15 พฤษภาคม 2557 NOKIA เสนอเทคโนโลยีโครงข่าย 4G LTE Advance (ใช้สัญลักษณ์โนเกียแทนเครื่องหมาย NSN) เป้าหมายในอนาคตคาดหวังว่าจะทำกำไรได้ระหว่าง 5-10% ตลอดทั้งปี 2014
ประเด็นหลัก
พร้อมกันนี้โนเกียยังได้นำเสนอเทคโนโลยี 4G LTE Advance ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายให้รองรับคลื่นความถี่ที่หลากหลายมากขึ้น และสามารถบริหารจัดการความถี่ให้มารวมกันเพื่อเพิ่มความเร็วในการใช้งานที่มากขึ้น อีกทั้งยังมีการนำเสนอโซลูชันเพื่อช่วยให้โอเปอเรเตอร์ทำงานได้ง่ายขึ้น ด้วยนวัตกรรมที่หลากหลาย อาทิ Liquid Application ที่ช่วยให้การชมวิดีโอผ่านสมาร์ทโฟนมีความเร็วที่เพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปในแต่ละสถานีฐานที่มีการเรียกใช้งานวิดีโอเป็นจำนวนมาก เพื่อความรวดเร็วในการเรียกใช้ที่เพิ่มขึ้นเสมือนหนึ่งมีแคชของวิดีโอนั้นไว้ใกล้ผู้ใช้งานโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีโซลูชันของการเก็บข้อมูลการใช้งานเพื่อให้โอเปอเรเตอร์ได้หาแนวทางการจัดการคลื่นความถี่ได้อย่างเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้ผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนต่อไป
โดยเป้าหมายในอนาคตคาดหวังว่าจะทำกำไรได้ระหว่าง 5-10% ตลอดทั้งปี 2014 ขณะที่รายได้รวมของโนเกียช่วงไตรมาสแรกของปี 2014 มีกว่า 2,328 ล้านเหรียญยูโร มีกำไรกว่า 217 ล้านเหรียญยูโร มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งมีกำไรอยู่เพียง 202 ล้านเหรียญยูโรจากยอดขายที่สูงกว่า 2,717 ล้านเหรียญยูโร
______________________________________
NSN ปรับโฉมเป็น “โนเกีย” ลุยเน็ตเวิร์ก LTE
ฮาราลด์ ไพรซ์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจเน็ตเวิร์ก ประจำภูมิภาคเอเชียเหนือของโนเกีย
หลังจากขายธุรกิจสมาร์ทโฟนและเทเงินซื้อหุ้นจากซีเมนส์คืน โนเกียซีเมนส์เน็ตเวิร์ก (NSN) เริ่มปรับโฉมกลับมาใช้แบรนด์โนเกีย ทุ่มความหวังใหม่ให้ 3 นวัตกรรมหลัก เน้นจุดแข็งที่มีอยู่พร้อมชูคุณภาพมากกว่าราคาหวังสร้างกำไรโตต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10% พร้อมพุ่งเป้าสร้างรายได้จากการพัฒนา LTE เสริมประสิทธิภาพโครงข่ายในอนาคต
ฮาราลด์ ไพรซ์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจเน็ตเวิร์ก ประจำภูมิภาคเอเชียเหนือของโนเกีย กล่าวว่า การดำเนินงานของโนเกียหลังจากนี้จะพุ่งเป้าไปที่การสร้างประสิทธิภาพของอุปกรณ์เครือข่ายเพื่อพัฒนาให้โอเปอเรเตอร์บริหารลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยนวัตกรรมของโนเกียที่มีอยู่ทั้ง 3 อย่าง ซึ่งแบ่งเป็นด้านเน็ตเวิร์กที่มีบุคลากรชำนาญการกว่า 48,000 คน ด้าน Here แอปพลิเคชันนำทางที่ได้รับความนิยมบนวินโดวส์โฟนซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญอยู่กว่า 6,000 คน และสุดท้ายเป็นการดูแลด้านลิขสิทธิ์เทคโนโลยีจากการวิจัยและพัฒนาขึ้นมาของโนเกียเอง ด้วยบุคลากรกว่า 600 คน
NSN ปรับโฉมเป็น “โนเกีย” ลุยเน็ตเวิร์ก LTE
รูปแบบของเทคโนโลยี liquid applications ที่ช่วยให้ใช้งานด้านมัลติมีเดียได้ดีขึ้น เร็วขึ้น
พร้อมชูจุดเด่น 6 ด้านเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา คือ 1. ตัวเลขผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องกว่า 7 ไตรมาส 2. ความแข็งแกร่งในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าในอดีต 3. กำไรขั้นต้นที่สูงเป็นประวัติการณ์ 4. สภาพคล่องทางการเงินกลับมามีประสิทธิภาพติดต่อกันกว่า 10 ไตรมาส 5. แนวทางธุรกิจมีความชัดเจนมากขึ้นเนื่องจากเน้นเพียงธุรกิจเน็ตเวิร์กเพื่อสร้างมูลค่าให้เกิดแก่ลูกค้า 6. มีการนำเสนอประสิทธิภาพของเน็ตเวิร์กจนเป็นที่ยอมรับในทั่วโลก
NSN ปรับโฉมเป็น “โนเกีย” ลุยเน็ตเวิร์ก LTE
ขนาดของเซลไซต์ที่เล็กลงด้วยเทคโนโลยี Small Cells
พร้อมกันนี้โนเกียยังได้นำเสนอเทคโนโลยี 4G LTE Advance ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายให้รองรับคลื่นความถี่ที่หลากหลายมากขึ้น และสามารถบริหารจัดการความถี่ให้มารวมกันเพื่อเพิ่มความเร็วในการใช้งานที่มากขึ้น อีกทั้งยังมีการนำเสนอโซลูชันเพื่อช่วยให้โอเปอเรเตอร์ทำงานได้ง่ายขึ้น ด้วยนวัตกรรมที่หลากหลาย อาทิ Liquid Application ที่ช่วยให้การชมวิดีโอผ่านสมาร์ทโฟนมีความเร็วที่เพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปในแต่ละสถานีฐานที่มีการเรียกใช้งานวิดีโอเป็นจำนวนมาก เพื่อความรวดเร็วในการเรียกใช้ที่เพิ่มขึ้นเสมือนหนึ่งมีแคชของวิดีโอนั้นไว้ใกล้ผู้ใช้งานโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีโซลูชันของการเก็บข้อมูลการใช้งานเพื่อให้โอเปอเรเตอร์ได้หาแนวทางการจัดการคลื่นความถี่ได้อย่างเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้ผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนต่อไป
โดยเป้าหมายในอนาคตคาดหวังว่าจะทำกำไรได้ระหว่าง 5-10% ตลอดทั้งปี 2014 ขณะที่รายได้รวมของโนเกียช่วงไตรมาสแรกของปี 2014 มีกว่า 2,328 ล้านเหรียญยูโร มีกำไรกว่า 217 ล้านเหรียญยูโร มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งมีกำไรอยู่เพียง 202 ล้านเหรียญยูโรจากยอดขายที่สูงกว่า 2,717 ล้านเหรียญยูโร
NSN ปรับโฉมเป็น “โนเกีย” ลุยเน็ตเวิร์ก LTE
มุมสาธิตการใช้งานร่วมกันระหว่างย่านความถี่ที่แตกต่างกัน คุณสมบัติใหม่ของ LTE Advanced
ทั้งนี้ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังขายกิจการสมาร์ทโฟนของโนเกียและเทเงินซื้อกิจการเน็ตเวิร์กกลับมาจากซีเมนส์ทั้งหมดช่วงปีก่อนหน้านี้ ส่งผลให้โนเกียกลับมาเป็นเจ้าของธุรกิจเน็ตเวิร์กอย่างเต็มตัวอีกครั้ง และคาดว่าจะมีการปรับโฉมจากชื่อ โนเกียซีเมนส์เน็ตเวิร์ก หรือ NSN กลับมาเป็นโนเกียอีกครั้ง สังเกตได้จากเอกสารการนำเสนอข้อมูลที่มีการใช้สัญลักษณ์โนเกียแทนเครื่องหมาย NSN ที่เคยใช้ โดยคาดว่าหลังการเจรจาด้านข้อกฎหมายระหว่างโนเกียกับไมโครซอฟต์อาจจะมีความชัดเจนถึงโครงสร้างการบริหารทั้งหมด แต่ในเบื้องต้นการบริหารงานในประเทศไทยยังคงใช้ผู้บริหารระดับสูงที่ดูแลทั่วทั้งเอเชียเหนือเป็นผู้ตัดสินใจ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000053857
ไม่มีความคิดเห็น: