19 สิงหาคม 2557 intuch มีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน AIS ไตรมาส 2/2557 อยู่ที่ 3,422 ล้านบาท คิดเป็น 56% ของรายได้รวม และคิดเป็น 98% ของกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่
ประเด็นหลัก
โดยกลุ่มอินทัชมีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 อยู่ที่ 3,422 ล้านบาท คิดเป็น 56% ของรายได้รวม และคิดเป็น 98% ของกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 ลดลง 7% จากไตรมาส 2/2556 ที่มีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส อยู่ที่ 3,688 ล้านบาท และลดลง 10% จากไตรมาส 1/2557 ที่มีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส อยู่ที่ 3,823 ล้านบาท
เนื่องจากกำไรสุทธิ เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 อยู่ที่ 8,475 ล้านบาท ลดลง 8% จากไตรมาส 2/2556 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9,195 ล้านบาท และ ลดลง 11% จากไตรมาส 1/2557 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9,481 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น
______________________________
อินทัช/เอไอเอสQ2 กำไรหดไทยคมรายได้เพิ่ม162%
กลุ่มทุนสื่อสารโชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 "อินทัช" กำไรสุทธิลดลงอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท ขณะที่ "เอไอเอส" กำไรลดลงเช่นเดียวกัน สวนทางจาก "ไทยคม" กำไร 498 ล้านบาท ส่วน "ซิม" กำไร 290 ล้านบาท นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ อินทัช เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2557 บริษัทมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 3,504 ล้านบาท ลดลง 5% จากไตรมาส 2/2556 ที่มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 3,675 ล้านบาท และลดลง 8% จากไตรมาส 1/2557 ที่มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 3,827 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งแรกปี 2557 กลุ่มอินทัชมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 7,331 ล้านบาท ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 7,700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทของกลุ่มอินทัชที่ลดลง เป็นผลจากการลดลงของส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้ส่วน เสียในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เป็นบริษัทร่วมและเป็นบริษัทหลักในการดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมไร้สาย ในประเทศของกลุ่มอินทัช แม้กำไรในธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น
โดยกลุ่มอินทัชมีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 อยู่ที่ 3,422 ล้านบาท คิดเป็น 56% ของรายได้รวม และคิดเป็น 98% ของกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 ลดลง 7% จากไตรมาส 2/2556 ที่มีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส อยู่ที่ 3,688 ล้านบาท และลดลง 10% จากไตรมาส 1/2557 ที่มีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส อยู่ที่ 3,823 ล้านบาท
เนื่องจากกำไรสุทธิ เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 อยู่ที่ 8,475 ล้านบาท ลดลง 8% จากไตรมาส 2/2556 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9,195 ล้านบาท และ ลดลง 11% จากไตรมาส 1/2557 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9,481 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น
ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/2557 บริษัท มีรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 2,449 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% และมีผลกำไรสุทธิ 498 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมบรอดแคสต์และบรอดแบนด์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งไทยคมสามารถดำเนินงานตามแผนธุรกิจที่มุ่งเน้นการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม ด้วยการจัดหาช่องสัญญาณขึ้นให้บริการเพิ่มเติม โดยนำดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ช่วงต้นปี และการพัฒนาบริการแบบครบวงจร (End-to-End Solutions) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุด
ส่วนทางด้านนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2557 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 290.09 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.066 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 256.27 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.059 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 486.81 ล้านบาท หรือ 0.111 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 433.47 ล้านบาท หรือ 0.10 บาทต่อหุ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=242786:q2-162&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.U_MS40tAeuw
โดยกลุ่มอินทัชมีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 อยู่ที่ 3,422 ล้านบาท คิดเป็น 56% ของรายได้รวม และคิดเป็น 98% ของกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 ลดลง 7% จากไตรมาส 2/2556 ที่มีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส อยู่ที่ 3,688 ล้านบาท และลดลง 10% จากไตรมาส 1/2557 ที่มีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส อยู่ที่ 3,823 ล้านบาท
เนื่องจากกำไรสุทธิ เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 อยู่ที่ 8,475 ล้านบาท ลดลง 8% จากไตรมาส 2/2556 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9,195 ล้านบาท และ ลดลง 11% จากไตรมาส 1/2557 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9,481 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น
______________________________
อินทัช/เอไอเอสQ2 กำไรหดไทยคมรายได้เพิ่ม162%
กลุ่มทุนสื่อสารโชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 "อินทัช" กำไรสุทธิลดลงอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท ขณะที่ "เอไอเอส" กำไรลดลงเช่นเดียวกัน สวนทางจาก "ไทยคม" กำไร 498 ล้านบาท ส่วน "ซิม" กำไร 290 ล้านบาท นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ อินทัช เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2557 บริษัทมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 3,504 ล้านบาท ลดลง 5% จากไตรมาส 2/2556 ที่มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 3,675 ล้านบาท และลดลง 8% จากไตรมาส 1/2557 ที่มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 3,827 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งแรกปี 2557 กลุ่มอินทัชมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 7,331 ล้านบาท ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 7,700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทของกลุ่มอินทัชที่ลดลง เป็นผลจากการลดลงของส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้ส่วน เสียในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เป็นบริษัทร่วมและเป็นบริษัทหลักในการดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมไร้สาย ในประเทศของกลุ่มอินทัช แม้กำไรในธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น
โดยกลุ่มอินทัชมีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 อยู่ที่ 3,422 ล้านบาท คิดเป็น 56% ของรายได้รวม และคิดเป็น 98% ของกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 ลดลง 7% จากไตรมาส 2/2556 ที่มีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส อยู่ที่ 3,688 ล้านบาท และลดลง 10% จากไตรมาส 1/2557 ที่มีส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนใน เอไอเอส อยู่ที่ 3,823 ล้านบาท
เนื่องจากกำไรสุทธิ เอไอเอส ไตรมาส 2/2557 อยู่ที่ 8,475 ล้านบาท ลดลง 8% จากไตรมาส 2/2556 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9,195 ล้านบาท และ ลดลง 11% จากไตรมาส 1/2557 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9,481 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น
ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/2557 บริษัท มีรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 2,449 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% และมีผลกำไรสุทธิ 498 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมบรอดแคสต์และบรอดแบนด์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งไทยคมสามารถดำเนินงานตามแผนธุรกิจที่มุ่งเน้นการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม ด้วยการจัดหาช่องสัญญาณขึ้นให้บริการเพิ่มเติม โดยนำดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ช่วงต้นปี และการพัฒนาบริการแบบครบวงจร (End-to-End Solutions) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุด
ส่วนทางด้านนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2557 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 290.09 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.066 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 256.27 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.059 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 486.81 ล้านบาท หรือ 0.111 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 433.47 ล้านบาท หรือ 0.10 บาทต่อหุ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=242786:q2-162&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.U_MS40tAeuw
ไม่มีความคิดเห็น: