Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

24 กรกฎาคม 2557 BuzzeBees ได้เปิดให้บริการแล้วใน 5 ประเทศ โดยมีประเทศไทยเป็นสำนักงานใหญ่ สิงคโปร์ และประเทศในแถบแอฟริกาเช่น กานา ไอเวอรีโคสต์ และแคมารูน โดยภายในปี 2557

ประเด็นหลัก




       บัซซี่บีส์ ได้เปิดให้บริการแล้วใน 5 ประเทศ โดยมีประเทศไทยเป็นสำนักงานใหญ่ สิงคโปร์ และประเทศในแถบแอฟริกาเช่น กานา ไอเวอรีโคสต์ และแคมารูน โดยภายในปี 2557 นี้ บริษัท ตั้งเป้าว่าจะมีฐานลูกค้าในกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้นสูงถึง 10 ล้านราย เฉพาะในประเทศไทย โดยสมาชิกส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 22 - 40 ปี และคาดว่าภาคธุรกิจจะมาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่า 3 เท่า โดยปัจจุบันมีลูกค้าชั้นนำ อาทิ Line, เอไอเอส, ซัมซุง, ปตท., สิงเทล สิงคโปร์ และซัมซุงแอฟริกา ตลอดจนมีร้านค้าที่ให้สิทธิพิเศษ อาทิ Bar-B-Q Plaza, True Coffee, Mister Donut และKFC เป็นต้น
   
       ปัจจุบัน ประชากรมือถือไทยอยู่ที่ประมาณ 120% หรือ มีคนใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่าจำนวนประชากรของประเทศ คือประมาณ 90 กว่าล้านเครื่อง โดยหากเป็นเฉพาะเครื่องสมาร์ทโฟนและแท็บเลตมีผู้ใช้งานกว่า 28.8 ล้านเครื่อง มีการใช้งานเป็นอุปกรณ์เพื่อเข้าอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือประมาณ 64% และผ่านเครื่องพีซีมีเพียง 36% เท่านั้น โดยผู้ใช้โซเชียลส่วนใหญ่มีบัญชีเฟซบุ๊กกว่า 23 ล้านบัญชี รองลงมาเป็นทวิตเตอร์กว่า 2 ล้านบัญชี และอินสตราแกรม 9.3 แสนราย ขณะที่ยูทูปมีผู้เปิดบัญชีเพียง 6.3 แสนรายเท่านั้น ทั้งนี้สถิติของการใช้เวลาอยู่ที่หน้าจอโซเชียลมีเดียนั้นนับเป็น 3.39 ชั่วโมงต่อวัน โดยกว่า 51% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเลตนิยมซื้อสินค้าออนไลน์






______________________________




บัซซี่บีส์ รุกอาเซียนหวังยอดผู้ใช้ในไทย 10 ล้านรายสิ้นปี



       บัซซี่บีส์ เผยยอดผู้ใช้กว่า 3 ล้ายรายภายในระยะเวลาเพียง 20 เดือน สร้างปรากฏการณ์แพลตฟอร์มใหม่สะท้อนช่องว่างที่เข้ามาเติมเต็มธุรกิจยักษ์ใหญ่ให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น พร้อมเปิดให้บริการแล้วกว่า 5 ประเทศทั่วโลก ตั้งเป้าขยายฐานไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชูความได้เปรียบจากแพลตฟอร์มที่มีความพร้อมให้บริการและแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์ คาดยอดผู้ใช้ในไทยแตะ 10 ล้านรายสิ้นปี
     
       มร. ไมเคิล เชน กรรมการบริหาร บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด เปิดเผยว่า บัซซี่บีส์ (Buzzebees) เริ่มเปิดให้บริการเมื่อเดือนธันวาคม 2555 ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานในไทยกว่า 3 ล้านราย โดยมีสมาชิกเข้ามาชมสิทธิพิเศษต่างๆ สูงสุดถึง 4 หมื่นคนต่อวินาที หรือคิดเป็น 18 ล้านครั้งต่อเดือน สะท้อนให้เห็นโอกาสทางธุรกิจของ บัซซี่บีส์ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยแพลตฟอร์มที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างตรงจุด
     
       บัซซี่บีส์ เป็นแอปพลิเคชันแพลตฟอร์มแนวใหม่สัญชาติไทย ที่หลอมรวมโซเชียลมีเดียให้กลายเป็นพรีวิวเลจให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กได้มีโอกาสสะสมแต้มเพื่อนำมาแลกส่วนลดสินค้า และบริการผ่านช่องทาง Marketplace ได้อย่างสมบูรณ์ เพียงผู้ใช้งานเชื่อมต่อบัญชีเฟซบุ๊กหลังจากที่ติดตั้งโปรแกรมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกดไลค์ การแสดงความคิดเห็น การแชร์ หรือแม้กระทั่งการโพสต์ข้อความ กิจกรรมทั้งหมด จะถูกแปรเปลี่ยนเป็นแต้มเพื่อสะสมแลกรับส่วนลดหรือบริการที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
     
       กลยุทธ์บัซซี่บีส์อยู่ที่การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีบนผลิตภัณฑ์รวมถึงพัฒนาระบบแพลตฟอร์ม และฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อให้ก้าวล้ำนำเทรนด์ในโลกอนาคต และสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ในทุกๆฟังก์ชัน โดยทุ่มเทและออกแบบพัฒนาให้เป็นระบบบริหารจัดการลูกค้าอัจฉริยะที่ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่า ประกอบด้วยบริการ 5 ส่วนสำคัญ ได้แก่ 1. M-Commerce platform 2. CRM solution 3. Online Media 4. Online Survey และ 5. Corporate Fulfillment เพื่อรองรับกับธุรกิจในระดับต่างๆ ตั้งแต่ร้านค้ารายย่อย ผู้ประกอบการ SME จนถึงลูกค้าระดับองค์กรรายใหญ่ๆได้อย่างครบวงจร
     
       ปัจจุบัน บัซซี่บีส์ มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เพียงระยะเวลา 20 เดือนสามารถคืนทุนได้แล้วทั้งหมด มีทีมงานหลังบ้านคอยให้บริการทั้งหมด 65 คน โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ ทีมงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 คน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ขณะที่ความคิดของการขยายตลาดสู่ต่างประเทศนั้น นอกจากการขยายตัวตามการเข้าถึงของแอปพลิเคชันแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาหาแหล่งเงินทุน เพื่อเพิ่มทุนไม่น้อยกว่า 100-200 ล้านบาท สำหรับการตั้งสำนักงานในต่างประเทศเพื่อรุกตลาดอย่างจริงจัง โดยในอนาคตจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจ E-Payment และ E-Couponing เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้แอปต่อไป

บัซซี่บีส์ รุกอาเซียนหวังยอดผู้ใช้ในไทย 10 ล้านรายสิ้นปี
มร. ไมเคิล เชน กรรมการบริหาร และณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด

       ณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด หนึ่งในผู้ร่วมบุกเบิกแอปพลิเคชัน Buzzebees กล่าวว่า Buzzebees ถูกพัฒนาแนวคิดมาจาก ‘การเล่นเฟซบุ๊กให้ได้รางวัล’ ถือเป็นอีกโมเดลธุรกิจการตลาดบนโลกดิจิตอลรูปแบบใหม่ ที่สามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งลูกค้ารายย่อย ผู้ประกอบการ SMEs ตลอดจนลูกค้าระดับองค์กรรายใหญ่ๆ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างโซเชียลมีเดีย รอยัลตีโปรแกรม และอีคอมเมิร์ซเข้าด้วยกัน เชื่อมต่อกับการใช้เฟซบุ๊กอย่างสมบูรณ์แบบ นับเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดอย่างเต็มรูปแบบทั้งเรื่องแบรนด์ การทำโปรโมชันส่งเสริมการขาย และการสร้างรอยัลตีโปรแกรมให้กับกลุ่มลูกค้า
     
       ด้วยแนวคิดที่จะกระตุ้นให้ผู้ใช้จำนวนมากในโซเชียลมีเดีย เข้ามาร่วมกิจกรรมต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งการโพสต์ แชร์ ไลค์ คอมเมนต์ หรือชักชวนเพื่อนเข้าร่วมกิจกรรมด้วย โดยผู้ใช้จะได้รับคะแนนเป็นการตอบแทน และสามารถนำคะแนนไปใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือดีลต่างๆ รวมถึงลุ้นรับของรางวัลฟรีจากพันธมิตรกว่า 10,000 ร้านค้า อาทิ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม แฟชั่น บันเทิง ความงาม อุปกรณ์เทคโนโลยี ฯลฯ ในราคาสินค้าและบริการที่การันตีว่าราคาถูกกว่าแหล่งอื่นๆ อีกด้วย
     
       ขณะที่การตอบสนองธุรกิจรายใหญ่ในรูปแบบพาร์ตเนอร์ ซึ่งเน้นที่การสร้างความจงรักภักดีในตราสินค้า ช่วยให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์ที่ดีในตราสินค้า และตอบสนองความต้องการมีแอปพลิเคชันเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าบริษัท อย่างเช่น Samsung Gift ของค่ายซัมซุง ที่บัซซี่บีส์ เป็นผู้พัฒนา และที่สำคัญสามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้อย่างทันท่วงที ด้วยแพลตฟอร์มที่พร้อมให้บริการทันทีหลังเซ็นสัญญา เพราะเพียงแค่พัฒนา UI และฟีเจอร์ที่ธุรกิจต้องการระบบหลังบ้านก็พร้อมให้บริการอย่างรวดเร็ว
     
       บัซซี่บีส์ ได้เปิดให้บริการแล้วใน 5 ประเทศ โดยมีประเทศไทยเป็นสำนักงานใหญ่ สิงคโปร์ และประเทศในแถบแอฟริกาเช่น กานา ไอเวอรีโคสต์ และแคมารูน โดยภายในปี 2557 นี้ บริษัท ตั้งเป้าว่าจะมีฐานลูกค้าในกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้นสูงถึง 10 ล้านราย เฉพาะในประเทศไทย โดยสมาชิกส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 22 - 40 ปี และคาดว่าภาคธุรกิจจะมาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่า 3 เท่า โดยปัจจุบันมีลูกค้าชั้นนำ อาทิ Line, เอไอเอส, ซัมซุง, ปตท., สิงเทล สิงคโปร์ และซัมซุงแอฟริกา ตลอดจนมีร้านค้าที่ให้สิทธิพิเศษ อาทิ Bar-B-Q Plaza, True Coffee, Mister Donut และKFC เป็นต้น
     
       ปัจจุบัน ประชากรมือถือไทยอยู่ที่ประมาณ 120% หรือ มีคนใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่าจำนวนประชากรของประเทศ คือประมาณ 90 กว่าล้านเครื่อง โดยหากเป็นเฉพาะเครื่องสมาร์ทโฟนและแท็บเลตมีผู้ใช้งานกว่า 28.8 ล้านเครื่อง มีการใช้งานเป็นอุปกรณ์เพื่อเข้าอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือประมาณ 64% และผ่านเครื่องพีซีมีเพียง 36% เท่านั้น โดยผู้ใช้โซเชียลส่วนใหญ่มีบัญชีเฟซบุ๊กกว่า 23 ล้านบัญชี รองลงมาเป็นทวิตเตอร์กว่า 2 ล้านบัญชี และอินสตราแกรม 9.3 แสนราย ขณะที่ยูทูปมีผู้เปิดบัญชีเพียง 6.3 แสนรายเท่านั้น ทั้งนี้สถิติของการใช้เวลาอยู่ที่หน้าจอโซเชียลมีเดียนั้นนับเป็น 3.39 ชั่วโมงต่อวัน โดยกว่า 51% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเลตนิยมซื้อสินค้าออนไลน์



http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000083648

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.