Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

8 กรกฎาคม 2556 สพธอ. เผยสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตปี 2556 (โตได้เพราะใช้โซเชียลมีเดียถึง90% ) ส่วนพฤติกรรมการซื้อขายสินค้าผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีผู้เคยซื้อแล้ว 49.7% เพราะเห็นว่าสะดวก 76% โปรโมชันดี 45.7%



ประเด็นหลัก

    ทั้งนี้ข้อมูลการสำรวจยังยืนยันกระแสความนิยมเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดีย ของคนไทย   โดย 90% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตนิยมใช้งานโซเชียลมีเดีย  และส่วนใหญ่ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน   โดยเฟซบุ๊ก ยังครองใจผู้ใช้คนไทยเป็นอันดับ 1 ซึ่งผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารพูดคุย  อัพเดตข้อมูลข่าวสาร   และเมื่อประเมินถึงพฤติกรรมการซื้อขายสินค้าผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก พบว่า มีผู้เคยซื้อแล้ว 49.7% เพราะเห็นว่าสะดวก 76% โปรโมชันดี 45.7% และมั่นใจในคนขาย 34.7% แต่ทั้งนี้เม็ดเงินที่ใช้จับจ่ายนับว่ายังต่ำมากเฉลี่ยสูงสุดเพียง 500-1,000 บาท เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย  โดยสินค้าที่นิยมของผู้ชายในการซื้อผ่านทางออนไลน์ คือ กลุ่มสินค้าไอที   ขณะที่กลุ่มผู้หญิงนิยมซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ผ่านทางออนไลน์   โดยมูลค่าที่นิยมซื้อมากสุด  คือ 2,500 บาท


______________________________________






ใช้อินเตอร์เน็ต105ชม./วีกแนะพ่อ-แม่ดูแล

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์   เผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตไทยปี 2556  ระบุแนวโน้มการใช้งานเพิ่มเท่าตัว  ขณะที่ซื้อขายผ่านออนไลน์-โซเชียลมีเดีย เติบโตสูง  เร่งเดินหน้ากฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์

    นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ.  เปิดเผยว่า ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตปี 2556  จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด  23,900 คน  ซึ่งผลที่ได้จากการสำรวจนั้นแสดงให้เห็นว่าช่วง 12 ปีที่ผ่านมาคนไทยมีการใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเท่าตัว   โดยในปี 2544  ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมีจำนวนการใช้งานต่อสัปดาห์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประมาณ 76.3%
    โดยการสำรวจปีนี้มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตที่มีชั่วโมงการใช้งานอินเตอร์เน็ตต่อสัปดาห์จำนวน 105 ชั่วโมง  สัดส่วนถึง 9% โดยปัจจัยหลังที่ทำให้คนไทยใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมาจากการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่สะดวกสบายมากขึ้น และอินเตอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทยไปแล้ว   เพราะนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึง และเท่าเทียม  โดยสะท้อนผ่านผลการสำรวจครั้งนี้ ที่พบว่ากว่า 50% ของผู้ใช้บริการฟรีไว-ไฟ  รู้สึกพอใจในการให้บริการ  โดยเฉพาะคนที่อยู่นอกเขตเทศบาลมีความพอใจเป็นอย่างมาก   รวมไปถึงตัวเลขการสำรวจพบว่าคนไทยเริ่มหันมาใช้บริการอินเตอร์เน็ตในศูนย์ไอซีทีชุมชนมากขึ้น   นอกจากนี้ 55% ของกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม  นิยมใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ทั้งโน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน  และแท็บเลต  เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่นิยมออนไลน์ทุกที่ทุกเวลา
    อย่างไรก็ตามอินเตอร์เน็ตก็เปรียบเสมือนดาบสองคม โดยจากผลการสำรวจบ่งชี้ว่ากลุ่มเด็กและเยาวชนชอบใช้งานอินเตอร์เน็ตหลังเลิกเรียนจนถึงค่ำ  โดยส่วนใหญ่ใช้งานเพื่อความบันเทิง  ทั้งเล่นเกมออนไลน์ ดาวน์โหลดสื่อบันเทิง ยิ่งไปกว่านั้นยังนิยมใช้งานผ่านร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่  ทำให้ผู้ปกครองต้องให้ความสำคัญ  หรือใส่ใจการใช้งานอินเตอร์เน็ตของบุตรหลานให้ถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้น
    ทั้งนี้ข้อมูลการสำรวจยังยืนยันกระแสความนิยมเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดีย ของคนไทย   โดย 90% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตนิยมใช้งานโซเชียลมีเดีย  และส่วนใหญ่ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน   โดยเฟซบุ๊ก ยังครองใจผู้ใช้คนไทยเป็นอันดับ 1 ซึ่งผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารพูดคุย  อัพเดตข้อมูลข่าวสาร   และเมื่อประเมินถึงพฤติกรรมการซื้อขายสินค้าผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก พบว่า มีผู้เคยซื้อแล้ว 49.7% เพราะเห็นว่าสะดวก 76% โปรโมชันดี 45.7% และมั่นใจในคนขาย 34.7% แต่ทั้งนี้เม็ดเงินที่ใช้จับจ่ายนับว่ายังต่ำมากเฉลี่ยสูงสุดเพียง 500-1,000 บาท เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย  โดยสินค้าที่นิยมของผู้ชายในการซื้อผ่านทางออนไลน์ คือ กลุ่มสินค้าไอที   ขณะที่กลุ่มผู้หญิงนิยมซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ผ่านทางออนไลน์   โดยมูลค่าที่นิยมซื้อมากสุด  คือ 2,500 บาท
     นางสุรางคนา กล่าวต่ออีกว่าผลการสำรวจครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการการใช้งานอินเตอร์เน็ตของคนไทย  ที่มีการใช้งานที่เป็นสาระมากขึ้นจากเดิมมุ่งการใช้งานเพื่อความบันเทิง   นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่ามีการซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์  และโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้น   ซึ่งหลังจากนี้ สพธอ. จะหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคมากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=189878:105-&catid
=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.