25 พฤศจิกายน 2555 ICT เปิดแผนของบ 30000 ลบ. ดึง LTE4G 5.8 กิกะเฮิรตซ์ ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานปูพรมเน็ต โรงเรียน
ประเก็นหลัก
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมชมการสาธิตโครงการทดลองระบบ "เบรนคลาวด์ โซลูชั่น" เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการแท็บเล็ต พีซี เพื่อการศึกษาไทย ณ โรงเรียนวัดเสถียรรัตนาราม จังหวัดนครปฐม ว่า เทคโนโลยี "เบรนคลาวด์ โซลูชั่น" ที่นำมาใช้สาธิตครั้งนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีที่นำมาทดสอบเป็นโครงการนำร่องที่ใช้กับโรงเรียนวัดเสถียรรัตนาราม อีกทั้งยังถือเป็นโครงการจิตอาสา (ซีเอสอาร์) ของบริษัท โอเพ่นเฟซ (ประเทศไทย) จำกัด โดยเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงผ่านเทคโนโลยีสายส่งเสมือนจริง (เวอร์ชวลไฟเบอร์) ที่เป็นการตั้งเสาสัญญาณ 1 เสาในพื้นที่ใกล้เคียง และดึงคลื่นอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงบนคลื่นความถี่แอลทีอี ย่าน 5.8 กิกะเฮิรตซ์ ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ห่างไกลออกไป 5 กิโลเมตรได้ และเมื่อมาประกอบการกับระบบห้องเรียนทางไกลอัจฉริยะ จะสามารถขจัดปัญญาหาการเข้าถึงการศึกษาในพื้นที่ทุรกันดารได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม อินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อมาในรูปแบบดังกล่าว จะมีอัตราความเร็วสูงสุดทั้งรับและส่งข้อมูลอยู่ที่ 100 เมกะบิต โดยเทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการเรียนการสอนด้วยแท็บเล็ต โดยขณะนี้มีเพียง 9,600 โรงเรียน ที่มีระบบอินเตอร์เน็ตในระดับที่เสถียรเพียงพอในการให้นักเรียนใช้งาน ขณะที่โรงเรียนอีก 22,000 แห่ง การใช้งานอินเตอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม ซึ่งไอซีทีตั้งเป้าจะขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตให้ได้ 70-80% ของจำนวนโรงเรียนที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้อย่างครอบคลุม ในช่วงก่อนเดือนพฤษภาคม 2556 ผ่านงบประมาณราว 3 หมื่นล้านบาท
_______________________________________
ไอซีทีขอ3หมื่นล้านปูพรมเน็ตร.ร. รอท่าแท็บเล็ตล็อตใหม่พ.ค.56 ลั่นสเปกสูงขึ้นแต่จ่ายเท่าเดิม
ไอซีทีเปิดแผนของบ 3 หมื่นล้านบาท ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ช่วย 2 หมื่นโรงเรียนเข้าอินเตอร์เน็ตได้ทั่วถึง ยันแท็บเล็ตล็อตใหม่ 1.6 ล้านเครื่อง ถึงมือเด็ก ม.1 ก่อนเปิดเทอมพฤษภาคมแน่ พร้อมสเปกสูงขึ้น แต่ราคาเท่าเดิม
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมชมการสาธิตโครงการทดลองระบบ "เบรนคลาวด์ โซลูชั่น" เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการแท็บเล็ต พีซี เพื่อการศึกษาไทย ณ โรงเรียนวัดเสถียรรัตนาราม จังหวัดนครปฐม ว่า เทคโนโลยี "เบรนคลาวด์ โซลูชั่น" ที่นำมาใช้สาธิตครั้งนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีที่นำมาทดสอบเป็นโครงการนำร่องที่ใช้กับโรงเรียนวัดเสถียรรัตนาราม อีกทั้งยังถือเป็นโครงการจิตอาสา (ซีเอสอาร์) ของบริษัท โอเพ่นเฟซ (ประเทศไทย) จำกัด โดยเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงผ่านเทคโนโลยีสายส่งเสมือนจริง (เวอร์ชวลไฟเบอร์) ที่เป็นการตั้งเสาสัญญาณ 1 เสาในพื้นที่ใกล้เคียง และดึงคลื่นอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงบนคลื่นความถี่แอลทีอี ย่าน 5.8 กิกะเฮิรตซ์ ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ห่างไกลออกไป 5 กิโลเมตรได้ และเมื่อมาประกอบการกับระบบห้องเรียนทางไกลอัจฉริยะ จะสามารถขจัดปัญญาหาการเข้าถึงการศึกษาในพื้นที่ทุรกันดารได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม อินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อมาในรูปแบบดังกล่าว จะมีอัตราความเร็วสูงสุดทั้งรับและส่งข้อมูลอยู่ที่ 100 เมกะบิต โดยเทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการเรียนการสอนด้วยแท็บเล็ต โดยขณะนี้มีเพียง 9,600 โรงเรียน ที่มีระบบอินเตอร์เน็ตในระดับที่เสถียรเพียงพอในการให้นักเรียนใช้งาน ขณะที่โรงเรียนอีก 22,000 แห่ง การใช้งานอินเตอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม ซึ่งไอซีทีตั้งเป้าจะขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตให้ได้ 70-80% ของจำนวนโรงเรียนที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้อย่างครอบคลุม ในช่วงก่อนเดือนพฤษภาคม 2556 ผ่านงบประมาณราว 3 หมื่นล้านบาท
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ในส่วนของความคืบหน้าการจัดซื้อแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาของเด็กไทย ชั้น ป.1 ได้ทำการจัดส่งไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของการจัดซื้อในครั้งต่อไปสำหรับปีการศึกษา 2556 ล่าสุด ทางคณะกรรมการกำหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติ (ทีโออาร์) อยู่ระหว่างขั้นตอนสรุปหาหลักเกณฑ์ คาดว่าจะสามารถกำหนดคุณสมบัติเสร็จสิ้นได้ในเดือนธันวาคมนี้ และเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจมายื่นซองประมูลได้ ซึ่งแท็บเล็ตที่จะจัดซื้อในครั้งต่อไปสำหรับปีการศึกษา 2556 จะมีทั้งสิ้นราว 1.6 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นสำหรับเด็กนักเรียนชั้น ป.1 จำนวน 8.5 แสนเครื่อง และสำหรับเด็กนักเรียนชั้น ม.1 จำนวน 7.5 แสนเครื่อง
"ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าแท็บเล็ตที่จะสั่งซื้อสำหรับปี 2556 จะต้องมีสเปกที่สูงกว่าของเดิมอย่างแน่นอน เนื่องจากเมื่อเวลาเปลี่ยนไปราคาอุปกรณ์เทคโนโลยีจะถูกลง ในขณะที่เราจ่ายเงินเท่าเดิม แต่ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าแท็บเล็ตทั้งหมดจะสั่งซื้อและจัดส่งมาทันก่อนเปิดเทอมในเดือนพฤษภาคม 2556 อย่างแน่นอน" น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว
(ที่มา:มติชนรายวัน24พ.ย.55)
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1353738416&grpid=&catid=05&subcatid=0504
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมชมการสาธิตโครงการทดลองระบบ "เบรนคลาวด์ โซลูชั่น" เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการแท็บเล็ต พีซี เพื่อการศึกษาไทย ณ โรงเรียนวัดเสถียรรัตนาราม จังหวัดนครปฐม ว่า เทคโนโลยี "เบรนคลาวด์ โซลูชั่น" ที่นำมาใช้สาธิตครั้งนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีที่นำมาทดสอบเป็นโครงการนำร่องที่ใช้กับโรงเรียนวัดเสถียรรัตนาราม อีกทั้งยังถือเป็นโครงการจิตอาสา (ซีเอสอาร์) ของบริษัท โอเพ่นเฟซ (ประเทศไทย) จำกัด โดยเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงผ่านเทคโนโลยีสายส่งเสมือนจริง (เวอร์ชวลไฟเบอร์) ที่เป็นการตั้งเสาสัญญาณ 1 เสาในพื้นที่ใกล้เคียง และดึงคลื่นอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงบนคลื่นความถี่แอลทีอี ย่าน 5.8 กิกะเฮิรตซ์ ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ห่างไกลออกไป 5 กิโลเมตรได้ และเมื่อมาประกอบการกับระบบห้องเรียนทางไกลอัจฉริยะ จะสามารถขจัดปัญญาหาการเข้าถึงการศึกษาในพื้นที่ทุรกันดารได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม อินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อมาในรูปแบบดังกล่าว จะมีอัตราความเร็วสูงสุดทั้งรับและส่งข้อมูลอยู่ที่ 100 เมกะบิต โดยเทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการเรียนการสอนด้วยแท็บเล็ต โดยขณะนี้มีเพียง 9,600 โรงเรียน ที่มีระบบอินเตอร์เน็ตในระดับที่เสถียรเพียงพอในการให้นักเรียนใช้งาน ขณะที่โรงเรียนอีก 22,000 แห่ง การใช้งานอินเตอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม ซึ่งไอซีทีตั้งเป้าจะขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตให้ได้ 70-80% ของจำนวนโรงเรียนที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้อย่างครอบคลุม ในช่วงก่อนเดือนพฤษภาคม 2556 ผ่านงบประมาณราว 3 หมื่นล้านบาท
_______________________________________
ไอซีทีขอ3หมื่นล้านปูพรมเน็ตร.ร. รอท่าแท็บเล็ตล็อตใหม่พ.ค.56 ลั่นสเปกสูงขึ้นแต่จ่ายเท่าเดิม
ไอซีทีเปิดแผนของบ 3 หมื่นล้านบาท ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ช่วย 2 หมื่นโรงเรียนเข้าอินเตอร์เน็ตได้ทั่วถึง ยันแท็บเล็ตล็อตใหม่ 1.6 ล้านเครื่อง ถึงมือเด็ก ม.1 ก่อนเปิดเทอมพฤษภาคมแน่ พร้อมสเปกสูงขึ้น แต่ราคาเท่าเดิม
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมชมการสาธิตโครงการทดลองระบบ "เบรนคลาวด์ โซลูชั่น" เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการแท็บเล็ต พีซี เพื่อการศึกษาไทย ณ โรงเรียนวัดเสถียรรัตนาราม จังหวัดนครปฐม ว่า เทคโนโลยี "เบรนคลาวด์ โซลูชั่น" ที่นำมาใช้สาธิตครั้งนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีที่นำมาทดสอบเป็นโครงการนำร่องที่ใช้กับโรงเรียนวัดเสถียรรัตนาราม อีกทั้งยังถือเป็นโครงการจิตอาสา (ซีเอสอาร์) ของบริษัท โอเพ่นเฟซ (ประเทศไทย) จำกัด โดยเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงผ่านเทคโนโลยีสายส่งเสมือนจริง (เวอร์ชวลไฟเบอร์) ที่เป็นการตั้งเสาสัญญาณ 1 เสาในพื้นที่ใกล้เคียง และดึงคลื่นอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงบนคลื่นความถี่แอลทีอี ย่าน 5.8 กิกะเฮิรตซ์ ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ห่างไกลออกไป 5 กิโลเมตรได้ และเมื่อมาประกอบการกับระบบห้องเรียนทางไกลอัจฉริยะ จะสามารถขจัดปัญญาหาการเข้าถึงการศึกษาในพื้นที่ทุรกันดารได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม อินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อมาในรูปแบบดังกล่าว จะมีอัตราความเร็วสูงสุดทั้งรับและส่งข้อมูลอยู่ที่ 100 เมกะบิต โดยเทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการเรียนการสอนด้วยแท็บเล็ต โดยขณะนี้มีเพียง 9,600 โรงเรียน ที่มีระบบอินเตอร์เน็ตในระดับที่เสถียรเพียงพอในการให้นักเรียนใช้งาน ขณะที่โรงเรียนอีก 22,000 แห่ง การใช้งานอินเตอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม ซึ่งไอซีทีตั้งเป้าจะขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตให้ได้ 70-80% ของจำนวนโรงเรียนที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้อย่างครอบคลุม ในช่วงก่อนเดือนพฤษภาคม 2556 ผ่านงบประมาณราว 3 หมื่นล้านบาท
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ในส่วนของความคืบหน้าการจัดซื้อแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาของเด็กไทย ชั้น ป.1 ได้ทำการจัดส่งไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของการจัดซื้อในครั้งต่อไปสำหรับปีการศึกษา 2556 ล่าสุด ทางคณะกรรมการกำหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติ (ทีโออาร์) อยู่ระหว่างขั้นตอนสรุปหาหลักเกณฑ์ คาดว่าจะสามารถกำหนดคุณสมบัติเสร็จสิ้นได้ในเดือนธันวาคมนี้ และเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจมายื่นซองประมูลได้ ซึ่งแท็บเล็ตที่จะจัดซื้อในครั้งต่อไปสำหรับปีการศึกษา 2556 จะมีทั้งสิ้นราว 1.6 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นสำหรับเด็กนักเรียนชั้น ป.1 จำนวน 8.5 แสนเครื่อง และสำหรับเด็กนักเรียนชั้น ม.1 จำนวน 7.5 แสนเครื่อง
"ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าแท็บเล็ตที่จะสั่งซื้อสำหรับปี 2556 จะต้องมีสเปกที่สูงกว่าของเดิมอย่างแน่นอน เนื่องจากเมื่อเวลาเปลี่ยนไปราคาอุปกรณ์เทคโนโลยีจะถูกลง ในขณะที่เราจ่ายเงินเท่าเดิม แต่ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าแท็บเล็ตทั้งหมดจะสั่งซื้อและจัดส่งมาทันก่อนเปิดเทอมในเดือนพฤษภาคม 2556 อย่างแน่นอน" น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว
(ที่มา:มติชนรายวัน24พ.ย.55)
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1353738416&grpid=&catid=05&subcatid=0504
ไม่มีความคิดเห็น: