25 กรกฎาคม 2556 กสทช.สุภิญญา ติง กสทช.พีระพงษ์ อย่ามาทำตัวจุกจิกเป็น กบว.ย้อนโบราณ!! (ละครสอนเด็กชัดๆ เนื้อหาแรงน้อยกว่ากว่าจะรู้เดียงสา, น้ำพุ
ประเด็นหลัก
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวต่อว่า กสทช.ได้เชิญผู้ผลิตฮอร์โมน ของแกรมมี่ มาพบในวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางแกรมมี่แจ้งขอเลื่อนเป็นวันที่ 5 ส.ค. โดยให้เหตุผลว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตรงกับวันหยุดยาวหลายวัน สำหรับประเด็นที่เชิญเข้าพบเพื่อหารือร่วมกันในด้านของกระบวนการการคิด การนำเสนอเนื้อหาของละคร ไปจนถึงกระบวนการคัดเลือกของช่องในการเลือกนำละครเรื่องดังกล่าวมาออกอากาศ พร้อมทั้งขอต้นฉบับของละครที่ได้ใช้ในการเผยแพร่จริง เพื่อถอบเทปเนื่องจากเนื้อหาที่นำเสนออาจไม่ตรงกันกับในอินเทอร์เน็ต ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาความผิดแต่อย่างใด ท้ายสุดกระบวนการอาจจะจบเพียงให้แค่ตักเตือน ขอความร่วมมือในการปรับแก้เนื้อหาบางส่วน ไม่ต้องถึงขั้นลงโทษความผิดก็เป็นได้.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 24 เวลาประมาณ 23.30 น. น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Supinya Klangnarong ถึงกรณีชาวเน็ตพากันก่นด่า กสทช. หลังมีกระแสข่าวจะแบนละคร ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น หรือ Hormones The Series ที่กำลังออกอากาศโดยอ้างมีเนื้อหาล่อแหลม อาจผิด พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตราที่ 37 ว่า
“ณ เวลานี้ยังอยู่ที่ กสทช.อยู่เลย นั่งตอบคำถาม ฟังคำก่นด่าจากประชาชนในทวิตเตอร์ สืบเนื่องจากดราม่า Hormonestheseries ที่ข้าพเจ้าไม่รู้เรื่องเลย แต่วันนี้งานเข้าเต็มๆ
โดยสรุปบอร์ด กสท.ยังไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้ ยังไม่เคยลงมติใดๆ แต่เป็นความริเริ่มของท่าน กสทช. พลโท พีระพงษ์ มานะกิจ ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหาและผังรายการ ท่านเรียกแขกให้ข้าพเจ้าทั้งวัน ทวิตเตอร์แทบแตก โดนถล่มเพียบ ต้องนั่งอธิบาย แต่จะกลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้มีประชุมบอร์ด กสท.เรื่องสำคัญด้วย (แต่ไม่มีเรื่องนี้นะคะ)
ขอถอนหายใจ ภาพลักษณ์ กสทช.กลายเป็น กบว.คืนชีพไปแล้ว ทุกท่านทราบจุดยืนข้าพเจ้าดีว่าอยู่ข้างเสรีภาพสื่อเสมอเว้นแต่ว่ามันขัดกฎหมายอย่างร้ายแรงหรือไปละเมิดสิทธิมนุยชน
ส่วนตัวแม้จะไม่ค่อยชอบละครไทย แต่ไม่เคยเห็นด้วยกับการแบน ละครเลย เพราะมันคือจินตนาการและจริตของสังคมนั้น โดยเฉพาะ Hormonestheseries ยังไม่เคยดูแต่เท่าที่หาข้อมูลเป็นละครสะท้อนสังคม ชีวิตสับสนของวัยรุ่น มันจะผิดกฎหมายมาตรา 37 ตรงไหน?? ถ้ามันไม่ได้ลามกอนาจาร
ส่วนเนื้อเรื่องที่วัยรุ่นมี sex และทำแท้ง มันก็สอนให้เด็กๆ ได้คิด สมัยข้าพเจ้าเป็นวันรุ่นก็ดูละครเรื่อง กว่าจะรู้เดียงสา, น้ำพุ, แรงกว่านี้อีก ตอนเป็นหนัง โรงเรียนยังพาไปดูเลย นั้นมันก็ 20-30 ปีมาแล้ว ตอนนี้เป็นยุคไหนแล้ว ที่ข้าพเจ้าผ่านช่วงวัยรุ่นมาได้ด้วยดีก็เพราะได้ดูหนังเรื่องกว่าจะรู้เดียงสา นี่ล่ะ ทำให้ผู้หญิงเรารู้ว่าเราควรระวังตัวอย่างไร
กสทช.ต้องอย่ามาทำตัวจุกจิกเป็น กบว.ย้อนยุค วางกรอบที่มันร้ายแรงจริงๆแล้วกำกับให้ได้ เช่นเรื่องโฆษณายาผีบอก หลอกลวงเกินจริง ผิด อย. อันนี้ควรรีบไปจัดการก่อน หนังกับละครมันเป็นจินตนาการ เด็กเยาวชนเขารู้ ที่เขาชอบดูเพราะมันสะท้อนชีวิตเขา เขาคุยกับที่บ้านหรือโรงเรียนไม่ได้บ้าง เด็กไทยเก็บกด
______________________________________
บอร์ด กสท ไร้ถก 'ฮอร์โมน' – อนุฯ นัดแกรมมี่พบ 5 ส.ค.
บอร์ด กสท ไร้ถกปม “ฮอร์โมน” นที ปัดตอบความคิดเห็นต่อสื่อมวลชน ด้าน “พล.ท.พีระพงค์ มานะกิจ” เผยนัดแกรมมี่เข้าพบ 5 ส.ค.นี้ หวั่น ฮอร์โมน อาจขัด ม.37 พ.ร.บ.การประกอบกิจการฯ 2551...
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ ประธานกรรมกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท ว่าที่ประชุมมีมติออกใบการอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงจำนวน 52 ใบ แบ่งเป็นประเภทธุรกิจ 15 ใบ สาธารณะ 5 ใบและชุมชน 32 ใบ รวมทั้งหมดที่อนุ 2,312 ใบ
ส่วนใบอนุญาตในส่วนของเคเบิลและทีวีดาวเทียมที่ไม่ใช้คลื่นความถี่จำนวน 22 ช่องรายการ ซึ่งทำให้ตอนนี้มีการอนุมัติใบอนุญาตแล้ว 752 ช่องรายการ คิดเป็น 98% ของการขอเข้ามาทั้งหมด ขณะที่ใบอนุญาตโครงข่ายที่ไม่ใช้คลื่นได้อนุมัติในโครงข่ายระดับชาติ 2 ใบอนุญาต ได้แก่ บริษัท ดาต้าซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น และบริษัท ซิมโฟร์นี ทั้งนี้ ยังระบุว่าต่อจากนี้ไปจะเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังในการนำมาตรการมากำกับดูแลในส่วนของเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ของช่องเคเบิลและทีวีดาวเทียม โดยประชาชนสามารถร้องเรียนเข้ามาแจ้งช่องรายการที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมได้ ผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ 1200
ส่วนกรณีเนื้อหา ฮอร์โมน เดอะซีรี่ย์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์จานดาวเทียมจีเอ็มเอ็มวัน นั้น ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึง และขอปฏิเสธการให้ความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชน
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช. และกรรมการ กสท ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านกำกับผังรายการและเนื้อหารายการ กล่าวว่า ทางเครือข่ายเฝ้าระวังของ อนุกรรมการฯ ได้แย้งมายังคณะอนุกรรมการฯ ให้พิจารณาเนื้อหารายการของฮอร์โมน เนื่องจากละครเรื่องดังกล่าว อาจมีเนื้อหาขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ในด้านความไม่เหมาะสมเชิงคุณธรรม และจริยธรรม
เบื้องต้น คณะอนุกรรมการฯ ได้ถอดเทปของละครผ่านการช่องทางที่มีการเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต พบว่า ละครเรื่องดังกล่าวได้นำเสนอเนื้อหาที่ชวนให้ผู้รับชมคิดและจินตนาการในทางที่ไม่ดีได้ เช่น ฉากการมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ยังสวมชุดนักเรียนอยู่ ในสถานที่ห้องวิทยาศาสตร์ หรือห้องน้ำของโรงเรียน และฉากที่มีเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเรียนไปยังคลินิกทำแท้งเถื่อน หรือไปซื้อยาคุมกำเนินมาใช้เอง
“การนำเสนอของละครเรื่องฮอร์โมน แม้จะไม่ได้ถ่ายทำฉากต่างๆ ให้เห็นภาพโดยตรง เช่นในเรื่องเพศสัมพันธ์ แต่สามารถชวนให้จินตนาการถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้งมีหลายเสียงบอกว่าเรื่องที่นำเสนอต่างเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมของเด็กสมัยนี้ และขอยืนยันว่าการพิจารณาเรื่องที่ กสทช. ใช้อำนาจในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของการที่ กสทช. จะใช้อำนาจของตัวเอง แต่เป็นเรื่องของการบริหารควบคุมความเหมาะสมในสังคม”
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวต่อว่า กสทช.ได้เชิญผู้ผลิตฮอร์โมน ของแกรมมี่ มาพบในวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางแกรมมี่แจ้งขอเลื่อนเป็นวันที่ 5 ส.ค. โดยให้เหตุผลว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตรงกับวันหยุดยาวหลายวัน สำหรับประเด็นที่เชิญเข้าพบเพื่อหารือร่วมกันในด้านของกระบวนการการคิด การนำเสนอเนื้อหาของละคร ไปจนถึงกระบวนการคัดเลือกของช่องในการเลือกนำละครเรื่องดังกล่าวมาออกอากาศ พร้อมทั้งขอต้นฉบับของละครที่ได้ใช้ในการเผยแพร่จริง เพื่อถอบเทปเนื่องจากเนื้อหาที่นำเสนออาจไม่ตรงกันกับในอินเทอร์เน็ต ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาความผิดแต่อย่างใด ท้ายสุดกระบวนการอาจจะจบเพียงให้แค่ตักเตือน ขอความร่วมมือในการปรับแก้เนื้อหาบางส่วน ไม่ต้องถึงขั้นลงโทษความผิดก็เป็นได้.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/359316
__________________________________________________
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และกรรมกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) ด้านกำกับผังและเนื้อหารายการ เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ทางเครือข่ายเฝ้าระวังของ อนุกรรมการ กสท. ด้านกำกับผังและเนื้อหารายการ ได้แข้งมายังคณะอนุกรรมการฯ ให้พิจารณาเนื้อหารายการของ ละครชุด “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ที่อออกกอากาศทางช่อง จีเอ็มเอ็มวัน ของ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) เนื่องจากละครเรื่องดังกล่าว อาจมีเนื้อหาขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551ในด้านความไม่เหมาะสมเชิงคุณธรรม และจริยธรรม
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้มีการถอดเทปของละครผ่านการช่องทางที่มีการเผยแพร่ผ่านอินเตอร์เน็ต พบว่า ละครเรื่องดังกล่าวได้มีการนำเสนอเนื้อหาที่ชวนให้ผู้รับชมคิดและจินตนาการในทางที่ไม่ดีได้ เช่น ฉากการมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ยังสวมชุดนักเรียนอยู่และฉากที่มีเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเรียนไปยังคลีนิกทำแท้งเถื่อน
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ตามกำหนดเดิมได้มีการเชิญผู้ประกอบการที่ผลิตละครเรื่อง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ของทางแกรมมี่ มาพบในวันที่ 24 กรกฎาคม แต่ทางแกรมมี่แจ้งขอเลื่อนเวลาเข้าพบเป็นวันที่ 5 สิงหาคม โดยให้เหตุผลว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตรงกับวันหยุดยาวหลายวัน แต่ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาความผิดแต่อย่างใด ซึ่งท้ายสุดกระบวนการอาจจะจบเพียงให้แค่ตักเตือน ขอความร่วมมือในการปรับแก้เนื้อหาบางส่วน ไม่ต้องถึงขั้นลงโทษความผิดก็เป็นได้
http://www.naewna.com/business/61319
_________________________________________________________
“สุภิญญา” ติง “พีระพงษ์” เรียกแขก เมินงานใหญ่ ไล่จิกละครฮอร์โมนวัยว้าวุ่น
“สุภิญญา” งง! ข่าวแบนละคร “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ยันบอร์ด กสท.ไม่เคยจับเข่าคุยเรื่องนี้ ชี้เนื้อหาสอนให้เด็กรู้จักคิดและไม่เห็นจะผิดมาตรา 37 ตรงไหน ติง “พีระพงษ์” ทำตัวจุกจิกเป็น กบว.ย้อนยุค เหน็บยุคดิจิตอลแล้วควรปรับวิธีคิดแบบแอนะล็อกด้วย เรื่องเล็กๆ ชอบทำ แต่เรื่องใหญ่ๆ กลับละเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 24 เวลาประมาณ 23.30 น. น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Supinya Klangnarong ถึงกรณีชาวเน็ตพากันก่นด่า กสทช. หลังมีกระแสข่าวจะแบนละคร ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น หรือ Hormones The Series ที่กำลังออกอากาศโดยอ้างมีเนื้อหาล่อแหลม อาจผิด พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตราที่ 37 ว่า
“ณ เวลานี้ยังอยู่ที่ กสทช.อยู่เลย นั่งตอบคำถาม ฟังคำก่นด่าจากประชาชนในทวิตเตอร์ สืบเนื่องจากดราม่า Hormonestheseries ที่ข้าพเจ้าไม่รู้เรื่องเลย แต่วันนี้งานเข้าเต็มๆ
โดยสรุปบอร์ด กสท.ยังไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้ ยังไม่เคยลงมติใดๆ แต่เป็นความริเริ่มของท่าน กสทช. พลโท พีระพงษ์ มานะกิจ ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหาและผังรายการ ท่านเรียกแขกให้ข้าพเจ้าทั้งวัน ทวิตเตอร์แทบแตก โดนถล่มเพียบ ต้องนั่งอธิบาย แต่จะกลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้มีประชุมบอร์ด กสท.เรื่องสำคัญด้วย (แต่ไม่มีเรื่องนี้นะคะ)
ขอถอนหายใจ ภาพลักษณ์ กสทช.กลายเป็น กบว.คืนชีพไปแล้ว ทุกท่านทราบจุดยืนข้าพเจ้าดีว่าอยู่ข้างเสรีภาพสื่อเสมอเว้นแต่ว่ามันขัดกฎหมายอย่างร้ายแรงหรือไปละเมิดสิทธิมนุยชน
ส่วนตัวแม้จะไม่ค่อยชอบละครไทย แต่ไม่เคยเห็นด้วยกับการแบน ละครเลย เพราะมันคือจินตนาการและจริตของสังคมนั้น โดยเฉพาะ Hormonestheseries ยังไม่เคยดูแต่เท่าที่หาข้อมูลเป็นละครสะท้อนสังคม ชีวิตสับสนของวัยรุ่น มันจะผิดกฎหมายมาตรา 37 ตรงไหน?? ถ้ามันไม่ได้ลามกอนาจาร
ส่วนเนื้อเรื่องที่วัยรุ่นมี sex และทำแท้ง มันก็สอนให้เด็กๆ ได้คิด สมัยข้าพเจ้าเป็นวันรุ่นก็ดูละครเรื่อง กว่าจะรู้เดียงสา, น้ำพุ, แรงกว่านี้อีก ตอนเป็นหนัง โรงเรียนยังพาไปดูเลย นั้นมันก็ 20-30 ปีมาแล้ว ตอนนี้เป็นยุคไหนแล้ว ที่ข้าพเจ้าผ่านช่วงวัยรุ่นมาได้ด้วยดีก็เพราะได้ดูหนังเรื่องกว่าจะรู้เดียงสา นี่ล่ะ ทำให้ผู้หญิงเรารู้ว่าเราควรระวังตัวอย่างไร
กสทช.ต้องอย่ามาทำตัวจุกจิกเป็น กบว.ย้อนยุค วางกรอบที่มันร้ายแรงจริงๆแล้วกำกับให้ได้ เช่นเรื่องโฆษณายาผีบอก หลอกลวงเกินจริง ผิด อย. อันนี้ควรรีบไปจัดการก่อน หนังกับละครมันเป็นจินตนาการ เด็กเยาวชนเขารู้ ที่เขาชอบดูเพราะมันสะท้อนชีวิตเขา เขาคุยกับที่บ้านหรือโรงเรียนไม่ได้บ้าง เด็กไทยเก็บกด
จริงๆ มันเป็นสื่อที่ดีในการสอนเรื่องเพศศึกษากับเยาวชน กสทช.วันนี้เพิ่งเปิดตัว น้องดูดี สัญลักษณ์ทีวีดิจิตอล เรากำลังก้าวไปข้างหน้า อย่าย้อนยุคไปไกลถึงปี 2498 ที่เพิ่งมีทีวีแอนะล็อกในประเทศไทย ให้เด็กเขาได้คิดอ่านกันเองบ้าง ทีละครหลังข่าวตบจูบ ข่มขืนมีมา 3-4 ทศวรรษ รัฐยังไม่เคยกล้าแบนเลย แม้จะไม่มีรสนิยม แต่รัฐธรรมรองรับสิทธิคนให้เลือกดูสิ่งที่เขาชอบ ถ้ามันไม่ขัดกฎหมายแบบคอขาดบาดตาย
ละครที่สอนให้เด็กรู้จักคิด รู้จักเลือก ควรสนับสนุน แล้วผู้ใหญ่ใช้มันเป็นเครื่องมือ เราอยู่ยุคดิจิตอลแล้วต้องปรับวิธีคิดแบบอะนาล็อกด้วย ไม่งั้นลุงๆป้าๆอย่างเราก็จะตามไม่ทัน เรื่องเล็กๆชอบทำ แต่เรื่องใหญ่ๆ กลับละเลย
หมดแรงแล้วกลับบ้านดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันใหม่ .. ทำไมมันมีแต่เรื่องนะ กสทช. ..”
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000091156&Keyword=%a1%ca%b7
_________________________________________________________________
กสทช.เดินหน้าคุมเข้มเคเบิลทีวี-ทีวีดาวเทียม ยังไม่จับผิดซีรีย์ฮอร์โมน
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กสท.มีมติให้สำนักงาน กสทช.รับฟังความเห็นเฉพาะกลุ่มเพื่อออกมาตรการคุ้มครองดูแลผู้บริโภค เพื่อเสนอต่อที่ประชุม กสท.เดือนสิงหาคม
เพราะที่ผ่านมาออกใบอนุญาตให้กับผู้ผลิตรายการออกอากาศผ่านทีวีดาวเทียมและเคเบีลทีวี สัดส่วนประมาณร้อยละ 98 ของผู้ผลิตรายการในปัจจุบัน
หลังจากนี้ กสท.จะเดินหน้าคุมเข้มในการดูแลผู้บริโภคสำหรับการออกอากาศผ่านทีวีดาวเทียมและเคเบีลทีวี หากรายการใดไม่เหมาะสม มีการเอาเปรียบผู้บริโภค โฆษณาเกินจริง ทั้งเรื่องอาหารบำรุงสุขภาพ รายการทีวีช้อปปิ้ง การหลอกลวงรูปแบบต่าง ๆ การอวดอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากผู้ชมเห็นว่ารายการไม่เหมาะสม ให้ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1200
พ.อ.นที กล่าวว่า หลังจากพบว่ารายการทีวีกระทำผิดจะเรียกให้ส่งเทปมาทำการตรวจสอบ เพื่อสอบสวนข้อเท็จ หากพบว่ากระทำผิดจริงจะพิจารณาลดการต่อใบอนุญาตหลังจากให้ไประยะแรก 1 ปี และหากยังทำผิดต่อเนื่องโดยออกอากาศตามวัตถุประสงค์จะเพิกถอนใบอนุญาต โดยการประชุม กสท.วันนี้ (25 ก.ค.) ไม่ได้หารือเกี่ยวกับซีรีย์ฮอร์โมน ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากวัยรุ่นในปัจจุบัน โดยไม่ได้จับตาเรื่องหนึ่งเรื่องใดเป็นกรณีพิเศษ
ที่มา : สำนักข่าวไทย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1374745278
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวต่อว่า กสทช.ได้เชิญผู้ผลิตฮอร์โมน ของแกรมมี่ มาพบในวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางแกรมมี่แจ้งขอเลื่อนเป็นวันที่ 5 ส.ค. โดยให้เหตุผลว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตรงกับวันหยุดยาวหลายวัน สำหรับประเด็นที่เชิญเข้าพบเพื่อหารือร่วมกันในด้านของกระบวนการการคิด การนำเสนอเนื้อหาของละคร ไปจนถึงกระบวนการคัดเลือกของช่องในการเลือกนำละครเรื่องดังกล่าวมาออกอากาศ พร้อมทั้งขอต้นฉบับของละครที่ได้ใช้ในการเผยแพร่จริง เพื่อถอบเทปเนื่องจากเนื้อหาที่นำเสนออาจไม่ตรงกันกับในอินเทอร์เน็ต ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาความผิดแต่อย่างใด ท้ายสุดกระบวนการอาจจะจบเพียงให้แค่ตักเตือน ขอความร่วมมือในการปรับแก้เนื้อหาบางส่วน ไม่ต้องถึงขั้นลงโทษความผิดก็เป็นได้.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 24 เวลาประมาณ 23.30 น. น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Supinya Klangnarong ถึงกรณีชาวเน็ตพากันก่นด่า กสทช. หลังมีกระแสข่าวจะแบนละคร ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น หรือ Hormones The Series ที่กำลังออกอากาศโดยอ้างมีเนื้อหาล่อแหลม อาจผิด พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตราที่ 37 ว่า
“ณ เวลานี้ยังอยู่ที่ กสทช.อยู่เลย นั่งตอบคำถาม ฟังคำก่นด่าจากประชาชนในทวิตเตอร์ สืบเนื่องจากดราม่า Hormonestheseries ที่ข้าพเจ้าไม่รู้เรื่องเลย แต่วันนี้งานเข้าเต็มๆ
โดยสรุปบอร์ด กสท.ยังไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้ ยังไม่เคยลงมติใดๆ แต่เป็นความริเริ่มของท่าน กสทช. พลโท พีระพงษ์ มานะกิจ ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหาและผังรายการ ท่านเรียกแขกให้ข้าพเจ้าทั้งวัน ทวิตเตอร์แทบแตก โดนถล่มเพียบ ต้องนั่งอธิบาย แต่จะกลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้มีประชุมบอร์ด กสท.เรื่องสำคัญด้วย (แต่ไม่มีเรื่องนี้นะคะ)
ขอถอนหายใจ ภาพลักษณ์ กสทช.กลายเป็น กบว.คืนชีพไปแล้ว ทุกท่านทราบจุดยืนข้าพเจ้าดีว่าอยู่ข้างเสรีภาพสื่อเสมอเว้นแต่ว่ามันขัดกฎหมายอย่างร้ายแรงหรือไปละเมิดสิทธิมนุยชน
ส่วนตัวแม้จะไม่ค่อยชอบละครไทย แต่ไม่เคยเห็นด้วยกับการแบน ละครเลย เพราะมันคือจินตนาการและจริตของสังคมนั้น โดยเฉพาะ Hormonestheseries ยังไม่เคยดูแต่เท่าที่หาข้อมูลเป็นละครสะท้อนสังคม ชีวิตสับสนของวัยรุ่น มันจะผิดกฎหมายมาตรา 37 ตรงไหน?? ถ้ามันไม่ได้ลามกอนาจาร
ส่วนเนื้อเรื่องที่วัยรุ่นมี sex และทำแท้ง มันก็สอนให้เด็กๆ ได้คิด สมัยข้าพเจ้าเป็นวันรุ่นก็ดูละครเรื่อง กว่าจะรู้เดียงสา, น้ำพุ, แรงกว่านี้อีก ตอนเป็นหนัง โรงเรียนยังพาไปดูเลย นั้นมันก็ 20-30 ปีมาแล้ว ตอนนี้เป็นยุคไหนแล้ว ที่ข้าพเจ้าผ่านช่วงวัยรุ่นมาได้ด้วยดีก็เพราะได้ดูหนังเรื่องกว่าจะรู้เดียงสา นี่ล่ะ ทำให้ผู้หญิงเรารู้ว่าเราควรระวังตัวอย่างไร
กสทช.ต้องอย่ามาทำตัวจุกจิกเป็น กบว.ย้อนยุค วางกรอบที่มันร้ายแรงจริงๆแล้วกำกับให้ได้ เช่นเรื่องโฆษณายาผีบอก หลอกลวงเกินจริง ผิด อย. อันนี้ควรรีบไปจัดการก่อน หนังกับละครมันเป็นจินตนาการ เด็กเยาวชนเขารู้ ที่เขาชอบดูเพราะมันสะท้อนชีวิตเขา เขาคุยกับที่บ้านหรือโรงเรียนไม่ได้บ้าง เด็กไทยเก็บกด
______________________________________
บอร์ด กสท ไร้ถก 'ฮอร์โมน' – อนุฯ นัดแกรมมี่พบ 5 ส.ค.
บอร์ด กสท ไร้ถกปม “ฮอร์โมน” นที ปัดตอบความคิดเห็นต่อสื่อมวลชน ด้าน “พล.ท.พีระพงค์ มานะกิจ” เผยนัดแกรมมี่เข้าพบ 5 ส.ค.นี้ หวั่น ฮอร์โมน อาจขัด ม.37 พ.ร.บ.การประกอบกิจการฯ 2551...
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ ประธานกรรมกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท ว่าที่ประชุมมีมติออกใบการอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงจำนวน 52 ใบ แบ่งเป็นประเภทธุรกิจ 15 ใบ สาธารณะ 5 ใบและชุมชน 32 ใบ รวมทั้งหมดที่อนุ 2,312 ใบ
ส่วนใบอนุญาตในส่วนของเคเบิลและทีวีดาวเทียมที่ไม่ใช้คลื่นความถี่จำนวน 22 ช่องรายการ ซึ่งทำให้ตอนนี้มีการอนุมัติใบอนุญาตแล้ว 752 ช่องรายการ คิดเป็น 98% ของการขอเข้ามาทั้งหมด ขณะที่ใบอนุญาตโครงข่ายที่ไม่ใช้คลื่นได้อนุมัติในโครงข่ายระดับชาติ 2 ใบอนุญาต ได้แก่ บริษัท ดาต้าซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น และบริษัท ซิมโฟร์นี ทั้งนี้ ยังระบุว่าต่อจากนี้ไปจะเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังในการนำมาตรการมากำกับดูแลในส่วนของเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ของช่องเคเบิลและทีวีดาวเทียม โดยประชาชนสามารถร้องเรียนเข้ามาแจ้งช่องรายการที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมได้ ผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ 1200
ส่วนกรณีเนื้อหา ฮอร์โมน เดอะซีรี่ย์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์จานดาวเทียมจีเอ็มเอ็มวัน นั้น ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึง และขอปฏิเสธการให้ความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชน
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช. และกรรมการ กสท ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านกำกับผังรายการและเนื้อหารายการ กล่าวว่า ทางเครือข่ายเฝ้าระวังของ อนุกรรมการฯ ได้แย้งมายังคณะอนุกรรมการฯ ให้พิจารณาเนื้อหารายการของฮอร์โมน เนื่องจากละครเรื่องดังกล่าว อาจมีเนื้อหาขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ในด้านความไม่เหมาะสมเชิงคุณธรรม และจริยธรรม
เบื้องต้น คณะอนุกรรมการฯ ได้ถอดเทปของละครผ่านการช่องทางที่มีการเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต พบว่า ละครเรื่องดังกล่าวได้นำเสนอเนื้อหาที่ชวนให้ผู้รับชมคิดและจินตนาการในทางที่ไม่ดีได้ เช่น ฉากการมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ยังสวมชุดนักเรียนอยู่ ในสถานที่ห้องวิทยาศาสตร์ หรือห้องน้ำของโรงเรียน และฉากที่มีเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเรียนไปยังคลินิกทำแท้งเถื่อน หรือไปซื้อยาคุมกำเนินมาใช้เอง
“การนำเสนอของละครเรื่องฮอร์โมน แม้จะไม่ได้ถ่ายทำฉากต่างๆ ให้เห็นภาพโดยตรง เช่นในเรื่องเพศสัมพันธ์ แต่สามารถชวนให้จินตนาการถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้งมีหลายเสียงบอกว่าเรื่องที่นำเสนอต่างเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมของเด็กสมัยนี้ และขอยืนยันว่าการพิจารณาเรื่องที่ กสทช. ใช้อำนาจในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของการที่ กสทช. จะใช้อำนาจของตัวเอง แต่เป็นเรื่องของการบริหารควบคุมความเหมาะสมในสังคม”
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวต่อว่า กสทช.ได้เชิญผู้ผลิตฮอร์โมน ของแกรมมี่ มาพบในวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางแกรมมี่แจ้งขอเลื่อนเป็นวันที่ 5 ส.ค. โดยให้เหตุผลว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตรงกับวันหยุดยาวหลายวัน สำหรับประเด็นที่เชิญเข้าพบเพื่อหารือร่วมกันในด้านของกระบวนการการคิด การนำเสนอเนื้อหาของละคร ไปจนถึงกระบวนการคัดเลือกของช่องในการเลือกนำละครเรื่องดังกล่าวมาออกอากาศ พร้อมทั้งขอต้นฉบับของละครที่ได้ใช้ในการเผยแพร่จริง เพื่อถอบเทปเนื่องจากเนื้อหาที่นำเสนออาจไม่ตรงกันกับในอินเทอร์เน็ต ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาความผิดแต่อย่างใด ท้ายสุดกระบวนการอาจจะจบเพียงให้แค่ตักเตือน ขอความร่วมมือในการปรับแก้เนื้อหาบางส่วน ไม่ต้องถึงขั้นลงโทษความผิดก็เป็นได้.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/359316
__________________________________________________
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และกรรมกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) ด้านกำกับผังและเนื้อหารายการ เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ทางเครือข่ายเฝ้าระวังของ อนุกรรมการ กสท. ด้านกำกับผังและเนื้อหารายการ ได้แข้งมายังคณะอนุกรรมการฯ ให้พิจารณาเนื้อหารายการของ ละครชุด “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ที่อออกกอากาศทางช่อง จีเอ็มเอ็มวัน ของ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) เนื่องจากละครเรื่องดังกล่าว อาจมีเนื้อหาขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551ในด้านความไม่เหมาะสมเชิงคุณธรรม และจริยธรรม
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้มีการถอดเทปของละครผ่านการช่องทางที่มีการเผยแพร่ผ่านอินเตอร์เน็ต พบว่า ละครเรื่องดังกล่าวได้มีการนำเสนอเนื้อหาที่ชวนให้ผู้รับชมคิดและจินตนาการในทางที่ไม่ดีได้ เช่น ฉากการมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ยังสวมชุดนักเรียนอยู่และฉากที่มีเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเรียนไปยังคลีนิกทำแท้งเถื่อน
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ตามกำหนดเดิมได้มีการเชิญผู้ประกอบการที่ผลิตละครเรื่อง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ของทางแกรมมี่ มาพบในวันที่ 24 กรกฎาคม แต่ทางแกรมมี่แจ้งขอเลื่อนเวลาเข้าพบเป็นวันที่ 5 สิงหาคม โดยให้เหตุผลว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตรงกับวันหยุดยาวหลายวัน แต่ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาความผิดแต่อย่างใด ซึ่งท้ายสุดกระบวนการอาจจะจบเพียงให้แค่ตักเตือน ขอความร่วมมือในการปรับแก้เนื้อหาบางส่วน ไม่ต้องถึงขั้นลงโทษความผิดก็เป็นได้
http://www.naewna.com/business/61319
_________________________________________________________
“สุภิญญา” ติง “พีระพงษ์” เรียกแขก เมินงานใหญ่ ไล่จิกละครฮอร์โมนวัยว้าวุ่น
“สุภิญญา” งง! ข่าวแบนละคร “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ยันบอร์ด กสท.ไม่เคยจับเข่าคุยเรื่องนี้ ชี้เนื้อหาสอนให้เด็กรู้จักคิดและไม่เห็นจะผิดมาตรา 37 ตรงไหน ติง “พีระพงษ์” ทำตัวจุกจิกเป็น กบว.ย้อนยุค เหน็บยุคดิจิตอลแล้วควรปรับวิธีคิดแบบแอนะล็อกด้วย เรื่องเล็กๆ ชอบทำ แต่เรื่องใหญ่ๆ กลับละเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 24 เวลาประมาณ 23.30 น. น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Supinya Klangnarong ถึงกรณีชาวเน็ตพากันก่นด่า กสทช. หลังมีกระแสข่าวจะแบนละคร ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น หรือ Hormones The Series ที่กำลังออกอากาศโดยอ้างมีเนื้อหาล่อแหลม อาจผิด พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตราที่ 37 ว่า
“ณ เวลานี้ยังอยู่ที่ กสทช.อยู่เลย นั่งตอบคำถาม ฟังคำก่นด่าจากประชาชนในทวิตเตอร์ สืบเนื่องจากดราม่า Hormonestheseries ที่ข้าพเจ้าไม่รู้เรื่องเลย แต่วันนี้งานเข้าเต็มๆ
โดยสรุปบอร์ด กสท.ยังไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้ ยังไม่เคยลงมติใดๆ แต่เป็นความริเริ่มของท่าน กสทช. พลโท พีระพงษ์ มานะกิจ ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหาและผังรายการ ท่านเรียกแขกให้ข้าพเจ้าทั้งวัน ทวิตเตอร์แทบแตก โดนถล่มเพียบ ต้องนั่งอธิบาย แต่จะกลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้มีประชุมบอร์ด กสท.เรื่องสำคัญด้วย (แต่ไม่มีเรื่องนี้นะคะ)
ขอถอนหายใจ ภาพลักษณ์ กสทช.กลายเป็น กบว.คืนชีพไปแล้ว ทุกท่านทราบจุดยืนข้าพเจ้าดีว่าอยู่ข้างเสรีภาพสื่อเสมอเว้นแต่ว่ามันขัดกฎหมายอย่างร้ายแรงหรือไปละเมิดสิทธิมนุยชน
ส่วนตัวแม้จะไม่ค่อยชอบละครไทย แต่ไม่เคยเห็นด้วยกับการแบน ละครเลย เพราะมันคือจินตนาการและจริตของสังคมนั้น โดยเฉพาะ Hormonestheseries ยังไม่เคยดูแต่เท่าที่หาข้อมูลเป็นละครสะท้อนสังคม ชีวิตสับสนของวัยรุ่น มันจะผิดกฎหมายมาตรา 37 ตรงไหน?? ถ้ามันไม่ได้ลามกอนาจาร
ส่วนเนื้อเรื่องที่วัยรุ่นมี sex และทำแท้ง มันก็สอนให้เด็กๆ ได้คิด สมัยข้าพเจ้าเป็นวันรุ่นก็ดูละครเรื่อง กว่าจะรู้เดียงสา, น้ำพุ, แรงกว่านี้อีก ตอนเป็นหนัง โรงเรียนยังพาไปดูเลย นั้นมันก็ 20-30 ปีมาแล้ว ตอนนี้เป็นยุคไหนแล้ว ที่ข้าพเจ้าผ่านช่วงวัยรุ่นมาได้ด้วยดีก็เพราะได้ดูหนังเรื่องกว่าจะรู้เดียงสา นี่ล่ะ ทำให้ผู้หญิงเรารู้ว่าเราควรระวังตัวอย่างไร
กสทช.ต้องอย่ามาทำตัวจุกจิกเป็น กบว.ย้อนยุค วางกรอบที่มันร้ายแรงจริงๆแล้วกำกับให้ได้ เช่นเรื่องโฆษณายาผีบอก หลอกลวงเกินจริง ผิด อย. อันนี้ควรรีบไปจัดการก่อน หนังกับละครมันเป็นจินตนาการ เด็กเยาวชนเขารู้ ที่เขาชอบดูเพราะมันสะท้อนชีวิตเขา เขาคุยกับที่บ้านหรือโรงเรียนไม่ได้บ้าง เด็กไทยเก็บกด
จริงๆ มันเป็นสื่อที่ดีในการสอนเรื่องเพศศึกษากับเยาวชน กสทช.วันนี้เพิ่งเปิดตัว น้องดูดี สัญลักษณ์ทีวีดิจิตอล เรากำลังก้าวไปข้างหน้า อย่าย้อนยุคไปไกลถึงปี 2498 ที่เพิ่งมีทีวีแอนะล็อกในประเทศไทย ให้เด็กเขาได้คิดอ่านกันเองบ้าง ทีละครหลังข่าวตบจูบ ข่มขืนมีมา 3-4 ทศวรรษ รัฐยังไม่เคยกล้าแบนเลย แม้จะไม่มีรสนิยม แต่รัฐธรรมรองรับสิทธิคนให้เลือกดูสิ่งที่เขาชอบ ถ้ามันไม่ขัดกฎหมายแบบคอขาดบาดตาย
ละครที่สอนให้เด็กรู้จักคิด รู้จักเลือก ควรสนับสนุน แล้วผู้ใหญ่ใช้มันเป็นเครื่องมือ เราอยู่ยุคดิจิตอลแล้วต้องปรับวิธีคิดแบบอะนาล็อกด้วย ไม่งั้นลุงๆป้าๆอย่างเราก็จะตามไม่ทัน เรื่องเล็กๆชอบทำ แต่เรื่องใหญ่ๆ กลับละเลย
หมดแรงแล้วกลับบ้านดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันใหม่ .. ทำไมมันมีแต่เรื่องนะ กสทช. ..”
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000091156&Keyword=%a1%ca%b7
_________________________________________________________________
กสทช.เดินหน้าคุมเข้มเคเบิลทีวี-ทีวีดาวเทียม ยังไม่จับผิดซีรีย์ฮอร์โมน
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กสท.มีมติให้สำนักงาน กสทช.รับฟังความเห็นเฉพาะกลุ่มเพื่อออกมาตรการคุ้มครองดูแลผู้บริโภค เพื่อเสนอต่อที่ประชุม กสท.เดือนสิงหาคม
เพราะที่ผ่านมาออกใบอนุญาตให้กับผู้ผลิตรายการออกอากาศผ่านทีวีดาวเทียมและเคเบีลทีวี สัดส่วนประมาณร้อยละ 98 ของผู้ผลิตรายการในปัจจุบัน
หลังจากนี้ กสท.จะเดินหน้าคุมเข้มในการดูแลผู้บริโภคสำหรับการออกอากาศผ่านทีวีดาวเทียมและเคเบีลทีวี หากรายการใดไม่เหมาะสม มีการเอาเปรียบผู้บริโภค โฆษณาเกินจริง ทั้งเรื่องอาหารบำรุงสุขภาพ รายการทีวีช้อปปิ้ง การหลอกลวงรูปแบบต่าง ๆ การอวดอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากผู้ชมเห็นว่ารายการไม่เหมาะสม ให้ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1200
พ.อ.นที กล่าวว่า หลังจากพบว่ารายการทีวีกระทำผิดจะเรียกให้ส่งเทปมาทำการตรวจสอบ เพื่อสอบสวนข้อเท็จ หากพบว่ากระทำผิดจริงจะพิจารณาลดการต่อใบอนุญาตหลังจากให้ไประยะแรก 1 ปี และหากยังทำผิดต่อเนื่องโดยออกอากาศตามวัตถุประสงค์จะเพิกถอนใบอนุญาต โดยการประชุม กสท.วันนี้ (25 ก.ค.) ไม่ได้หารือเกี่ยวกับซีรีย์ฮอร์โมน ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากวัยรุ่นในปัจจุบัน โดยไม่ได้จับตาเรื่องหนึ่งเรื่องใดเป็นกรณีพิเศษ
ที่มา : สำนักข่าวไทย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1374745278
ไม่มีความคิดเห็น: