Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

20 สิงหาคม 2557 ช่อง3.ประวิทย์ ชี้ กสท. อยากให้ออกอากาศคู่ขนานใครรับภาระค่าใช้จ่ายใครรับภาระค่าใช้จ่าย เพราะ เราตั้งใจว่าถ้าสัญญาของช่อง 3 หมดลงแล้ว เราก็จะขึ้นมาอยู่ในดิจิตอล

ประเด็นหลัก


มั่นใจแบรนด์ช่อง 3 แข็งแรง อัด กสท. อยากให้ออกอากาศคู่ขนานใครรับภาระค่าใช้จ่าย
       “แล้วค่าใช้จ่ายใครล่ะครับ ผมถามหน่อยว่าค่าใช้จ่ายใครล่ะครับ ช่อง 3 เขาก็อยู่ของเขา แบรนด์ตรงนี้แข็งแรงแล้ว เราไปประมูล 3 ช่องมาก็เพื่อพัฒนาธุรกิจ เราตั้งใจว่าถ้าสัญญาของช่อง 3 หมดลงแล้ว เราก็จะขึ้นมาอยู่ในดิจิตอล แต่ในช่วงนี้ต่างคนก็ต่างพัฒนากันไป ไม่ได้ตั้งใจประมูลมาเพื่อเอาช่อง 3 มาไว้อย่างนี้ด้วย มันไม่ใช่นะ ในอนาล็อกช่อง 3 แบรนด์เราแข็งแรงอยู่แล้ว ดิจิตอลทั้ง 3 ช่องที่ประมูลมาตอนนี้เราก็กำลังพัฒนาให้แข็งแรงต่อไป”
   
       “ส่วนที่มีการโหวตจะให้ช่อง 3 ยุบอนาล็อก เอาจริงๆ เมื่อก่อนคนดูเขาก็ดูได้ เพราะตัวเองเสียเงินผ่านอะไรก็แล้วแต่ ตราบใดที่เขาดูได้ครบเขาก็ยินดี เขาไม่ได้เดือดร้อนอะไร เขายินดีเสียเงินเพื่อให้ได้รับชมได้ นาทีนี้เหมือนไปทำให้เขาดูไม่ได้ ความเดือดร้อนมันไปอยู่ที่ผู้ชม ส่วนดิจิตอลตอนนี้คนดูมีเท่าไหร่เราก็ต้องทำงานไป ถึงมันจะน้อยก็ต้องทำต่อ เราทำกันเต็มร้อย แต่ทำในขีดความสามารถของตัวเอง ก็เห็นผู้ประกอบการก็รวมตัวกันเคลื่อนไหว เขาก็อยากจะดูว่า กสทช. จะช่วยอะไรเขาได้บ้าง ผมมองว่าตอนนี้ความสำคัญอยู่ที่ผู้ประกอบการเองมากกว่า”


______________________________




“ประวิทย์” รับเรตติ้งดิจิตอลทีวีต่ำจนน่าเกลียด ชี้ผู้ประกอบการผลิตรายการไม่เข้าเป้า!



“ประวิทย์” รับเรตติ้งดิจิตอลทีวีต่ำจนน่าเกลียด ชี้ผู้ประกอบการผลิตรายการไม่เข้าเป้า!
       “ประวิทย์” เมินศาลปกครองกลางยกคำร้องคุ้มครองช่อง 3 อนาล็อก เชื่อแบรนด์ช่อง 3 แข็งแรง พร้อมพัฒนาดิจิตอลทีวี อัด “กสท.” อยากให้ออกอากาศคู่ขนานใครแบกรับภาระค่าใช้จ่าย ไม่โทษ “กสทช.” แจกคูปองช้าทำให้เรตติ้งต่ำจนน่าเกลียด ชี้ผู้ประกอบการผลิตรายการไม่เข้าเป้า ซ้ำแข่งกันประมูลแต่ไม่มีความพร้อมด้านบุคลากร
     
       จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอของบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ผู้ฟ้องคดีที่ขอให้ศาลสั่งชะลอการบังคับใช้ ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่สั่งให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ต้องสิ้นสุดการทำหน้าที่โทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (มัสต์ แครี่) ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2557 ไว้ก่อน จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ (ช่อง 3) ยื่นฟ้อง กสทช. และพวกรวม 3 ราย เป็นผู้ถูกฟ้องคดี เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนกฎดังกล่าวเนื่องจากไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ต้องลุ้นว่าวันที่ 1 กันยายนนี้ ซึ่งจะครบ 100 วันของการขยายเวลาจาก กสทช. จะทำให้เกิดภาวะจอดับ ผู้ชมจะสามารถชมช่อง 3 อนาล็อกผ่านระบบดาวเทียมได้หรือไม่
     
       ล่าสุด “ประวิทย์ มาลีนนท์” ผู้บริหารช่อง 3 ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว ระบุแม้ศาลยกคำร้องคุ้มครองแต่ยังไม่ตัดสินว่าใครแพ้ชนะคดี ส่วนกรณีที่อยากให้ออกอากาศคู่ขนาน ใครแบกรับภาระค่าใช้จ่าย!
     
       “ศาลไม่คุ้มครองเท่านั้นเอง เนื่องจากว่าทาง กสทช. เขาขยายเวลาให้เราตั้งแต่พฤษภาไป 100 วัน เขาจะจบที่เดือนกันยายนนี้ ศาลจึงไม่จำเป็นต้องคุ้มครอง ไม่ใช่ว่าเราแพ้คดีหรืออะไรนะครับ เนื้อหาของคดียังไม่ได้ดูเลย เพียงแต่ว่ายังไม่ต้องคุ้มครองตอนนี้ ไม่ได้ตัดสินว่าแพ้ชนะครับ ไม่ได้บอกว่าใครถูกใครผิด เพียงแต่ศาลบอกว่ายังไม่ต้องคุ้มครอง ก็ไม่มีผลกระทบอะไร ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
     
       มั่นใจแบรนด์ช่อง 3 แข็งแรง อัด กสท. อยากให้ออกอากาศคู่ขนานใครรับภาระค่าใช้จ่าย
       “แล้วค่าใช้จ่ายใครล่ะครับ ผมถามหน่อยว่าค่าใช้จ่ายใครล่ะครับ ช่อง 3 เขาก็อยู่ของเขา แบรนด์ตรงนี้แข็งแรงแล้ว เราไปประมูล 3 ช่องมาก็เพื่อพัฒนาธุรกิจ เราตั้งใจว่าถ้าสัญญาของช่อง 3 หมดลงแล้ว เราก็จะขึ้นมาอยู่ในดิจิตอล แต่ในช่วงนี้ต่างคนก็ต่างพัฒนากันไป ไม่ได้ตั้งใจประมูลมาเพื่อเอาช่อง 3 มาไว้อย่างนี้ด้วย มันไม่ใช่นะ ในอนาล็อกช่อง 3 แบรนด์เราแข็งแรงอยู่แล้ว ดิจิตอลทั้ง 3 ช่องที่ประมูลมาตอนนี้เราก็กำลังพัฒนาให้แข็งแรงต่อไป”
     
       “ส่วนที่มีการโหวตจะให้ช่อง 3 ยุบอนาล็อก เอาจริงๆ เมื่อก่อนคนดูเขาก็ดูได้ เพราะตัวเองเสียเงินผ่านอะไรก็แล้วแต่ ตราบใดที่เขาดูได้ครบเขาก็ยินดี เขาไม่ได้เดือดร้อนอะไร เขายินดีเสียเงินเพื่อให้ได้รับชมได้ นาทีนี้เหมือนไปทำให้เขาดูไม่ได้ ความเดือดร้อนมันไปอยู่ที่ผู้ชม ส่วนดิจิตอลตอนนี้คนดูมีเท่าไหร่เราก็ต้องทำงานไป ถึงมันจะน้อยก็ต้องทำต่อ เราทำกันเต็มร้อย แต่ทำในขีดความสามารถของตัวเอง ก็เห็นผู้ประกอบการก็รวมตัวกันเคลื่อนไหว เขาก็อยากจะดูว่า กสทช. จะช่วยอะไรเขาได้บ้าง ผมมองว่าตอนนี้ความสำคัญอยู่ที่ผู้ประกอบการเองมากกว่า”
     
       เผยรอดูความเหมาะสมเข้าร่วมประท้วงกับผู้ประกอบการด้วยหรือไม่ ลั่นโทษ กสทช. แจกคูปองช้าไม่ได้ ต้องดูรายการของผู้ประกอบการว่าเข้าเป้าหรือไม่
       “ก็แล้วแต่เขาเลย ก็ต้องดูความจำเป็น จริงๆ แล้วปัญหาตอนนี้ผมมองว่าผู้ประกอบการเองไม่สามารถนำเสนอรายการที่ถูกใจคนดูได้ มันไม่ได้เป็นเพราะยังไม่แจกคูปองหรือว่าอะไรหรอกครับ มันอยู่ที่ความสำคัญของรายการเรามากกว่า สปอนเซอร์น้อย เพราะรายการไม่น่าซื้อมันจะเข้าได้ยังไงกันล่ะ ตอนนี้ตัวเลขเรตติ้งก็มีแล้วแต่ออกมาตัวเลขน่าเกลียดมาก หลายๆ เรื่องที่ต้องคุยและต้องพิสูจน์ก็คือว่ามันเป็นอย่างตัวเลขที่ออกมาจริงรึเปล่า ตัวเลขมันไม่สะท้อนความเป็นจริงออกมาทุกอย่างก็ล้มเหลวหมด ผมยกตัวอย่างช่วงฟุตบอลโลกช่องอาร์เอส เป็นช่องดิจิตอลใช่ไหมทำไมเขาถึงมีคนดูล่ะ ถ้าเขาไม่มีคนดูเขาก็ขายไม่ออก”
     
       “มันอยู่ที่ตัวคอนเทนต์ เรื่องโฆษณามันเป็นตลาดของคนขาย ถ้ารายการเราแข็งแรงมันก็มีคนซื้อ ถ้ารายการเราไม่แข็งแรงก็ไม่มีคนซื้ออยู่แล้วง่ายนิดเดียว ต้องทำรายการดีๆ ขึ้นมาสิ ลองดูรายการแข็งแรงทำไมจะไม่มีสปอนเซอร์เข้า ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือช่องที่ประมูลดิจิตอลกันไม่มีสักช่องที่เตรียมบุคลากรไว้ให้พร้อม เราไม่ได้เตรียมคน เรามีแต่เงินกับมีความอยากสองอย่างเท่านั้นเอง เมื่อก่อนคนผลิตรายการเองเขายอมแบกความเสี่ยงไว้ส่วนหนึ่ง แต่วันนี้พอขายโฆษณาไม่ออกเขาก็ผลักภาระมาให้สถานีบอกว่าช่องจ้างเขาทำ ช่องก็บอกว่ารายการมันขายไม่ออกก็ไม่จ้าง มันเลยไม่มีรายการใหม่ๆ เกิดขึ้น เลยตอนนี้ต้องเป็นรายการโลว์คอร์สหมดเลย รายการไม่มีอะไรเลย มันไปไม่ไหว ซื้อขายกันกันที 5 พันอย่างนี้ ที่เรามองว่าเราจะเกิดเป็นรายการ เราไม่ได้คิดว่าเราจะเกิดทั้งช่องครับ เราคงมองเป็นรายการๆ ไป”
     
       ยันเรื่องธรรมดานักแสดงในช่องทะเลาะกัน บอกคนนอนเตียงเดียวกันยังทะเลาะกันได้
       “คนเยอะขึ้นอย่างหนึ่ง ผมเชื่อว่าไม่มีใครประสงค์อยากจะให้เป็นข่าวหรอก แต่เดี๋ยวนี้พวกโลกโซเชียลต่างๆนี่ตัวร้ายเลย มันซ้อนมันปิดบังอะไรไม่ได้ แล้วอีกส่วนหนึ่งคือเป็นคนพาให้เรื่องมันออกมาเองเสียอีกก็เลยไปกันใหญ่ เราเองก็มีคนคอยปรามๆ กันอยู่ครับ เราก็ไม่อยากจะไปอะไรมาก แต่ถ้าเป็นข่าวเสียๆ หายๆ เราก็ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่องเราเราตั้งเป้าว่าเราอยากให้เป็นช่องที่สะอาด ให้คลีนจริงๆ เป้าหมายสถานีเราคือตรงนั้น ส่วนที่นักแสดงในช่องทะเลาะกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดา (หัวเราะ) ใครๆ ก็ทะเลาะกันได้ ขนาดคนนอนเตียงเดียวกันยังทะเลาะกันเลย”


http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000094723&Keyword=%A1%CA%B7

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.