12 มิถุนายน 2557 “RS” ชนะคดีบอลโลกที่ กสทช. ฟ้อง.... ศาลระบุ ได้ลิขสิทธิ์มาตั้งแต่ปี 2548 ก่อนที่กฎจะคลอดออกมา ดังนั้นตอนนี้เราจึงได้สิทธิในการจัดการอย่างสมบูรณ์

ประเด็นหลัก


   
       โดย ศาลปกครองสูงสุด มีมติให้ กสทช. ยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป หรือ "มัสต์แฮฟ" ข้อ 3 ลำดับที่ 7 และมิให้นำมาใช้กับการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เฉพาะกรณี บริษัท อาร์เอสฯ ในครั้งนี้
   
       ทางด้าน นายสุพรรณ เสือหาญ ทนายของบริษัท อาร์เอสฯ เผยว่าพอใจกับผลตัดสินในครั้งนี้ “ศาลเล็งเห็นว่าอาร์เอสได้ลิขสิทธิ์มาตั้งแต่ปี 2548 ก่อนที่กฎจะคลอดออกมา ดังนั้นตอนนี้เราจึงได้สิทธิในการจัดการอย่างสมบูรณ์ และจากนี้อาร์เอสจะเดินหน้าตามแผนธุรกิจเดิมต่อไปคือถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวี 22 แมตช์ ส่วนในครั้งหน้าที่อาจจะต้องถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีครบทุกแมตช์จะร่วมประมูลหรือไม่นั้น ต้องให้ทางฝ่ายบริหารเป็นคนเปิดเผยเอง”
   

______________________________________


“RS” ชนะคดี ศาลฯสั่งเพิกถอนกฎชั่วคราว




ศาลปกครองสูงสุด ตัดสินให้ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ชนะคดีถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน ถึง 13 กรกฎาคมนี้ ผ่านฟรีทีวีตามเดิมคือ 22 แมตช์ เพราะมองว่ากฎ "มัสต์แฮฟ" ออกภายหลังประมูลได้ลิขสิทธิ์มาอยู่ในมือ
     
       เมื่อเวลา 13.30น.ของวันที่ 11 มิถุนายน 2557 ศาลปกครองสูงสุด นั่งตัดสินคดีถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล หลังจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ “กสทช.” ยื่นอุทธรณ์ให้ “อาร์เอส” ปล่อยสัญญาณถ่ายทอดสดทั้ง 64 คู่ผ่านฟรีทีวี
     
       โดย ศาลปกครองสูงสุด มีมติให้ กสทช. ยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป หรือ "มัสต์แฮฟ" ข้อ 3 ลำดับที่ 7 และมิให้นำมาใช้กับการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เฉพาะกรณี บริษัท อาร์เอสฯ ในครั้งนี้
     
       ทางด้าน นายสุพรรณ เสือหาญ ทนายของบริษัท อาร์เอสฯ เผยว่าพอใจกับผลตัดสินในครั้งนี้ “ศาลเล็งเห็นว่าอาร์เอสได้ลิขสิทธิ์มาตั้งแต่ปี 2548 ก่อนที่กฎจะคลอดออกมา ดังนั้นตอนนี้เราจึงได้สิทธิในการจัดการอย่างสมบูรณ์ และจากนี้อาร์เอสจะเดินหน้าตามแผนธุรกิจเดิมต่อไปคือถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวี 22 แมตช์ ส่วนในครั้งหน้าที่อาจจะต้องถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีครบทุกแมตช์จะร่วมประมูลหรือไม่นั้น ต้องให้ทางฝ่ายบริหารเป็นคนเปิดเผยเอง”
     
       ขณะที่ พ.อ.ดร. นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) กล่าวว่า กสท. น้อมรับคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้ และจะนำผลการตัดสินไปสู่การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการรับบริการโทรทัศน์โดยเท่าเทียมกันอย่างเต็มความสามารถแล้ว


http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9570000065432

`_____________________


หุ้น RS พุ่งหลังชนะคดี กสทช.


       ความเคลื่อนไหวหุ้น RS วันที่ 11 มิถุนายน 2557 บวก 2.27% อยู่ที่ 9.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท เมื่อเวลา 10.14 น.โดยเปิดตลาดที่ 9.00 บาท สูงสุด 9.10 บาท ต่ำสุด 8.90 บาท มูลค่าซื้อขาย 129.8 ล้านบาท
     
       นายดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์การลงทุน บล.เคเคเทรด ระบุศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้ RS ชนะคดี Must Have กรณีถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย World Cup 2014 ไม่ต้องถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีหมดทั้ง 64 แมตช์ แต่กฎมัสต์แฮฟยังใช้ต่อไป ด้าน กสทช. น้อมรับคำตัดสินศาลปกครองรับทำหน้าที่ดีที่สุด ทั้งนี้ บล.เคเคเทรด ประเมินเป้าหมายกำไรเดิมของผู้บริหาร RS มากนัก ขณะที่หากชนะคดีมีโอกาสที่กำไรจะดีกว่าคาด เนื่องจากล่าสุด RS ขายสิทธิช่องฟุตบอลโลกเพิ่มให้แก่ True Visions ในราคา 26 ล้านบาทเข้ามาชดเชย (ประเมินจากสมาชิกพรีเมียม 3.3 แสนราย ค่าบริการ 100 บาทต่อราย หักภาษี 20%) ทำให้กำไรสุทธิลดลงเพียง 16 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ผู้บริหารคาดไว้ที่ 450 ล้านบาท คิดเป็น EPS 0.42 บาท ซึ่งหากอิงกับ P/E Multiple 20 - 25 เท่า กรอบราคาหุ้นจะอยู่ที 8.50-10.60 บาท
     
       นักวิเคราะห์การลงทุน บล.เคเคเทรด ระบุกรณีนี้ RS ชนะคดี แผนธุรกิจต่างๆ จะดำเนินการตามเดิม โดยการรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 64 นัด ผ่าน 4 ช่องทาง คือ (1) กล่อง Sunbox (2) กล่อง PSI O2 (3) สมาชิก True Visions และ (4) สมัครแพกเกจบอลโลก 299 บาท ขณะที่จะมีรายได้จาก True Visions ที่ได้เพิ่มขึ้น ทำให้เป้าหมายการทำกำไรในปี 2557 ของผู้บริหารปรับเพิ่มขึ้นเป็น 476 ล้านบาท คิดเป็น EPS 0.47 บาท ทำให้กรอบราคาหุ้นที่ประเมินจาก EPS เทียบกับ P/E Multiple ที่ 20 - 25 เท่า จะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 9.30-11.60 บาท
     
       ระยะสั้นยังมองบอลโลกเป็นปัจจัยบวก ดังนั้น หากราคาหุ้นอ่อนตัวเป็นโอกาสเข้าเก็งกำไรตามกรอบช่วงการแข่งขัน (12 มิ.ย.-13 ก.ค.) ส่วนกรณี RS จะไม่ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเลยหากแพ้คดีเรามองว่ามีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากจะส่งผลกระทบในวงกว้าง ขณะที่ตามปัจจัยพื้นฐานระยะยาวเรายังกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงกำไรอ่อนตัวในครึ่งปีหลัง จึงยังคงคำแนะนำเพียง “ถือ”
     
       ล่าสุด เมื่อเวลา 15.18 น.ราคาหุ้น RS อยู่ที่ 9.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.65 บาท เปลี่ยนแปลง +7.39%


http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000065473