Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 มิถุนายน 2557 thairathTV.วัชร ระบุ บริษัทเป็นผู้ผลิตเองและมีพาร์ตเนอร์ผลิตให้ เช่น ลักษ์ 666 , กันตนา , โพลีพลัส , เจเอสแอล เป็นต้น คาดหลังออนแอร์ทั่วประเทศกวาดสัดส่วนผู้ชมได้ 3-4 ล้านคนต่อวัน


ประเด็นหลัก

  นายวัชร  กล่าวอีกว่า ในธุรกิจทีวีดิจิตอล เรื่องของคอนเทนต์มีความสำคัญมาก โดยไทยรัฐทีวี วางสัดส่วนรายการข่าวและสาระ 50 : 50  โดยไทยรัฐทีวีจะผลิตรายการข่าวเองทั้งหมด เนื่องจากมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร ประสบการณ์และข้อมูลที่แข็งแกร่ง  ส่วนคอนเทนต์อื่นจะเน้นโลคัลคอนเทนต์เป็นหลัก เนื่องจากมองว่าเนื้อหาของคอนเทนต์จะเหมาะและเข้าถึงคนไทยมากกว่า  แต่คอนเทนต์ที่นำเสนอจะต้องอยู่เชื่อมโยงแนวทางกับกรอบที่ช่องกำหนดไว้ โดยโลคัลคอนเทนต์ จะมีทั้งที่บริษัทเป็นผู้ผลิตเองและมีพาร์ตเนอร์ผลิตให้ เช่น ลักษ์ 666 , กันตนา , โพลีพลัส ,  เจเอสแอล เป็นต้น


______________________________________


ไทยรัฐทีวีผงาดดิจิตอล เดินสายปั้นแบรนด์ขึ้น'ท็อป5'ครองใจผู้ชม



 เปิดยุทธศาสตร์ "ไทยรัฐทีวี"  ก้าวขึ้นสู่  Top Of Mind Channel  พร้อมเชื่อมเครือข่าย "TV-สมาร์ทโฟน – แอพพลิเคชัน-เว็บไซต์"  ย้ำภาพคอนเนกเต็ด ทีวีสมบูรณ์แบบ เผยเตรียมทุ่มงบตลาดกว่า 200 ล้าน ปั้นแบรนด์เจาะถึงประตูบ้าน คาดหลังออนแอร์ทั่วประเทศกวาดสัดส่วนผู้ชมได้ 3-4 ล้านคนต่อวัน โกยรายได้ 2-3 พันล้านบาทต่อปี แนะทำธุรกิจทีวีดิจิตอลต้องมีสายป่านยาว
alt    นายวัชร  วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้บริหารทีวีดิจิตอลช่อง "ไทยรัฐทีวี"   เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้ช่องไทยรัฐทีวี  ติดอันดับ Top Of Mind Channel  หรือ 1 ใน 5 ช่องทีวีดิจิตอลที่อยู่ในใจผู้บริโภค ทำให้บริษัทต้องมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ขณะเดียวกันจะนำเสนอคอนเทนต์ทุกประเภทในรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด "คิดต่าง อย่างเข้าใจ"  ซึ่งจากการเริ่มออกอากาศ 1 เดือนเศษที่ผ่านมาพบว่า ผู้ชมให้การตอบรับกับช่องไทยรัฐทีวีในทิศทางที่ดี แต่ก็ยังต้องนำจุดแข็ง จุดอ่อนที่พบมาปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค
    "ผลตอบรับในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากเป็นช่วงการแข่งขันจริง แม้จะเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ มาล่วงหน้ากว่า 2 ปีก็ตาม แต่ก็ยังมีรายละเอียดเรื่องคอนเทนต์ เทคนิค ระบบต่างๆที่ยังต้องปรับอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งในขณะนี้ยังมีรายการรีรันกว่า 20% ในช่วงเวลาเช้า และหลังเที่ยง ซึ่งภายใน 1 ปีบริษัทคาดว่าผังรายการจะเต็มรูปแบบ 100%   ขณะเดียวกันบริษัทพยายามจะให้ผู้ชมและผู้อ่านรู้จักไทยรัฐทีวีมากขึ้นและเร็วที่สุด"  นายวัชร กล่าวและว่า

    บริษัทต้องพยายามปรับคาแรกเตอร์ตัวเองใหม่ เพื่อให้ผู้ชมมองไทยรัฐทีวีนอกเหนือจากความเป็นหนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์รายการข่าว แต่อยากให้มองไทยรัฐทีวีเป็นช่องที่รวมคอนเทนต์ทุกประเภทในรูปแบบใหม่ภายใต้กรอบ "คิดต่าง อย่างเข้าใจ"  ดังนั้นในปีนี้บริษัทจะเน้นกลยุทธ์เข้าถึงกลุ่มผู้อ่านทั่วประเทศของไทยรัฐให้มากที่สุด
    โดยในปีแรกบริษัทเตรียมงบประมาณด้านการตลาดกว่า 200 ล้านบาทในการจัดกิจกรรมการตลาดทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์  โปรโมชัน และจัดอีเวนต์ต่างๆ   เช่น แคมเปญ "เช้าอ่านสิบ  เย็นหยิบแสน" ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จะดึงผู้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐให้หันมาดูช่องไทยรัฐทีวีควบคู่กันไป นอกจากนี้ในกลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป บริษัทจะจัดกิจกรรมโรดโชว์ขึ้นใน 16 จังหวัด เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ไทยรัฐทีวี และให้ความรู้เรื่องของทีวีดิจิตอล โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีการแจกทีวีระบบบิลต์อิน DVB-T2  ซึ่งสามารถดูทีวีดิจิตอลได้ทันทีให้กับประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม  แต่หากพื้นที่ใด ที่สัญญาณดิจิตอลยังเข้าไม่ถึงก็จะแจกเป็นเสาอากาศ หรืออื่นๆ แทน ซึ่งจะแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นที่มุ่งแจกกล่องรับสัญญาณ
    นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นงานด้านกราฟิก และระบบเทคโนโลยีต่างๆเป็นจุดขาย  เนื่องจากบริษัทมองว่ากราฟิกจะช่วยดึงดูดผู้ชมเข้ามามากขึ้น  อีกทั้งบริษัทจะพยายามผลักดันให้ไทยรัฐทีวี ก้าวขึ้นเป็น Connected TV เต็มรูปแบบ  เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมรับชมไทยรัฐทีวีได้ในทุกช่องทาง ทั้งทีวี , แท็บเลต , สมาร์ทโฟน รวมไปถึงการพัฒนาแอพพลิเคชัน ที่จะออกสู่สาธารณะในไตรมาส 4 นี้ด้วย
    "พฤติกรรมของผู้ชมในปัจจุบันอยู่ในยุคของ Second Screen  ซึ่งสามารถอินเตอร์แอกทีฟกับผู้ชมได้  ซึ่งมีรายการที่เริ่มทดลองแล้วในรูปแบบเรียลไทม์  โดยสามารถโต้ตอบผ่านทางสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลตควบคู่กันไปกับการชมทีวี  โดยรายการดังกล่าวเป็นของคุณหนุ่ย พงศ์สุข  โดยผู้ชมทางบ้านสามารถเล่นเกมโต้ตอบกับพิธีกรได้ พร้อมกับสะสมแต้มแลกของรางวัล"
    นายวัชร  กล่าวอีกว่า ในธุรกิจทีวีดิจิตอล เรื่องของคอนเทนต์มีความสำคัญมาก โดยไทยรัฐทีวี วางสัดส่วนรายการข่าวและสาระ 50 : 50  โดยไทยรัฐทีวีจะผลิตรายการข่าวเองทั้งหมด เนื่องจากมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร ประสบการณ์และข้อมูลที่แข็งแกร่ง  ส่วนคอนเทนต์อื่นจะเน้นโลคัลคอนเทนต์เป็นหลัก เนื่องจากมองว่าเนื้อหาของคอนเทนต์จะเหมาะและเข้าถึงคนไทยมากกว่า  แต่คอนเทนต์ที่นำเสนอจะต้องอยู่เชื่อมโยงแนวทางกับกรอบที่ช่องกำหนดไว้ โดยโลคัลคอนเทนต์ จะมีทั้งที่บริษัทเป็นผู้ผลิตเองและมีพาร์ตเนอร์ผลิตให้ เช่น ลักษ์ 666 , กันตนา , โพลีพลัส ,  เจเอสแอล เป็นต้น
    "ปัจจุบันไทยรัฐทีวีมีคอนเทนต์ต่างประเทศไม่กี่รายการ เช่น การ์ตูน สารคดี และซีรีส์ เป็นต้น ประมาณ 30 – 60 นาที  ซึ่งคิดว่าอยู่อัตราที่เหมาะสมแล้ว ขณะที่ผู้ผลิตคอนเทนต์ไทยซึ่งมีผลงานคุณภาพยังมีอยู่อีกมาก แต่สถานีและผู้ผลิตเองก็ต้องเปิดใจกว้างเพื่อให้การทำงานเจอจุดที่สมดุลกัน"
    ด้านการลงทุน บริษัทใช้เงินลงทุนกว่า 6 พันล้านบาท แบ่งเป็นค่าไลเซนส์ 3.3 พันล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยี บุคลากร และคอนเทนต์  ซึ่งภายในปีแรกบริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 500 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จากค่าโฆษณา ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ารายใหญ่ 5 รายได้แก่  ธนาคารกรุงเทพ ,รถยนต์อีซูซุ , ยูนิลีเวอร์, เอไอเอส และเทสโก้โลตัส  ส่วนในปีที่ 2-3 ตั้งเป้ามีรายได้เติบโตเท่าตัว เพิ่มเป็น 2 – 3 พันล้านบาทในปีที่ 5  และสามารถคืนทุนได้ภายใน 7 ปี ขณะที่ตั้งเป้าจะมีจำนวนผู้ชม 3-4 ล้านคนต่อวันด้วย
    "ในอนาคตสื่อสิ่งพิมพ์ในประเทศไทยจะมีทิศทางเหมือนประเทศในแถบตะวันตกที่ล้มหายไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีเทคโนโลยีเข้ามาแบบรวดเร็ว  แม้ในประเทศไทยจะไม่รวดเร็วเทียบเท่าแต่เชื่อว่าในอนาคตสื่อดังกล่าวจะลดลง ถูกสื่อออนไลน์ และทีวีเข้ามาแทนที่  ซึ่งบริษัทมองว่าภายในระยะเวลา 7-8 ปี รายได้ในกลุ่มธุรกิจทีวีจะมีสัดส่วนเท่ากับหนังสือพิมพ์  จากปัจจุบันหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมียอดพิมพ์เฉลี่ย 8 แสนเล่มต่อวัน และไม่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเลย แต่อย่างไรก็ดี คนทำธุรกิจทีวีดิจิตอลจะสามารถอยู่รอดได้ต้องมีสายป่านที่ยาวพอ  เพราะธุรกิจนี้ค่อนข้างเหนื่อยพอสมควร  ขณะเดียวกันภาครัฐควรจะช่วยเร่งการประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจกคูปองให้ประชาชนโดยเร็ว เพราะเมื่อไรที่ผู้ชมเข้าถึงได้เร็วมากเท่าไรก็จะยิ่งดี  อีกทั้งโครงข่ายควรต้องเร่งพัฒนาระบบให้เสถียรมากขึ้น"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=233173:-5&catid=106:-marketing&Itemid=456#.U42AdxZAfM4

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.