงระหว่างประเทศ
ASTV ผู้จัดการ รายงานว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังสามารถได้รับชมการถ่ายทอดการแข่งขัน ฟุตบอลดังกล่าวจากทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ช่อง 5 และช่อง 9 ได้โดยผ่านทางสายอากาศรับสัญญาณทั่วไป หรือโดยการรับช่องทางอื่น ดังเช่น ทางอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์เคลื่อนที่ หากศาลมีคำสั่งอนุญาตให้คุ้มครองชั่วคราวในส่วนของจำเลยที่ 1-3 ดังที่โจทก์ทั้ง 5 ขอ ทางสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ซึ่งอยู่นอกเขตอำนาจศาลไทยอาจใช้เป็นข้ออ้างในเรื่องสิขสิทธิ์ผ่านทางจำเลย ที่ 4 เพื่อระงับการส่งสัญญาณให้แก่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ช่อง 5 และช่อง 9 ได้ ส่วนการระงับสัญญาณจะเป็นการกระทำไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์สิทธิกันในภายหลังระหว่างคู่กรณี แต่กระทบที่จะเกิดขึ้นทันทีก็คือ ไม่เพียงแต่โจทก์ทั้ง 5 และผู้บริโภคที่ใช้บริการในทำนองเดียวกับโจทก์ทั้ง 5 แล้ว ยังลุกลามไปถึงผู้บริโภคอื่นทั้งประเทศที่อาจไม่ได้รับชมการถ่ายทอดการแข่ง ขันฟุตบอลดังกล่าวไปด้วย อันจะเป็นความเสียหายมากมายยิ่งกว่า นอกจากนี้ ผลกระทบยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น ก็คือความน่าเชื่อถือของประเทศที่มีต่อประชาคมโลกในเรื่องการรับรองสิทธิใน ทรัพย์สินทางปัญญาและอาจส่งผลต่อเนื่องไปถึงการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬารายการ อื่นๆ รวมทั้งข้อตกลงระหว่างประเทศในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาในอนาคต อันยากที่จะเยียวยาแก้ไข
ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว นายณรัช อิ่มสุขศรี เลขานุการศาลแพ่ง ได้แถลงย้ำคำสั่งของศาลแพ่งว่า ศาลแพ่งได้คำนึงถึงประโยชน์ของทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภค โจทก์ และผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับสิทธิถ่ายทอดบอลยูโร ศาลเข้าใจว่าช่อง 3, 5 และ 9 เป็นโทรทัศน์สาธารณะ มีบทบาทต้องรับใช้สิทธิ์ของประชาชน แต่ช่อง 3, 5 และ 9 ได้ทำสัญญากับทางแกรมมี่ ถ้าหากมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว และให้ถ่ายทอดสดใน 2 ระบบ อาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์และทางยูฟ่าอาจจะระงับสัญญาณได้ ทำให้ประชาชนที่ชมการถ่ายทอดสดผ่านทางเสาก้างปลาไม่ได้รับชม เมื่อพิจารณาแล้วจึงให้ความคุ้มครองคนส่วนใหญ่ แต่ศาลก็ได้เขียนในคำสั่งให้ช่อง 3, 5 และ 9 คำนึงถึงสิทธิ์ของประชาชนมากขึ้น โดยอยู่ภายใต้กฎหมายของ กสทช.
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000080034
__________________________________
(กสทช.เล็งศึกษาด่วน) เล็งร่วมรัฐบาลจะเข้าไปซื้อลิขสิทธิ์เองหากเป็นเนื้อหาดู / เล็งออกกฎห้ามบล็อคสัญญาณ 5 ก.ค.นี้
ASTV ผู้จัดการ และ มติชน รายงานว่า น.ส.สุภิญญาระบุด้วยว่า สำหรับเรื่องลิขสิทธิ์ที่มีความกังวลกันว่า ในอนาคตอาจมีการแข่งขันกันแย่งซื้อลิขสิทธิ์สูง นายวรวัจน์จึงเสนอว่า ต่อไปถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องที่เป็นภัย ควรจะต้องรีบดูว่า กสทช.จะเข้าไปซื้อลิขสิทธิ์เองได้หรือไม่ แต่ตนเองก็ยังรับปากไม่ได้ เพราะต้องไปหารือกับคณะกรรมการ กสทช.ก่อน เช่น หากมีกรณีแย่งกันซื้อแล้วไปขายกล่องอย่างเดียว คนอื่นๆ ก็อาจจะไม่ได้ดู จะต้องมีการกำหนดหรือไม่ว่า หากเป็นเนื้อหาที่คนไทยควรได้ดู รัฐบาลกับ กสทช.จะร่วมกันซื้อเลยหรือไม่ หรือจะร่วมกันประมูลกับเอกชน ซึ่งมีหลายทางเลือก แต่ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีข้อสรุป เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ และอาจเกิดปัญหา คงต้องมีการหารือกันอีก
อย่างไรก็ตาม น.ส.สุภิญญายอมรับว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นปีนี้ มีสาเหตุมาจากการแข่งขันของภาคธุรกิจที่รุนแรงขึ้น มีการรับชมฟรีทีวีผ่านทีวีดาวเทียม ซึ่งโมเดลธุรกิจไม่เหมือนกันและไม่มีกติกามาก่อน ส่งผลให้ธุรกิจเอกชนมีความแข็งแรงมากขึ้น และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เองก็ต้องการขึ้นตลาด ไม่เผื่อแผ่คนอื่นเพื่อให้ตัวเองขายกล่องได้ ถามว่าเป็นการแข่งขันหรือไม่ ก็เป็นการแข่งขัน แต่ถามว่าเป็นธรรมกับผู้บริโภคหรือไม่ ก็ไม่เป็นธรรม ซึ่งเราก็ต้องออกฎเพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม
น.ส. สุภิญญา กล่าวว่า กรณีจอดำขณะนี้คงต้องรอศาลแพ่งว่าจะสามารถมีคำสั่งคุ้มครอง ให้สามารถดูการแข่งขันในรอบสุดท้ายวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ได้หรือไม อย่างไรก็ตามในระยะยาวต่อจากนี้ฟรีทีวีทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของความรับผิดชอบสื่อของรัฐบาลด้วย เช่น อสมท.เพราะไปล็อคสัญญาณให้ออกดาวเทียม ส่วนกสทช. ก็จะไปออกกติกาดูแลควบคุมผู้ประกอบการในวันที่5 กรกฎาคมนี้ โดยจัดเวทีเชิญฟรีทีวีมาร่วมหารือกันจะเชิญทีวีพูล ทรู ฟรีทีวีมาชี้แจงเพื่อเป็นหลักว่าจะไม่มีกรณีบล็อกสัญญานกันอีกเบื้องต้นการ ถ่ายทอดโอลิมปิกจะเป็นทีวีพูล คาดว่าจะมีการถ่ายทอดทุกช่อง ส่วนฟุตบอลโลกยังมีเวลาอีก 2 ปี ซึ่งประเด็นเรื่องการการออกกฎห้ามการบล็อกสัญญาณฟรีทีวีในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ กสทช. จะกลับไปพิจารณาร่างกฎห้ามปิดกั้นฟรีทีวี ส่วนกระบวนการร่างกฎดังกล่าว จะต้องมีการฟังประชาพิจารณ์ และประกาศในราชกิจจานุเบกษารวมใช้ระยะเวลา 2-3 เดือน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1340971633&grpid=03&catid=03
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000080066&Keyword=%A1%CA%B7%AA
__________________________________
Thailand International Mobile Show 2012 ถล่มโปรล้างสต็อกรับคิวเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน คาดเงินสะพัดโมบายโชว์ 1,200 ล้านบาทผู้เข้าชมงานราว 4 แสนคน
ASTV ผู้จัดการ และ กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น กล่าวถึงการจัดงาน Thailand International Mobile Show 2012 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ว่าถือเป็นการเปิดฐานลูกค้าใหม่ในย่านชานเมือง รวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการเลือกซื้อสินค้าอย่างเต็มที่ จากพื้นที่ที่กว้างขึ้นกว่าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ถึง 3 เท่า และยังเป็นช่วงที่สินค้ารุ่นใหม่เริ่มทยอยเข้ามาในตลาดด้วย
'คาดว่า จะมีผู้เข้าชมงานราว 4 แสนคน เงินสะพัดกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยกว่างานโมบาย เอ็กซ์โปที่จัดขึ้นใจกลางเมือง เพราะเป็นครั้งแรกที่ลองออกมาจัดงานที่ไบเทค'
เมื่อมองถึงสภาพโดยรวม ของตลาดโทรศัพท์มือถือในช่วงต้นปีที่ผ่านมาพบว่า ตลาดรวมน่าจะตกลงราว 5% จากสภาพเศรษฐกิจ รวมกับแบรนด์ผู้ผลิตไม่มีเครื่องรุ่นใหม่ๆออกมาทำตลาด แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังการแข่งขันในตลาดจะสูงขึ้น ขณะเดียวกันราคาเฉลี่ยของสมาร์ทโฟนก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย
'การมาของ สมาร์ทโฟนควอดคอร์ จะทำให้ราคาเฉลี่ยของสมาร์ทโฟนสูงขึ้น จากปีที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคาจะต่ำกว่า 20,000 บาททั้งหมด แต่เมื่อมีซีพียูควอดคอร์ ทำให้ราคาขยับสูงขึ้นเกิน 20,000 บาท ซึ่งจากส่วนต่างดังกล่าวก็จะช่วยผลักดันให้ตลาดมีการเติบโตขึ้นราว 10%'
นาย โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดค้าปลีกมือถือครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่ค่อนข้างเงียบ เหงา ตั้งแต่เดือนก.ค. เป็นต้นไป ผู้ผลิตแบรนด์ดังเตรียมนำสมาร์ทโฟน เทคโนโลยีใหม่ใช้หน่วยประมวลผลควอดคอร์เข้ามาทำตลาด คาดว่าสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ราคาจะเพิ่มขึ้นอีก 10% เมื่อถึงสิ้นปีตลาดรวมมีโอกาสเติบโตได้ถึง 10%
ล่าสุดทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท จัดงาน “ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โมบาย โชว์ 2012” เป็นครั้งแรกที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.-1 ก.ค. งานครั้งนี้มีเนื้อที่มากกว่างานโมบาย เอ็กซ์โป 3 เท่า ทั้งมีผู้ค้าเข้าร่วมงานมากถึง 50 รายจากเดิมที่มี 30 ราย ตั้งเป้ามีผู้เข้าชมมากกว่า 4 แสนราย เงินสะพัดไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านบาท
“สินค้า ที่น่าจะมาแรงที่สุดยังเป็นสมาร์ทโฟน และแทบเล็ต ผู้ค้าแต่ละรายส่งโปรโมชั่นแรงเข้ามาแข่งขันเพื่อล้างสต็อกสินค้า และรอขายสินค้าใหม่ เช่น ดีแทค และ ทรูมูฟ ที่มอบส่วนลดพิเศษให้กว่า 50% ทั้งยังเปิดตัวสินค้าใหม่จากผู้ผลิตชั้นนำทั้งอินเตอร์แบรนด์ และ เฮ้าส์แบรนด์ ซัมซุง แอลจี ไอโมบาย และออปโป้” นายโอภาส กล่าวครึ่งปีหลังแข่งดุ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20120629/459142/โมบายโชว์-ถล่มโปรล้างสต็อกรับคิวเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน.html
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000079830
ไม่มีความคิดเห็น: