1 พฤศจิกายน 2555 (เกาะติดประมูล3G) สว.ชี้ กทค. ไม่มีอำนวจประมูล 3G ( ประธาน กสทช.ควรเร่งเรียกประชุมพิจราณาดีกว่าเรื่องจะจบไปอีกเรื่อง )
ประเด็นหลัก
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมายป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม วุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอยื่นเอกสารให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาในคำร้องที่ขอส่งเรื่องต่อให้ศาลปกครองพิจารณาว่าคณะกรรมการโทรคมนาคม (กทค.) มีอำนาจที่จะรับรองผลการประมูล 3จี หรือไม่ โดยเอกสารที่ส่งให้พิจารณาเพิ่มเติมเป็นสำเนารายงานการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 16 (สมัยสภานิติบัญญัติ) วันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 ที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ในมาตรา 27 ที่มีทั้งหมด 25 ข้อ โดยข้อความที่สำคัญ คือ ถึงแม้ว่า กสทช.จะมีกรรมการย่อยมาช่วยดำเนินการ แต่ว่าการพิจารณาอนุมัติเป็นการพิจารณาอนุมัติโดย กรรมการ กสทช.ชุดใหญ่ ทั้งหมด นั่นคือมูลเหตุที่ถึงได้เขียนไว้ว่าเป็นการกำกับดูแลการประกอบกิจการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่า กทค.ไม่มีอำนาจรับรองผลการประมูล 3จี
นายไพบูลย์ยังกล่าวถึงประเด็นที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ระบุว่าจะมีการชะลอออกใบอนุญาต 3จี เพื่อรอการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ว่า ไม่มั่นใจว่าประเด็นของการให้ชะลอออกใบอนุญาตจะมีผลหรือไม่ เพราะเป็นประกาศของ กทค.ซึ่งไม่มีอำนาจไม่ได้เป็นประกาศจาก กสทช. ทางที่ดีตนมองว่าทางประธาน กสทช.ควรเร่งเรียกประชุม กสทช.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาการจัดประมูล 3จี ดีกว่า
มื่อวันที่ 2 พ.ย. นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. ต้องยกเครื่องให้ความสำคัญกับการทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างจริงจัง และจริงใจ ทั้งในระดับนโยบาย และสำนักงาน เนื่องจากที่ผ่านมา การคุ้มครองผู้บริโภคในประเด็นที่สำคัญ เช่น การกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า ตู้เติมเงินออนไลน์ การให้บริการคงสิทธิ์เลขหมาย ไม่เคยถูกนำไปพิจารณา และ กทค. ไม่สามารถคุ้มครองประชาชนได้จริง
_____________________________________________
“ไพบูลย์” จี้ ปธ.กสทช.ถกผลประมูล 3จี ขู่นิ่งโดนละเว้นหน้าที่
ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา(แฟ้มภาพ)
ปธ.อนุ กมธ.ปราบทุจริต วุฒิฯ แจงเอกสารผู้ตรวจฯ เพิ่ม เผยที่ประชุมวุฒิสภายัน กทค.ไร้อำนาจรับผลการประมูล 3จี แนะ ปธ.กสทช.เรียกประชุม ป้องความเสียหายที่ตามมา ดักเงียบอาจถูกยื่นละเว้นปฏิบัติหน้าที่ พร้อมเสนอแผนเยียวยาหากยกเลิกทั้งปชช-รัฐ-เอกชน ย้ำ กสทช.เรียกประชุมดีกว่าชะลอผลออกไป
วันนี้ (2 พ.ย.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการกฎหมายป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม วุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอยื่นเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาในคำร้องที่ขอส่งเรื่องต่อให้ศาลปกครองพิจารณาว่าคณะกรรมการโทรคมนาคม (กทค.) มีอำนาจที่จะรับรองผลการประมูล 3จีหรือไม่ โดยเอกสารที่ส่งให้พิจารณาเพิ่มเติมเป็นสำเนารายงานการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 12 (สมัยสภานิติบัญญัติ) วันที่ 15 พ.ย. 2553 ที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของ กสทช.ในมาตรา 27 ที่มีทั้งหมด 25 ข้อ โดยข้อความที่สำคัญ คือ ถึงแม้ว่า กสทช.จะมีกรรมการย่อยมาช่วยดำเนินการ แต่ว่าการพิจารณาอนุมัติเป็นการพิจารณาอนุมัติโดย กรรมการ กสทช.ชุดใหญ่ทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่า กทค.ไม่มีอำนาจรับรองผลการประมูล 3จี
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ดังนั้นตนขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกสทช. ให้เร่งดำเนินการเรียกประชุม กสทช.ชุดใหม่เพื่อพิจารณาผลการประมูล 3จี ตามที่กฎหมาย กสทช.ระบุ เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้หาก ประธาน กสทช.ไม่เรียกประชุมโดยเร็ว อาจมีคณะบุคคลยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายไพบูลย์ได้กล่าวต่อว่า หากมีการประชุม กสทช.ชุดใหญ่และมีผลทำให้การประมูล 3จีครั้งที่ผ่านมาต้องยกเลิก ตนขอเสนอแนวทางให้ กสทช.พิจารณาใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1. ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนที่ใช้บริการ เบื้องต้นเมื่อมีเอกชนสามารถประมูลคลื่นความถี่ได้ จำเป็นต้องให้มีการทำแผนเพื่อลดค่าใช้บริการ เช่น ลดค่าโทรศัพท์ต่อนาที ลงร้อยละ 50 โดยลดลงเป็นแบบขั้นบันไดตลอดอายุสัญญา 2. ต้องคำนึงถึงการจัดสรรประโยชน์ให้แก่รัฐ โดยไม่สร้างภาระให้แก่ผู้ลงทุน เบื้องต้นอาจมีการกำหนดวิธีการจ่ายเงินในแบบทยอยจ่าย ไม่ใช่การจ่ายในคราวเดียว และ 3. ต้องคำนึงถึงผู้ประกอบกิจการ โดยไม่ให้กระทบกับการลงทุน
นายไพบูลย์กล่าวถึงประเด็นที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.ระบุว่าจะมีการชะลอออกใบอนุญาต 3จี เพื่อรอการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ว่า ตนไม่มั่นใจว่าประเด็นของการให้ชะลอออกใบอนุญาตจะมีผลหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นประกาศจาก กสทช. ทางที่ดีตนมองว่าทางประธาน กสทช.ควรเร่งเรียกประชุม กสทช.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาการจัดประมูล 3จีดีกว่า
ASTV ผู้จัการ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000134133&Keyword=%a1%ca%b7
______________________________________
ส.ว.ยื่นข้อมูลเพิ่มผู้ตรวจการฯ ปม กทค.ไม่มีอำนาจรับรองประมูล 3จี
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมายป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม วุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอยื่นเอกสารให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาในคำร้องที่ขอส่งเรื่องต่อให้ศาลปกครองพิจารณาว่าคณะกรรมการโทรคมนาคม (กทค.) มีอำนาจที่จะรับรองผลการประมูล 3จี หรือไม่ โดยเอกสารที่ส่งให้พิจารณาเพิ่มเติมเป็นสำเนารายงานการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 16 (สมัยสภานิติบัญญัติ) วันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 ที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ในมาตรา 27 ที่มีทั้งหมด 25 ข้อ โดยข้อความที่สำคัญ คือ ถึงแม้ว่า กสทช.จะมีกรรมการย่อยมาช่วยดำเนินการ แต่ว่าการพิจารณาอนุมัติเป็นการพิจารณาอนุมัติโดย กรรมการ กสทช.ชุดใหญ่ ทั้งหมด นั่นคือมูลเหตุที่ถึงได้เขียนไว้ว่าเป็นการกำกับดูแลการประกอบกิจการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่า กทค.ไม่มีอำนาจรับรองผลการประมูล 3จี
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ดังนั้น ตนขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. ให้เร่งดำเนินการเรียกประชุม กสทช.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาผลการประมูล 3จี ตามที่กฎหมาย กสทช.ระบุ เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ หากประธาน กสทช.ไม่เรียกประชุมโดยเร็ว อาจมีคณะบุคคลยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า หากมีการประชุม กสทช.ชุดใหญ่และมีผลทำให้การประมูล 3จี ครั้งที่ผ่านมาต้องยกเลิก จึงขอเสนอแนวทางให้ กสทช.พิจารณาโดยต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนที่ใช้บริการ เบื้องต้นเมื่อมีเอกชนสามารถประมูลคลื่นความถี่ได้ จำเป็นต้องให้มีการทำแผนเพื่อลดค่าใช้บริการ เช่น ลดค่าโทรศัพท์ต่อนาทีลง 50% โดยลดลงเป็นแบบขั้นบันไดตลอดอายุสัญญา และต้องคำนึงถึงการจัดสรรประโยชน์ให้กับรัฐ โดยไม่สร้างภาระให้กับผู้ลงทุน เบื้องต้นอาจมีการกำหนดวิธีการจ่ายเงินในแบบทยอยจ่าย ไม่ใช่การจ่ายในคราวเดียว
นายไพบูลย์ยังกล่าวถึงประเด็นที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ระบุว่าจะมีการชะลอออกใบอนุญาต 3จี เพื่อรอการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ว่า ไม่มั่นใจว่าประเด็นของการให้ชะลอออกใบอนุญาตจะมีผลหรือไม่ เพราะเป็นประกาศของ กทค.ซึ่งไม่มีอำนาจไม่ได้เป็นประกาศจาก กสทช. ทางที่ดีตนมองว่าทางประธาน กสทช.ควรเร่งเรียกประชุม กสทช.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาการจัดประมูล 3จี ดีกว่า
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351838133&grpid=03&catid=03
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมายป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม วุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอยื่นเอกสารให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาในคำร้องที่ขอส่งเรื่องต่อให้ศาลปกครองพิจารณาว่าคณะกรรมการโทรคมนาคม (กทค.) มีอำนาจที่จะรับรองผลการประมูล 3จี หรือไม่ โดยเอกสารที่ส่งให้พิจารณาเพิ่มเติมเป็นสำเนารายงานการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 16 (สมัยสภานิติบัญญัติ) วันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 ที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ในมาตรา 27 ที่มีทั้งหมด 25 ข้อ โดยข้อความที่สำคัญ คือ ถึงแม้ว่า กสทช.จะมีกรรมการย่อยมาช่วยดำเนินการ แต่ว่าการพิจารณาอนุมัติเป็นการพิจารณาอนุมัติโดย กรรมการ กสทช.ชุดใหญ่ ทั้งหมด นั่นคือมูลเหตุที่ถึงได้เขียนไว้ว่าเป็นการกำกับดูแลการประกอบกิจการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่า กทค.ไม่มีอำนาจรับรองผลการประมูล 3จี
นายไพบูลย์ยังกล่าวถึงประเด็นที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ระบุว่าจะมีการชะลอออกใบอนุญาต 3จี เพื่อรอการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ว่า ไม่มั่นใจว่าประเด็นของการให้ชะลอออกใบอนุญาตจะมีผลหรือไม่ เพราะเป็นประกาศของ กทค.ซึ่งไม่มีอำนาจไม่ได้เป็นประกาศจาก กสทช. ทางที่ดีตนมองว่าทางประธาน กสทช.ควรเร่งเรียกประชุม กสทช.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาการจัดประมูล 3จี ดีกว่า
มื่อวันที่ 2 พ.ย. นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. ต้องยกเครื่องให้ความสำคัญกับการทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างจริงจัง และจริงใจ ทั้งในระดับนโยบาย และสำนักงาน เนื่องจากที่ผ่านมา การคุ้มครองผู้บริโภคในประเด็นที่สำคัญ เช่น การกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า ตู้เติมเงินออนไลน์ การให้บริการคงสิทธิ์เลขหมาย ไม่เคยถูกนำไปพิจารณา และ กทค. ไม่สามารถคุ้มครองประชาชนได้จริง
_____________________________________________
“ไพบูลย์” จี้ ปธ.กสทช.ถกผลประมูล 3จี ขู่นิ่งโดนละเว้นหน้าที่
ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา(แฟ้มภาพ)
ปธ.อนุ กมธ.ปราบทุจริต วุฒิฯ แจงเอกสารผู้ตรวจฯ เพิ่ม เผยที่ประชุมวุฒิสภายัน กทค.ไร้อำนาจรับผลการประมูล 3จี แนะ ปธ.กสทช.เรียกประชุม ป้องความเสียหายที่ตามมา ดักเงียบอาจถูกยื่นละเว้นปฏิบัติหน้าที่ พร้อมเสนอแผนเยียวยาหากยกเลิกทั้งปชช-รัฐ-เอกชน ย้ำ กสทช.เรียกประชุมดีกว่าชะลอผลออกไป
วันนี้ (2 พ.ย.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการกฎหมายป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม วุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอยื่นเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาในคำร้องที่ขอส่งเรื่องต่อให้ศาลปกครองพิจารณาว่าคณะกรรมการโทรคมนาคม (กทค.) มีอำนาจที่จะรับรองผลการประมูล 3จีหรือไม่ โดยเอกสารที่ส่งให้พิจารณาเพิ่มเติมเป็นสำเนารายงานการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 12 (สมัยสภานิติบัญญัติ) วันที่ 15 พ.ย. 2553 ที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของ กสทช.ในมาตรา 27 ที่มีทั้งหมด 25 ข้อ โดยข้อความที่สำคัญ คือ ถึงแม้ว่า กสทช.จะมีกรรมการย่อยมาช่วยดำเนินการ แต่ว่าการพิจารณาอนุมัติเป็นการพิจารณาอนุมัติโดย กรรมการ กสทช.ชุดใหญ่ทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่า กทค.ไม่มีอำนาจรับรองผลการประมูล 3จี
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ดังนั้นตนขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกสทช. ให้เร่งดำเนินการเรียกประชุม กสทช.ชุดใหม่เพื่อพิจารณาผลการประมูล 3จี ตามที่กฎหมาย กสทช.ระบุ เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้หาก ประธาน กสทช.ไม่เรียกประชุมโดยเร็ว อาจมีคณะบุคคลยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายไพบูลย์ได้กล่าวต่อว่า หากมีการประชุม กสทช.ชุดใหญ่และมีผลทำให้การประมูล 3จีครั้งที่ผ่านมาต้องยกเลิก ตนขอเสนอแนวทางให้ กสทช.พิจารณาใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1. ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนที่ใช้บริการ เบื้องต้นเมื่อมีเอกชนสามารถประมูลคลื่นความถี่ได้ จำเป็นต้องให้มีการทำแผนเพื่อลดค่าใช้บริการ เช่น ลดค่าโทรศัพท์ต่อนาที ลงร้อยละ 50 โดยลดลงเป็นแบบขั้นบันไดตลอดอายุสัญญา 2. ต้องคำนึงถึงการจัดสรรประโยชน์ให้แก่รัฐ โดยไม่สร้างภาระให้แก่ผู้ลงทุน เบื้องต้นอาจมีการกำหนดวิธีการจ่ายเงินในแบบทยอยจ่าย ไม่ใช่การจ่ายในคราวเดียว และ 3. ต้องคำนึงถึงผู้ประกอบกิจการ โดยไม่ให้กระทบกับการลงทุน
นายไพบูลย์กล่าวถึงประเด็นที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.ระบุว่าจะมีการชะลอออกใบอนุญาต 3จี เพื่อรอการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ว่า ตนไม่มั่นใจว่าประเด็นของการให้ชะลอออกใบอนุญาตจะมีผลหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นประกาศจาก กสทช. ทางที่ดีตนมองว่าทางประธาน กสทช.ควรเร่งเรียกประชุม กสทช.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาการจัดประมูล 3จีดีกว่า
ASTV ผู้จัการ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000134133&Keyword=%a1%ca%b7
______________________________________
ส.ว.ยื่นข้อมูลเพิ่มผู้ตรวจการฯ ปม กทค.ไม่มีอำนาจรับรองประมูล 3จี
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมายป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม วุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอยื่นเอกสารให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาในคำร้องที่ขอส่งเรื่องต่อให้ศาลปกครองพิจารณาว่าคณะกรรมการโทรคมนาคม (กทค.) มีอำนาจที่จะรับรองผลการประมูล 3จี หรือไม่ โดยเอกสารที่ส่งให้พิจารณาเพิ่มเติมเป็นสำเนารายงานการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 16 (สมัยสภานิติบัญญัติ) วันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 ที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ในมาตรา 27 ที่มีทั้งหมด 25 ข้อ โดยข้อความที่สำคัญ คือ ถึงแม้ว่า กสทช.จะมีกรรมการย่อยมาช่วยดำเนินการ แต่ว่าการพิจารณาอนุมัติเป็นการพิจารณาอนุมัติโดย กรรมการ กสทช.ชุดใหญ่ ทั้งหมด นั่นคือมูลเหตุที่ถึงได้เขียนไว้ว่าเป็นการกำกับดูแลการประกอบกิจการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่า กทค.ไม่มีอำนาจรับรองผลการประมูล 3จี
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ดังนั้น ตนขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. ให้เร่งดำเนินการเรียกประชุม กสทช.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาผลการประมูล 3จี ตามที่กฎหมาย กสทช.ระบุ เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ หากประธาน กสทช.ไม่เรียกประชุมโดยเร็ว อาจมีคณะบุคคลยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า หากมีการประชุม กสทช.ชุดใหญ่และมีผลทำให้การประมูล 3จี ครั้งที่ผ่านมาต้องยกเลิก จึงขอเสนอแนวทางให้ กสทช.พิจารณาโดยต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนที่ใช้บริการ เบื้องต้นเมื่อมีเอกชนสามารถประมูลคลื่นความถี่ได้ จำเป็นต้องให้มีการทำแผนเพื่อลดค่าใช้บริการ เช่น ลดค่าโทรศัพท์ต่อนาทีลง 50% โดยลดลงเป็นแบบขั้นบันไดตลอดอายุสัญญา และต้องคำนึงถึงการจัดสรรประโยชน์ให้กับรัฐ โดยไม่สร้างภาระให้กับผู้ลงทุน เบื้องต้นอาจมีการกำหนดวิธีการจ่ายเงินในแบบทยอยจ่าย ไม่ใช่การจ่ายในคราวเดียว
นายไพบูลย์ยังกล่าวถึงประเด็นที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ระบุว่าจะมีการชะลอออกใบอนุญาต 3จี เพื่อรอการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ว่า ไม่มั่นใจว่าประเด็นของการให้ชะลอออกใบอนุญาตจะมีผลหรือไม่ เพราะเป็นประกาศของ กทค.ซึ่งไม่มีอำนาจไม่ได้เป็นประกาศจาก กสทช. ทางที่ดีตนมองว่าทางประธาน กสทช.ควรเร่งเรียกประชุม กสทช.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาการจัดประมูล 3จี ดีกว่า
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351838133&grpid=03&catid=03
ไม่มีความคิดเห็น: