28 มกราคม 2556 แรง!! สั่งห้ามลูกค้า instagram ในร้านอาหาร สร้างความน่าลำคาญกับเพื่อนร่วมโต๊ะ // สมาร์ทโฟน ทำ CD วิทยุ สูญพันธ์ // Vine อลวน โป๊ระบาด-เฟซบุ๊กสั่งแบน
ประเด็นหลัก
เดวิด บูย์เลย์ส เชฟและเจ้าของร้านอาหารในสองทำเลทองของมหานครนิวยอร์ก ยอมรับว่า ได้นำกฎดังกล่าวมาใช้จริง และยอมให้ลูกค้าถ่ายอาหารของตนเองได้เฉพาะในห้องครัวเท่านั้น เพราะการถ่ายภาพบนโต๊ะทำให้เสียบรรยากาศอย่างมาก
ด้านนิตยสารเอสไควร์ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ต้องห้ามเป็นเพราะพฤติกรรมที่จ้องจะถ่ายแต่รูปอาหารเป็นการกระทำที่สร้างความรำคาญไม่เพียงแต่กับผู้ร่วมโต๊ะเท่านั้น แต่ยังหมายถึงแขกโต๊ะอื่นๆ รวมถึงเชฟด้วย
“เพราะมัวแต่ถ่ายรูป ทำให้อาหารที่เชฟอุตสาหะปรุงแต่งออกมาเย็นชืดหมดรสชาติไม่อร่อย” เอสไควร์ระบุเพิ่มเติม
นอกจากนี้ แม้ร้านอาหารบางแห่งจะไม่ได้ตั้งกฎบังคับใช้หรือออกข้อห้ามใดๆ สำหรับการถ่ายรูปอาหารแต่ละจานที่ลูกค้าสั่งในแต่ละมื้อ แต่ร้านเหล่านั้นก็มีนโยบายสำคัญห้ามไม่ให้ลูกค้าใช้แสงแฟลชโดยเด็ดขาด
รายงานล่าสุดระบุว่า #porn เริ่มแจ้งเกิดบนไวน์โดยไม่ได้รับเชิญ โดยใน Tag ดังกล่าวจะประกอบด้วยวิดีโออนาจารเป็นส่วนใหญ่ รายงานล่าสุดระบุว่าทวิตเตอร์ (Twitter) รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ในขณะนี้
รายงานจากนิวยอร์กไทมส์ชี้ว่าไม่เพียง #porn แต่ยังมี #sex รวมถึงคำภาษาอังกฤษอื่นที่สะท้อนถึงเรื่องเพศอย่างโจ๋งครึ่ม อย่างไรก็ตาม สื่ออเมริกันตั้งข้อสังเกตว่าเงื่อนไขบริการของไวน์นั้นไม่มีการระบุห้ามเผยแพร่คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับเรื่องเพศใดๆ โดยเงื่อนไขระบุเพียงว่าผู้ใช้ไวน์สามารถร้องเรียนเมื่อพบวิดีโอไม่เหมาะสม ซึ่งหากคำร้องเรียนนั้นมีจำนวนมาก บริษัทจะแสดงข้อความเตือนในช่วงก่อนเริ่มคลิปได้
เรื่องนี้ผิดข้อกำหนดของเฟซบุ๊ก ซึ่งระบุชัดเจนว่าบริษัทหรือนักพัฒนาแอปพลิเคชันใดที่ใช้ชุดโปรแกรม APIs ของเฟซบุ๊กเพื่อสร้างประสบการณ์โซเชียลบนแอปพลิเคชันของตัวเอง จะต้องเปิดทางให้ผู้ใช้แบ่งปันประสบการณ์กลับมายังเฟซบุ๊กด้วย โดยทั้งหมดนี้ เฟซบุ๊กสงวนสิทธิ์ห้ามแอปพลิเคชันที่ถอดแบบคุณสมบัติซึ่งเฟซบุ๊กให้บริการอยู่ทุกกรณี
นอกจากไวน์ เฟซบุ๊กยังแบนการเชื่อมต่อบัญชีผู้ใช้ลักษณะเดียวกันกับแอปพลิเคชันค้นหาข้อมูลออนไลน์สัญชาติรัสเซียนามว่า Wonder Apps ซึ่งมีส่วนคล้ายกับคุณสมบัติล่าสุดที่เฟซบุ๊กเพิ่งเปิดตัวอย่าง Graph Search
ม้ว่าผู้ที่ออกเสียงซึ่งล้วนเป็นสมาชิกขององค์กรวิศวกรรมอาชีพ นักศึกษาวิศวกรรม และอื่นๆ จะออกเสียงกำหนดชะตากรรมของซีดีรอมอย่างเป็นกลุ่มเป็นก้อน แต่พวกเขาก็แตกความเห็นกันอยู่ ในความเห็นกับสิ่งอื่น อย่างเช่น ความเห็นกับเครื่องรับวิทยุ มีคนลงความเห็นว่าจะหมดอายุลงเพียงร้อยละ 58 กับเครื่องเล่น “MP 3” ร้อยละ 55 ยิ่งกว่านั้น การออกความเห็นต่อโทรศัพท์มือถือ ยังได้แสดงให้เห็นว่า มันยังไม่อาจครองใจคนทั้งหมดได้ โดยเฉพาะพวกเขาไม่อาจลงความเห็นถึงอนาคตของกล้องถ่ายภาพ ที่ถูกโทรศัพท์ยึดไปครองเสียแล้ว โดยส่วนใหญ่ไม่ออกความเห็นถึงร้อยละ 75 เหมือนกับที่มีต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเช่นกัน ไม่ออกความเห็นถึงร้อยละ 62.
________________________________________
“Vine” อลวน โป๊ระบาด-เฟซบุ๊กสั่งแบน-ทวิตเตอร์เซ็ง
ไม่ใช่วัยอลวน แต่เป็น "ไวน์อลวน" เหราะแอปพลิเคชันแชร์วิดีโอสั้นความยาว 6 วินาทีผลงานของทวิตเตอร์กำลังมีปัญหาคลิปโป๊ระบาดหนัก นอกจากนี้ แอปพลิเคชันซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแอปที่โดดเด่นที่สุดในโลกของเดือนนี้ยังถูกเครือข่ายสังคมยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊กสั่งแบน ทั้งหมดนี้สร้างความปั่นป่วนให้ต้นสังกัดอย่างทวิตเตอร์แน่นอน
Vine (ไวน์) เป็นแอปพลิเคชันสำหรับแชร์วิดีโอสู่โลกออนไลน์ที่ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอจากสมาร์ทโฟนของตัวเองได้ง่ายดาย โดยวิดีโอจะจำกัดความยาวสูงสุดที่ 6 วินาที ภายในจะมีฟีเจอร์ตกแต่งวิดีโอครบถ้วน วิดีโอที่ถ่ายจาก Vine สามารถแชร์ลงสู่ทวิตเตอร์ได้ แต่ยังจำกัดเฉพาะกลุ่มผู้ใช้อุปกรณ์ของแอปเปิล อย่าง iPhone และ iPod Touch เท่านั้น
วิดีโอหลากหลายที่ผู้ใช้นับล้านคนทั่วโลกสามารถถ่ายและอัปโหลดขึ้นสู่โลกออนไลน์นั้นสามารถใช้ป้ายคำหรือ Tag เป็นเครื่องมือแบ่งประเภทว่าวิดีโอนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องราวใด เช่น #howto สำหรับวิดีโอประเภทสอนหรือบอกวิธีการ #food วิดีโอเกี่ยวกับอาหาร และ #pets วิดีโอเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
รายงานล่าสุดระบุว่า #porn เริ่มแจ้งเกิดบนไวน์โดยไม่ได้รับเชิญ โดยใน Tag ดังกล่าวจะประกอบด้วยวิดีโออนาจารเป็นส่วนใหญ่ รายงานล่าสุดระบุว่าทวิตเตอร์ (Twitter) รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ในขณะนี้
รายงานจากนิวยอร์กไทมส์ชี้ว่าไม่เพียง #porn แต่ยังมี #sex รวมถึงคำภาษาอังกฤษอื่นที่สะท้อนถึงเรื่องเพศอย่างโจ๋งครึ่ม อย่างไรก็ตาม สื่ออเมริกันตั้งข้อสังเกตว่าเงื่อนไขบริการของไวน์นั้นไม่มีการระบุห้ามเผยแพร่คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับเรื่องเพศใดๆ โดยเงื่อนไขระบุเพียงว่าผู้ใช้ไวน์สามารถร้องเรียนเมื่อพบวิดีโอไม่เหมาะสม ซึ่งหากคำร้องเรียนนั้นมีจำนวนมาก บริษัทจะแสดงข้อความเตือนในช่วงก่อนเริ่มคลิปได้
แม้รายงานระบุว่า นโยบายไม่เซ็นเซอร์วิดีโอทำให้การแก้ไขปัญหาคลิปโป๊ระบาดบนไวน์แก้ไขได้ยาก แต่ประชาสัมพันธ์ของทวิตเตอร์เปิดเผยว่า วิดีโออนาจารเหล่านี้จะเข้าข่ายละเมิดเงื่อนไขบริการ ทำให้บริษัทมีสิทธิ์ลบวิดีโอทั้งหมด โดยชื่อบัญชีผู้โพสต์จะถูกยกเลิก
ต้องบอกว่าปัญหาเรื่องการเซ็นเซอร์หรือการลบคอนเทนต์ไม่เหมาะสมนั้นเป็นปัญหาเรื้อรังของต้นสังกัด Vine อย่างทวิตเตอร์ ความกังวลเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนั้นทำให้ทวิตเตอร์ลังเลและไม่ดำเนินนโยบายเซ็นเซอร์ข้อความทวีตอย่างจริงจัง กระทั่งแรงกดดันจากรัฐบาลหลายประเทศ ซึ่งร้องเรียนว่าทวิตเตอร์กลายเป็นเครื่องมือนัดหมายในการก่อการร้ายและความไม่สงบของหลายประเทศ ทำให้ทวิตเตอร์โอนอ่อนและยอมประกาศพร้อมลบข้อความทวีตที่ละเมิดกฏหมายเป็นประเทศต่อประเทศเมื่อปีที่ผ่านมา
เฟซบุ๊กประกาศปิดกั้นไม่ให้แอปพลิเคชันไวน์สามารถเข้าถึงรายชื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก จนทำให้ปรากฏข้อความแจ้งว่า "Vine is not authorized to make this Facebook request"
***เฟซบุ๊กสั่งแบนไวน์
หนึ่งในฟีเจอร์เด่นของไวน์คือการเปิดช่องให้ผู้ใช้ค้นหาเพื่อนฝูงที่ใช้ไวน์ และติดตามชมวิดีโอจากเพื่อนเหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด โดยช่วงแรกมีการยืนยันว่าสามารถค้นหาเพื่อนจากอีเมล บัญชีเพื่อนในทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก (Facebook)
แต่ปรากฏว่าวันนี้ผู้ใช้ไวน์ไม่สามารถเข้าถึงบัญชีเพื่อนบนเฟซบุ๊ก เนื่องจากเฟซบุ๊กประกาศปิดกั้นไม่ให้แอปพลิเคชันไวน์สามารถเข้าถึงรายชื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก จนทำให้ปรากฏข้อความแจ้งว่า "Vine is not authorized to make this Facebook request" ทั้งหมดนี้ เฟซบุ๊กยอมรับว่าเป็นมาตรการตอบโต้บริษัทที่จงใจใช้ประโยชน์จากเฟซบุ๊ก โดยไม่สร้างมูลค่าให้กับผู้ใช้เฟซบุ๊ก เช่น การไม่เปิดทางให้ผู้ใช้แชร์คอนเทนต์กลับไปบนเฟซบุ๊กได้อย่างสะดวก
เรื่องนี้ผิดข้อกำหนดของเฟซบุ๊ก ซึ่งระบุชัดเจนว่าบริษัทหรือนักพัฒนาแอปพลิเคชันใดที่ใช้ชุดโปรแกรม APIs ของเฟซบุ๊กเพื่อสร้างประสบการณ์โซเชียลบนแอปพลิเคชันของตัวเอง จะต้องเปิดทางให้ผู้ใช้แบ่งปันประสบการณ์กลับมายังเฟซบุ๊กด้วย โดยทั้งหมดนี้ เฟซบุ๊กสงวนสิทธิ์ห้ามแอปพลิเคชันที่ถอดแบบคุณสมบัติซึ่งเฟซบุ๊กให้บริการอยู่ทุกกรณี
นอกจากไวน์ เฟซบุ๊กยังแบนการเชื่อมต่อบัญชีผู้ใช้ลักษณะเดียวกันกับแอปพลิเคชันค้นหาข้อมูลออนไลน์สัญชาติรัสเซียนามว่า Wonder Apps ซึ่งมีส่วนคล้ายกับคุณสมบัติล่าสุดที่เฟซบุ๊กเพิ่งเปิดตัวอย่าง Graph Search
แม้จะยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆจากทวิตเตอร์ในขณะนี้ แต่เชื่อว่าทวิตเตอร์นั้นกำลังเร่งมือเพื่อปูทางให้ไวน์สามารถให้บริการได้ดีไร้ปัญหาในวงกว้าง โดยไวน์นั้นเป็นแอปพลิเคชันที่ทวิตเตอร์เพิ่งซื้อมาจากบริษัทหน้าใหม่เมื่อเดือนตุลาคม 2012 ก่อนจะผูกบริการแชร์วิดีโอนามไวน์เข้ากับทวิตเตอร์อย่างที่ปรากฏ
เบื้องต้น ไวน์นั้นได้รับคำชื่นชมว่าเป็นบริการที่สามารถทำงานได้รวดเร็วทั้งการถ่ายและอัปโหลดวิดีโอ ขณะเดียวกันก็สามารถผสานการทำงานกับทวิตเตอร์ได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่เพียงทวิตเตอร์ วิดีโอไวน์สามารถรองรับระบบเว็บล็อกยอดนิยมอย่าง Tumblr อย่างเต็มที่ซึ่งทำให้วิดีโอใหม่ของไวน์สามารถปรากฏบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือวางตักได้สะดวกสบาย
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000011337
__________________________________
เตรียมไว้อาลัยซีดีรอมกับเครื่องรับวิทยุแพ้แฟลชไดรฟ์ จวนเจีียนใกล้สูญพันธ์ุ
ผู้ออกเสียงเลือกสิ่งประดิษฐ์และสิ่งของที่เห็นว่ากำลังจะสิ้นยุค ได้ลงมติในหัวข้อ “สุสานสิ่งของและสิ่งประดิษฐ์” ว่าแผ่นซีดีรอม กำลังจะสิ้นลมหายใจลง ตามด้วยเครื่องรับวิทยุ
บรรดาผู้ออกเสียงชาวอเมริกัน พากันออกเสียงไม่ต่ำกว่า 1,700 เสียง นับเป็นจำนวนร้อยละ 75 หลังจากที่มีอายุมาได้ 30 ปี แผ่นซีดีรอมจะต้องหมดยุคลง นับจากที่เกิดแฟลชไดรฟ์กับพวกเครื่องอุปกรณ์พกพาขึ้นมา
อย่างไรก็ดี แม้ว่าผู้ที่ออกเสียงซึ่งล้วนเป็นสมาชิกขององค์กรวิศวกรรมอาชีพ นักศึกษาวิศวกรรม และอื่นๆ จะออกเสียงกำหนดชะตากรรมของซีดีรอมอย่างเป็นกลุ่มเป็นก้อน แต่พวกเขาก็แตกความเห็นกันอยู่ ในความเห็นกับสิ่งอื่น อย่างเช่น ความเห็นกับเครื่องรับวิทยุ มีคนลงความเห็นว่าจะหมดอายุลงเพียงร้อยละ 58 กับเครื่องเล่น “MP 3” ร้อยละ 55 ยิ่งกว่านั้น การออกความเห็นต่อโทรศัพท์มือถือ ยังได้แสดงให้เห็นว่า มันยังไม่อาจครองใจคนทั้งหมดได้ โดยเฉพาะพวกเขาไม่อาจลงความเห็นถึงอนาคตของกล้องถ่ายภาพ ที่ถูกโทรศัพท์ยึดไปครองเสียแล้ว โดยส่วนใหญ่ไม่ออกความเห็นถึงร้อยละ 75 เหมือนกับที่มีต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเช่นกัน ไม่ออกความเห็นถึงร้อยละ 62.
http://www.thairath.co.th/content/edu/322938
____________________________________
ร้านอาหารนิวยอร์กห้ามใช้อินสตาแกรม
ร้านอาหารในนิวยอร์กตั้งกฎเหล็กห้ามลูกค้าถ่ายภาพอัพอินสตาแกรม เหตุทำเสียบรรยากาศ
สุดทนพฤติกรรมลูกค้าบ้าอินสตาแกรม ร้านอาหารในนิวยอร์กตั้งกฎเหล็กห้ามถ่ายรูปอาหารในแต่ละมื้อ เหตุทำเสียบรรยากาศ
หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ เผยรายงานว่า บรรดาเจ้าของร้านอาหารและเชฟต่างๆ เริ่มบังคับใช้กฎห้ามลูกค้าถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยบางร้านถึงกับห้ามนำกล้องถ่ายรูปขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ ซึ่งรวมถึงกล้องโทรศัพท์มือถือด้วย
เดวิด บูย์เลย์ส เชฟและเจ้าของร้านอาหารในสองทำเลทองของมหานครนิวยอร์ก ยอมรับว่า ได้นำกฎดังกล่าวมาใช้จริง และยอมให้ลูกค้าถ่ายอาหารของตนเองได้เฉพาะในห้องครัวเท่านั้น เพราะการถ่ายภาพบนโต๊ะทำให้เสียบรรยากาศอย่างมาก
ด้านนิตยสารเอสไควร์ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ต้องห้ามเป็นเพราะพฤติกรรมที่จ้องจะถ่ายแต่รูปอาหารเป็นการกระทำที่สร้างความรำคาญไม่เพียงแต่กับผู้ร่วมโต๊ะเท่านั้น แต่ยังหมายถึงแขกโต๊ะอื่นๆ รวมถึงเชฟด้วย
“เพราะมัวแต่ถ่ายรูป ทำให้อาหารที่เชฟอุตสาหะปรุงแต่งออกมาเย็นชืดหมดรสชาติไม่อร่อย” เอสไควร์ระบุเพิ่มเติม
นอกจากนี้ แม้ร้านอาหารบางแห่งจะไม่ได้ตั้งกฎบังคับใช้หรือออกข้อห้ามใดๆ สำหรับการถ่ายรูปอาหารแต่ละจานที่ลูกค้าสั่งในแต่ละมื้อ แต่ร้านเหล่านั้นก็มีนโยบายสำคัญห้ามไม่ให้ลูกค้าใช้แสงแฟลชโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ กระแสถ่ายรูปอาหารหรือที่รู้จักในนาม “ฟู้ด พอร์น” (Food Porn – เป็นคำที่นักวิชาการใช้สื่อถึงความหลงใหลที่มีต่ออาหารที่ให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับความหลงใหลในเพศรส) ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ที่แอพพลิเคชันอย่าง “อินสตาแกรม” เปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2553
บูย์เลย์ส กล่าวว่า ความนิยมในอินสตาแกรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีจำนวนผู้ใช้งานมาก โดยใครๆ ก็อยากถ่ายรูปที่ต้องการ และไม่ใส่ใจว่าการกระทำของตนจะส่งผลต่อคนรอบข้างอย่างไร ซึ่งถือเป็นหายนะของแท้สำหรับการมาทานอาหารที่ร้านอาหารที่มีเป้าหมายเพื่อลิ้มรสดื่มด่ำกับรสชาติและเพลิดเพลินกับบทสนทนายอดเยี่ยมกับคนรู้ใจจนความหวังที่จะสร้างความทรงจำดีๆ กลายเป็นเรื่องที่ทำได้ยากทันที เพราะมีแสงแฟลชบินว่อนวิบวับทุกๆ 6 นาที
ทั้งนี้ เมื่อปี 2554 เว็บไซต์มาร์ชเชเบิลดอตคอม พบว่า ประชากรสหรัฐราว 25% แชร์ภาพถ่ายอาหารที่ตนเองทานโดยไม่มีจุดประสงค์ใดเป็นพิเศษ เพียงแค่ต้องการแสดงให้เห็นเท่านั้นว่าวันนี้ตนเองทานอะไรไป
สำหรับประเภทอาหารนั้น ของหวานคือภาพอาหารที่ได้รับการแชร์มากที่สุด ที่ 18.3% รองลงมาคือสารพัดผัก ที่ 17.8% และตามด้วยเนื้อไก่ ที่ 13% ส่วนประเภทอาหารที่ได้รับการถ่ายและแชร์น้อยที่สุดก็คือ พาสตา โดยอยู่ที่ 7.1% เท่านั้น
เอาเป็นว่า จะถ่ายรูปเล่นอินสตาแกรมอย่างไรก็คำนึงถึงความเหมาะสม กาลเทศะ และผลกระทบต่อคนรอบข้างเป็นดีที่สุด
http://www.posttoday.com/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81/201
524/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2
%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0
%B8%81%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%
AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E
0%B8%A1
ไม่มีความคิดเห็น: